นักผจญภัย
เป็นผู้คนที่ตามหา เก็บเกี่ยว สู้ กับสิ่งที่ไม่รู้จัก พวกเขาจะรับคำขอต่างๆที่มีรางวัลเป็นของตอบแทน
เป็นอาชีพที่หลายคนฝันถึง ถ้าประสบความสำเร็จมาก ก็จะได้รับทั้งเงินทอง ชื่อเสียง ฐานะ ถึงขั้นได้รับดินแดนและถูกแต่งตั้งเป็นขุนนางก็มี
แต่ถึงกระนั้น ‘นักผจญภัย’ ก็จะเก่งเฉพาะด้าน เช่น กำจัดมอนเตอร์, ส่งข้อมูล, สำรวจดันเจี้ยน และศึกษาซากโบราณ, ซึ่งมันค่อนข้างคลุมรอบด้าน
สิ่งที่ต้องมีเป็นพื้นฐานก็คือ พลัง ทันทีที่ออกจากเขตแดนของมนุษย์ ก็จะเจอกับเหล่ามอนเตอร์ที่พร้อมจับมอบความตายให้ได้ทุกเมื่อ
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ต้องมีพลังใจที่เข้มแข็ง และพลังที่จะก้าวข้ามพวกมันมาได้
ผู้ใดที่ไม่อาจจะทำได้ ก็จะถึงขีดจำกัดของตัวเองและไม่อาจจะเพิ่มระดับของตัวเองได้
นักผจญภัยจะมีระดับเป็นองตนเองตามพลังที่มี เริ่มต้นด้วย ทองเหลือง, เหล็ก, เงิน, ทอง, มิธริล, อาดามันเทียม และสุดท้ายคือ โอริคัลคุม ตอนนี้เราอยู่ในระดับมิธริล
ถึงจะเป็นระดับ 3 จากบนสุด มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์จะไปถึงระดับโอลิคัลคุม ใครที่ไปถึงจุดนั้นก็จัดว่าเป็นภัยพิบัติระดับธรรมชาติได้เลย และระดับอาดามันเทียมก็ถูกกล่าวขาน
ว่าสามารถจัดการนักรบกว่าพันคนได้ด้วยตัวคนเดียว มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ ทำให้ระดับมิธริลเป็นระดับสูงสุดที่คนธรรมดาจะไปถึงได้
ด้วยเหตุนั้น เราจึงได้รับคำขอโดยตรงจากกิลด์นักผจญภัย
เราอาศัยอยู่ในเมืองที่มีชื่อว่า ‘เอลฟิโร่’ ตั้งอยู่ที่พรมแดนของประเทศพอดี มันจึงเป็นที่ที่ดีที่นักผจญภัยที่มีประสบการณ์จะมารับคำขอกำจัดมอนเตอร์ และการคุ้มกันของเมืองนี้ก็ดีอยู่แล้ว
จึงไม่มีนักผจญภัยระดับโอลิคัมคุมอาศัยอยู่ที่นี้เลย
มันก็มีระดับโอริคัลคุมอยู่ 2-3 คนละมั้ง แต่ด้วยเหตุบางอย่างจึงไม่มีใครอยู่ในเมืองเลย จึงมีกลุ่มที่ระดับสู่สุดและว่างอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือพวกเรา
คำขอที่เราได้รับเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุแปลกๆใน ‘ป่าต้องห้าม’ [TL:จุดนี้ อิงใช้ป่าผีสิง แต่อิงอีกเจ้าที่แปลเขาใช้ ป่าชั่วร้าย ไหนๆ 2 เจ้านี้ก็แปลต่างกันล่ะ เราก็เอาต่างบ้างซะเลย อิอิ :P]
ป่าต้องห้ามนั้นเต็มไปด้วยมอนเตอร์ที่สุดอันตราย และอีกหลายๆอย่างที่ใครก็ตามที่ได้เข้าไป ก็ยากที่จะรอดกลับมา
และสภาพแวดล้อมภายในป่าก็ทำให้คนธรรมดาไม่ควรที่จะอยู่ภายในป่าเกิน 30 นาทีด้วยเหตุนั้น จึงมีกฏอย่างเด็ดขาดว่า ห้ามเข้าไป ณ จุดที่ลึกที่สุดของป่า แม้แต่นักผจญภัยก็ไม่มีข้อยกเว้นใครที่ฝ่าฝืนก็จะได้รับบทลงโทษ
ซึ่งเหตุผลจริงๆก็ไม่ใช่เพราะว่าป่ามันอันตราย แต่เพราะมันมีสิ่งที่น่าสะพรึกกลัวอาศัยอยู่ในนั้นต่างหาก
สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง มังกรชั้นสูง
มังกร ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว และส่วนใหญ่ก็จัดอยู่ในระดับภัยพิบัติได้เลย แต่มันก็ยังมีตัวที่แข็งแกร่งกว่านั้น ก็คือ มังกรชั้นสูง
มอนเตอร์ระดับภัยพิบัตินั้นสามารถทำลายประเทศได้ด้วยตัวของมันเอง ในตอนที่มังกรชั้นสูงได้ออกอาละวาด ประเทศหลายประเทศได้ถูกทำลายและกองทัพที่ถูกส่งไปก็ถูกกำจัดหมด
มีประเทศใกล้เคียงได้ส่งกองกำลังกว่า 300000 คน พร้อมกับนักผจญภัยระดับโอริคัลคุมและอาดามันเทียมมากมายตามไปสมทบ
แต่ว่า เพียงแค่คืนเดียว เกือบทั้งกองทัพได้ถูกกำจัดไปหมด เหลือรอดกลับมาแค่ 1000 คนเท่านั้น
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีเรื่องเล่ากันว่า มังกรชั้นสูงนั้น สามารถเปลี่ยนภูมิระเทศได้ด้วยลมหายใจเดียว และสามารถใช้เวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ราวกับเป็บของเล่นเด็ก… ยังไงก็ตาม เจ้า
มอนเตอร์ตัวนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสนใจอย่างอื่นนอกจากตัวเอง ตราบใดที่ไม่ไปยุ่งกับมา มันก็จะไม่มายุ่งอะไรกับเรา
ทำให้ทุกประเทศลงความเห็นกันว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมังกรชั้นสูงกันอีก และข้อตกลงนั้นก็ยังมีผลมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนั้น มังกรชั้นสูงก็ไม่เคยถูกพบเห็นอีกเลย ผ่านไป 100 ปีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววที่จะโผล่มาในป่าต้องห้ามเลย
แต่หลังๆมานี้ มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นภายในป่า
พวกครึ่งมังกร ที่ปกติแทบจะไม่ออกจากอาณาเขตตัวเอง ได้ถูกพบเห็นนอกพื้นที่อาณาเขตของมันบ่อยมาก
คงมีเหตุขนาดใหญ่บางอย่างพลักดันให้พวกมันออกมาจากอาณาเขตของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกก็คิดว่าเป็นฝีมือมังกรชั้นสูง แต่มันก็ยังไม่มีการถูกพบเห็น แล้วมอนเตอร์ก็ออกมาจากพื้นที่ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นตัวการน่าจะเป็นอย่างอื่น และทางกิลด์ก็ต้องการที่จะรู้ถึงตัวการนั้น
การที่มีมอนเตอร์น้อยลงมันเป็นเรื่องที่ดี แต่มอนเตอร์มันย้ายที่อยู่นี้สิปัญหา
ตัวป่าต้องห้ามนั้นมีพลังเวทสูงอยู่แล้ว ตามปกติพวกมันคงไม่ออกมาใกล้กับเขตหมู่บ้าน แต่ถ้ามันมีบางอย่างมาไล่พวกมันออกมาอีก นั้นแหละที่จะเป็นปัญหา
ผมก็ไม่อยากที่จะรับคำขออันตรายบ้าๆนี้หรอก แต่การปฏิเสธคำขอจากกิลด์โดยตรงจะทำให้โดนลดระดับ
แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ด้วย กลุ่มของพวกเราจึงเป็นกลุ่มเดียวที่สามารถรับหน้าที่นี้ได้ในตอนนี้
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เรา 3 คนได้เข้ามาในป่าแห่งนี้
* * *
“สารเลวเอ๊ย!!”
