ตอนที่ 2:
อาหารอร่อยๆ ทำให้ทุกคนมีความสุข
☆ เมจิคัลเดซี่
เสียงแตรฟันแฟร์ดังขึ้น พร้อมกับหน้าจอของเมจิคัลเกิร์ลส่องแสงสีรุ้งออกมา จีโนไซโคโยนมือถือทิ้ง มันลอยข้ามน้ำพุไปโดนกับรูปปั้นเมอร์เมด แล้วหล่นลงมาจนถึงพื้น หน้าจอนั้นหงายขึ้น แสงยังคงออกมาจากหน้าจอ รวมกันเป็นรูปร่างที่ด้านขวาสีดำ ด้านซ้ายสีขาว มีปีกคล้ายผีเสื้อออกมาจากหลัง รูปร่างใส ลอยเด้งไปมา เป็นรูปร่างสามมิติ
"สวัสดีเมจิคัลเกิร์ลทุกคน! อรุณสวัสดิ์! สายันต์สวัสดิ์! เราคือมาสคอตของ เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจ็ค ฟาลเองล่ะ ปอน!"
เสียงสังเคราะห์นั้นเหมือนกับเสียงของเด็ก ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างมันชวนให้มึนหัว
เมจิคัลเดซี่ จีโนไซโค @เนี๊ยวเนี๊ยว และนกโกะจังจึงเลิกคิ้วขึ้น
จากนั้นเมจิคัลเดซี่จึงถามเจ้ารูปร่างสามมิติที่ชื่อว่า ฟาล ไปว่า
"นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? "
“เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจ็ค คือเกมจำลองการฝึกฝน ในการทำภารกิจต่างๆของเมจิคัลเกิร์ล
เหมือนกับทดสอบแคนดิเดทเมจิคัลเกิร์ลคนใหม่ล่ะ ปอน!
ประสบการณ์ที่ได้รับจากโลกเสมือนจริงนี้จะถูกส่งกลับไปยังโลกจริงล่ะ ปอน!
พวกเธอถูกคัดเลือกเข้ามาเป็นผู้เล่นทดสอบน่ะ ปอน!”
“โลกเสมือนจริง? ที่นี่ไม่ใช่โลกจริงงั้นเหรอ?” เดซี่ถาม
“ใช่แล้วล่ะ! เมจิคัลเทรซซิสเต็มทำให้ทุกอย่างเหมือนจริง! แถมกราฟฟิคเสมือนจริงจนแยกไม่ออกอีกด้วย นี่ล่ะคือจุดขายของ เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจ็ค ล่ะ ปอน!”
“นี่คือเกมจริงๆใช่ไหม?”
“จริงสิ ปอน! ไม่โกหกหรอกนะ ปอน!”
“ไม่ใช่เวทมนตร์?”
“เป็นเกมที่สร้างโดยใช้เวทมนตร์น่ะ ปอน!”
