เมื่อคืนง่วงจัดจนลืมลงรูป ลงรูปตอนที่ 25 แล้วนะจิ
“ท่านครับ แย่แล้วครับ!!”
เรย์ลอร์ ลอร์ดของเมืองเอลฟิโร ถูกปลุกขึ้นมากลางดึกโดยพวกคนรับใช้ของเขา
“… เสียงดังกันจริง มีอะไรล่ะ? มอนเตอร์โจมตีหรืออะไร?”
“ช-ใช่ครับ!! มีมอนเตอร์ประมาณ 100 ตัวมาจากบนฟ้าทางป่าต้องห้ามครับ!”
“เป็นอย่างนี้เอง… แกบอกว่ามาจากทางท้องฟ้า งั้นก็เป็นพวกไวเวิร์นสินะ?”
“ม-ไม่ใช่ครับ! เป็นมังกรครับ!!”
“อะไรนะ!?”
มังกร เป็นเผ่าพันธุ์ที่แข้งแกร่งที่สุดในโลก ขนาดนักผจญภัยระดับอาดามันเทียม ที่สามารถจัดการมอนเตอร์กว่าพันตัวได้ด้วยตัวเอง ยังต้องรวมกลุ่มกันเพื่อจัดการพวกนี้ซักตัวหนึ่ง
แต่ถ้ามากันเป็นร้อย นี้เป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดเลย ถ้าไม่รับมือให้ดีล่ะก็ เมืองนี้ ไม่สิ ประเทศนี้ได้ล่มสลายแน่
“เรียกทหารและนักผจญภัยทั้งหมดมาเตรียมตัวไว้! เดี๋ยวนี้!! ทำให้เมืองอยู่ในภาวะฉุกเฉินและเริ่มอพยพพลเรือน!”
คนรับใช้ทั้งหมดรับคำสั่งและทำหน้าที่อย่างรวดเร็ว
พอลุกจากเตียง ลอร์ดก็มองไปที่สิ่งหนึ่งบนเตียง เป็นรายงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกๆในป่าต้องห้าม
เพราะรายงานนี้ เรย์ลอร์จึงได้เพิ่มกำลังพลในเมืองเอาไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ว่า… มันจะพอสู้ได้ยังๆไงกัน? ก็หวังว่ามันจะถ่วงเวลาให้มากพอที่จะอพยพพลเรือนได้ทัน
เขาได้สรุปว่าชีวิตตนเองคงจะมาได้ถึงแค่วันนี้
แล้วเรย์ลอร์ก็ออกจากห้องไปเพื่อควบคุมสถานการณ์
* * *
ภายใต้แสงจันทร์ ฝูงมังกรกำลังพุ่งตรงไปข้างหน้า พวกมันไปเป็ฯรูปขบวนสวยงาม ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
ก็รู้สึกแปลกเหมือนกันที่มาเห็นมอนเตอร์แข็งแกร่งมาทำตัวอย่างนี้ แต่ก็คงเป็นเพราะพวกมันกลัวเลฟี่
ถึงพวกนี้จะมีศักด์ศรี และถูกขนาดนามว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับอย่างอื่น แต่พวกมันก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับเลฟี่เลย อัตตาของพวกมันจึงพังทลายและยอดเชื่อฟังในที่สุด
ขณะเดียวกัน ฟิร์ก็วิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่ข้างล่าง
“เห็นแล้ว!”
ด้วยการเอนช้านสายตา ผมเห็นเมืองอยู่ปลายสุดของขอบฟ้า ที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ เมืองมันใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้ และกำแพงก็สูงสุดๆเลยด้วย
ถึงมันจะมืดค่ำแล้ว ก็ยังมีแสงส่องอยู่ และก็มีทหารในเกราะหนักเดินไปมาบนกำแพง
เรายังห่างอยู่ แต่… ผมว่าพวกนั้นช้าไปที่จะจับพวกเราแล้วล่ะ
… นี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเมืองหลังจากมาที่โลกนี้ด้วย ก็อยากจะมาในสถานการณ์อื่นอยู่หรอกนะ
ระหว่างที่คิดหลายๆเรื่อง เลฟี่ก็เอาปีกออกมาแล้วบินไปใกล้ๆจากหัวของมังกร
“ยูกิ ถ้าตัวตนอย่างเราลงมือ อิลูน่าอาจจะตายเพราะความวุ่นวายข้างล่างได้ ดังนั้นลงไปช่วยองค์หญิงตัวน้อยของเราเลย!”
