“เห้อออ… เหนื่อยชะมัด เลฟี่นี้จริงจังเสมอเลยนะ”
ลูถอนหายใจและลงไปนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า โดยที่ยังไม่ได้ถอดชุด
เตียงนี้มันก็สุดยอดไปเลยด้วย ทั้งนุ่ม และก็ยุบลงไปได้เมื่อนอนแผ่ลงไปด้วย
ก่อนหน้านี้ เตียงที่เธอได้นอนมันก็ไม่ต่างไปจากไม้กระดาน ทุกครั้งที่เธอตื่นขึ้นมาก็จะเต็มไปด้วยอาการปวดตามร่างกาย แต่เตียงนี้ให้ความรู้สึกว่าสามารถปัดเป่าความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่สะสมมาทั้งวันได้ในทันที
“นี้ นอนไปทั้งอย่างนั้น เดี๋ยวชุดก็ยับหมดหรอกนะคะ”
“โอ้ จริงด้วยสิ”
ด้วยความสบายจากเตียง ทำให้เธอแทบจะไม่อยากลุกขึ้นมาถอดชุด จนกระทั้งเลล่าติเตือนขึ้นมา เธอถึงได้ยอมลุกขึ้นมาถอดชุดเมดของเธอ และรูปร่างผอมเพียวของเธอก็เปิดเผยขึ้นมา ถึงเธอจะชอบพูดว่ารูปร่างเธอนั้นเหมือนผู้ชายไม่ก็เด็ก แต่มันก็เป็นรูปร่างเว้าโค้งของผู้หญิงแน่นอน
ลูและเลเลียนั้นก็ญาติดีต่อกันถึงแม้ว่าจะอยู่กันคนละเผ่าพันธุ์ก็ตามที แต่การที่ทั้งสองเผ่าจะมาร่วมมือกันนั้นก็ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติซักเท่าไหร่
เนื่องด้วยอิทธิพลจากภายนอก หลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันและมีประเพณีทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เหตุผลเดียวที่พวกเขายินดีที่จะยอมรับซึ่งกันและกันก็เพราะมนุษย์เลือกปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน พวกมนุษย์ปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนขยะ เป็นเหล่ากึ่งมนุษย์ที่ล้มเหลว
ประเทศของมนุษย์มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแนวโน้มที่จะมีพลังอำนาจมากขึ้นดังนั้นเผ่าพันธุ์ย่อยอื่นๆจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องร่วมมือกัน ไม่งั้นก็อาจจะถูกกวาดล้างโดยสงครามจากมนุษย์ได้
เผ่าเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์เดียวที่มนุษย์ไม่อาจรุกรานอย่างประมาทได้ ในฐานะพลเมืองของป่าพวกเขาสามารถใช้ “ ความลับแห่งป่า” ซึ่งมนุษย์รู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน ด้วยเหตุนี้พวกเอลฟ์และมนุษย์จึงหลีกเลี่ยงที่จะไปขัดแข้งขัดขากัน เผ่าพันธุ์อื่น ๆ ทั้งหมดถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับความกระหายในการครอบครองของมนุษย์ นั้นทำให้มนุษย์และสามเผ่าอื่นที่ไม่ใช่เอลฟ์นั้น ต้องต่อสู้กันมานับ 100 ปีแล้ว
ตอนแรกสถานการณ์มันก็ค่อนข้าคงที่ แต่หลังๆมานี้ มันเริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆ
เผ่าปีศาจ, มนุษย์สัตว์, และครึ่งมนุษย์, นั้นมีพลังมากพอที่เหนือกว่ามนุษย์ ในการสู้ 1 ต่อ 1 มนุษย์นั้นมีโอกาศแพ้สูงเพราะอ่อนแอกว่า แต่ก็ไม่อาจจะชนะจำนวนของกองทัพอันมหาศาลของมวลมนุษย์ได้ ถ้าส่งกองพลไป 10 ก็จะเจอ 100 ถ้าส่งไป 100 ก็จะเจอ 1000
ทำให้ในสงคราม ถูกดันกลับมาเรื่อยๆ และยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีของั่งมนุษย์ก็พัฒนาขึ้นไปทุกวันๆ ลูนั้นได้ยินมาว่าพวกเขาด้วยในเรื่องกำลังพลมากว่า 10 ปีแล้ว
ทำให้ทั้งสามเผ่านั้นต้องร่วมมือกันอย่างไม่มีทางเลือก ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตามที
“ถึงจะช้าไปหน่อยที่จะถามก็เถอะ แต่ทำไมเธอถึงตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี้หรอ?”