เมจิคัลเดซี่แสร้งทำเป็นใจเย็น ทั้งๆที่ตัวเองตกใจ
แม้ฟาลจะบอกว่ามันเป็นเกม ถึงทิวทัศน์อาจจะแปลกตาไปหน่อย
พวกฝุ่นและเชื้อราในอาคาร แสงอาทิตย์ที่ร้อนแบบไร้ปราณี ความรู้สึกตอนที่โจมตีสเกเลตัน
พื้นดินที่เธอยืนอยู่ ทุกอย่างมันดูสมจริงมาก แต่ว่าเรื่องสเกเลตันที่ออกมาจากพื้นดิน ทะเลทรายอันไร้จุดสิ้นสุด อาคารที่พังทลายเหมือนๆกัน สิ่งพวกนี้เกิดได้แค่ในเกมเท่านั้น
“ไม่เห็นจะรู้เรื่องพวกนี้เลย!” จีโนไซโคตะโกนใส่
“ไม่มีใครถามเลยว่าจะเข้าร่วมรึเปล่าเลยด้วยซ้ำ! อย่ามาพูดอะไรบ้าๆ ไอ้ก้อนขนงี่เง่า”
“เรื่องนี้มันสร้างปัญหาให้เรานะคะ…”
นกโกะจังกับจีโนไซโค ทั้งคู่เข้าไปใกล้กับเมจิคัลโฟน แต่เพราะว่ามาสค็อตเป็นรูปร่างสามมิติ
ก็เลยจับคอเสื้อเจ้านั่นไม่ได้ แต่มันก็ไม่มีคอเสื้ออยู่ตั้งแต่แรกแล้วด้วยน่ะนะ
นกโกะจังกับจีโนไซโค นั้นยังมีอะไรพูดอีกมาก อยู่ดีๆก็ถูกพาตัวมาโดยไม่มีแจ้งเตือน
ต้องสู้กับสเกเลตัน ถูกสั่งให้มุ่งหน้ามาที่เมือง และให้ยอมรับทุกอย่างโดยไม่บ่นเนี่ยนะ
“เอาน่า เอาน่า ใจเย็นแล้วฟังก่อนสิ ปอน!”
แม้จะถูกกดดัน แต่มาสค็อตนั่นก็ยังใจเย็นอยู่ สีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลย
ตรงข้ามกับพาเล็ตต์มาสค็อตของเดซี่ แฟร์รี่ตัวเล็กที่แสดงออกหลากหลายอารมณ์
แม้จะเป็นมาสค็อตเหมือนกัน แต่ก็ต่างกันสินะ
“เวลาของที่นี่มันถูกบีบอัด ดังนั้นจึงไม่ส่งผลอะไรกับชีวิตประจำวัน ตรงจุดนี้เราต้องการให้พวกเธอใช้เวลาในเกม 3 วัน แต่ในโลกจริงเวลจะผ่านไปแค่พริบตาเดียวนะ ปอน! แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะ ทักษะของเมจิคัลเกิร์ลที่ใช้ในโลกจริงได้ก็ใช้ในเกมได้แบบปรกติ ไม่มีอะไรอันตรายหรอก ปอน! ที่นี่ไม่มีเวทมนตร์รักษา ชีวิตที่ 2 หรือจุดเซฟ ถ้าเกมโอเวอร์คือจบเลย ปอน! ไม่ต้องกังวลนะร่างจริงไม่มีผลกระทบอะไรหรอก ปลอดภัยแน่นอน ปอน!”
“ไม่ ฉันเข้าใจที่พูด แต่ทำไมถึงบังคับเราเข้ามาโดยไม่บอกอะไรเลยล่ะ?”
“ก็ เราแน่ใจนะว่าพวกเธอคงรู้ว่าดินแดนเวทมนตร์บางครั้งก็ทำอะไรแบบไม่มีเหตุผล ปอน!
เพราะดินแดนเวทมนตร์ไม่มีเหตุผล เวทมนตร์เองจึงเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลเช่นกัน…
เราคิดว่า บางทีอาจมีกลไลหรือเงื่อนไขอะไรซักอย่างที่ทำให้เข้ามาโดยไม่ได้รับการยินยอมล่ะ ปอน!”
ฟาลพูดต่อในสิ่งที่ตัวเองรู้
“นี่เป็นการฝึกอย่างเป็นทางการของดินแดนเวทมนตร์ ดังนั้นไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก ปอน!
เมื่อเคลียพื้นที่แล้วจะมีรางวัลที่สุดยอดมากๆรออยู่ รางวัลของคนเข้าร่วมก็ดีเหมือนกันนะ!
หากพวกเธอเป็นผู้เล่นทดสอบของเรา แล้วช่วยเราค้นหาบัค ก็จะเป็นสิ่งดีกับแคนดิเดทในอนาคตด้วย ปอน! แต่เกมนี้มันเป็นความลับ ห้ามเอาไปคุยกับคนอื่นนอกจากผู้เล่นด้วยกัน แต่การรักษาความลับก็เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเมจิคัลเกิร์ล แบบนี้ก็ง่ายสำหรับพวกเธอแล้วล่ะ ปอน!