“อย่าเพิ่งเหนื่อยกันสิ อยากตายกันหรือไง!?”
“ไม่คิดเลยว่าข่าวลือมันจะจริง…”
ทีมของเราประกอบไปด้วย เรเยส, หน่วยสอดแนม, โรวี่, จอมเวท, และผม, กริฟฟิน, แนวหน้า ตอนนี้ ที่พวกเรากำลังทำอยู่คือวิ่งหนี
สิ่งที่กำลังไล่หลังพวกเราอยู่คือ ‘เสือเขา’ วิ่งชนต้นไม้ล่มราวกับว่ามันเป็นกระดาษ
[TL: Horned Tiger ผมมิรู้จะคิดชื่อยังไงให้มันเท่ๆดี เลยเอาที่ เสือเขาไว้ก่อน ใครคิดชื่อดีๆกว่านี้ได้ก็บอกได้นะจิ]
เจ้าเสือนั้นคือผู้ล่า ส่วนเราก็คือเหยื่อ
มอนเตอร์มันจะมีระดับอันตรายของมันอยู่ นั้นก็คือ: ไร้พิษภัย, เสี่ยงที่จะอันตราย, อันตราย, ต่ำกว่าภัยพิบัติ, ภัยพิบัติ, ภัยพิบัติขนาดใหญ่ และ มหันตภัย
เสือเขาจัดอยู่ในระดับต่ำกว่าภัยพิบัติ แค่แรงมันอย่างเดียวก็พอที่จะสร้างปัญหาให้นักผจญภัยระดับอาดามันเทียมได้แล้ว ระดับมิธริลอย่างเราก็สามารถรับมือกับพวกมันได้ แต่ตั้งแต่เข้ามาในป่านี้เราก็เจอแต่มอนเตอร์ระดับนี้มาอยู่เรื่อยๆเลย
เลเวลของมอนเตอร์บริเวณนี้มันควรจะต่ำกว่านี้สิ… มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
เพราะเราเป็นนักผจญภัยระดับมิธริล เราจึงเคยเข้าป่าแห่งนี้อยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยเจอมอนเตอร์ประเภทนี้ปรากฏตัวใกล้ทางเข้ามาก่อน มันก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่เราเข้ามา
แต่เราก็แทบจะไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
แล้วเสือตัวนี้ก็เหมือนจะสูญเสียอาณาเขตของตัวเองไปด้วย มันผอมจนมองก็รู้เลยว่าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว เจ้ามอนเตอร์นี้ไลล่าเราอย่างบ้าครั้งราวกับว่าไม่อาจจะควบคุมความหิวของตัวเองได้อีกแล้ว
“โรวี่ ร่ายเวทอะไรซักหน่อยสิ!?”
“ไม่ได้! พลังเวทของชั้นยังฟื้นมาไม่ถึง 10% เลย!”
ก่อนหน้านี้เราก็สู้กับมอนเตอร์ระดับนี้มาหลายตัว ทำให้พวกเราเหนื่อย โลวี่พลังเวทหมด และเราก็ไม่มีโพชั่นเหลือกันแล้ว นี้ขนาดเตรียมของมามากกว่าปกติที่เคยทำกันนะ
รู้งี้ปฎิเสธคำขอไปซะก็ดี โดนลดระดับก็ช่างมัน
“อึก!!”
“โว้!?”
