ความรู้สึกทิ่มแทงบางอย่างปลุกให้แกมเดีย ลอสตอนตื่นจากการหลับไหล
“…?”
เขาลืมตาและลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ถูกถาโถมด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เป็นบบรกาศที่ตรึงเครียดจนทำให้ขนทุกส่วนบนร่างเขาลุกซูขึ้นมา
มีบางอย่างแปลกๆ เขารู้สึกว่าไม่ได้อยู่เพียงคนเดียว
“ใครนะ…!?”
เขายื่นมือไปจับดาบข้างกายและส่งเสียงถามผู้บุกรุก
“โอ้? ดูเหมือนว่าแกจะรับรู้ถึงตัวตนของชั้นได้สินะ”
มันปรากฏการทันที สิ่งมีชีวิตที่รูปร่างไม่ต่างไปจากมนุษย์ มันค่อยๆเปิดเผยตัวออกมาจากความมืดอย่างช้าๆ
มัน หรือก็คือ เขา มีผมสีดำ ดวงตาสีแดงข้างหนึ่ง และปีกที่เหมือนมังกรงอกออกมาจากหลัง แกมเดียตกใจ แต่สมองเขายังคงทำงาน สิ่งที่เขารู้คือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นน่าจะเป็นปีศาจ และเป็นตนเดียวกันกับที่ทำการบุกเอลฟิโร่
“อะไรกั—”
“เงียบซะ ไม่งั้นชั้นจะฆ่าแก”
ทันทีที่ปีศาจได้พูด บรรยากาศรอบข้างของแกมเดียก็กดทับลงมาราวกับมันมีน้ำหนัก มันรุนแรงจนแกมเดียต้องเอาพลังใจเข้าสู้เพื่อยื้อสติตัวเองเอาไว้ พลังเวทที่ออกมาจากตัวปีศาจค่อยๆกัดกินจิตวิญญาณของเขาไปช้าๆ แต่เขาก็ทนต่อไป เพราะเขารู้ว่าถ้าสมาธิหยุดเมื่อไหร่ สมองของเขาจะหยุดสั่งการไปทันที
ทหารแนวหน้ารายนี้นั้นได้เหงื่อแตกพลั่กไปทั้งตัว
หลังจากยืนยันว่าแกมเดียได้เงียบลงแล้ว ปีศาจก็เอ่ยปากพูดต่อ
***
หลังจากให้คำเตือน ปีศาจก็หายไปในความมืด
แกมเดียก็เริ่มที่จะหายใจอย่างรุนแรงราวกับไม่เคยหายใจมาก่อน เขารู้สึกได้เลยว่าเขาแทบจะกลั้นหายใจตรอดเวลาที่ฟัง ราวกับว่าร่างกายของเขาได้ลืมวิธีการหายใจไปเลย
น่าสะพรึงกลัว
เขาก็รู้อยู่แล้วว่าปีศาจนั้นทรงพลังเกินไปที่จะรับมือไหว ถึงจะโจมตีพร้อมกันด้วยทหารทั้งหมดที่มี ก็คงไม่อาจต้านทานได้
จะให้สำรวจต่อไปก็ไม่คุ้มค่าเสียเลย ความจริงแล้ว เรื่องที่กองกำลังนี้มาที่ป่าต้องห้ามเพื่อจัดการมอนเตอร์และปีศาจที่ควบคุมพวกมันนั้นเป็นแค่เรื่องบังหน้า เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือการสำรวจที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติที่มากมายของที่นี้ ทางเบื้องบนต้องการข้อมูลการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อที่พวกเขาจะได้เดินหน้าเรื่องการยึดครองป่าแห่งนี้ได้ ทั้งหมดก็เพื่อการขยายขอบเขตของประเทศ
ตอนแกมเดียได้รับภารกิจนี้ เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกร้ายด้วยซ้ำ
ป่าต้องห้ามไม่ใช่อะไรที่ควรเอามาล้อเล่นเลย มอนเตอร์ที่อาศัยอยู่ในนี้นั้นทรงพลังมาก แน่นอนว่าทางกองทัพก็ได้มีการจัดการเรื่องพวกนี้ พวกเขาให้อุปกรณ์เวทมนต์ทรงพลังที่สามารถไล่พวกมอนเตอร์ให้ออกไปห่างๆได้ ในขณะที่ทหารหลายๆคนเลือกที่จะเชื่อและไว้วางใจกับเทคโนโลยีของประเทศ แต่แกมเดียนั้นไม่ เขารู้ได้ทันทีว่าทั้งกองกำลังต้องถูกจัดการอย่างราบคาบแน่นอนถ้าอุปกรณ์เกิดมีปัญหาขึ้นมา
แต่เรื่องนั้นเป็นเพียงเรื่องที่เขากังวลน้อยที่สุด เขากังวลว่าทั้งประเทศจะถูกทำรายพินาศย่อยยับเพราะการไปทำให้มังกรชั้นสูงที่หลับไหลอยู่ในนี้โกรธเอาต่างหาก
ด้วยความเสี่ยงหลายอย่าง พวกเบื้องบนของประเทศเขาผลักดันแผน และบังคับให้เขาและลูกน้องต้องทำตามอย่างช่วยไม่ได้
พอรู้ว่าตัวเองปฏิเสธไม่ได้ แกมเดียจึงขอทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาของกองกำลังนี้ เพื่อที่จะได้สั่งการและควบคุมได้ดีที่สุด เพื่อลดการสูญเสียกองกำลังของประเทศ
แต่สิ่งที่ได้คือขุนนางหน้าโง่ที่โดนเงินจูงจมูก
ถึงเมืองของเขาจะถูกโจมตี แต่ผู้ว่าการของเอลฟิโร่นั้นต่อต้านเรื่องการสำรวจอย่างรุนแรง เขาปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนใดๆทั้งสิ้น และพอได้เจอปีศาจตนเดียวกับเมื่อตอนนั้น แกมเดียก็ได้เข้าใจว่าทำไม
“ข้าต้องไปกล่อมไอขุนนางหน้าโง่นั้นให้พากองกำลังนี้กลับให้ได้”
แกมเดียพูดกับตัวเองเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์
เขารู้ว่าการทำอย่างนี้จะเกิดผลแย่กับตัวเอง เขาต้องถูกตราหน้าว่าเป็นไอขี้ขลาดและถูกถอดจากตำแหน่งแน่นอน—แต่เขาไม่สน เขาได้คัดค้านการสำรวจครั้งนี้แต่ต้นแล้ว และจะไม่ยอมให้ลูกน้องของเขาต้องมาตายกับเรื่องบ้าๆนี้เด็ดขาด
เขารู้ว่าไอขุนนางนั้นมันทำเอาหน้า ไอโง่นั้นคงไม่ยอมถอยทัพแน่นอนไม่ว่าเขาจะพูดยังไง แต่อย่างน้อย เขาก็จะพาลูกน้องตัวเองไปในที่ที่ปลอดภัยให้ได้
พอคิดได้แล้ว นายทหารก็ได้แต่งตัวเพื่อไปพูดคุยกับ “หัวหน้า” ของเขา
MANGA DISCUSSION