“เข้าใจแล้ว อย่าให้มังกรพวกนี้มันอาละวาดละกันล่ะ”
“เจ้าไม่ต้องบอกเราหรอกนะ!”
พอคุยกับเลฟี่จบ ผมก็พุ่งลงไปข้างล่างพลางหลบห่าเวทและลูกธนู และลงไปลงจอดข้างล่างอย่างรวดเร็ว แล้วฟิร์ก็ไต่กำแพงกระโดดข้ามมาอย่างง่ายดาย และก็เริ่มทำการตามกลิ่น
“ฟิร์ เจอกลิ่นอิลูน่าไหม!?” เขาพยักหน้าและชี้จมูกไปางที่เจอ
“เอาล่ะ นำไปเลย!” ผมขึ้นขี่ฟิร์แล้วเขาก็เริ่มวิ่ง
“หลบไป ชั้นไม่หยุดหรอกนะเฟ้ย!” ทหารบางคนพยายามมาขวางทาง แต่เราไม่สนใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือไปให้ถึงตัวอิลูน่า
* * *
แล้วเราก็มาถึงย่านหนึ่งของเมือง ข้างหน้ามีตึกใหญ่หนึ่งตึกที่ใหญ่กว่าที่อื่นๆอย่างชัดเจน เจ้าของคงเป็นคนมีอำนาจน่าดู
… ที่นี้หรอ?
“Gaaaaaaaaaah!” ผมกระโดดจากหลังฟิร์แล้วพังประตูด้วยดาบพร้อมตะโกนเสียงดัง
“อะไรนะ?” “ใครกันว่ะนะ!?” ชายข้างในตะโกน
ผมมองรอบๆโดยไม่สนใจพวกมัน ที่นี้ดูเหมือนเป็นร้านขายอะไรซักอย่างที่ตกแต่งได้ห่วยสุดๆ มันมีชั้นสองด้วย
บางคนพยายามจะหนีพลางลากพวกผู้หญิงไปด้วยโซ่ อิลูน่านั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกนั้น… ผมได้ยินเสียงตัวเองขบฟัน
ไอพวกนี้… มันจะทำให้ผมโกรธไปถึงขนาดไหนกัน?
“จัดการมันสิวะ!!” หนึ่งในพวกมันตะโกนขึ้นมา พวกนี้มันต้องการจะจัดการผมอย่างชัดเจน
พวกมันใช้กำลังพลักผู้หญิงที่ดูเหมือนทาสไปหลังห้อง เอาอาวุธออกมาแล้วก็พุ่งเข้ามาหาผม
แต่ถ้าเข้ามาโจมตีผมอย่างนั้น… ผมก็จะฆ่ากลับนะ
ชายคนแรกเข้ามาใกล้ผมและยกกระบองขึ้น ผมเหวี่ยงดาบอย่างสบายๆและหัวเขาก็กระเด็นออกไป ส่วนร่างก็ลงไปจมกองเลือด
ศัตรูคนอื่นๆก็ตัวแข็งทื่อและหน้าซีดเผือกกันไป ผมไม่พลาดโอกาศนี้ พุ่งเข้าไปหาและใช้ดาบโจมตีพวกมัน โดยใช้พลังทั้งหมดเท่าที่ผมจะดึงออกมาได้บางคนก็กันทัน แต่ก็เปล่าประโยชน์
ใครที่กันไม่ได้ก็ตัวขาดครึ่ง ที่เหลือก็ปลิวไปติดกำแพงเพราะแรงฟัน
นี้แหละเหตุผลที่ผมเลือกดาบใหญ่ จะได้ใช้แรงล้วนๆโดยไม่ต้องพึ่งทักษะใดๆมาก
“ตาย!!” พวกที่ไม่ได้โดนฟังก็หาจังหวะเข้ามาโจมตีผม… น่าเสียดายที่ผมไม่ได้มาตัวคนเดียว
ฟิร์มาทางด้านหลังและชนชายคนนั้น เขาตามความเร็วของคู่หูผมไม่ทันและก็ตายโดนร่างส่วนบนโดนกระแทกเละโดยฟิร์
“ชิ ไอหมอนี้มันมีมอนเตอร์มาด้วย! เอาไอนั้นมา!” ชายที่ดูเหมือนหัวหน้าตะโกน และพวกลูกสมุนก็เดินเข้าไปข้างในและเอาคริสตัลบอลออกมา แล้วพวกนั้นก็เริ่มทำอะไรบางอย่าง