แต่พวกเธอจะเข้าร่วมไหม? ปอน! คนอื่นๆเริ่มกันไปแล้วด้วยนะ ปอน!”
ฟาลมองมาที่เมจิคัลเดซี่ จีโนไซโค @เนี๊ยวเนี๊ยว และนกโกะจัง
เดซี่คิดว่าตัวเองต้องปกป้องเด็กพวกนี้
______________________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
เพจิกะยังสับสน แต่เธอติดอยู่ในเกม
เพจิกะนั้นมีอะไรที่อยากทำมากกว่าการปูทางให้เมจิคัลเกิร์ลในอนาคต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอก็ไม่รู้สาเหตุที่ถูกพาเข้ามาในเกมนี้ตั้งแต่แรก
ขอโทษ! ฉันทำไม่ได้ค่ะ!
แม้เธออยากจะก้มหัวขอร้อง แต่ทั้ง 3 คนนั่นต่างออกไป
"ฉันล่ะเกลียดจริง วิธีการบังคับแบบนี้เนี่ย" เด็กสาวชุดตุ๊กตาพูดขึ้นมา "ถ้าเป็นงานของดินแดนเวทมนตร์คงช่วยไม่ได้ น่าสนใจดี อย่างน้อยตอนนี้ขอยอมรับก่อนล่ะกัน"
"รางวัลเองก็สุดยอดสุดๆไปเลยด้วยนี่?" เด็กสาวชุดมิโกะพูดอย่างดีอกดีใจ
“ใช่เลย” เด็กสาวครึ่งสัตว์เห็นด้วย
"รางวัลมันดูดีนะ" เด็กสาวชุดตุ๊กตาเห็นพ้อง "แต่รู้สึกเหมือนไม่ใช่ดินแดนเวทมนตร์เลยเนี่ยสิ"
"แต่มันยอดสุดๆเลยนะ!! รางวัลตั้งหมื่นล้านเยน ชีวิต เมจิคัลเกิร์ลสบายไปทั้งชาติเลย"
"ฉันว่าเธอนี่ต้องคิดเป้าหมายชีวิตใหม่แล้วล่ะ"
คนอื่นเป็นแบบนี้ เพจิกะเลยไม่อยากเป็นคนเดียวที่บอกว่าไม่เอาด้วย เธอเป็นแค่เด็กสาวมัธยมต้นธรรมดาที่เก็บตัว แต่อ่านบรรยากาศได้ดี เธอยิ้ม พยักหน้า และหัวเราะไปด้วยได้
“เอาล่ะ ตอนนี้ต้องสร้างปาร์ตี้นะ ปอน! ปาร์ตี้มีได้มากที่สุด 4 คน ปอน!
เมื่อเข้าปาร์ตี้แล้วจะมีประโยชน์มากมายในการใช้ไอเท็มเลยล่ะ ปอน!
หากติดตั้งแผนที่แล้ว จะสามารถบอกได้ว่าสมาชิกในปาร์ตี้อยู่ที่ไหน
และส่งไอเท็มที่ใช้ได้ให้คนในต่อปาร์ตี้ได้ล่ะ ปอน!”
ทั้ง 4 คนมองหน้ากัน หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนก็มองมาที่เพจิกะ
ก่อนที่จะมีคนพูดอะไรขึ้นมา เพจิกะรู้ว่าพวกเธอคิดอะไรอยู่
ยัยนี่ดูอ่อนแอแถมยังขี้ขลาดด้วย ไม่อยากได้เข้ามาในปาร์ตี้เลย
“ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ช่วยบอกพลังเวทของตัวเองว่าทำอะไรได้หน่อยได้ไหม?”
“อ๊ะ ใช่ๆ ฉันสนใจสุดๆเลยล่ะ!”