“ชั้นว่าชั้นเคยพูดไปแล้วนะ เพื่อชดใช้หนี้นะคะ…”
ลูสวมชุดนอนดีไซน์น่ารัก ที่มาสเตอร์ของเธอให้มา แล้วก็มองไปที่เลเลีย
“ชั้นรู้ว่าเธอพูดอย่างนั้น แต่ชั้นไม่ได้ถามถึงเรื่องนั้น ชั้นอยากจะรู้ในสี่งที่เธอคิดจริงๆนะ ชั้นว่าเธอมีอีกเหตุผลหนึ่งซ่อนอยู่ใช่ไหมล่ะ ก็เธอมาจากเผ่าปีศาจเขาแกะนี้นา?”
ทั้งเผ่ามนุษย์สัตว์และปีศาจนั้นจะมีการแบ่งเป็นเผ่าย่อย และในเผ่าย่อยนั้นก็จะแบ่งเป็นตระกูลอีกที ซึ่งแต่ละคนก็จะมีชื่อตระกูลตัวเองตามหลังชื่อจริง เพื่อแบ่งเป็นกลุ่มๆแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน
สำหรับลู กิลออนคือชื่อตระกูลของเธอ
แต่เลล่านั้นกลับไม่พูดชื่อตระกูลของตัวเองออกมา ด้วยเหตุผลบางอย่าง
เผ่าปีศาจเขาแกะนั้นเป็นเผ่าที่มีลักษณะเด่นอยู่ 2 ประการ คือ ทั้งเผ่าจะมีแต่ผู้หญิง และส่วนใหญ่จะเป็นนักวิชาการไม่ก็นักค้นคว้า เป็นเผ่าที่มีความรอบรู้สูงมาก ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มากกว่าปกติ เมื่อพวกเขาเจอสิ่งที่น่าสนใจ พวกเขาจะหมกตัวศึกษาเรื่องเหล่านั้นจนอดหลับอดนอน เพื่อจะรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองสนใจมากขึ้นแม้ซักนิดเดียวก็ยังดี
เป็นเผ่าที่โด่งดังมากในกลุ่มเผ่าปีศาจด้วยกัน และเผ่ามนุษย์สัตว์อย่างลูก็เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาอยู่
“ชั้นก็ไม่ได้โกหกหรอกนะคะ ชั้นนะได้ยอมแพ้ในชีวิตไปแล้วครั้งนึงเมื่อได้ตกไปเป็นทาส การที่นายท่านของเรามาช่วยเอาไว้ให้มีวันนี้ได้นะ เป็นดังปาฏิหาริย์เลยละค่ะ ซึ่งชั้นก็รู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่เขาทำเป็นอย่างมากค่ะ” พูดจบ เลเล่ก็ยิ้มที่มุมปาก
“แต่ที่สำคัญกว่านั้นนะ เธอไม่รู้สึกว่าเขาน่าสนใจบ้างหรอคะ? จอมมารส่วนมากนะมีดีแค่ใช้กำลัง ไม่ค่อยใช้ความรู้และหลักเหตุผลกันเท่าไหร่ แต่นายท่านของเรานั้นเต็มไปด้วยปัญญาและเหตุผล ไม่คิดว่านี้เป็นโอกาศที่ดีที่จะศึกษาในเรื่องที่เราไม่รู้นี้บ้างหรอคะ? เรียนรู้เกี่ยวกับเขาวงกตและบางทีอาจจะได้รู้เรื่องของเผ่าจอมมารมากขึ้นด้วยก็ได้นะคะ มันคงน่าเสียดายที่จะทิ้งโอกาศอันมีค่านี้ไปแน่นอนค่ะ”
“อ-อือ… ก็นะ…”
ลูนั้นได้แต่พยักหน้าตามอย่างช้าๆ เธอคิดว่าเลล่าเป็นคนใจเย็น สงบ และไม่กังวลกับเรื่องอะไรมาก แต่เจออาการหลุดอย่างนี้ก็ทำเอาเธอไปไม่เป็นเหมือนกัน พอเห็นอย่างนี้ก็ทำให้หมาป่าสาวเข้าใจว่าเลล่านั้นเป็นสมาชิกของเผ่าเขาแกะอย่างถ่องแท้
“แล้ว เธอได้รู้อะไรเพิ่มบ้างหรือเปล่าล่ะ?”
