ตอนที่ 8:
ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
☆ นกโกะจัง
เธอไม่ได้รับการอธิบายอะไรเลย เมื่อเริ่มต้นเกมอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่ห้องสมุด และข้างตัวเธอก็มีพีเฟิล ดีเทคเบล และลาพิส ลาซูไลน์ยืนอยู่ เธอตกใจมาก แต่นกโกะจังก็ไม่ได้หยุดแค่การตกใจ เธอยังกระจายความรู้สึกของตัวเองไปรอบๆด้วย เธอเริ่มทำตัวให้ใจเย็นและมองไปรอบๆ สมาชิกทุกคนในปาร์ตี้ของเธออยู่ด้วยกัน ดีเทคเบลกับลาพิส ลาซูไลน์มองดูรอบๆตัวด้วยความแปลกใจ
พีเฟิลนั้นได้แอป เปลี่ยนสถานที่เริ่มเกม มาจากการเปิดไอเท็ม R ซึ่งสามารถใช้เปลี่ยนตำแหน่งในตอนเริ่มเกมได้ การเริ่มในทุ่งร้างนั้นสร้างปัญหา เพราะพวกเธอต้องเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ที่ต้องการอีกรอบ แม้จะเป็นความเร็วของเมจิคัลเกิร์ล แต่มันก็ยังเสียเวลาเปล่าอยู่ดี แม้ประมีประตูใหม่ๆเปิดขึ้นมาในหลายๆที่เมื่อมีการปลดล็อคพื้นที่ เช่นจากพื้นที่ทุ่งร้างตรงไปสู่ภูเขา หรือจากภูเขาตรงมาที่ห้องสมุด พวกเธอรู้ได้จากแอปแผนที่ แต่มันก็ยังคงใช้เวลาในการเดินทางอยู่ดี
แม้ว่านกโกะจังจะดีใจที่เธอเปลี่ยนสถานที่เริ่มเกม แต่กลับไม่มีใครพูดถึง มันสำคัญมากนะ
มาสก์วอนเดอร์ถูกฆ่าและยังโดนขโมยไอเท็มไป เมื่อเริ่มเกมใหม่ ก่อนที่เธอจะไปเจอกับคนในปาร์ตี้ตัวเอง เธอตกเป็นเป้าของคนร้ายและอยู่คนเดียวตอนถูกโจมตี หากใช้การเปลี่ยนสถานที่เริ่มเกมแบบนี้ ก็จะไม่มีโอกาสเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเลย เพราะเมื่อเกมเริ่มขึ้นคนในปาร์ตี้ทุกคนจะรวมอยู่ด้วยกันทันที
ในหมู่ของเมจิคัลเกิร์ลนั้นบางทีก็มีความรู้สึกว่า @เนี๊ยวเนี๊ยวเป็นคนเลว เพราะจีโนไซโคบอกใบ้ว่ามีคนทรยศอยู่ เหมือนพวกเธอจะตีความว่านั้นเป็นข้อกล่าวหา นกโกะจังคิดว่า @เนี๊ยวเนี๊ยวกับจีโนไซโคนั้นสนิทกันแต่มันไม่ใช่ หากเธอถูกถามเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรและคงได้แต่พึมพำ
นกโกะจังไม่ได้คิดว่า @เนี๊ยวเนี๊ยวนั้นคือคนร้าย แต่แค่คิดมันก็ไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวทุกคน ตอนนี้เองเธอก็ไม่คิดจะโน้มน้าวใครเลย แต่เธอเชื่อว่าคนที่มีความมุ่งร้ายนั้นยังไม่ปรากฏตัว ยิ่งกว่านั้นเธอต้องการจับตามองอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะนกโกะจังคนที่ความสามารถด้านการต่อสู้เพียงเล็กน้อย จึงจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นอย่างระมัดระวัง และต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนในปาร์ตี้เป็นเวลานาน หากนกโกะจังเป็นเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่แข็งแกร่งเกมนี้ก็คงจบไปแล้ว เพราะมันเป็นเะียงแค่ความฝันและภาพลวงตาเธอจึงต้องดิ้นรนอย่างลำบากในความเป็นจริง
เพราะการกระจายทฤษฎีที่ว่า @เนี๊ยวเนี๊ยวคือคนทรยศ มันช่วยให้แผนการดั้งเดิมอย่าง “ทุกปาร์ตี้ร่วมมือกัน” เกิดขึ้นมาได้ เพราะคนที่น่าสงสัยตายไปแล้วจึงคลายความวิตกกังวลเรื่องที่ตัวเองคุยกับคนทรยศลงไป และในตอนนี้การเคลียเกมก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว ตราบใดที่ทั้งสองปาร์ตี้ร่วมมือกันเพียงแค่นิดหน่อย พวกเธอจะได้รวบรวมคำใบ้ที่ช่วยในการเคลียเกมทั้งหมดมากเท่าที่ทำได้ ช่วยกันและกัน พยายามแบ่งปันข้อมูลเรื่องมอนเตอร์ให้มากที่สุด เท่านี้โอกาสมันก็เพิ่มขึ้นแล้ว
ในระหว่างที่ฆ่ามอนเตอร์เพื่อหาไอเท็มตามที่ปาร์ตี้นกโกะจังร้องขอ แคลนเทลนั้พูดเพียงแค่ไม่กี่คำ
มิโยคาตะ โนนาโกะกับริโอเน็ตต้า ทั้งคู่ฆ่ามอนเตอร์ในขณะที่ทั้งคู่ยังเถียงกันอยู่
ส่วนเพจิกะนั้น…ขี้ขลาด เธอประหม่าและสับสนอยู่ตลอด จนนกโกะจังรู้สึกแปลกใจ
เธอมาเป็นเมจิคัลเกิร์ลได้ยังไงกันนะ?
แม้จะบอกว่าให้ทุกปาร์ตี้ร่วมมือกัน แต่มันก็มีอยู่เพียงสองปาร์ตี้เท่านั้น หากทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะให้ความร่วมมือพวกเธอก็จะทำให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ส่วนเมลวิลล์คนที่ออกสำรวจด้วยตัวเอง คงจะปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนก็ได้ เป็นร่วมมือกันเพื่อขยายขอบเขตการแลกเปลี่ยนคำใบ้ และเทคนิคเปิดพื้นที่ที่เจอมา
พูดถึงคนที่อยู่คนเดียวแล้ว ชาโดว์เกลเองก็ควรจะอยู่คนเดียวเช่นกัน นกโกะจังไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ เพราะนกโกะจังไม่เคยเจอเธอในขณะที่ออกสำรวจพื้นที่ห้องสมุด บางทีชาโดว์เกลอาจอยู่ในพื้นที่อื่น แต่เธอจะไปทำอะไรที่อื่นนอกจากพื้นที่ห้องสมุดในตอนนี้กันล่ะ? ถึงเธอจะถามพีเฟิล พีเฟิลนั้นก็ตอบว่า “เธอคงต้องทำในสิ่งที่ตัวเองต้องทำนั่นแหละ ใช่ไหมล่ะ?” พร้อมกับยักไหล่เหมือนกลับว่าปล่อยมันไป
ความแข็งแกร่งของมอนเตอร์ ชนิดของมัน และไม่ต้องพูดถึง การหลีกเลี่ยงการต่อสู้โดยการนั่งลงบนเก้าอี้ พื้นที่ห้องสมุดนั้นเป็นพื้นได้แรงบันดาลใจจากห้องสมุดของจริง มันไม่ใช่พื้นที่ออกแบบมาเพื่อการต่อสู้เหมือนกับพื้นที่ใต้ดิน เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นภารกิจเปิดพื้นที่ปราสาทของราชาปีศาจ เทียบกันกับภารกิจล้มเกรทดราก้อนแล้ว คราวนี้… มันต้องใช้สมองมากกว่าเดิม
“หวังว่าคำใบ้คราวนี้จะบอกว่า ‘วิธีการที่ถูกต้อง’ ว่ามันคืออะไรนะ” ดีเทคเบลพูด
“วงกลมกำลังสองงั้นเหรอ?” พีเฟิลพึมพำ
“มันบอกว่าใช้ชื่อเรื่องน่ะ”
“ปกหนังสือกับหน้ากระดาษเหมือนกันหมดเลย มีเพียงชื่อเรื่องที่ต่างกัน แต่ให้ใช้เป็นวัตถุงั้นเหรอ หืม?”
พีเฟิลกับดีเทคเบลคุยกันเรื่องเรียงหนังสือ พวกเธอกำลังพยายามถอดรหัสอยู่ ดังนั้นนกโกะจังเลยไม่รบกวนทั้งสองคน เธอจึงเดินค้นหาหนังสือในห้องสมุดด้วยกันกับลาซูไลน์ ลาซูไลน์นั้นมีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมแถมยังมีสัญชาติญาณที่ดีอีกด้วย เธอสามารถรับมือการลอบโจมตีด้านหลังได้โดยไม่ต้องมองด้วยซ้ำ เมื่อนกโกะจังมีเธออยู่ในปาร์ตี้ก็ไม่โดนลอบโจมตีอีกเลย ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
“พี่เลี้ยงสอนเค้าทั้งหมดเลยล่ะ รู้ไหม!”
นกโกะจังดีใจกับพี่เลี้ยงของลาซูไลน์ คนที่รีไทร์จากการเป็นเมจิคัลเกิร์ลไปแล้ว
สุดทางตะวันออกของพื้นที่ห้องสมุด ที่นั่นไม่มีหนังสือ มีเพียงแค่ชั้นหนังสือที่ว่างเปล่า 1 ชั้น และโดยทั่วไปหนังสือของห้องสมุดนั้นจะเป็นหนังสือที่ว่างเปล่า แต่หนังสือบางเล่มนั้นก็ถูกย้อมเป็นสีแดง ถ้าเอานิ้วไปถูล่ะก็สีแดงจะติดนิ้วออกมาเลย
ตามที่คำใบ้ของพื้นที่ห้องสมุดว่าไว้ พวกเธอต้องเอาหนังสือพวกนั้นมาจัดเรียงบนชั้นที่ว่างเปล่า
แล้วประตูของพื้นที่ถัดไปจะถูกเปิด แม้จะถูกบอกว่าให้จัดเรียงตามลำดับ แต่มันก็ไม่มีคำใบ้ว่าควรจัดเรียงยังไงเลย พวกเธอจึงคิดการจัดเรียงออกมาเอง คำใบ้เพียงอย่างเดียวก็คือคำพูดที่ว่า “ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
พีเฟิลกับดีเทคเบลคุยกันถึงเรื่องความเป็นไปได้ของการจัดเรืยงหนังสือ นกโกะจังก็คิดว่าอย่างน้อยก็ต้องรวบรวมหนังสือสีแดงทั้งหมดมาก่อนที่จะคุยแบบนี้กันสิ แต่เมื่อพวกเธอรวบรวมหนังสือได้ราวๆ 90% จากทั้งหมด ทั้งคู่ก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ชิดกันแล้วก็เริ่มพูดว่า “ไม่ใช่แบบนี้” ไม่ก็ “ไม่ใช่แบบนั้น”
______________________________________________________________________
☆ ดีเทคเบล
ก่อนที่เธอจะถูกย้ายมาจากโลกจริงมาสู้โลกเกมนั้น ชิโนบุ ฮิโอกะนั้นไม่ได้สติ เธอดื่มหนักมากพร้อมกับร้องคาราโอเกะไปด้วย เธอร้องเพลงบางเพลงแล้วความทรงจำก็จบลงตรงนี้ เมื่อเธอมาถึงที่นี่เธอก็แปลงร่างเป็นดีเทคเบล และนั่งอยู่บนเก้าอี้ในพื้นที่ห้องสมุดไปแล้ว หลังจากสับสนอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พบว่ามันเป็นผลมาจากแอปเปลี่ยนสถานที่เริ่มเกม ที่พีเฟิลได้มาจากการเปิดไอเท็ม R
เป็นเพราะความไม่แน่นอนของไอเท็ม R ปาร์ตี้ของเธอจึงไม่ได้ใช้มันมากนัก แต่ไอเท็มนี้มันมีประโยชน์ ด้วยสิ่งนี้ทำให้เราลดระยะเวลาที่ต้องใช้วิ่งไปมาได้ หากมีแคนดี้เหลือ บางทีการเอาไปซื้อไอเท็ม R นั้นอาจะไม่ใช่ความคิดที่เลวร้ายอะไร แต่ก่อนที่พวกเธอจะมีแคนดี้บางทีอาจจะจบเกมได้ก่อน ไคล์แม็กซ์ของ เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจค ใกล้มาถึงแล้ว
ปาร์ตี้ของแคลน และแม้แต่เมลวิลล์เองก็ทำงานด้วยกันกับพวกเธอ ทุกคนเติมเต็มชั้นหนังสือที่ว่างเปล่าด้วยหนังสือสีแดง เธอชวนแคลนเทลมาดูเรื่องการจัดเรียงหนังสือด้วยกัน แต่เธอมอบหน้าที่ไขปริศนานั้นให้ดีเทคเบล เธอบอกว่าหน้าที่ของตัวเองคือการสู้กับมอนเตอร์และรวบรวมแคนดี้ เมลวิลล์เองก็พูดแบบนี้เหมือนกัน ดีเทคเบลคิดว่าบางทีพวกเธออาจจะมีงานอดิเรกที่ต่างจากเธอก็ได้
เธอพูดคุยกับพีเฟิลและพยายามลองจัดเรียงหนังสือใหม่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล หากเป็นการเรียงที่ผิดชั้นหนังสือจะไม่ยอมรับ มันจะส่งเสียงเตือนดังออกมาแล้วหนังสือทั้งหมดก็จะกระเด็นออกมา พวกเธอจึงต้องรวบรวมมันใหม่อีกครั้งแลเวก็คิดให้ต่างจากเดิม
พวกเธอลองเอาหนังสือไปเผาไฟ ลองดมกลิ่น ลองเอามันไปแช่น้ำด้วย พีเฟิลบอกว่า “พวกเราลองทุกอย่างแล้ว” และหยุดที่ครึ่งทาง ดีเทคเบลเปิดหน้ากระดาษไปมาพร้อมกับคิดไปด้วย แม้จะลองใช้แว่นขยายก็ไม่เจออะไรเลย
“วงกลมกำลังสอง”, “วงกลมกำลังสอง”, “วงกลมกำลังสอง”…
“เบลซี่ เบลซี่!”