เหมือนว่าเธอจะคิดผิด เธอจึงพูดออกไปว่า
“เอ่อ…ถ้ามีเวลาซัก 5 นาที…ฉันก็ทำอาหารอร่อยๆได้ค่ะ…”
พวกเธอ 3 คนมองหน้ากันและกัน
หน้าอกของเพจิกะเริ่มเจ็บ เมื่อเธอคิดถึงความหมายในการสบตากันของพวกเธอ
จะทำยังไงกับเธอดีนะ? ยัยนี่ไร้ประโยชน์สุดๆ บางทีทิ้งเอาไว้ที่นี่ดีกว่า
ความคิดเหล่านั้นแล่นเข้ามาในหัวเพจิกะ
“เอ่อ…สมาชิกในปาร์ตี้น่ะเปลี่ยนได้นะ ปอน! จะเพิ่ม ลด เปลี่ยน ได้ตามสถานการณ์เลย ปอน!”
พวกเธอ 3 คนมองหน้ากันและกัน เด็กสาวเซ็นทอร์พยักหน้า
และปาร์ตี้ 4 คนที่รวมเพจิกะจึงถูกสร้างขึ้น
เพจิกะรู้สึกเหนื่อยที่ต้องคิดว่าพวกเธอ 3 คนคิดว่าอะไรอยู่
______________________________________________________________________
2 ชั่วโมงต่อมา
อย่างที่คิด พวกเธอปฎิบัติกับเพจิกะไม่ดีเลย เธอเป็นแค่ตัวแทนจนกว่าจะเจอเมจิคัลเกิร์ลที่ใช้การได้สินะ หลังจากนั้นเธอก็คงถูกทิ้ง แม้แต่ตอนนี้ที่ทั้ง 3 คนมีพลังที่จะสู้กับสเกเลตันได้
ด้วยความขี้ขลาดของเพจิกะและความสามารถของเธอก็ไม่เหมาะกับการต่อสู้ด้วย
เมจิคัลเกิร์ลชุดมิโกะ มิโยคาตะ โนนาโกะ มีเครื่องประดับหยินหยางอยู่บนศรีษะ
สวมกางเกมฮาคามะสีแดง เพราะแบบนี้ชื่อญี่ปุ่นจึงดูเหมาะสมกับเธอดี
แม้จะดูมีความเป็นญี่ปุ่นมาก แต่เพราะบุคลิกของเธอทำให้เธอเหมือนไม่ใช่คนญี่ปุ่นเลย
“เมจิคัลเกิร์ลน่ะ เท่ สุดๆเลย! ทั้ง น่ารัก! แล้วก็ แข็งแกร่ง ด้วย! ในประเทศดิฉันเนี่ยดังมากเลยนะ!”
จากที่เธอพูด บางคำนั้นไม่ค่อยได้ยินจากเจ้าของภาษาเลย เพจิกะคิดว่าบางทีอาจเป็นคนต่างชาติ คนต่างชาตินี่ดูเป็นญี่ปุ่นมากกว่าคนญี่ปุ่นจริงๆซะอีกนะเนี่ย
เธอพูดอย่างภูมิใจว่าตัวเองสามารถใช้เวทมนตร์เกี่ยวกับสัตว์ได้ แต่โชคร้ายที่ใช้ได้ไม่กี่ประเภท
เป็นเพื่อนกับสเกเลตันไม่ได้ เธอจึงจัดการมันแทน
เมจิคัลเกิร์ลตุ๊กตา ริโอเน็ตต้า ตัวเธอไม่เหมือนหรือคล้ายตุ๊กตา แต่ตัวเธอเป็นตุ๊กตาจริงๆ
ริ้บบิ้นยาวไหวไปตามลม ชายกระโปรงพริ้วไหว ผ้าคลุมผมสั่นไหวทุกครั้งในการต่อสู้
รูปแบบการต่อสู้คือนักรบโลลิต้าที่งดงาม เมื่อเพจิกะสังเกตุก็พบว่า การเคลื่อนไหว ข้อต่อ และการแสดงอารมณ์ของเธอดูปลอมไปทุกอย่าง
เธอไม่ถูกกันกับ มิโยคาตะ โนนาโกะ ทะเลาะกันบ่อยครั้ง
แม้จะดูงดงาม แต่ปากเสีย มีแต่คำพูดไม่ดีออกจากปาก เพจิกะไม่ชอบคนแบบนี้เลย
ความสามารถเธอคือควบคุมตุ๊กตา แต่โชคร้ายที่ไม่มีตุ๊กตาอะไรอยู่แถวนี้ เธอจึงสู้แบบที่ มิโยคาตะ ทำ ด้วยการที่ข้อต่อของเธอเป็นทรงกลม จึงทำให้เธอโจมตีในมุมที่มนุษย์ธรรมดาทำไม่ได้ โจมตีศัตรูที่จุดบอด… แม้จะไม่รู้ว่าจุดบอดสเกเลตันอยู่ตรงไหนก็ตาม