เสือเขาใช้สกิลบางอย่างพุ่งจากข้างหลังมาข้างหน้า ขวางทางเราไว้
“ชิ ไม่มีทางอื่นแล้ว มีแต่ต้องทำเท่านั้น!” ผมดึงดาบออกมาจากฝัก ด้วยความหมดหวัง
ทันใดนั้น ก็เกิดลมพัดอย่างรุนแรงพร้อมเสียงสายฟ้า
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเหมือนเนื้อฉีกขาดดังออกมา เสือเขาที่ยืนอยู่ได้ล้มลง และมีมอนเตอร์อีกตัวยืนอยู่แทน
ผมได้แค่นิ่งอยู่กับที่ มันมีหมาป่าตัวใหญ่พร้อมขนอันสวยงามยืนมองพวกเราอยู่
กล้ามเนื้อที่ดูดีและใหญ่เท่าท่อนซุง ขาที่ดูคล่องแคล้วว่องไว และความสูงใหญ่ที่ใหญ่มาก
ปากของมันมีเขี้ยวแหลมคมที่ดูแล้วสามารถกัดเราขาดได้ในทีเดียว
เจ้าตัวนี้มันอันตราย ผมรู้สึกได้ทันทีที่มองหมาป่าตัวนี้
ผมผ่านช่วงยากลำบากมาเยอะ และจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา ก็บอกได้เลยว่า… เจ้ามอนเตอร์ตัวนี้มันใหญ่กว่าที่ผมเคยเจอมาซะอีก
ร่างกายผมมันร้องเพื่อที่จะหนี แต่ผมก็ไม่อาจจะขยับไปได้แม้แต่ซักนิดเดียว
ความกลัวที่จะโดนจัดการในทันทีที่ผมขยับตัวมันหยุดผมเอาไว้ เพื่อนของผมก็เช่นกัน ได้แต่ยืนนิ่งๆและมองหมาป่าตัวนั้นต่อไป
มันมองพวกเราอยู่แปปหนึ่งก่อนจะหมดความสนใจ หมาป่าหันไปอีกทางและเดินจากไปพร้อมกับเหยื่อในปากของมัน
ทันทีที่มอนเตอร์ตัวนั้นหายไป ถึงเราจะยังอยู่ในป่าต้องห้าม เลวี่ก็ได้ล้มลงไปกับพื้นแล้ว
ผมก็ไม่โทษเธอหรอก สภาพผมก็พร้อมจะเป็นแบบเธอได้ทุกเมื่อเหมือนกัน
“เกือบตายกันแล้วไหมล่ะ…” โลวี่มึมมัมอย่างโล่งอก
“หมาป่าตัวนั้น อยู่ในระดับภัยพิบัติแน่…” เรเยสแสดงความคิดเห็น
“… มันไม่ได้มีแค่นั้นนะ นายเห็นหรือเปล่า? มันมีปลอกคอด้วยนะ” ผมบอกพวกเขา
หมาป่าตัวนั้นมีปลอกคอสวยงามดังเป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง
“อะไรนะ? นายหมายความว่ามันมีเจ้าของด้วยหรอ!?” เรเยสทำหน้าตกใจ
ก็อยากจะคิดว่าตาตัวเองฝาดอยู่เหมือนกันแหละ
ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับมอนเตอร์ระดับภัยพิบัติละก็ กองทัพจำเป็นต้องมีพลังมากพอที่จะจัดการกับพวกมัน
มนุษย์นั้นก็ได้พัฒนามามากจำมีกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่าพวกเรา รวมถึงมอนเตอร์ระดับสัตว์ป่ากับภัยพิบัติด้วย
“สงสัยจริงๆว่ามีอะไรมาตั้งถิ่นฐานในป่านี้กันนะ” ผมสงสัย
บางอย่างที่แม้แต่มอนเตอร์ระดับภัยพิบัติยังต้องเชื่อฟัง และน่ากลัวพอที่จะทำให้มอนเตอร์หนีออกมาจากป่าต้องห้าม
แค่คิดภาพว่าได้เจอกับสิ่งนั้น ผมก็สั่นไปทั้งตัวแล้ว
“…ช่างเถอะ ออกไปจากป่านี้กันเถอะ ที่นี้มันเกินมือพวกเราไปแล้ว” ผมแนะนำ
“เห็นด้วย ถึงชั้นจะมี 9 ชีวิต ก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี้เหมือนกัน” เรเยสตอบ
“ชั้นก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี้ต่ออีกซักวิหนึ่งแล้ว” โลวี่เห็นด้วย
ด้วยการตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ เราออกจากป่าอย่างรวดเร็ว ราวกับวิ่งหนีอะไรซักอย่างอยู่
MANGA DISCUSSION