ขณะที่กำลังใช้ความคิดอย่างเคร่งเครียด ดีเทคเบลก็ได้ยินบางคนเรียกเธอ เมื่อหันกลับไปมอง เธอก็เห็นลาซูไลน์ยืมยิ้มอยู่
“อะไรเหรอ?”
“เค้าคิดอยู่นะ…ว่าเบลซี่อ่ะจะคิดยังไงหากมีบางคนจะเป็นนักสืบด้วย?”
“…ใครเหรอ?”
“เค้าไง!”
“ทำไมล่ะ?”
“เค้าคิดว่าเบลซี่ทั้ง เท่ แล้วก็ ฉลาดสุดๆ ไปเลย เพราะแบบนี้ความรู้สึกของเค้าจึงลุกโชนอยู่ในใจมากเลย! เค้าหมายถึงเมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังดูสุดยอดของเบลซี่แล้วอ่ะ มันเลยทำให้เค้าเลยอยากเป็นนักสืบบ้าง! เค้าอ่ะได้เงินจากป๊ะป๋าอยู่ตลอด แล้วไม่อยากเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่เป็นนีทด้วย! ด้วยพลังของเค้าที่เรียนมาจากพี่เลี้ยง เค้าเลยจะเป็นยอดนักสืบลาพิส ลาซูไลน์ล่ะ!”
“อ่า…งั้นเหรอ”
เมื่อตอนดีเทคเบลดื่มเหล้าอยู่นั้น เธอไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยากได้ยินมัน
ดีเทคเบลไม่ได้อยากพูดอะไรเพิ่มกับลาซูไลน์ หรือถามคำถามอะไรกับเมจิคัลเกิร์ลคนอื่น หากเธอพูดอะไรออกไปตอนเมาอยู่ล่ะก็มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้
“งั้นก็ ขั้นแรกของการเป็นนักสืบคือต้องค้นหาเบาะแสนะ”
“รับทราบ!”
เมื่อดีเทคเบลเข้าร่วมปาร์ตี้ของพีเฟิล มันมีสิ่งหนึ่งที่เธอเข้าใจคือตัวดีเทคเบลนั้นไม่ได้ไขปริศนาเก่งอะไร แม้เธอจะไขปริศนาในโลกจริงโดยใช้เวทมนตร์ของเมจิคัลเกิร์ลได้แต่เมื่อติดอยู่ในโลกเกมดรื่องที่เคยทำได้ก็หยุดลง ความเร็วในการคิดของพีเฟิลนั้นแปลกประหลาดมาก ดีเทคเบลนั้นไม่ได้รู้สึกอิจฉา แต่ยอดนักสืบที่ชิโนบุอยากจะเป็นนั้นมันอยู่ห่างเกินเอื้อมไปซะแล้ว
นักสืบที่อ่อนด้อยทักษะด้านเหตุผล เธอคิดว่ามันเป็นอะไรที่แปลกหน่อยๆ ครั้งหนึ่งเมลวิลล์แยกตัวออกไป แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงมาร่วมมือนะ? ดีเทคเบลไม่เข้าใจเลย บางทีอาจเป็นเพราะเข้าใกล้เป้าหมายแล้วก็ได้ หรือาจเป็นเพราะลาซูไลน์ เธอมีความรู้สึกห่วงใยมาก ไม่รู้สึกเครียดเลยไม่ว่าจะดีหรือเลว ทำไมดีเทคเบลระแวงเธอจนถึงตอนนี้กันนะ? แปลงจริง
มันจริงที่ลาซูไลน์สู้กับมอนเตอร์พร้อมฮัมเพลงไปด้วย ดีเทคเบลนั้นเลียนแบบเธอไม่ได้และเธอก็ไม่อยากทำด้วย
ดีเทคเบลหยุดค้นหาในพื้นที่ห้องสมุด คำใบ้สุดท้ายที่เธอพบคือ “เริ่มจาก now”
“now?”
พีเฟลิหยิบหนังสือขึ้นมา ที่ชื่อเรื่องของหนังสือนั้นมีคำว่า “now” อยู่
“now… เริ่มจากหนังสือเล่มนี้ แล้วก็วงกลมกำลังสอง…หืม”
ในขณะที่พีเฟิลพึมพำ เธอก็เริ่มวางหนังสือลงบนชั้น จำนวนตัวอักษรของชื่อเรื่อง “now” คือ 3 ตัวอักษร แล้วก็หนังสือที่มี 14 ตัวอักษร ต่อไปก็ 15 ตัวอักษร ตามด้วย 9 ตัวอักษร แล้วก็ชื่อหนังสือที่ยาวๆ 26 ตัวอักษร ถัดมาก็ 5 และ 3
3.1415926535897932…
วงกลมกำลังสอง
มันคือการหาค่าพายโดยใช้ชื่อหนังสือนี่เอง
“พวกเราควรเอาหนังสือมาเรียงตามจำนวนตัวอักษร ตามลำดับตัวเลขของค่าพายนะ” พีเฟิลพูดแบบนั้น และประตูไปสู่ปราสาทของราชาปีศาจก็ถูกเปิดออก
______________________________________________________________________
☆ ชาโดว์เกล
กลิ่นในเกมนั้นจะเปลี่ยนไปตามพื้นที่ที่ตัวเองอยู่ ในพื้นที่ทุ่งร้างก็จะเป็นกลิ่นดิน ในพื้นที่ทุ่งหญ้าก็จะเป็นกลิ่นหญ้า และที่มีนั้นมีกลิ่นเชื้อรา
เพราะว่าเป็นเกม เมื่อเปลี่ยนพื้นที่ไปแล้วกลิ่นก็จะไม่ตามมาด้วย ไม่มีคราบตามเสื้อผ้าหรือร่างกาย เธอคิดว่ามันเป็นอะไรที่ดีมากๆ หากเป็นดินหรือหญ้า ชาโดว์เกลนั้นยังทนได้ แต่เชื้อรานี่เป็นกลิ่นที่เธอเกลียดมากที่สุด หากกลิ่นมันติดเสื้อผ้าไม่หายเธอคงทนไม่ได้แน่ๆ เมจิคัลเกิร์ลนั้นต้องมีกลิ่นแบบดอกไม้ไม่ก็ผลไม้อะไรแบบนี้สิ ถ้าเป็นกลิ่นเชื้อรานี่คงพิลึกน่าดู
ในขณะที่ชาโดว์เกลอยู่ท่ามกลางกลิ่นของเชื้อรานั้น เธอเอามีดฆ่ามังกรไปใส่กับเครื่องยิงของเธอและเผชิญหน้ากับเกรทดราก้อน เหมือนว่าเกรทดราก้อนมันจะกลัวชาโดว์เกล มันจึงส่งเสียงคำรามดังก้องไปทั่ว ครั้งแรกที่เธอได้ยินนั้นเธอรู้สึกกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ แต่ตอนนี้เธอได้ยินหลายครั้งมากจึงเพียงแค่กลอกตาไปมา ตัวเธอไม่สั่นอีกต่อไป
เธอกดปุ่มเครื่องยิงของเธอเพื่อยิงมีดฆ่ามังกรออกไปโดยไม่ต้องเล็ง มีดนั้นโดนเกรทดราก้อนตรงๆและตัวเกรทดราก้อนก็ล้มลงมาในตอนแรกเธอตัวสั่นที่เกรทดราก้อนล้ม แต่ตอนนี้ไม่อีกแล้ว เธอทำเพียงแค่กลอกตา เธอไม่รู้ว่าต้องทำซ้ำแบบนี้ไปอีกกี่ครั้ง
หลังจากที่ล้มเกรทดราก้อนได้แล้ว ก็จะได้รับโล่มังกรอย่างแน่นอนโดยที่ไม่ต้องมองในเมจิคัลโฟนของตัวเองเลย เพราะเธอรู้ว่าโล่มังกรจะดรอปแน่ๆ
เธอหลีกเลี่ยงกับดักตามทางที่พื้นอย่างระมัดระวังและออกจากห้องไป นอกจากการมีอยู่ของนักฆ่าผู้เล่นแล้ว พีเฟิลก็ยังแนะนำเธอให้ระวังบางคนที่ทำอะไรอย่างอิสระด้วย ชาโดว์เกลนั้นสร้างกับดักอันใหม่ไว้ในห้องโถงของเกรทดราก้อน กับดักนั้นจะจัดการคนที่มาโดนอย่างไร้ปรานี แต่ก็ตามที่พีเฟิลว่าไว้ “คนพวกนั้นน่ะโชคร้ายเอง”
แต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่ล่าสุดนั้นคือพื้นที่ห้องสมุดและทุกคนกำลังสำรวจไม่ก็ล่ามอนเตอร์กันอยู่ ไม่มีคนอื่นนอกจากชาโดว์เกลที่ฆ่ามังกรแบบไม่รู้จบอยู่ในพื้นที่ใต้ดิน
ชาโดว์เกลถอนหายใจ เดิมที่พวกบอสกลางเกมมันไม่ควรจะเกิดใหม่ได้ แต่ถ้าขายไอเท็มจากกิจกรรม กิจกรรมนั้นก็จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และมังกรก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วย นี่คือความจริงที่ค้นพบโดยพีเฟิล
เธอต้องเอาโล่มังกรไปขายที่ร้านค้า และก็ต้องไปสู้กับเกรทดราก้อนอีกครั้ง ทำซ้ำไปเรื่อยๆไม่มีจบสิ้น
______________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
กลิ่นที่หอมหวานมันลอยฟุ้งอยู่ซึ่งตัวเธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่ใช่แค่กลิ่น ที่นี่มันแตกต่างจากพื้นไม้ในพื้นที่ห้องสมุดมาก เพราะที่พื้นมันส่องเป็นประกาย และพร้อมกับจะเกิดเสียงพิลึกๆทุกครั้งที่ย่ำเท้าลงไป แม้พวกเธอจะอยู่ภายในสถานที่ แต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องทำพื้นพังแต่อย่างใด ถึงแคลนเทลนั้นสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ได้อย่างอิสระ
ส่วนริโอเน็ตต้านั้นทำหน้าไม่พอใจเพราะต้องปิดชายกระโปรงของตัวเอง
“พื้นมันเงามากเลย แบบนี้คนอื่นก็เห็นใต้กระโปรงฉันหมดสิ!”
“หวา โชว์ ชั้นในของตุ๊กตา นี่มันเป็นเรื่อง ฉุกเฉิน จริงๆเลยเนอะ!”
“อย่ามาพูดเรื่องหยาบคายต่อหน้าสิยะ!”