เมจิคัลเกิร์ลเซ็นทอร์ชื่อว่า แคลนเทล แต่คำว่าเซ็นทอร์นี่ก็ไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องเท่าไหร่ ใช้คำว่าร่างกายครึ่งล่างไม่ใช่มนุษย์ดูเหมาะสมกว่า เธอเปลี่ยนร่างเป็นจรเข้แล้วใช้หางฟาดสเกเลตัน และเปลี่ยนเป็นม้าใช้กีบเท้าเหยียบ เธอเลือกใช้สัตว์ต่างๆตามสถานการณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด บ่อยครั้งที่เธอแปลงเป็นสัตว์สี่เท้าในหลายๆสถานการณ์ เช่นม้าไม่ก็กวาง เมื่อเพจิกะเจอเธอครั้งแรกรู้สึกประทับใจเธอมากที่สุดกว่าคนอื่น พวกเธอเริ่มทำความรู้จักกันและกันก่อนที่วันนี้จะสิ้นสุด
เห็นชัดว่าแคลนเทลเป็นผู้นำของทั้งสามคน ดูจากการที่หยุดมิโยคาตะกับริโอเน็ตต้าทะเลาะกัน เพจิกะคิดว่าดูดีจัง แคลนเทลเองก็ไม่ค่อยบ่นหรือพูดอะไรด้วย จึงเพิ่มความประทับใจเข้าไปอีก
ทั้งสามคนต่อสู้กับสเกเลตันโดยไม่แก่งแย่งกันเอง
จัดการสเกเลตันตัวแล้วตัวเล่า การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล เส้นผมที่พริ้วไปตามลม
ผิวสีขาวที่เผยออกจากชุด ความภูมิใจนี้หากไปสัมผัสมันเข้าอาจสลายหายไปได้
แค่มองพวกเธอก็ทำให้เพจิกะถอนหายใจออกมา พวกเธอช่างสมบูรณ์แบบ
เพจิกะกอดเข่าตัวเองแน่น
นี่คือความงดงามของเมจิคัลเกิร์ลที่เพจิกะใฝ่หา
หากฉันกลายเป็นเมจิคัลที่น่ารักและงดงาม โลกของฉันก็จะเปลี่ยนไป
แม้กระทั่งทำข้าวกล่องให้นิโนมิยะคุงก็ยังได้
หลังจากกลายมาเป็นเมจิคัลเกิร์ลแล้ว ชีวิตของจิกะก็เปลี่ยนไปจริงๆ
ก่อนหน้าเธอเป็นเด็กสายขี้อาย หลังจากกลายเป็นเพจิกะ ไม่ว่าจะแปลงร่างหรือไม่ก็ตาม
ตัวเธอนั้นสดใสมากขึ้น เพราะความงามนั้นมีเฉพาะแค่ตัวเธอ ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
แต่ที่แห่งนี้ เพจิกะเป็นแค่หนึ่งในเมจิคัลเกิร์ลหลายๆคน เทียบกับคนอื่นแล้วเธอดูธรรมดา
ความรู้สึกเหนือกว่าของเธอหายไป เธอไม่กล้าหาญอีกแล้ว กลับมาเป็นจิกะอีกครั้ง ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ตอนนี้เพจิกะรู้สึกเหมือนกับตอนที่เธออยู่ที่มุมห้องเรียน
ไม่น่าเชื่อถือ ต่อสู้ไม่ได้ ปฎิเสธที่จะร่วมเกมก็ไม่ได้ ทำได้แค่นั่งดูคนอื่นสู้
เธอมองเห็นส่วนหนึ่งในตัวเองที่เธอเกลียด รู้สึกสิ้นหวัง
การต่อสู้จบลงในขณะที่เพจิกะยังขวัญเสีย
สเกเลตันจำนวนมากถูกกำจัดกลายเป็นเพียงเศษผงสีขาว
“กะแล้ว! สัญชาตญาณของดิฉันน่ะถูก! ที่แห่งนี้มีสเกเลตันอยู่ทั่วไปหมด!”