“… อุปกรณ์เวทมนต์หรอ?” พอผมพูดจบ ลูกบอลก็ส่งอแสง และฟิร์ตัวสั่น แต่เขาก็กลับมายืนตามปกติทันที ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“เป็นไรไหมพวก?” ฟิร์ส่ายหัวบอกว่าไม่เป็นไร แต่สภาพเขาดูไม่ดีเลย ผมหันไปทางคริสตัลและวิเคราะห์มันทันที
คริสตัลแจมมิ่ง: รบกวนการไหลของพลังเวทของมอนเตอร์ใกล้ และทำให้พวกมันเคลื่อนไหวช้าลง ผลลัพพ์จะขึ้นอยู่กับว่ามอนเตอร์แข็งแกร่งแค่ไหน คุณภาพ: B+
…อย่างนี้นี่เอง ก็ว่าทำไมไอพวกขยะพวกนี้ถึงเข้ามาในป่าได้ มันมีอุปกรณ์อย่างนี้นี่เอง กำลังสงสัยเลยว่ามันเข้ามาจับตัวอิลูน่าภายในป่าอันตรายขนาดนั้นได้ยังไง ทั้งๆที่พวกมันอ่อนแอขนาดนี้ ที่แท้ก็มีเจ้าคริสตัลนี้นี่เอง
เจ้าหัวหน้ามาเริ่มสถบ มันไม่ได้ซ่อนความโกรธเอาไว้เลย และมันก็สั่งลูกน้อง
“ไอบ้านั้น… นั้นมันบลัฟ! ของชิ้นนี้มันดีเท่ากับราคาที่เราซื้อมานั้นแหละ แจมมิ่งคริสตัลนะไม่เคยพลาดที่จะหยุดพวกมอนเตอร์ทุกตัวี่เราเจอ! ฆ่าพวกแม่รงซะ!”
ไอพวกนี้… ไม่เห็นหรือไงว่าผมฆ่าไปขนาดไหนแล้ว? หรือความโง่เง่าของพวกมันสูงซะจนไม่สามารถเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้?
“ไม่เป็นไร ฟิร์ อยู่ตรงนี้แหละ” ผมบอกคู่หูและเริ่มที่จะร่ายเวท
“อะไรวะ!?” หัวหน้าของพวกมันได้แต่พูดคำนี้หลังจากที่เห็นมังกรน้ำของผม
“ไป!” พอผมตะโกน สกิลก็ทำงาน และกลืนกินพวกมันไปในพริบตา พวกมันไม่มีทักษะที่จะช่วยให้รอดจากภายในตัวมังกรมาได้ และพวกมันก็จมลงและถูงฉีกเป็นชิ้นๆโดนแรงหมุนของน้ำ ไม่นาน ก็ไม่มีใครขยับอีกเลย
* * *
สิ่งที่เหลืออยู่จะเรียกว่าเป็นนรกก็ว่าได้ อวัยวะภายในและเลือดกระจัดกระจายไปทั่วย้อมสีห้องเป็นสีแดง… ผมไม่มีความรู้สึกใดๆกับภาพพวกนี้เลย ไม่มีความรู้สึกแปลกๆจากการฆ่ามนุษย์ไปมากมายขนาดนี้ ผมคงจะนับตัวเองไปเหมือนพวกนั้นไม่ได้อีกแล้วละ
“… สะดวกดีแหะ” ผมไม่มีความลังเลเลยที่จะโยนเจ้าขยะพวกนี้ไปลงนรก
ผมพังคริสตัลเวทมนต์ด้วยดาบ และโยนมันทิ้งไป
“… ฟิร์ อิลูน่าละ?” เขาส่ายหน้าปฏิเสธ กลิ่นของเลือดมันแรงไปจนเขาตามกลิ่นไม่ได้
ช่างเถอะ เดี๋ยวพอฆ่าทุกคนที่อยู่ในนี้จนหมด เดี๋ยวก็เจออิลูน่าเองนั้นแหละ
TL:ตอนต่อไปจะมาช่วงบ่ายนะจิ บัย
MANGA DISCUSSION