แม้จะมาถึงพื้นที่สุดท้าย ทั้งสองคนก็เป็นอย่างเคย พวกเธอไม่เปลี่ยนไปเลย ยังโต้เถียงกันไม่เคยเปลี่ยน ดูเหมือนพวกเธอจะดุเดือดกว่าปกติ แต่บางทีเพจิกะคงกังวลไปเองว่าเป็นแบบนั้น
พื้นที่สุดท้าย ปราสาทของราชาปีศาจ
มันเป็นวังที่สร้างด้วยหินอ่อน ที่ๆกว่้างพอที่จะให้เพจิกะ 5 คนนอนยืดแขนสองข้างถึงจะเต็มทางเดิน มีรูปปั้นขนาดใหญ่ และภาพวาดจำนวนมากตกแต่งผนัง พวกงานศิลปะต่างๆนั้นเป็นอะไรดูพืลึกอย่างเช่นหญิงสาวที่มีปีกค้างคาวงอกออกมาจากหลัง, ผู้ชายมีเครามีเขาคล้ายแพะสองข้างงอกออกมาจากหน้าผาก เวลามองมันให้ความรู้สึกที่น่ากลัว เพราะที่ปราสาทแห่งนี้ มันก็มีคำว่าราชาปีศาจเป็นส่วนหนึ่งของชื่อนี่นะ
พวกเธอผ่านเข้าประตูในพื้นที่ห้องสมุด ที่ด้านหลังประตูนั้นเป็นโถงทางเดินยาวประมาณ 100 เมตรและหักเลี้ยวไปทางขวา
“ขอให้การล่าที่ดีนั้นสถิตอยู่กับพวกเรา อย่าประมาทเชียวนะ”
พีเฟิล เมจิคัลเกิร์ลที่นั่งอยู่บนพรมเวทมนตร์ตรงกลางของทุกคนพูดขึ้นมา ทุกคนก็พยักหน้าตอบรับ ไม่ใช่แค่ปาร์ตี้ของเพจิกะ แต่ปาร์ตี้ของดีเทคเบล ชาโดว์เกลคนที่ไม่ได้เห็นตัวมานาน เมลวิล์ แม้แต่นกโกะจังก็ด้วย แม้ชาโดว์เกลจะมองพีเฟิลอย่างไม่พอใจ บางทีระหว่างทั้งสองคนอาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ได้
เมื่อพวกเธอเจอศัตรู พวกเธอจะดูสมุดภาพมอนเตอร์ก่อนเป็นอย่างแรก
แม้พวกเธอจะรู้ว่าราชาปีศาจอยู่ที่ไหน พวกเธอก็จะไม่เข้าไปเผชิญหน้าทันที
การทำอะไรด้วยตัวคนเดียวเป็นสิ่งต้องห้าม
ต้องอดทนไม่รีบร้อน
เพจิกะนับนิ้วตัวเองเพื่อยืนยันทุกคนอีกครั้ง เหมือนว่าทุกอย่างจะปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ” พีเฟิลพูด
พวกเธอไม่ได้จำกัดอยู่ที่ปาร์ตี้หอีกต่อไป เมจิคัลเกิร์ลที่ทำตัวอิสระอย่างเมลวิลล์หรือชาโดว์เกล ในตอนนี้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน
คนที่นำอยู่คือแคลนเทล, ลาพิส ลาซูไลน์ และริโอเน็ตต้า แถวที่สองคือเมลวิลล์, นกโกะจัง และดีเทคเบล แถวที่สามคือเพจิกะ, พีเฟิลคนที่อยู่พรมเวทมนตร์ ปิดท้ายด้วยมิโยคาตะ โนนาโกะ และชาโดว์เกล โชคดีที่เพดานนั้นสูง 10 เมตร มังกรของโนนาโกะจึงบินอยู่ด้านบนได้ ซึ่งสามารถสนับสนุน โจมตี หรือเตือนภัยต่างๆจากตรงนั้นได้
บางทีแบบนี้จัดเรียงโดยความสามารถในการต่อสู้และบทบาท
แต่เพจิกะนั้นถูกแยกจากเพื่อนๆของตัวเอง เมื่อเธอถูกห้อมล้อมไปด้วยเมจิคัลเกิร์ลที่ไม่รู้จักดี หัวใจของเธอก็เต้นระรัว เมื่อเธอเริ่มเดินอย่างช้าๆ ก็มีบางคนมากระแทกเธอจากด้านหลัง ตอนนั้นชีพจรของเธอพุ่งทะลุฟ้าไปเลย
“ไม่ต้อง ห่วงนะ! ดิฉันจะ ปกป้องเธอเอง เพจิกะ!”
“อะ…อื้อ เอ่อ ขอบคุณ…ขอบคุณมากค่ะ”
เธอดีใจและมีความสุขมากและอยากจะพึ่งพาเธอ แต่เพจิกะก็หวังว่าโนนาโกะนั้นจะไม่ใช้วิธีพูดที่ทำให้เธอหัวใจแทบวายแบบนี้อีก
“อ๊ะ! หยุด หยุด!”
เธอได้ยินเสียงดังมาจากด้านหน้า หัวใจของเพจิกะก็เริ่มเต้นรัวอีกครั้ง
“มีบางอย่างอยู่ที่พื้นล่ะ ถ้าเดินไปเหยียบมันจะมีบางอย่างเกิดขึ้นนะ!”
ที่ๆลาซูไลน์ชี้นิ้วไป พวกเธอเห็นแค่พื้นหินอ่อนเท่านั้น
“แหม่ ที่นี่คือพื้นที่สุดท้ายนะ ดังนั้นมันต้องมีกับดักสิรู้ไหม? เพราะก่อนหน้านี้พวกเราอ่ะไม่เคยเจอแบบนี้เลย เค้าเจอในนาทีสุดท้ายเลย เกือบไปแล้วนะเนี่ย”
พวกเธอทั้งหมดก็เริ่มคุยกันอย่างกังวล “นั่นเธอเห็นอะไรน่ะ?” “อื้อ” “เอ่อ…คิดว่าเหมือนจะมีอะไรบางอย่างนะ” “มองไม่เห็นอะไรเลย…” “แต่เธอเห็น อะไร กันนะ?” “นี่จะถามฉันทำไมเนี่ย?” “เอ่อ…”
มีทั้งคนที่ไม่เห็นอะไรเลย คนที่สัมผัสได้ถึงอะไรแปลกๆ คนที่มองเห็นอะไรบางอย่างหากมองดูใกล้ๆ และคนที่มองเห็นจากไกลๆแต่เห็นอะไรอย่างชัดเจน… ประเภทสุดท้ายนั้นมีแต่ลาพิส ลาซูไลน์เท่านั้น ต่างคนก็ต่างมองเห็นต่างกันออกไป
พีเฟิลนั้นตบมือของตัวเอง ทุกคนจึงหันมามองที่พีเฟิล
“เธอแน่ใจว่าเห็นอะไรบางอย่างใช่ไหม?” พีเฟิลถามลาซูไลน์
“แค่มอง เค้าก็บอกได้แล้วล่ะ!”
ปัญหาคือมีคนที่มองไม่เห็นอะไรเลยแม้ว่าลาซูไลน์จะบอกว่ามีอยู่ ความคิดพวกเธอนั้นไม่เหมือนกัน
“งั้นหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีปัญหา และให้เธอนำแล้วพวกเราตามไป… มันคงตลกไม่ออกหากมีคนไปเหยียบอะไรบางอย่างแล้วหายไปเลย”
“งั้นให้เค้าบอกให้ไหม?”
“ถ้าเป็นกับดักแบบใช้น้ำหนักหรืออุณหภูมิก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากเป็นแบบสั่นสะเทือน มันจะไม่ระเบิดตอนที่ไปแตะมันเอาเหรอ?”
“ฉันมีความคิดอยู่”
ริโอเน็ตต้ายกมือขึ้น ข้อต่อทรงกลมที่นิ้วของเธองอเหมือนกับมนุษย์และยืดนิ้วออกมา
เสียงของหินอ่อนที่กระทบกับหินอ่อนนั้นดังจนทำร้ายหูมาก น้ำหนักของรูปปั้นหินอ่อนนั้นน่าจะประมาณ 1 ตัน แม้ว่ามันจะอยู่ห่างไป 50 เมตร แต่พวกเธอก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือน พวกรูปปั้นหินที่เดินไปมาอยู่ในปราสาทของราชาปีศาจแห่งนี้ มันเดินไปเดินมาพร้อมกับเสียงดัง
“ถ้าพวกเราใช้เจ้าพวกนี้ล่ะ?”
“อ๊ะ เอาล่ะ ไปทางขวาอีกหน่อย…อื้อ ใช่ๆ! ตรงนั้นแหละ!”
พวกรูปปั้นหิ่นอ่อนนั้นมีเพียงเศษผ้าหุ้มตัวของมัน เมื่อพวกมันวางเท้าลงอย่างช้าๆในตำแหน่งที่ลาซูไลน์บอก มันก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง แสงสีม่วงพุ่งมาเข้าตาของเมจิคัลเกิร์ล
“เหมือนว่าจะเป็นกับดักไฟฟ้านะ” พีเฟิลพูด
รูปปั้นหิ่นอ่อนที่ก้าวไปโดนกับดักนั้นนั้นกลายเป็นสีดำ มีเขม่าควันขึ้นและกลายเถ้าถ่าน แต่มันก็ยังยกเท้าขึ้นพร้อมกับส่งเสียงดังตรงที่กับดักอยู่ และยังคงเดินต่อไป
“เดี๋ยววววก่อนนนนน!”
ลาซูไลน์วิ่งไปตรงกลางแล้วชูแขนขึ้นมารอบๆ
“กับดักหายไปแล้วล่ะ! พอมันทำงานครั้งนึงแล้วก็หายไปเลย! ”
“ยอดเยี่ยม” พีเฟิลพูด “งั้นก็ให้พวกรูปปั้นมันทำหน้าที่สำรวจดีกว่า พวกเราจะมุ่งหน้าไปตรงที่กับดักมันทำงานไปแล้ว แบบนี้คงจะเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดแล้วล่ะ”
มีเสียงหัวเราะแหลมสูงดังขึ้น ริโอเน็ตต้านั้นเอามือขวามาป้องปากแล้วก็หัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง
“ในที่สุดฉันก็ได้ใช้ความสามารถของตัวเองซักที กว่าจะมีพวกตุ๊กตาก็ตอนนี้ นึกว่าจะต้องเป็นหน่วยต่อสู้จนจบเกมซะอีก”
“เธอ สามาถควบคุมอะไรก็ได้ที่มันดูเหมือนตุ๊กตางั้นเหรอ? เวทมนตร์ของเธอยืดหยุ่นดีนะนั่น”
“ฉันว่านะ พลังของเธอที่มันทำให้ทั้งก๊อบลิน ทั้งมังกรเป็นเพื่อนได้เนี่ย มันก็ยืดหยุ่นแล้วไม่ใช่รึไง?”
ร่างกายของมนุษย์ที่มีหัวเป็นแพะดำ ส่วนร่างกายครึ่งล่างก็เป็นแพะดำเช่นกัน รูปปั้นหญิงสาวที่มีปีกค้างคาวงอกออกมาจากหลัง ยิ่งกว่านั้นยังมีรูปปั้นผู้ชายที่เหยียบกับดักตอนก่อนหน้านี้อีก ตามที่ริโอเน็ตต้าบอก รูปปั้นหินอ่อนพวกนี้มันมีทั้งหมด 3 ประเภท ความเร็วและความแข็งแกร่งของพวกมันขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้สร้าง รูปปั้นหินอ่อนนั้นเชื่องช่าแต่ในเวลาเดียวกันก็มีความทนทาน
รูปปั้นทั้งสามนี้ มันดูไม่เหมาะที่จะเอาไปสู้กับมอนเตอร์ที่มีความเร็วสูง แต่มันเอาไว้ใช้เคลียกับดักได้ ริโอเน็ตต้าพูดอย่างภูมิใจ เพจิกะเข้าใจความรู้สึกที่ว่ามันรู้สึกดียังไง เวทมนตร์ที่ตัวเองคิดว่าใช้การไม่ได้กลับมีประโยชน์ขึ้นมา
เพราะรู้ว่ามีกับดักอยู่ แถวของพวกเธอเลยเปลี่ยนไปบ้าง ที่ด้านหน้าของกลุ่มราวๆ 50 เมตร มีรูปปั้นหินอ่อนอยู่ 3 ตัวกำลังเดินกระทืบเท้าอย่างหนักหน่วง
“ฉันควบคุมได้มากกว่านี้นะ แต่ถ้ามากเกินมันก็ขวางทางอีก”
ลาพิส ลาซูไลน์ เองก็เข้าหน่วยลาดตระเวนไปด้วย เพราะคนที่มองเห็นกับดักได้อย่างรวดเร็วมีแต่เธอ แต่มันมีปัญหาคือหากลาซูไลน์โดนมอนเตอร์โจมตีล่ะจะเป็นยังไง
“เค้าฝากเจ้านี่ด้วยนะเทลลี่! ด้วยพลัง สุดยอดเทเลพอร์ต ของเค้า ถ้ามีปัญหาอะไรเค้าก็แค่ ฟุบบบ เทเลพอร์ตกลับมาเองล่ะ!”