“นี่จะเอาเครดิดไปคนเดียวเลยเหรอยะ?”
“โฮะโฮะโฮะโฮ่! เครดิดน่ะมันไม่เดินไปหา คน ที่ไม่ทำอะไรหรอกนะ ”
“พวกเรามีแคนดี้เท่าไหร่แล้ว?”
พอแคลนเทลพูดขึ้น ทั้งสองคนก็หยุดทะเลาะกัน
มิโยคาตะกับริโอเน็ตต้าเอาเมจิคัลโฟนขึ้นมาดู
“ดิฉันมี สิบเจ็ด!”
“ฉันมี 15”
“ชั้นมี 28 เพจิกะแล้วเธอล่ะ?” แคลนเทลหันมาถามเธอ
พอพูดเสร็จ ทุกคนหันมามองหน้าเธอ เพจิกะหดตัว ในขณะที่ก้มลงช้าๆ เธอหยิบเมจิคัลโฟนขึ้นมาแล้วตรวจดูสถานะที่หน้าจอ
“ยัง 0 อยู่ค่ะ…”
หน้าจอของเธอที่แสดงเมจิคัลแคนดี้ยังไม่เปลี่ยนไป
“หมายความว่ายังไงกันนะ?” โนนาโกะถาม
“เหมือนว่าพวกเราจะได้รับแคนดี้ถ้าฆ่าศัตรูได้ แต่จำนวนที่ได้ต่างกัน เห็นได้ชัดว่าถึงพวกเราอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันแต่ได้รับไม่เท่ากัน” ริโอเน็ตต้าพูด
ด้านล่างของจอแสดงรายชื่อ แคลนเทล, มิโยคาตะ โนนาโกะ และ ริโอเน็ตต้า ที่เป็นสมาชิกในปาร์ตี้ของเธอ
แคลนเทลจ้องดูอยู่ครู่หนึ่ง
“เหมือนว่าคนที่โจมตีครั้งสุดท้ายจะได้รับรางวัลนะ”
"อ๊ะ ถ้าดูจากจำนวนล่ะก็ ใช่เลย! "
"เพราะงั้นคนที่ไม่ทำอะไรก็เลยไม่ได้อะไรสินะ? "
ริโอเน็ตต้าจ้องมาที่เพจิกะ ร่างกายของเพจิกะหดลงอีกครั้ง
แคลนเทลเอามือตัวเองจับที่คาง แล้วพูดต่อ
"เมจิคัลโฟนของพวกเรามีฟังก์ชั่นแลกเปลี่ยนอยู่ พวกเราควรจะแจกจ่ายแคนดี้ใหม่หลังการต่อสู้แต่ละครั้งนะ"
"เพื่ออะไรล่ะ?" ริโอเน็ตต้าแย้ง "แบบนั้นก็เท่ากับคนที่ทำอะไรน้อยกว่าได้เท่ากับคนที่ทำมากกว่า
น่ะสิ แหม สุดยอดไปเลยเนอะ อย่าลืมสิเรื่อง มาร์กซิสต์ ผู้โด่งดังในศตวรรษก่อนสิ
ดูสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นน่ะ"
"ถ้าจัดการกลุ่มเล็กแบบนี้ก็ไม่เป็นอะไรหรอก
หากศัตรูแข็งแกร่งขึ้นล่ะก็ มันจะกลายเป็นการแข่งว่าใครจะเป็นคนโจมตีครั้งสุดท้ายน่ะสิ"
