วันต่อมา

 

หลังจากหลับไปได้ช่วงหนึ่ง ผมก็ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื้น และเก็บฟูกลงไปในไอเท็มบ็อก เปิดแค็ตตาล็อก DP และหาอาหารเช้า

ตอนที่ผมเปิดใช้งานไอเท็มบ็อก มันก็มีสูญญากาศโผล่ออกมาให้ผมใส่ของลงไป

พอผมสงสัยว่า แล้วจะเอาของออกมายังไง ก็มีข้อมูลโผล่ขึ้นมาให้หัว ดูเหมือนว่าแค่ยื่นมือเข้าไปก็เอาของที่ต้องการออกมาได้แล้ว สะดวกดีแหะ

แล้วถ้าพวกคุณสงสัยว่าผมรู้วันเวลาได้ยังไง มันมีข้อมูลพวกนี้บอกอยู่บนมุมขวาบนของหน้าเมนูนะ
 
หลังจากเอาขนมปังออกมาก้อนหนึ่ง (15DP) และเบค่อน (30DP) ผมก็นั่งกินกับพื้นไป ก็ยังไม่มีเก้าอี้ละนะ

ผมต้องคิดวิธีใช้ DP อย่างระวังด้วย ถึง 1000DP เหมือนจะเยอะก็เถอะ แต่เจ้านี้เป็นเส้นชีวิตผมเลยนะ

รู้สึกไม่สบายใจเลยแหะที่เห็นมันลดลงยังงี้

 

มันมีวิธีได้ DP อยู่ 4 วิธี:

 
1. มีมอนเตอร์มากกว่า 1 ตัว ที่ไม่ใช่ตัวที่ผมสร้าง อยู่ในดันเจี้ยนนี้ (ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งได้เยอะ)
2. ฆ่าผู้บุกรุก (ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งได้เยอะ)
3. ดูดกลืนศพหรืออะไรซักอย่าง อาจเป็นอาหารก็ได้ (DP ที่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ดูดกลืน)
4. ฟื้นขึ้นเองตามธรรมชาติ (ฟื้นจากสภาพโดยรอบ)
 

อย่างที่เห็นว่ารายได้ DP ส่วนใหญ่จะมาจากผู้บุกรุก

แปลกดีเหมือนกันที่ดันเจี้ยนให้กำเนิดจอมมารมาเพื่อไม่ให้ถูกฆ่าโดยผู้บุกรุก แต่ก็ต้องการผู้บุกรุกไปเป็นอาหารเช่นกัน

 
แต่มันก็เป็นวิธีการเอาตัวรอดนี้เนอะ ดันเจี้ยนก็มีชีวิตเช่นกัน จะให้หลีกหนีเรื่องนี้นะมันเป็นไปไม่ได้หรอก

 
ส่วนการฟื้นฟู DP ตามธรรมชาตินั้น มันเพิ่มแค่ 1 ต่อ 3 ชั่วโมง ผมจึงหวังอะไรกับเจ้านี้ไม่ได้เลย

 
อีกไม่นานผมต้องเริ่มทำการบริหารดันเจี้ยนตัวเองแล้ว แต่ผมจะทำมันโดยทันทีไม่ได้ ผมต้องสำรวจพื้นที่โดยรอบเพื่อที่จะเข้าใจพื้นที่ได้ดีขึ้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น ผมต้องรู้เกี่ยวกับตัวเอง

ก่อน ต้องรู้ว่าอะไรคือความหมายในการเป็นจอมมาร

“เอาล่ะ….”

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ผมก็ปัดเศษขนมปังบนตัวออก ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ประตู

สิ่งเดี่ยวที่ผมต้องทำหารยืนยันในตอนนี้คือสิ่งที่อยู่ถัดไปจากเจ้าประตูบานนี้

ทั้งสงสัยครึ่งหนึ่ง และก็กลัวอีกครึ่งหนึ่ง ว่ามันจะมีอะไรรออยู่ข้างหน้า…. แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้

หลังจากเตรียมใจเสร็จ ผมกก็เปิดประตูเบาๆ

“………ถ้ำหรอ?”