เวทมนตร์ของลาซูไลน์นั้นคือการเทเลพอร์ตมาที่เจ็มในทันที เธอสามารถเทเลพอร์ตไปที่ไหนก็ได้ถ้ามีเจ็มอยู่ หากเธอให้เจ็มกับคนอื่นแบบนั้นเธอก็สามารถไปหาได้ในทันที
ดีเทคเบลมอบคำสั่งอย่างเคร่งครัดกับลาซูไลน์ว่า หากมีมอนเตอร์ปรากฎตัวออกมา ไม่ว่ามันจะดูอ่อนแอแค่ไหน ก็ให้กลับมาหาพวกเธอทันที และหากไม่มีมอนเตอร์ก็ให้ลาดตระเวนต่อไป พวกเธอเดินหน้าไปอ้างช้าๆ ในบ้างครั้งนั้นพวกเธอจะพบกับดัก ณ จุดนั้นจะสลับเปลี่ยนลาซูไลน์กับรูปปั้น 3 ตัว เมื่อตัวหนึ่งก้าวไปโดนกับดักก็โดนไฟฟ้าช็อต ไฟลุกท่วม มีหอกยิงออกมาก ระเบิด กับดักนั้นมันดูเหมือนไม่มีรูปแบบและไร้เหตุผลเอามากๆ บางครั้งมันก็ทำลายรูปปั้น แต่พวกเธออยู่ในโถงทางเดินจึงเอาตัวใหม่มาเปลี่ยนได้เรื่อยๆ
โถงทางเดินนั้นยาวมาก พวกเธอเองก็เดินหน้าไปอย่างช้าๆไม่ใช่เพราะพวกเธอเดินไปด้านหน้าไม่ได้ แต่มันเป็นเพราะความยาวและมีเส้นทางที่ถูกต้องเพียงทางเดียวเท่านั้น แม้จะมีทางโค้งแต่ว่ามันไม่มีทางแยก ไม่มีแม้กระทั่งห้องหรือประตูนอกจากประตูที่ทางเข้าเลย
“งั้นเหรอ”
ในขณะที่เธอดูเมจิคัลโฟน พีเฟิลก็พึมพำขณะจ้องไปที่หน้าจอ เมื่อเพจิกะแอบดูจากข้างๆก็เห็นแผนที่ของพื้นที่นี้แสดงอยู่
“เหมือนว่าพวกเรากำลังเข้าสู่ใจกลางโดยการเดินตามเข็มนาฬิกานะ”
ที่หน้าจอนั้นแสดงภาพรูปร่างคล้ายกับก้นหอย พวกเธอต้องเดินไปด้านหน้าและเลี้ยวขวา ไปด้านหน้าและเลี้ยวขวา ไปด้านหน้าและเลี้ยวขวา ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงตอนนี้เพจิกะคิดว่าพวกเธอไม่เคยไปทางซ้ายเลย จนถึงตอนนี้พวกเธอเลี้ยวขวามา 2 ครั้ง แต่พวกเธอก็ยังหมุนวนอยู่รอบนอกของก้นหอย แผนที่ในเมจิคัลโฟนนั้นก็ยังแสดงตำแหน่งของคนในปาร์ตี้ตามปกติ
“หยุด!”
เสียงของลาซูไลน์ดังมาจากด้านหน้า จากกลุ่มคนที่นำอยู่ด้านหน้า 50 เมตรและห่างจากกลุ่มของเพจิกะ 100 เมตร ทุกคนจึงหยุดเท้า มีแสงส่องมาจากกำแพง พีเฟิลเองก็ยืนยันเหมือนกันจากแผนที่บนเมจิคัลโฟนของเธอ
“มีพื้นที่ขนาด 5 เมตรและ 10 เมตรเปิดกว้างอยู่ข้างหน้า คิดว่าไม่ได้เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น ดูเหมือนเป็นระเบียงมากกว่า”
ลาซูไลน์เดินไปด้านหน้าและชะเง้อมองไปทางที่แสงส่องมา ดีเทคเบลก็บ่นว่า “ทำไมเธอชอบทำอะไรโดยไม่ระวังตลอดเลยเนี่ย” ในขณะที่มือของตัวเองสั่น ลาซูไลน์คงไม่รู้ว่าดีเทคเบลนั้นกังวลเกี่ยวกับตัวเธอแค่ไหน เมื่อเธอมองเข้าไปที่มีแสงสว่าง เธอก็หันคอกลับมาทางนี้ทันที
“เค้าเจอร้านค้าล่ะ!”
“โอ้!” บางคนส่งเสียงออกมา เมจิคัลเกิร์ลทุกคนวิ่งเข้าหาลาซูไลน์ กระจายตัวออกเป็ยหลายๆกลุ่ม เข้าไปดูด้านในร้านค้า
สิ่งที่พีเฟิลพูดนั้นถูกต้อง ที่นี่เป็นระเบียงที่รับแสงและอากาศจากภายนอก มีการตกแต่งอย่างงดงามคล้ายกับที่โถงทางเดินของปราสาท พวกรูปปั้นปีศาจที่นี่ก็มีอยู่ด้วย ที่ตรงกลางห้องมีหม้อขนาดเท่าครึ่งตัวของเพจิกะ เมื่อพวกเธอใช้เมจิคัลโฟนข้างในนั้น ไอเท็มของร้านค้าก็จะปรากฏออกมา เหมือนว่าถ้าเอาไอเท็มไปใส่ไว้ในหม้อแล้วจะหยิบไอเท็มขึ้นมาจากในหม้อได้ เหมือนเป็นระบบแลกเปลี่ยน
พวกเธอตั้งใจว่าจะปรึกษากันเรื่องสินค้าในร้าน แต่เพราะท้องของพวกเธอเริ่มหิว ดังนั้นอาหารจึงต้องมาก่อน จึงตัดสินใจพักทานอาหารตรงหน้าร้านค้า ตอนนี้มันมีคนมากกว่าปาร์ตี้เดิมของเธอถึงสองเท่า มันทำให้เพจิกะยุ่งมากๆ เธอเอาเศษหินจากรูปปั้นหินอ่อนใส่ลงไปในหม้อ เอาผักและเนื้อออกมาเพื่อทำโอจิยะ*
*โอจิยะ – หรือโซซุย คือข้าวต้มใส่เครื่อง https://en.wikipedia.org/wiki/Zosui
กลิ่นการทำโอจิยะของเพจิกะลอยฟุ้งไปทั่วในอากาศ จนกลบกลิ่นตามธรรมชาติของพื้นที่ไปเลย ทุกคนนั้นขยับช้อนของตัวเอง บรรยากาศนั้นเริ่มเชื่องช้าและในที่สุดก็สงบลง เพจิกะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“นี่มันสุดยอดเลย! สุดยอดมากๆ! พวกเธอผูกขาดของดีแบบนี้ไว้คนเดียวมัน อาชญากรรม ชัดๆเลยอ่ะ!” ลาพิส ลาซูไลน์พูดชม
“เธอรู้รึเปล่าว่าอะไรคือ อาชญากรรม น่ะ? การผูกขาดสนามล่าดีๆเอาไว้เองไงล่ะ” ริโอเน็ตต้าตอบ
“มัน ต่างกัน อ่ะ! อ๊าาา! เจ้านี่ อร่อยสุดๆ เลย!”
“ไม่ต้องรีบกินนะ ไม่มีใครขโมยไปหรอก”
ลาซูไลน์กินอาหารของเธอต่ออย่างมูมมาม ในขณะดีเทคเบลที่กินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ข้างๆ เตือนลาซูไลน์ถึงมารยาทการกินที่ไม่ดี และพีเฟิลนั้นกำลังอธิบายเรื่องส่วนผสมที่กินไป เธอไม่ได้มีบุคลิกประมาณว่ากินทุกอย่างที่ขวางหน้านี่นะ ส่วนชาโดว์เกลนั้นแม้จะจ้องพีเฟิลอยู่แต่ก็กินอาหารอร่อยๆไปด้วย เมลวิลล์นั้นพูดอะไรซักอย่างที่เธอไม่เข้าใจ ลาซูไลน์เองก็ไม่ได้แปลให้เพราะเธอจดจ่ออยู่กับการกินอาหาร แต่ดูจากท่าทางแล้ว เพจิกะคิดว่าเธอคงพอใจกับอาหาร ส่วนนกโกะจังนั้นช่วยเธอเสิร์ฟอาหาร เข้ากันกับชุดของเธอที่เป็นเมดเลย
หางของแคลนเทลสั่นอย่างรุนแรง โนนาโกะเองก็พูดชื่นชมเรื่องอาหารอย่างภาคภูมิใจ เพจิกะนั้นไม่ได้แสดงออกอะไรมาก แต่ความจริงแล้วเธอภูมิใจมากกว่าที่โนนาโกะพูด เพราะทุกคนชอบอาหารของเธอ เธอนั้นต่อสู้ไม่เก่ง ทำได้แค่ลาดตระเวน แก้ปริศนาก็ไม่ได้ ไม่ได้มีเวทมนตร์หรือทักษะที่มีประโยชน์อะไร มีเพียงแค่การทำอาหารของเพจิกะที่ถูกชื่นชม แค่นั้นเธอก็มีความสุขแล้ว
หลังจากมื้ออาหาร กลิ่นของอาหารนั้นก็ยังออกมาจากตัวของทุกคน ไม่มีอีกแล้วกับกลิ่นหวานๆของปราสาทราชาปีศาจ กลิ่นของโอจิยะยังคงลอยอยู่ในอากาศ เพจิกะหวังว่ากลิ่นแบบนี้จะมีอยู่ตลอดไป
______________________________________________________________________
☆ ชาโดว์เกล
พื้นที่สุดท้าย ร้านค้าในปราสาทราชาปีศาจ หรือจะเรียกว่าร้านค้าสุดท้ายในเกมก็ได้ แน่นอนว่ามันมีไอเท็มที่แข็งแกร่ง เลเวลสูง และมีจำนวนน้อยมาก
อาวุธ+10 โล่+10 ราคามันสูงจนน่าเหลือเชื่อ ไม่แปลกเลยที่มีอย่างละ 1 ชิ้น
“ราคาสูงมากและมีเพียงแค่ชิ้นเดียว” พีเฟิลพูด “แม้จะจัดการพวกภูติผีไป 300 ตัวก็ยังซื้อไม่ได้ มาสเตอร์มันคิดว่ามาก่อนได้ก่อน… และคิดว่าพวกเราจะไม่ร่วมมือกันสินะ แต่ว่า…”
ตอนนี้ทุกคนรวมตัวกันเพื่อจัดการราชาปีศาจ ทุกคนรวบรวมแคนดี้ของเพื่อซื้อมันมา และเอาไปให้คนที่เหมาะสมที่สุดใช้มัน
“การที่มีอาวุธทรงพลังมีจำนวนน้อยไม่พอกับผู้เล่น มันมีความเป็นไปได้ว่าผู้เล่นอาจจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงกันเอง แต่ฉันก็คิดว่ามาสเตอร์คงคิดถึงความเป็นไปได้ที่พวกเราจะร่วมมือกันไว้แล้วล่ะ”
พีเฟิลพูดด้วยสีหน้าจริงจังมาก มีเพียงคนที่เข้าใจตัวตนของเธอจริงๆเท่านั้นที่จะเข้าใจ
อาวุธ+10 นั้นถูกมอบให้เมลวิลล์ ในขณะที่โล่+10 ถูกมอบให้แคลนเทล การได้รับอาวุธที่ทรงพลังแบบนี้มันไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลย การได้มันมาหมายความว่าเมื่อเวลามาถึงต้องไปสู้ในแนวหน้า
พวกเรามาพยายามอย่าให้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกันเถอะ ชาโดว์เกลคิด
“อ๊ะ มาโมริเธอมีโล่มังกร โล่ที่แข็งแกร่งกว่าคนอื่นใช่ไหม? ดังนั้นตอนต่อสู้เธอต้องตั้งใจกว่าคนอื่นนะ ในเวลาต่อสู้ฉันคาดหวังว่าเธอเป็นแนวป้องกันสุดท้ายเลยล่ะ”
“…นี่ฉันแลกโล่กับคนอื่นได้ไหม?” ชาโดว์เกมถาม
“เธอใช้มันมานานที่สุด คงคุ้นเคยกับมันที่สุดแล้วล่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ชาโดว์เกลรู้สึกอยากต่อยเข้าที่แก้มของพีเฟิลซะจริงๆ เธอคิดว่าทุกคนจะโอเคไหมนะหากเธอดีดหน้าผากพีเฟิลซักที?
พวกไอเท็มอื่นๆในร้านค้ามันมี สตันกัน รวมอยู่ด้วยเพราะเหตุผลบางอย่าง
สตันกันเป็นกระบองที่ปล่อยไฟฟ้าได้ เพียงแค่เอามันไปสัมผัสกับศัตรูแล้วก็กดปุ่มเพื่อปล่อยไฟฟ้า มันได้ผลมากกับศัตรูประเภทปีศาจ ซึ่งมันสามารถทำให้สลบได้ในทันทีและมีผล 30 นาที
ไอเท็มอีกชิ้นคือ ปืนไฟ มันยิ่งเพิ่มคำถามให้มากขึ้นไปอีก
ปืนไฟนั้นมีขนาดเล็กเท่ากับปืนกล ตอนนี้เมจิคัลเกิร์ลนั้นสามารถใช้งานได้ง่ายมาก ซึ่งมันก็เหมือนกับสตันกันที่ได้ผลมากกับศัตรูประเภทปีศาจ เพียงแค่เผามัน 3 ครั้งศัตรูก็จะถูกเผาไหม้จนเกรียม
เธอซื้อปืนไฟเพื่อมาทดสอบ เล็งไปที่เพดานที่ระเบียงแล้วก็ยิง มันมีไฟเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตรพ่นออกมา ด้วยความร้อนของเปลวเพลิงนั้นทำให้ชาโดว์เกลร้องออกมาเบาๆ
“พวก ภูติผี กับ มาร นั้นเป็นมอนเตอร์ประเภทปีศาจใช่ไหม?”
“บางทีอาจจะเป็นนะ”
“แปลกจัง…”
“สมุดภาพมอนเตอร์ไม่ได้บอกอะไรเรื่องมอนเตอร์ประเภทปีศาจไว้เลย แต่อีกไม่นานคงจะแสดงให้เห็นล่ะมั้ง?”