ริโอเน็ตต้าขมวดคิ้ว เพจิกะเข้าใจสิ่งที่แคลนเทลพูด ในเกม RPG เมื่อมีบอสหรือศัตรูที่แข็งแกร่งออกมา โดยปกติแล้วจะเจอตัวเดียวหรือเจอในจำนวนน้อยๆ ในเวลาแบบนั้น ปาร์ตี้ส่วนใหญ่จะแข่งกันเองเพื่อให้ได้โจมตีครั้งสุดท้าย ดังนั้นการเจอศัตรูที่แข็งแกร่งจึงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว
“ความละโมบน่ะควร ยับยั้งชั่งใจ บ้าง คิดแบบนั้นไหม? ”
“หุบปากได้แล้วย่ะ”
“คือ…ฉันเอาแต่…ดู ดังนั้นไม่ต้อง…”
“เรื่องนั้นน่ะ ครั้งหน้าก็สู้สิ”
คำพูดของแคลนเทล ทำให้เพจิกะหดตัวอีกครั้ง เธออยากหายตัวไปจริงๆ
ตามที่ฟาลพูด ในเกมใช้เวลา 3 วัน แต่จะผ่านไปพริบตาเดียวในโลกจริง เรียกว่าช่วงล็อกอิน
หลังจากนั้นคือช่วงล็อกเอาท์ที่ 3 วันในชีวิตจริง หลังจากนั้นถึงจะเข้ามาในเกมได้อีกครั้ง
ซ้ำแบบนี้เรื่อยๆจนกว่าจะมีคนเคลียเกม เพจิกะเห็นแล้วก็เริ่มปวดท้อง
“ริโอเน็ตต้า แบบนี้เธอโอเคไหม?” แคลนเทลถาม
ริโอเน็ตต้าดูเหมือนไม่เต็มใจแต่ก็พยักหน้า
“ตอนนี้เก็บแคนดี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ต้องหาสนามล่าแล้วล่ะ”
สนามล่า ไม่ใช่คำที่ได้ยินกันบ่อยๆ
เพจิกะคิดว่าพวกเธอพูดถึงสถานที่ๆมอนเตอร์เกิดหรืออะไรแบบนั้น
บี๊บ!
เสียงดังมาจากเมจิคัลโฟนของริโอเน็ตต้า เธอกดปุ่มช่วยเหลือแล้วลูกกลมสีขาวดำก็ออกมา
“มีอะไรเหรอ ปอน?”
“พวกมอนเตอร์ที่ฆ่าไปน่ะจะเกิดใหม่รึเปล่า?
แบบนี้มันน่ารำคาญนะที่ต้องหาสนามล่าใหม่ทุกวัน”
“มอนเตอร์จะเกิดใหม่ทุกเช้าน่ะ ปอน!”
“งั้นเหรอ อีกคำถามนึง ต้องใช้เมจิคัลแคนดี้มากแค่ไหนในการอัพเลเวล?
นี่เป็นเกม RPG ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรแบบนี้ใช่ไหม?”
“เลเวล?”
อารมณ์ของฟาลดูว่างเปล่าเช่นเคย ซึ่งอารมณ์ส่วนใหญ่จะรู้ได้จากน้ำเสียง
เหมือนว่าจะประหลาดใจที่เจอคำถามแบบนี้
“เกมนี้ไม่มีระบบเลเวลนะ ปอน!”