“ไม่เลยค่ะ สิ่งเดียวที่ชั้นรู้คือจอมมารนั้นได้ถือครองพลังลึกลับบางอย่างเอาไว้ แล้วเขาก็เป็นคนตลกดีด้วย และก็ดูแลเลฟี่และน้องสาวของเขาเป็นอย่างดีล่ะนะคะ”
“อาาา… มาสเตอร์ก็เป็นคนอย่างนั้นนี้เนอะ”
ถ้าจะให้อธิบายเป็นคำก็คงได้ว่า ‘ลึกลับ’
เขาใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อนได้อย่างเชี่ยวชาญ บางทีจู่ๆก็ใช้เวทมนต์ขนาดใหญ่เพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง แต่บางครั้งเขาก็ขาดความรู้พื้นฐานที่โดยปกติแม้แต่เด็กๆก็จะรู้กัน
หัวเราะบ้าง โกรธบ้าง บางครั้งก็ให้ความรู้สึกเหมือนเด็ก แต่บรรยากาศรอบตัวเขานั้นให้ความรู้สึกอบอุ่น เมื่ออยู่ใกล้แล้วก็รู้สึกสบายใจ แม้จะรู้จักกันได้ไม่นาน
แล้วถึงเขาจะไม่ใช่คนอบอุ่นแบบนั้น แต่เธอก็อยากที่จะทำงานให้เขา เธอไม่เคยโดนดุด่าอะไรในที่นี้เลย จะว่าเป็นเมดแค่ในนามก็ว่าได้ เพราะเธอก็ค่อนข้างมีอิสระในการทำสิ่งต่างๆ บางครั้งก็ต้องไปเป็นคู่เล่นกับคนอื่นบ้าง แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก มันค่อนข้างสนุกด้วยซ้ำไป
อาหารที่นี้ก็อร่อยด้วย แล้วยังมีบ่อน้ำพุร้อนให้ไปผ่อนคลาย ห้องนอนก็หลับสบาย เธอได้ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีสุดๆ เธอก็รู้สึกเศร้านิดๆที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอเขาเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย เฟนรีร์ ผู้ที่เป็นเหตุผลที่ทำให้ลูอยากอยู่ที่นี้นั้นยังอยู่
ถ้าเธอเอาเรื่องนี้ไปโม้กับเพื่อนที่บ้านล่ะก็ พวกนั้นคงกัดฟันด้วยความอิจฉาเป็นแน่
“ชั้นคิดว่าถึงเธอจะบอกความจริงไป มาสเตอร์ก็คงไม่คิดอะไรมากหรอกนะ”
“ชั้นก็เห็นด้วยนะคะ แต่ชั้นอยากที่จะรู้เกี่ยวกับที่นี้และมาสเตอร์ในสภาพที่เป็นธรรมชาติที่สุดนะ และแบบนี้มันจะทำให้การสังเกตการณ์ของชั้นมันไม่ยุ่งยากด้วย ชั้นจึงคิดว่าจะเก็บเป็นความลับไว้ดีกว่านะคะ”
ที่เธอพูดมาก็พอเข้าใจได้
มีไม่กี่คนหรอกที่จะแสดงท่าทีได้ตามปกติเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกเฝ้ามองอยู่
“แล้วเธอล่ะ? ตระกูลกิลออนเนี่ย ไม่ใช่ว่าเป็นหัวตระกูลหลักของเผ่ามนุษย์หมาป่าเลยหรอ? ชั้นพอจะได้ยินเรื่องข่าวที่ว่าลูกสาวของหัวหน้าเผ่าหนีออกจากบ้านอยู่ หรือว่าเธอจะเป็น…”
“อ๊าาาา!? น-นั้นเป็นความลับนะ!!”
ลูโบกมือทั้งสองข้างไปมาเพื่อให้เลล่าหยุดพูด
“ฮิๆ ชั้นไม่ไปบอกใครหรอกค่ะ แต่ถ้าเธอไปพูดเรื่องชั้นเข้า บางทีมันอาจจะมีหลุดปากไปบ้างก็ได้นะคะ”
“ช-ชั้นเข้าใจแล้ว! ชั้นสัญญาว่าจะไม่ไปบอกคนอื่น ดังนั้นเธอห้ามไปพูดเรื่องชั้นกับคนอื่น เข้าใจนะ!?”
พอเห็นท่าทางลนลานของลูแล้ว เลล่าก็อดสงสัยเรื่องหนึ่งไปไม่ได้
“แล้ว ทำไมเธอถึงต้องปิดบังเรื่องนี้ด้วยล่ะคะ?”
“ก-ก็มัน… น่าอายนี้น่า ของแบบนี้มันไม่เหมาะกับเด็กผู้หญิงหรอก… ลูกหัวหน้าเผ่านะ”
เลล่าหัวเราะเมื่อได้ยินน้ำเสียงลังเลของลู
“ชั้นคิดว่าเธอก็มีความเป็นผู้หญิง และน่ารักพอนะคะ”
“ห๊ะ น่า- เธอคิดว่าน่ารักงั้นหรอ…”
“พรุ่งนี้เรามีงานแต่เช้า และเราก็ควรจะตื่นก่อนเจ้านายกันด้วย ไปนอนกันเถอะคะ”
พูดจบ เลล่าก็เอื้อมมือไปปิดโคมไฟในห้อง
“อือออ ชั้นรู้สึกเหมือนเธอกำลังเลี่ยงเรื่องอะไรบางอย่างอยู่เลย แต่ก็… ฝันดีนะ”
“ค่ะ ฝันดีนะคะ”
MANGA DISCUSSION