พีเฟิลชี้ไปที่เครื่องหมาย ??? ในสมุดภาพมอนเตอร์ จนถึงตอนนี้เหลือมอนเตอร์แค่ 2 ประเภทที่ยังมีเครื่องหมาย ??? อยู่ หรือก็คือพวกเธอยังไม่เคยเจอนั่นเอง
“หวังว่าอีกไม่นานมอนเตอร์ประเภทปีศาจจะโผล่ออกมานะ”
มอนเตอร์อีก 2 ตัว หนึ่งในนั้นคงเป็นราชาปีศาจ อีกหนึ่งนั้นอาจจะเป็นบอสกลางเกมก่อนถึงราชาปีศาจ หรืออาจจะเป็นแค่ศัตรูตัวเล็กๆ โดยทั่วไปแล้วมันคงจะเป็นศัตรูที่ตัวเล็กๆมากกว่า
แน่นอนว่าถึงมันจะเป็นอย่างหลัง แต่ก็ไม่หมายความว่ามันเป็นมอนเตอร์กระจอกๆ บ่อยครั้งมันก็เป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าบอสอีกด้วย
“พวกเราคงไม่ใช้ สตันกัน กับ ปืนไฟ ใส่ราชาปีศาจแล้วหัวเราะใส่สินะ?”
“ถึงมันจะเข้ากันดีกับการจบเรื่องบ้าๆนี้ก็เถอะ”
พวกเธอสลับกันเฝ้ากลุ่มจนกระทั่งจบมื้ออาหาร จัดเรียงแถวใหม่อีกครั้ง และเดินหน้าต่อ ชาโดว์เกลเดินไปที่ท้ายแถว สายตาของเธอมองเห็นทุกคนกำลังเดินไปข้างหน้าพร้อมกับยกโล่ขึ้น ยกเว้นเมลวิลล์คนที่ใส่โล่ไม่ได้เพราะอาวุธของเธอ แบบนี้มันเหมือนกับหน่วยกู้ระเบิดที่เห็นได้ในทีวีเลย
คนที่อยู่ในแถวเดียวกับเธอคือมิโยคาตะ โนนาโกะ แต่เธอก็มักจะไปที่ๆเพจิกะอยู่เสมอ เพจิกะนั้นตกใจทุกครั้งเวลาโนนาโกะปรากฎตัวขึ้นทันทีเสมอ ชาโดว์เกลอยากจะขอโทษเธอจริงๆ ตั้งแต่ที่โนนาโกะไม่รักษาตำแหน่งด้านหลัง หากอยู่ๆก็มีอะไรมาโจมตีชาโดว์เกลจากด้านหลัง ก็ไม่มีเคยเลยที่จะมาช่วยเธอได้ ชาโดว์เกลจึงต้องเดินอย่างระมัดระวัง เธอรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ให้กำลังใจตัวเองด้วยการปลอบตัวเองว่า ยังดีกว่าลาซูไลน์และ 3 คนที่อยู่ด้านหน้าที่ต้องทำงานหนักในการค้นหากับดักตลอดการเดินทางของพวกเธอ
พวกเธอด้านหน้าต่อไป เมื่อเจอกับดักก็จะหยุดครู่หนึ่งเพื่อแก้กับดัก แล้วก็เดินหน้าต่ออีกครั้ง พวกเธอนั้นมุ่งหน้าไปสู่ใจกลางของก้นหอย เมื่อพวกเธอเดินไปเรื่อยๆ ทางเดินมันก็ยิ่งสั้นลง และสั้นลง
หากพวกเธออยากรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน ก็แค่เปิดดูแผนที่ในเมจิคัลโฟน มีไอคอนหนึ่งเป็นตัวแทนของชาโดว์เกลบอกว่าพวกเธอเดินทางมาได้ ⅔ ของทั้งหมดแล้ว เธอคิดว่ามันเป็นไปได้ในเวลาเดียวกันเมื่อนึกได้ว่าเธอนั้นปาร์ตี้อยู่ตัวคนเดียว มันก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
______________________________________________________________________
พวกเธอเดินหน้าไปอย่างช้าๆเพื่อความปลอดภัย พักทานอาหาร 2 ครั้งและปลดกับดักไปเกิน 100 อันแล้ว ก่อนที่จะมาถึงสถานที่สุดท้าย
พื้น เพดาน กำแพง และของประดับตกแต่ง ทั้งหมดนั้นทำมาจากหินอ่อน และที่สุดทางเดินมีประตูไม้อยู่ เมื่อพวกเธอไปถึงที่นั่นก็ไม่มีใครคิดจะรีรออีกแล้ว มีบางคนถอนหายใจออกมา ชาโดว์เกลเองก็ด้วย เกมนี้ใกล้จบลงแล้ว 10 วันนี้มันเป็นการเดินทางที่ยาวนาน แค่มาถึงที่นี่พวกเธอสูญเสียไป 6 คนแล้ว
ลาซูไลน์ที่เช็คกับดักอยู่นั้น ยกมือของตัวเองขึ้น ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้หมุนเป็นวงกลม
“ไม่มีกับดักล่ะ!”
“มันล็อคอยู่รึเปล่า?”
“ไม่ล็อคนะ! คิดว่าถ้าผลักแล้วมันจะเปิดรึเปล่าอ่ะ?”
“ลองเลย!”
ลาซูไลน์ผลักประตูอย่างเบาๆ
เอี๊ยด
ประตูเปิดออกอย่างช้าๆ เมื่อแอบมองเข้าไปด้านในเหมือนจะมีห้องอยู่ มันมีรูปปั้นที่ดูเหมือนอัศวินสวมเกราะ และมีอะไรที่เหมือนหุ่นยนต์พลาสติกอยู่รอบๆ พวกรูปปั้นนั้นเริ่มขยับ และเหล่าเมจิคัลเกิร์ลก็เตรียมอาวุธและเครื่องป้องกันขึ้นมา
______________________________________________________________________
☆ นกโกะจัง
อัศวินนั้นมีเขามังกรขนาดใหญ่ และมีหางใหญ่ๆดูคล้ายสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์… เหมือนว่าจะเอาไว้รักษาสมดุล มันทำให้นกโกะจังคิดถึง@เนี๊ยวเนี๊ยว แต่พวกอัศวินนั้นไม่ได้ตอบสนองกับนกโกะจัง ใบหน้าของพวกมันถูกเงาของหมวกคลุมทับอยู่ เธอจึงมองไม่เห็นสีหน้าพวกมัน เจ้าอัศวินนั้นมันดึงดาบยักษ์ออกจากฝักดาบที่หลังอย่างรวดเร็ว
พวกหุ่นยนต์นั้นลอยขึ้นไปบนอากาศ ที่ด้านหลังของมันมีอะไรที่ดูเหมือนกระเป๋าเป้ พวกมันยิงไฟออกมาจากตรงนั้น ตาสีแดงสองข้างทำมาจากพลาสติกเหมือนกับส่วนลำตัว เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาด้วยฝีมือมนุษย์ เมื่อพวกมันกางแขนขาสองข้างในอากาศ ก็มีบางอย่างพุ่งออกมาจากกระเป๋าด้านหลังของพวกมัน เป็นควันสีขาวตรงเข้ามาหาเธอ
…มิสไซล์!?
นกโกะจังตั้งโล่แบบทแยงมุม งอเข่าลงไปแนบกับพื้นหินอ่อน เตรียมตัวรับแรงกระแทก เธอรู้สึกได้ถึงพังทำลายและแรงสั่นสะเทือน มีควันสีขาวลอยฟุ้งอยู่รอบๆหน้าผากของเธอ ดูเหมือนว่ามีบางคนหยุดมันเอาไว้ แล้วก็มีบางอย่างทะลวงผ่านควันสีขาวมา เมื่อนกโกะจังเงยหน้าขึ้น ก็เห็นหุ่นยนต์ตัวก่อนหน้านี้หยุดนิ่งและกำลังมองมาทางนี้ เธอจึงวิ่งไปพร้อมกับโล่และเปลี่ยนทิศทางใหม่ ในตอนนั้นเธอก็ได้ยินเสียงตะโกนมากจากด้านหลัง
“พวกมันคือ อัศวินปีศาจ กับ เฮลคราวน์ ! ไม่มีธาตุ ไม่มีจุดอ่อน หรือท่าโจมตีพิเศษ ทุกอย่างของพวกมันเป็นปกติ!”
พีเฟิลที่อ่านข้อมูลจากสมุดภาพมอนเตอร์นั้นโดนโจมตีอยู่ และกระแทกมาโดนหลังของนกโกะจัง นกโกะจังกลิ้งไปด้านหน้าพร้อมกับโล่ ในเวลาเดียวกันตัวเธอยังรักษาสมดุลพร้อมกับเอาโล่ไปกันไฟและแรงกระแทกจากด้านบนได้ แต่ก็โดนกระแทกจนถอยไปติดกับกำแพง พีเฟิลนั้นแสยะยิ้มพร้อมกับจับพรมเวทมนต์ของเธอจึงไม่ตกลงมา สมุดภาพมอนเตอร์ของเธอนั้นตกลงพื้นแต่เธอก็ยังคงตะโกนต่อโดยไม่ได้มองมัน
“พวกมันไม่มีท่าโจมตีพิเศษหรือจุดอ่อน! พวกเราจัดการมันแบบธรรมดาได้เลย!”
ในกลุ่มควันหนาๆสีขาวนั้น มีรูปร่างของอะไรสีดำบางๆอยู่ มันเงื้อบางสิ่งขึ้น นกโกะจังยกโล่ขึ้นและรับการโจมตีของมัน แขนของเธอรู้สึกชา เธอกันการโจมตีครั้งที่สองได้ แต่พอครั้งที่ 3 นั้นก็ถึงขีดจำกัดของเธอแล้ว เธอทิ้งโล่และกระโดดไปด้านข้าง ได้ยินเสียงโล่ที่กลิ้งไปมาด้วย พื้นหินอ่อนที่แววาวสะท้อนความคมของดาบอัศวินให้เธอเห็น
ควันสีขาวเริ่มจากหายไป นกโกะจังเริ่มเปลี่ยนท่าจากงอเข่าเป็นยืนขึ้น และเธอได้เห็นอะไรที่เหลือเชื่อ ลาซูไลน์กำลังต่อสู้กับพวกอัศวินอยู่ เมลวิลล์เล็งฉมวกของเธอไปที่หุ่นยนต์ที่บินอยู่ในอากาศ โนนาโกะกับมังกรของเธอถูกอัศวิน 2 ตัวล้อมไว้ ในขณะที่ริโอเน็ตต้าและแคลนเทลกำลังปกป้องเพจิกะจากอัศวิน 3 ตัว ดีเทคเบลกับชาโดว์เกลนั้นโจมตีไม่ได้และถูกกดให้ถอยไปเรื่อยๆ ส่วนพีเฟิลนั้นถือโล่ของเธออยู่บนพรมเวทมนต์รับการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย ศัตรูมันมีจำนวนเท่ากับเมจิคัลเกิร์ล
ศัตรูแต่ละตัวนั้นล้วนแข็งแกร่งกว่าศัตรูที่พวกเธอเคยสู้ในทุกพื้นที่ยกเว้นเกรทดราก้อน คมดาบของอัศวินนั้นช่างหนักหน่วงและรุนแรง ไม่มีทางเลยที่นกโกะจังจะหนีพวกมันพ้น ในตอนนี้มือของนกโกะจังนั้นชาจนเธอขยับไม่ได้
นกโกะจังนั้นไม่มีโล่อีกแล้ว กำลังโดนศัตรูไล่ล่าและไม่มีทางหนี…ใช่ไหมนะ? ไม่สิ เธอหนีไม่ได้ ศัตรูมันเข้ามาใกล้แล้ว ดาบของอัศวินนั้นใหญ่และยาวมาก นกโกะจังแกว่งไม้ถูพื้นของเธอเข้าไปปะทะกับใบดาบของศัตรูเพื่อเปลี่ยนวิถีของการโจมตี แต่ด้วยแรงสะท้อนทำให้นกโกะจังล้มลง ไหล่ของเธอกระแทกกับพื้น ยิ่งกว่านั้นเธอไม่มีทางหนีการโจมตีได้อีกแล้ว คราวนี้เธอใช้ไม้ถูพื้นแทนโล่ อาวุธ+7 ที่เธอใช้แคนดี้จำนวนมากซื้อมานั้นงอในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น เพจิกะนั่นเอง นกโกะจังอยากปิดหูตัวเอง สิ่งที่เธออยากได้ยินในตอนนี้ไม่ใช่เสียงกรีดร้อง ในใจของนกโกะจังนั้นต้องรู้สึกอยากทำลายศัตรูทั้งหมดอย่างแรงกล้า เธอเติมเต็มหัวใจตัวเองด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ที่อยากจะปกป้องเพื่อน และกระจายความรู้สึกนั้นไปทั่ว ถ้าเธอมีเวลาพอที่จะกรีดร้องล่ะก็ เอาเวลาไปฆ่าศัตรูซักตัวดีกว่า เธอกระจายความคิดแบบนี้ไปรอบๆด้วย
เธอลุกขึ้นยืน และเอาไม้ถูพื้นงอๆของเธอเข้าไปสู้กับดาบของอัศวิน แน่นอนว่าศัตรูสวนกลับเธอมาได้ง่ายๆ ความแข็งแกร่งนั้นแตกต่างกันมาก แม้ไม้ถูพื้นของเธอจะสู้ไม่ได้ เธอก็ยังคงตีมันต่อไป
ฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนไอ้พวกนี้จัดการได้หรอก เธอคิดเรื่องแบบนี้ในใจและกระจายมันออกไปรอบตัว
เพจิกะยกโล่ขึ้นแล้วเข้าร่วมต่อสู้ ริโอเน็ตต้ากับแคลนเทลไม่ได้ปกป้องเธออีกแล้ว งานของพวกเธอจึงง่ายขึ้น แคลนเทลเอาเมจิคัลโฟนออกมาแล้วกดใช้ มีหอกหลายเล่มปรากฏอยู่รอบๆตัวเธอ ทั้งหมดนั้นเสียบอยู่บนพื้นหินอ่อน เธอแปลงร่างกายครึ่งล่างเป็นปลาหมึกยักษ์และใช้หนวดจับหอกแต่ละเล่ม สู้กับพวกอัศวินแบบหนึ่งต่อหนึ่ง นกโกะจังมองไม่เห็นศัตรูซักตัวที่เธอสามารถสู้ด้วยได้เลย
ในระหว่างนั้น นกโกะจังก็ยังคงคิดต่อไป
สู้ สู้ สู้เข้าไป!