สิ่งที่พบคืถ้ำขนาดใหญ่ทอดยาวออกไป

มีคริสตัลที่เหมือนหินย้อยอยู่ข้างบน ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอายุเท่าไหร่ และก็มีแสงสว่างเล็ดลอดมาจากรอยแตกบนเพดานถ้ำ ทำให้เห็นสภาพโดยรอบ
ที่พื้นที่เล็กๆภายในถ้ำ มีน้ำไหลรวมอยู่ เป็นน้ำที่ดูไม่มีความสกปรกเลย ใสจนสามารถมองทะลุเห็นทุกสิ่งภายในน้ำได้เลย

เป็นที่ที่สวยงามเลยล่ะ

ดูเหมือนว่าประตูจะถูกสร้างข้างในถ้ำ

อาณาเขตของดันเจี้ยนคือแค่ภายในห้อง ถ้ำนี้คงจะไม่ใช่สิ่งที่ดันเจี้ยนสร้างขึ้น

หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่รอบๆ ผมก็เดินไปที่ทางออกถ้า ไม่สิ ควรจะเป็นทางเข้ามากกว่า ที่ที่มีแสงส่องเข้ามา

เสียงฝีเท้าผมดังสะท้อนไปั่วถ้ำ
อากาศในถ้ำจะออกเย็นๆในความรู้สึกดี แบบหน้าร้อนมาก็คงไม่ต้องพึ่งแอร์เลยล่ะ

ไม่นานนัก ผมก็มาถึงทางเข้าถ้ำ และสิ่งที่อยู่ข้างหน้านั้น

—– เป็นท้องฟ้าปลอดโปร่งที่ทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด

ช่วงล่างเป็นป่าขนาดใหญ่

สายลมพัดทำให้ต้นไม้สั่นไหว ถ้าฟังดูดีๆก็จะได้ยินเสียงใบไม้กระทบกัน

ไกลออกไปมีแม่น้ำขนาดใหญ่ส่องประกายแสงระยิบระยับจากการสะท้อนแสงอาทิตย์

เส้นขอบฟ้าที่ทะลุผ่านก้อนเมฆ ภูเขาเรียงรายกันยาวออกไป

ผมสงสัยจังว่าสีฟ้าที่แผ่ซ่านไปทั่วขอบฟ้านั้นจะใช้ทะเลหรือเปล่านะ

บนท้องฟ้าไกลออกไป มีสิ่งที่เหมือนกับเกาะลอยอยู่ มีน้ำตกไหลตกลงมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เกิดสายรุ้งขึ้นมา

“โอ้….”

ด้วยความสวยงามตรงหน้า ทำให้ผมเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง

…ถ้าบินด้วยปีกที่มีอยู่ได้ คงจะสุดยอดไปเลยนะ

ว่าไปนั้น ตอนนี้ผมก็ไม่ได้มีปีกอยู่หรอก

ตอนที่คิดว่าจะทำยังไงให้มันหุบเล็กลง เพื่อจะได้นอนได้ มันก็หายไปเองเลย

ปีกนี้มันเป็นสิ่งที่สร้างโดยพลังเวท ผมจะให้มันโผล่หรือหายไปก็ได้ตามใจนึก เป็นร่างกายที่สะดวกดีแท้

หลังจากถูกดึงดูดโดยธรรมชาติโดยรอบอยู่ซักพัก ผมก็ดึงสมาธิกลับมาสำรวจพื้นที่โดยรอบ ที่เป็นเป้าหมายหลักตั้งแต่แรก

จากปากถ้ำลงไปน่าจะอยู่ประมาณกลางภูเขา ถึงจะบอกว่ากลางภูเขาก็เถอะ แต่เห็นวิวขนาดนี้ก็น่าจะสูงใช้ได้อยู่นะเนี่ย และดูเหมือนว่า … จะไม่มีถิ่นฐานของมนุษย์อยู่ใกล้ๆ

พอผมหันหลังกลับไปที่ถ้ำ ก็เห็นหน้าผาสูงชันอยู่ข้างหน้า

ดูเหมือนว่าถ้ำที่ผมออกมาจะอยู่ใต้หน้าผานี้นะ

อืมมม ดูเหมือนว่าผมจะไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วแหะ ก็อยากจะขึ้นไปสูงกว่านี้อีกหรอก แต่…

ระหว่างที่คิดเรื่องพวกนี้ ผมก็เดินไปหาที่จะปีนขึ้นไปได้