เมลวิลล์ยิงฉมวกไปหามิสไซล์โดยไม่หลบ และมันก็ระเบิด ไอพ่นของหุ่นยนต์นั้นก็ถูกทำลาย พวกมันจึงเสียสมดุลและกลายเป็นหยุดนิ่งไป เมลวิลล์ที่มีเลือดไหลออกมาจากหัวนั้นยิงฉมวกอีกครั้ง คราวนี้มันทำลายหัวของหุ่นยนต์จนราบคาบ แต่หุ่นยนต์ที่ควรจะขยับไม่ได้แล้วกลับขยับตัวอีกครั้ง นกโกะจังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่หุ่นยนต์นั้นก็ถูกอัศวินที่ต่อสู้อยู่ข้างๆจับตัวในทันที มันทำให้นกโกะจังสับสนมากขึ้นอีกจนกระทั่งเธอคิดได้ว่าริโอเน็ตต้าอาจจะควบคุมพวกมันอยู่
ลาซูไลน์เตะกวาดพวกอัศวินไปติดกำแพง พุ่งเข้าไปหาและโจมตีจากทางซ้ายและขวา เกราะหนาๆของมันเริ่มพัง อัศวินมันชูดาบขึ้นเล็งไปที่พีเฟิล แต่พีเฟิลกระโดดออกจากพรมเวทมนตร์เข้าไปหาอัศวินแล้วเอาแขนของเธอรัดคอมัน บิดขึ้นและลงอัศวินอีกตัวก็รับมือโนนาโกะกับมังกรไม่ไหว มันจึงทิ้งดาบและคุกเข่าลงที่พื้น ดีเทคเบลกับชาโดว์เกลนั้นก็รับมือการโจมตีของพวกมันได้แล้ว
นกโกะจังจับไม้ถูพื้นด้วยความรู้สึกโล่งใจ หากเป็นแบบนี้ต่อไปต้องมีคนมาช่วยเธอแน่ๆ
______________________________________________________________________
อัศวินนั้นล้มลง ทุกชิ้นส่วนของมันกระจัดกระจายเป็นชิ้นๆ พวกหุ่นยนต์เองก็เป็นแค่เศษพลาสติกและเหล็กเท่านั้น พวกมันกองรวมกันอยู่ที่มุมห้อง ผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้วพวกยังก็ยังไม่หายไป
“ดิฉันไม่อยาก จะเชื่อเลย ให้ตายสิ เจ้าพวกนี้ไม่ใช่สัตว์อีกแล้ว!” โนนาโกะพูดด้วยความโกรธ
“เอาล่ะ ทุกคนพร้อมรึยัง?”
ทุกคนกำลังพักฟื้น ไม่ว่าจะมีบาดแผลเล็กหรือใหญ่ สำหรับคนอย่างนกโกะจังคนที่อาวุธของตัวเองพังไปแล้ว จึงขอยืมจากคนอื่นที่มีหลายอัน ทุกคนเสริมพลังให้สูงสุด เตรียมอาวุธและโล่ให้พร้อม ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของเมลวิลล์ที่ดึงธนูของตัวเองอยู่ด้วย
ห้องที่พวกหุ่นยนต์กับอัศวินกองรวมกันอยู่นั้นเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาด 10 เมตร และมีประตูอยู่สุดทาง ประตูนั้นดูเล็กกว่าประตูที่เขามาในห้องนี้เสียอีก แต่มันถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีใบหน้าของคนที่ดูเจ็บปวดสลักไว้อยู่ที่ประตูโลหะ สีดำแววาวของโลหะนั้นดูตรงข้ามกับสีขาวของหินอ่อน
ดูอันตราย หนักหน่วง และเป็นลางร้ายเหลือเกิน
นกโกะจังมองดูแผนที่บนเมจิคัลโฟน ประตูนี้นำไปสู่ทางตันในปราสาทของราชาปีศาจแห่งนี้ หมายความว่าเมื่อเปิดประตูไปก็จะไปสู่เป้าหมายแล้ว
ลาซูไลน์สำรวจประตู แล้วก็ยกมือขึ้นหมุนเป็นวงกลม
“ไม่มีกับดักแถมไม่ล็อคด้วยล่ะ! เปิดเราเปิดเข้าไปแบบธรรมดาได้เลย!”
“ดีมาก เอาล่ะทุกคน ประจำตำแหน่งไว้”
เมจิคัลเกิร์ลสายต่อสู้อยู่ด้านหน้า ตามด้วยเมจิคัลเกิร์ลที่ไม่ใช่สายต่อสู้ บางทีอาจจะมีเมจิคัลเกิร์ลที่อยากหนีไปรวมอยู่ด้วย ปิดท้ายด้วยเมลวิลล์ที่โจมตีระยะไกลอยู่ด้านหลัง
“เตรียมตัวไว้ ทุกคนแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่พวกเราไม่รู้ว่าราชาปีศาจแข็งแกร่งแค่ไหน หากมองไม่เห็นชัยชนะก็ขอให้ถอนตัวอย่างเต็มกำลัง มิเช่นนั้นพวกเราคงโดนฆ่าตายหมด”
พีเฟิลมองไปที่แคลนเทล คนที่กำลังเปิดประตูด้านหน้าอย่างช้าๆ
ในห้องนั้นไม่มีของประดับที่ดูแฟนซี ในห้องหินอ่อนสีขาวนั้นมีเพียงแค่เก้าอี้ เป็นเก้าอี้ที่เหมือนกับในเกมหรือการ์ตูนที่เอาไว้ให้พระราชานั่ง หรือที่เรียกว่าบัลลังก์นั่นแหละ นกโกะจังมองไปที่เพจิกะคนที่อยู่ข้างๆเธอ เพจิกะนั้นมีท่าทีดูสับสนเหมือนกับกำลังมองไปที่ปริศนาที่ไขไม่ออก
แคลนเทลกับลาซูไลน์นั้นเข้าไปด้านในอย่างระวัง เมจิคัลเกิร์ลคนอื่นนั้นเดินตามหลังพวกเธอไป ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวเมื่อพวกเธอเข้ามาในห้อง เพราะแบบนั้นเมจิคัลเกิร์ลจึงเคลื่อนที่อย่างหนักหน่วงขึ้น พวกเธอเคลื่อนที่กันอย่างอิสระก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งเดียวที่อยู่ในห้องคือเสียงเดินของเมจิคัลเกิร์ล
“เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างเขียนอยู่ที่ด้านหลังเก้าอี้”
ที่หินอ่อนด้านหลังเก้าอี้นั้นมีตัวอักษรถูกสลักไว้ พีเฟิลเริ่มใช้ นักแปลคุง แปลมันและอ่านได้ว่า
ราชาปีศาจไม่อยู่ เพราะมันกลัวที่จะถูกเมจิคัลเกิร์ล 15 คนไล่ล่าทั่วทั้งเกม ช่วยกลับมาทีหลังนะ!
“…อะไรเนี่ย?”
ฟีเฟิลยื่นมือไปจับบัลลังก์
เมื่อผู้เล่นได้มาถึงบัลลังก์ของราชาปีศาจ ก็เท่ากับว่าได้ทำตามเงื่อนไขที่จะฟื้นฟูความทรงจำแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากราชาปีศาจนั้นตกอยู่ในวิกฤติ จากนี้ไปมอนเตอร์ทั้งหมดจะมีเลเวลสูงขึ้น!
เมจิคัลโฟนของพวกเธอดังขึ้นและมีข้อความข้างต้นปรากฏอยู่บนหน้าจอ สั้นๆเลยคือมอนเตอร์นั้นจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“…ราชาปีศาจอยู่ที่ไหน?”
แคลนเทลพูดออกมาเสียงดัง แต่ไม่มีใครเลยที่จะตอบคำถามของเธอ
______________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
พวกเธอสำรวจทุกตารางนิ้วในห้องบัลลังก์แห่งนี้ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย แม้พวกเธอจะสำรวจทั่วทั้งปราสาท มันก็ไม่มีคำใบ้หรือข้อความปรากฏอยู่ที่ไหนเลย และแน่นอนพวกเธอไม่ได้เจอราชาปีศาจ
ทุกคนนั้นสับสน ทุกคนนัเนโกรธเกรี้ยว เพราะเหมือนกับอยู่ดีๆบันไดที่ไต่อยู่ก็หายไป หากพวกเธอไปถึงเป้าหมายได้ก็จะจบเกมนี้ได้ แต่ตอนนี้ ในห้องนี้ เป้าหมายมันได้หายไปแล้ว
พีเฟิลเปิดเมจิคัลโฟนของเธอขึ้นมาแล้วติดต่อไปหาฟาล ก่อนที่เธอจะได้ถามอะไร ฟาลนั้นก็ดูกระวนกระวายมาก เด้งไปซ้ายทีขวาทีพร้อมกับปล่อยผงสีทองออกมา
“ราชาปีศาจมันต้องอยู่ที่นี่สิ ปอน! ต้องมีอยู่สิ ปอน!”
“แต่ในความจริงมันไม่มีเลยนะ ราชาปีศาจน่ะ” พีเฟิลตอบ
“เป็นไปไม่ได้ ปอน! เป้าหมายของเกมนี้คือการกำจัดราชาปีศาจนี่นา ปอน!”
ฟาลหมุนตัว 3 รอบในอากาศ ร่างสีขาวดำของมันปล่อยผงสีทองออกมาทุกที่จนทำให้แทบจะมองไม่เห็น
“มันต้องอยู่ที่ไหนซักแห่ง ที่ไหนซักแห่งข้างนอกนี่ ปอน, บางทีอาจจะอยู่ไกลจากพื้นที่นี้ก็ได้ ปอน”
“ฉันขอถามอีกครั้งนะ ราชาปีศาจมันต้องอยู่ในเกมใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว! มันต้องมี มันต้องมีราชาปีศาจอยู่ ปอน! เป้าหมายของเกมในการเคลียนี้ ถูกสร้างให้เป็นแบบนั้นตั้งแต่แรก ปอน!”
______________________________________________________________________
โนนาโกะ ริโอเน็ตต้า และเพจิกะทั้งหมดนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องสมุด ท่าทางของโนนาโกะและริโอเน็ตต้านั้นดูมืดหม่น แม่แต่หน้าตาของเพจิกะเองก็ดูสิ้นหวัง พวกเธอหาราชาปีศาจไม่เจอ พวกเธอนั้นอยากจะเคลียเกม แต่บอสตัวสุดท้ายกลับไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
ในตอนนี้เมจิคัลเกิร์ลทุกคนนั้นกำลังค้นหาในทั่วทุกพื้นที่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเธอไม่ได้พลาดอะไรไป แคลนเทลไม่ได้อยู่ที่นี่กับพวกเธอ เพราะออกไปช่วยทีมอื่นที่ต้องการคนที่เก่งการต่อสู้อีกคน โนนาโกะ ริโอเน็ตต้า เพจิกะ และมังกรของโนนาโกะจึงสร้างทีมขึ้นมา และรับหน้าที่ค้นหาในห้องสมุด
พื้นที่ห้องสมุดนั้นแคบ บวกกับพวกเธอใช้เวลานานในการค้นหาหนังสือสีแดง ทำให้พวกเธอนั้นรู้จักพื้นที่นี้ดี มันจะมีอะไรให้พวกหาอีกงั้นเหรอ? พวกเธอพลิกทั้งชั้นหนังสือแล้วก็โต๊ะ ทำแม้กระทั่งค้นหาประตูลับและห้องลับ แต่ก็ไม่เจออะไรเลย พวกเธอทั้งค้นหา ทั้งสู้กับมอนเตอร์ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเหนื่อยล้า สุดท้ายทั้งสามคนนั่งถอนหายใจอยู่บนเก้าอี้ไปเหมือนๆกัน
“…บางทีราชาปีศาจอาจจะไม่มีที่ไหนเลยก็ได้”
ริโอเน็ตต้าพูดขึ้นมาแต่ไม่ได้คุยกับใครเป็นพิเศษ
“บางทีอาจจะไม่มีราชาปีศาจอยู่ในเกม บางทีพวกเราอาจจะถูกสั่งให้จัดการศัตรูที่ไม่ได้มีอยู่จริง เป็นคำสั่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้สำเร็จ บางทีตอนนี้มันอาจจะเป็นแบบนี้”
“แต่ฟาลบอกว่า มี ราชาปีศาจอยู่ที่ไหนซักที่นะ”
“นี่เธอเชื่อเจ้านั่นจริงๆงั้นเหรอ!?”
ริโอเน็ตต้าทุบโต๊ะ โต๊ะนั้นเป็นของเก่า ด้วยการทุบทีเดียวของเธอจึงทำให้มันพัง ฝุ่นและเศษกระจายไปอยู่ทั่วทุกที่ และริโอเน็ตต้าก็เตะเศษโต๊ะที่ยังเหลืออยู่ไปไกลๆ เศษชิ้นส่วนของโต๊ะนั้นกระเด็นไปโดนชั้นหนังสือจึงทำให้หนังสือจำนวนมากหล่นลงมาบนพื้น
เพจิกะร้องเบาๆ แต่เธอก็ปิดปากทันที ริโอเน็ตต้านั้นโกรธมาก แต่ถ้าหากเธอกรีดร้องออกมาเธอจะโกรธขึ้นกว่านี้ไหมนะ? ความกล้าของเธอนั้นมาถึงขีดจำกัดแล้วเธอจึงไม่อยากกรีดร้องอะไรอีก เพจิกะเองก็เหนื่อยเหมือนกับเธอเช่นกัน การที่ราชาปีศาจไม่อยู่นั้นเป็นอะไรที่น่าใจหายมาก แต่เธอก็ยังรู้สึกตกใจเมื่อมีคนโกรธอยู่ดี
โดยปกติเพจิกะนั้นจะขี้ขลาด และจะหลีกเลี่ยงการโต้เถียงแบบนี้ แต่มันไม่ได้ผลกับทุกคน
“หุบปาก” โนนาโกะพูด
“หา?” ริโอเน็ตต้า
“ตะโกนออกมาแล้วทุบทำลายข้าวของแบบนั้นมัน แก้ไข อะไรได้งั้นเหรอ?”
“มาเจ้ากี้เจ้าการอะไรของเธอเนี่ย?”
“คิดด้านลบแบบนั้น มันก็ ไม่มี อะไรดีๆออกมาหรอกนะ”
“โอ๊ะ ขออภัยอย่างสูงนะ ช่วยแนะนำอะไรดีๆที่พวกเราทำได้หน่อยได้ไหมล่ะ บางทีเธออาจจะรู้ว่าราชาปีศาจอยู่ที่ไหนนี่? แล้วพวกเราจะได้ออกจากสถานที่ห่วยๆนี่ซักที”
“เธอทำ อีกแล้วนะ”
ริโอเน็ตต้ายืนขึ้น
“รู้ไหม ฉันเนี่ยโคตรเกลียดไอ้วิธีการพูดเน้นคำของเธอสุดๆเลยล่ะ!”
มิโยคาตะ โนนาโกะยืนขึ้นเพราะไม่อยากยอมแพ้
“นี่มีปัญหาเรื่อง บุคลิก ของดิฉันรึไงยะ!?”
“นั่นน่ะเหรอบุคลิกของเธอ? ถ้าให้ฉันพูดล่ะก็ มันเป็นอะไรที่ ตื้นเขิน สุดๆเลยล่ะ”
“พอกันที! ดิฉันไม่ไหวกับการ พูดไม่หยุด ของยัยนี่แล้ว!”
ริโอเน็ตต้าคว้าคอเสื้อของโนนาโกะ
“ความอดทนของฉันมันก็มีขีดจำกัดเหมือนกันนั่นแหละ”
“ของ ดิฉัน ก็ด้วย!”
เสียงของทั้งสองคนนันดังขึ้นและต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพจิกะอยากจะปิดหูตัวเองแต่เธอทำไม่ได้ เธอหยุดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่ได้ ทำได้เพียงนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มีความสูงประมาณเอวของเธอ
มือขวาของริโอเน็ตต้ากำคอเสื้อของโนนาโกะแน่นขึ้น โนนาโกะพยายามจะหยุดริโอเน็ตต้าด้วยการจับมือขวาของเธอ ริโอเน็ตต้าก็คว้าแขนของโนนาโกะด้วยมือซ้าย ใบหน้าของทั้งคู่นั้นจ้องกันอยู่ในระยะประชิด
มังกรของโนนาโกะนั้นคำราม เสียงของมันต่างกับนกหรือพวกสัตว์ร้าย มันเป็นเสียงคำรามที่เธอได้ยินจนชินในพื้นที่ใต้ดิน เสียงของความโกรธ มังกรนั้นแผดเสียงร้อง กางปีกสีเขียวออกกว้าง และกระโดดพร้อมกับอ้าปาก เผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคมที่เรียงรายกันอยู่ พุ่งเข้าหาแขนขวาของริโอเน็ตต้าแล้วงับลงไป
โนนาโกะตกใจ ริโอเน็ตต้าเองก็เช่นกัน ทั้งคู่ส่งเสียงกรีดร้อง เธอแกว่งแขนขวาเพื่อสลัดมังกรให้หลุด โนนาโกะสั่งให้มังกรหยุดแต่เหมือนว่ามังกรนั้นไม่ฟังคำสั่งของเธอ มังกรนั้นก็ยังคงฝังเขี้ยวลงไปในแขนของริโอเน็ตต้าอยู่ ริโอเน็ตต้าเอาแขนของเธอทุบไปที่ชั้นหนังสือ แต่มังกรนั้นก็ยังติดอยู่ที่แขน ความจริงแล้วกรามของมันยิ่งกดแน่นขึ้นไปอีก จนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่แตกหักออกมาจากแขนของริโอเน็ตต้า
ริโอเน็ตต้ากรีดร้อง และเงื้อกรงเล็บที่แขนซ้ายตัวเองออกมา เพจิกะลุกขึ้นจากเก้าอี้ โนนาโกะเข้าไปหาริโอเน็ตต้าเพื่อที่จะหยุดเธอ แต่ก็ไม่ทันเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็เหมือนกับตอนที่พวกเธอทำอยู่ในพื้นที่ใต้ดินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ริโอเน็ตต้าเฉือนคอของมังกรด้วยกรงเล็บ อาวุธที่เธอใช้ในตอนนี้มันแข็งแกร่งกว่าตอนที่เธออยู่ในพื้นที่ใต้ดิน เพราะแบบนั้นเกล็ดแข็งๆของมังกรจึงขาดเหมือนกับกระดาษ มันเฉือนลึกเข้าไปในผิวหนัง กล้ามเนื้อ ไขมัน เลือด และทุกๆอย่าง ขนาดที่ว่าตรงจุดที่เพจิกะยืนอยู่นั้นยังมองเห็นได้ว่าแผลมันลึกขนาดไหน และในทันใดนั้นเลือดของมังกรก็พุ่งออกมาจากแผล
ร่างของมังกรร่วงลงสู่พื้น โนนาโกะนั้นเริ่มร้องไห้พร้อมๆกับเปิดเมจิคัลโฟนของเธอเพื่อพยายามที่จะใช้ยาฟื้นพลัง แต่มันไม่ได้ผล เพราะแผลที่แขนของเธอ ทำให้ริโอเน็ตต้านั้นดูแย่ยิ่งกว่าโนนาโกะ
เธอมองดูโนนาโกะที่วางเมจิคัลโฟนลง แขนเสื้อด้านขวาของเธอฉีกขาดเป็นชิ้นๆ เผยให้เห็นช่วงแขนที่มีรูเท่ากับจำนวนเขี้ยวของมังกร มองเห็นรอยแตกด้วย ตอนนี้ตัวเธอดูเหมือนกับตุ๊กตาพังๆที่ถูกทิ้งเลย
“…เพจิกะ”
เป็นเพราะเพจิกะคิดว่าริโอเน็ตต้านั้นดูเหมือนตุ๊กตาที่ถูกทิ้ง จึงทำให้เสียงของเธอฟังดูว่างเปล่า เหมือนว่าเธอพยายามคุยกับเพจิกะ แต่มันเหมือนว่าเธอคุยกับตัวเองมากกว่า
“เธอจะมา… กับฉันได้ไหม?”
ริโอเน็ตต้าหันหน้ามามองเพจิกะ เธอควรจะมองอยู่ที่เพจิกะ แต่สายตาของเธอมันดูว่างเปล่ามาก
“ฉันไม่เคยได้ใช้ชีวิตดีๆเลย…ไม่ใช่คนที่น่าเคารพอะไร และไม่ได้อยู่ในจุดที่จะชวนใครมาได้ด้วย…แต่ว่า…”
เพจิกะกัดริมฝีปากตัวเอง เธอควรจะทำยังไงดี? เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เธอพยายามหาคำพูดที่จะไม่ทำร้ายริโอเน็ตต้าตอนที่พูดออกไป แต่มันไม่มีคำไหนเลยที่เธอคิดออก คำพูดที่เธอจะพูดมันอาจจะทำร้ายคนอื่นก็ได้ แต่เธอไม่กล้าพอที่จะพูดออกมา ความกล้าในตอนแบบที่เธอรู้สึกในตอนที่สู้กับพวกอัศวินและหุ่นยนต์ในปราสาทของราชาปีศาจนั้นมันหายไปจนหมด
ริโอเน็ตต้ามองมาที่เพจิกะ คนที่ไม่ได้ตอบว่าทั้งใช่หรือไม่ใช่ คนที่เพียงแค่มองเธอพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าอยู่ ริโอเน็ตต้านั้นยิ้มอย่างอ่อนแรงและส่ายหัว
“ลาก่อน”
ริโอเน็ตต้าหันหลังให้เพจิกะ ด้านหลังของเธอนั้นฉาบไปด้วยสีแดง ที่กรงเล็บของเธอนั้นยังมีของเหลวสีแดงไหลหยดอยู่ กลิ่นของเลือดตลบอบอวลมาจากตัวของเธอ
“เดี๋ยว!”
โนนาโกะตะโกนใส่ริโอเน็ตต้า คนที่กำลังเดินออกไป
“นี่เธอ ทำ แบบนี้ได้ยังไง!? เธอคิดว่าตัวเองจะ หนี จากสิ่งที่ยกโทษให้ไม่ได้แบบนี้ไปได้ยังไงน่ะ!?”
ริโอเน็ตต้านั้นไม่ได้หยุด ถัดจากเก้าอี้ที่กองล้มอยู่นั้น เธอกำลังเดินต่อไป
“ดิฉันจะ ฟ้องศาล! ดิฉันจะเรียก ค่าชดเชย! “
โนนาโกะร้องไห้ ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงเพราะเธอกอดมังกรของตัวเองจนกระทั่งถึงก่อนหน้านี้ เลือดนั้นยังหยดจากใบหน้าของเธอลงไปโดนชุดมิโกะของเธอ ริโอเน็ตต้านั้นไม่ได้หยุดเดิน เธอกำลังเดินอย่างโซเซต่อไป
“ไอ้ตุ๊กตาเวรนี่!”
โนนาโกะร้องไห้ออกมาเสียงดัง เหมือนว่าเธออยากจะเตะ ต่อย และจัดการริโอเน็ตต้าทิ้ง และในตอนที่เธอยังไม่หยุดเดินนั้น เพจิกะก็เห็นเงาสีดำพุ่งเข้ามาหาริโอเน้ตต้า
“ด้านหลังค่ะ!”
เพจิกะตะโกนบอกริโอเน็ตต้า คนที่กำลังเดินอย่างโซเซอยู่ เธอตอบสนองกับการโจมตีของพวกอสูรด้วยการนั่งลงไปบนเกาอี้ทันที แต่เพราะเธอนั่งลงไปด้วยความเร่งรีบ เก้าอี้มันจึงสั่นมาก ริโอเน็ตต้าพยายามรักษาสมดุลของตัวเอง ทันใดนั้นมือของเธอก็ชูขึ้นด้านบนเพราะเก้าอี้ที่เธอนั่งลงไปกลายร่างเป็นมารสีดำ มันดึงให้ริโอเน็ตต้าล้มลงไปที่พรม
พวกมารมันกลายร่างเป็นเก้าอี้ ศัตรูในพื้นที่นี้มันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย พวกมันทำอะไรแบบทื่อๆ มีรูปแบบการโจมตีที่ชัดเจน พวกมันแปลงร่างได้แต่ปกตินั้นจะแปลงเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ พอมาคิดดูแล้ว เก้าอี้ที่ริโอเน็ตต้าไปนั่งนั้น พวกมารมันแปลงร่างรออยู่ล่วงหน้าแล้ว พวกศัตรูมันร่วมมือกันโจมตีงั้นเหรอ? เพจิกะวิ่งไปหาโนนาโกะ
พวกมารโจมตีริโอเน็ตต้า มารอีกตัวก็เตะเข้าที่ใบหน้าของริโอเน็ตต้า พวกมันนั้นเตะเหมือนกับเตะลูกฟุตบอล หนึ่งครั้ง สองครั้ง และสามครั้ง ได้ยินเสียงน่ากลัวเหมือนกับไม้ถูกทำลายด้วย และพวกมันก็ยกเท้าขึ้นเมื่อโนนาโกะมาถึง เธอแทงโกเฮย์ไปด้านหน้า แต่อาวุธนั้นก็ถูกฝ่ามือสีดำจับเอาไว้ มีภูติผีทะลุผ่านชั้นหนังสือออกมาปรากฏตัวตรงหน้าโนนาโกะ ตอนนี้ไม่มีมารตัวไหนหยุดเตะลูกฟุตบอลเลย พวกมันเตะเข้าที่หัวของริโอเน็ตต้าอย่างรุนแรง จนผ้าคลุมผมของเธอปลิวขึ้นไปในอากาศ
เพจิกะเอาไปจับ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ที่คอของตัวเอง เพราะเธอมีเจ้านี่อยู่จึงสามารถโจมตีพวกภูติผีได้
เพจิกะแกว่งกระทะ พวกภูติผีนั้นหลบการโจมตีของเพจิกะ มันพยายามจะใช้ร่างกายของโนนาโกะทำให้เธอหยุด พวกภูติผีนั้นทะลุผ่านวัตถุต่างๆได้ ร่างกายมนุษย์ก็เช่นกัน รางกายของภูติผีเริ่มเข้าปกคลุมร่างกายของโนนาโกะทั้งตัว เธอตกใจมากจึงเอาโกเฮย์มาตีไปทั่ว แต่ก็ไม่ถูกพวกมันเลยเพราะภูติผีทำให้เธอมองไม่เห็นด้วยร่างของมัน
มารที่เตะหัวของริโอเน็ตต้าเหมือนกับลูกฟุตบอลนั้นหยุดเตะแล้ว แต่มันก็เปลี่ยนร่างของตัวเองให้เป็นงูที่ตัวเรียว และเลื้อยเข้ามาที่ใบหน้าของโนนาโกะ และเริ่มชอนไชเข้าไปข้างในตัวเธอ เพจิกะพยายามฟาดกระทะของเธอไล่ศัตรูออกไป และเอาพวกมันที่ปิดตาโนนาโกะอยู่ออก
เพจิกะเอากระทะไปตีอสูรที่จับตัวริโอเน็ตต้าไว้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนมันแตกกระจายเป็นเงาดำ
สายรัดคางของริโอเน็ตต้าฉีกขาด ที่คลุมผมก็ปลิวหายไป แต่เหมือนว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ผมของเธอดูยุ่งเหยิงและแกว่งไปมา เมื่อเธอลุกขึ้นยืน ก็ชี้ไปที่ด้านหลังของเพจิกะและอ้าปากกว้าง เพจิกะจึงหันกลับไปดู
คนที่อยู่ตรงนั้น คือโนนาโกะ
ตาของเธอเปิดกว้าง กัดริมฝีปากแน่น ที่ขอบปากของเธอมีเลือดไหลออกมา จากที่ดวงตา จากที่จมูก ทุกอย่างถูกย้อมไปด้วยเลือด เธอฝืนกัดริมฝีปากตัวเองต่อไม่ไหว จากนั้นเลือดจำนวนมากก็พุ่งทะลักออกมาจากปาก แล้วเธอก็ล้มลงไป
งูสีดำที่คลานออกมาจากบ่อเลือด ถูกกรงเล็บของริโอเน็ตต้าหั่นเป็น 5 ชิ้นแตกกระจายเป็นเงาสีดำก่อนที่จะหายไป
เพจิกะเปิดใช้เมจิคัลโฟนของเธอ ภายในใจของเธอนั้นทั้งตื่นตระหนก สับสน กระวนกระวาย เธอปาดน้ำตา มีเพียงการเคลื่อนไหวของเธอเท่านั้นที่ดูใจเย็น ยาฟื้นพลังที่เธอใช้ไม่ได้โนนาโกะ มันยังคงอยู่ในเมจิคัลโฟนของเธอ เธอกดซ้ำหลายครั้งแต่ก็ใช้ยาฟื้นพลังไม่ได้ เพจิกะทรุดตัวลงบนพื้นไม้ มีเสี้ยนไม้แทงอยู่ในเข่าทำให้เลือดไหล เธอหายใจหนักและถี่มาก เธอไม่อยากเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้เธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน การที่พวกมันแปลงร่างเป็นวัตถุได้นั้นไม่ได้ตกใจอะไรมาก แต่พวกภูติผีมันทำบางคนมองไม่เห็นได้ด้วย? พวกมันโจมตีจากด้านในร่างกายได้ด้วย? มันไม่เคยเกิดอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
… อ่า ใช่แล้ว ที่บัลลังก์ของราชาปีศาจ
เมื่อพวกเธอสัมผัสมันแล้วก็มีข้อความปรากฏขึ้น มันบอกว่ามอนเตอร์มีระดับสูงขึ้นใช่ไหมนะ? มันหมายความว่าแบบนี้งั้นเหรอ?
เพจิกะได้ยินเสียงฝีเท้าเธอจึงหันหน้าไปทางนั้น ริโอเน็ตต้ากำลังเดินอยู่ เธอหันหลังให้เพจิกะและโนนาโกะและเดินออกไป พยายามจะไปที่ไหนซักที่ เพจิกะจึงส่งเสียงขึ้น
“ริโอเน็ตต้า!”
เพจิกะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เหมือนกันกับริโอเน็ตต้า เพราะแบบนั้นเธอจึงพูดอะไรไม่ได้เลย
ตอนนี้โนนาโกะล้มอยู่ และยาฟื้นพลังใช้กับเธอไม่ได้
นั่นหมายความว่าเธอตายไปแล้ว
ริโอเน็ตต้าหยุดเท้าของเธอ
“ทำไม…นี่ฉัน…ทำอะไรลงไป…”
เธอพึมพำอะไรบางอย่าง และเริ่มเดินอีกครั้ง หัวของเธอส่ายไปมา เธอจับที่คลุมผมไว้ในมือขวา และใช้มือซ้ายประคองมือขวาที่พังไปแล้วของเธอ เพจิกะทำได้แค่มองดูเธอเท่านั้น
______________________________________________________________________
ฝั่งมาสเตอร์ #8
“ไม่มีราชาปีศาจอยู่ ปอน”
“อ่าหะ”
“ไม่มีราชาปีศาจอยู่ล่ะ ปอน!”
เด็กสาวเอียงคอ 40 องศามามองฟาล เพียงแค่มองดูมันสรุปไม่ได้ว่าฟาลนั้นมีอารมณ์ยังไง แต่ด้วยน้ำเสียง และการย้ำสิ่งเดียวกันซ้ำสองครั้งมันก็จินตนาการได้ง่าย การพูดสถานการณ์ปัจจุบันแบบนี้จึงไม่มีข้อสงสัยอีก เด็กสาวเอียงคอกลับมา กระดูกข้อต่อที่ต้นคอของเธอส่งเสียงเบาๆ
“นายจะพูดว่าการที่ราชาปีศาจไม่อยู่ที่นี่ มันไม่ถูกใช่ไหม?”
เด็กสาวงอเข่าที่ด้านบนของเก้าอี้หมุน ฝ่าเท้าทั้งสองสัมผัสเข้าด้วยกัน
“ชั้นจำไม่เห็นได้เลยนะว่า สร้างเกมนี้ขึ้นมาโดยที่ไม่มีราชาปีศาจน่ะ เป้าหมายของผู้เล่นคือการกำจัดราชาปีศาจ หากไม่มีราชาปีศาจอยู่มันก็เป็นไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะ~”
“มันไม่มีอะไรอยู่ที่บัลลังก์เลย ปอน”
“แล้วใครพูดเหรอว่าราชาปีศาจต้องนั่งรออยู่บนบัลลังก์น่ะ? ปราสาทของราชาปีศาจเองก็เป็นแค่ชื่อของพื้นที่นึงเท่านั้น ทั้งชั้นแล้วก็นาย ฟาล ไม่มีใครพูดเลยนะว่าราชาปีศาจ ต้อง อยู่ที่นั่น”
เด็กสาววางนิ้วลงบนโต๊ะ เคาะนิ้ว แล้วก็หมุนเก้าอี้ไปรอบๆ
“ถ้าพวกเธอหาราชาปีศาจไม่เจอ มันก็เป็นความผิดของพวกเธอ ไม่ใช่ของชั้นหรอกนะ~ ทำไมนายต้องบ่นกับมาสเตอร์ของตัวเองเรื่องนี้ด้วยล่ะ? แน่นอนว่าพวกเธอคงไม่รู้จนกว่าจะไปถึงบัลลังก์แน่ แต่ ตอนนี้ พวกเธอรู้รึยังนะ? ชั้นเองก็ให้คำใบ้ไว้ที่บัลลังก์ว่างๆแล้วด้วย! ชั้นแฟร์ ไม่โกหก ไม่เคยโกง ชั้นน่ะไม่เหมือนกับเธอ”
ที่ด้านบนโต๊ะนั้นมีขยะกองอยู่จำนวนมาก เก้าอี้ของเด็กสาวค่อยๆหมุนเร็วขึ้น ทำให้มองเห็นร่างของเธอได้ยาก เก้าอี้นั้นไม่ได้พังแต่ก็ส่งเสียงแปลกอยู่ตลอดตอนเวลาหมุน แต่เสียงของเด็กสาวนั้นก็ยังคงฟังดูสงบ
“จะว่าไป สโนไวท์กลับมารึยัง?”
ฟาลแค่จ้องมองเด็กสาวอย่างเงียบๆเท่านั้น ไม่ได้ตอบคำถามของเด็กสาวกลับไป
______________________________________________________________________
ฝั่งสโนไวท์
หลังจากที่สโนไวท์กลับออกมา การเคลื่อนไหวของเธอก็เร็วขึ้น แม้ฟาลจะไม่พูดเธอก็รู้อยู่แล้วว่าแบบนี้มันเร่งด่วนยังไง สโนไวท์เห็นรายชื่อของคนที่เข้าร่วมเกมทั้งหมดแล้ว มันมีสองชื่อที่ดูโดดเด่น หากเกมดำเนินต่อไปโดยที่ยังมีทั้งคู่อยู่ จำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นแน่ แต่ถ้าเธอมุ่งไปหาทั้งคู่โดยตรง แบบนั้นเมจิคัลเกิร์ลคนอื่นจะหลบหนีไม่ได้
สิ่งที่สโนไวท์ต้องทำคือการโจมตีจากอีกมุมหนึ่ง
เธออยากจะพบหัวหน้าของหน่วยเมจิคัลเกิร์ล เธอติดต่อหาคนในหน่วยเดียวกันจนรู้วิธีติดต่อกับหัวหน้า
เด็กสาวคนนนั้นใช้พลังเวทของเมจิคัลเกิร์ลสร้างความรุนแรง และให้สิ่งตอบแทนแก่ผู้คน
ตราบใดที่สโนไวท์รู้เรื่องนี้ เธอจะปล่อยมันไปไม่ได้
หัวหน้าของหน่วยเมจิคัลเกิร์ลนั้นเป็นจอมเวทยุคเก่า ที่เพิ่งถูกมอบหมายให้เป็นหัวหน้าหน่วยเมจิคัลเกิร์ล ไม่ว่าสโนไวท์จะถามอะไรไป หัวหน้าก็ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลลับเรื่องใดออกมา ในฐานะจอมเวทนั้นเขามีความภาคภูมิใจสูง ไม่ว่าจะถูกคุกคามแค่ไหน สุดท้ายก็เอาแต่บอกว่าให้ทำตามขั้นตอนตามมาตราฐาน
หากทำแบบนั้นมันจะไม่ทันการ เธอต้องการข้อมูลของมาสเตอร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ หากลางสังหรณ์ของสโนไวท์ถูกต้อง จอมเวทนี้ก็คือคำตอบ
มีไอเท็มเวทมนตร์ส่องประกายอยู่รอบๆ รูปร่างมันเหมือนกับแมนดาล่า* ส่องสว่างอยู่ภายในห้องมืดๆ ที่ตรงนั้น เธอเผชิญหากับหัวหน้าของหน่วยเมจิคัลเกิร์ล เขาผ้าคลุมสีเทายาวถึงเท้า มีเคราสีขาว เป็นเครายาวๆและม้วน และถือไม้เท้าม้วนๆ เขาดูเป็นจอมเวทยุคเก่าขนานแท้
*แมนดาล่า – สัญลักษณ์แทนจักรวาลในศาสนาฮินดู
“เธอต้องทำตามขั้นตอนนะ”
ว่าแล้วต้องพูดแบบนี้
“ฉันไม่ทำ”
“ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดกัน”
“โอเค งั้นฉันจะสืบสวนต่อทั้งๆที่ไม่มีการอนุญาตเอง บอกรหัสแอดมินของหน่วยเมจิคัลมาหน่อย”
“นี่เธอคิดเหรอว่าชั้นจะบอกน่ะ?”
รูปร่างของเขาเริ่มจากลง จนในที่สุดก็หายไป
สโนไวท์ออกมาจากห้องของหน่วยเมจิคัลเกิร์ล เธอได้ข้อมูลทุกอย่างตามที่ต้องการมาหมดแล้ว เมื่อตอนที่เธอถามรหัส เธออ่านจิตใจทั้งหมดของหัวหน้า คนๆนั้นกังวลเรื่องที่สโนไวท์จะรู้รหัส ในตอนนั้นเธอก็อ่านรหัสที่ซ่อนอยู่ในจิตใจออกมาทั้งหมด
หลังจากนี้สโนไวท์เพียงแค่ต้องทำการสืบสวน เธอจึงรีบเคลื่อนไหวทันที
MANGA DISCUSSION