“หือ?”
“แคนดี้น่ะเอาไว้ใช้ซื้อไอเท็มที่ร้านค้านะ ปอน! เป็นเงินของโลกนี้ ปอน!
อาจมีบางกรณีที่เอาไปใช้นอกเหนือจากร้านค้า สำหรับตอนนี้คือใช้ซื้อไอเท็มในร้านค้า ปอน!
แน่นอนว่าใช้เงินจากโลกจริงไม่ได้นะ ปอน!”
“ร้านค้า? มันอยู่ที่นี่เหรอ…?”
“เดี๋ยวสิ ไม่รู้เหรอว่าร้านค้าอยู่ในเมืองเหรอ ปอน?”
เพจิกะ โนนาโกะ ริโอเน็ตต้า แคลนเทล ทั้ง 4 คนมองหน้ากันและกัน
“มีไอเท็มดีๆขายอยู่นะ ไปดูกันด้วยล่ะ ปอน! อ๊ะ พื้นที่ทุ่งหญ้าปลดล็อคไปแล้ว
ถ้าสะดวกก็ไปที่นั่นกันด้วยนะ ปอน!”
“ปลดล็อคพื้นที่? หมายถึงอะไรน่ะ?” ริโอเน็ตต้าถาม
“หมายถึงผู้เล่นคนอื่นทำภารกิจของพื้นที่สำเร็จ แล้วก็เปิดประตูไปสู่พื้นที่ต่อไปน่ะ ปอน!
พวกเธอต้องไม่เชื่อแน่ๆ ปอน! แม้ผู้เล่นคนอื่นจะปลดล็อคแต่พวกเธอเองก็เข้าไปได้เหมือนกันนะ ปอน! ยังมีรางวัลสำหรับภารกิจอื่นอยู่ เราแนะนำว่าให้พวกเธอลอง-”
เสียงของฟาลขาดหายไปกลางคัน เป็นเพราะริโอเน็ตต้าปิดปุ่มช่วยเหลือไปแล้ว
ผู้เล่นคนอื่นกำลังรุดหน้าอยู่ ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีร้านค้าในเมืองอีก ไม่รู้ว่าเมจิคัลแคนดี้คือเงินด้วย
เพจิกะคิดว่าไม่เป็นไร ตอนนี้อีก 3 เองก็ดูร้อนใจเช่นกัน
“ตอนนี้ กลับไปที่เมืองก่อนดีกว่า หลังจากไปที่ร้านค้าแล้ว พวกเราจะไปยังพื้นที่ทุ่งหญ้ากัน”
แคลนเทลพูด ทุกคนพยักหน้ารับ
______________________________________________________________________
☆ ชาโดว์เกล
พยาบาลชุดดำ… ชาโดว์เกลถือประแจอยู่ในมือขวา ถือกรรไกรอยู่ในมือซ้าย เธอเอาทั้งคู่ใส่ลงในกระเป๋าคาดเอว แม้จะอยู่ในสถานกาณ์ที่ไม่ปกติ ตัวเธอก็ยังยิ้มได้เพราะมันสิ่งที่เมจิคัลเกิร์ลควรทำ
เธอเอามือของตัวเองมาปาดเหงื่อที่หน้าผาก ตัวเธอไม่ได้อยู่คนเดียวที่นั่น
“การต่อสู้จบแล้วล่ะ”
ความสามารถทางกายภาพของเมจิคัลเกิร์ลนั้นมีมากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เหมือนกับชาโดว์เกล
แม้เธอจะใช้พลังเวทของตัวเองในการต่อสู้ไม่ได้ แต่เธอก็ต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายอย่างเดียวได้ ซึ่งในความจริงมันไม่มีโอกาสที่จะใช้ความแข็งแกร่งของเมจิคัลเกิร์ลอย่างเต็มที่ แม้แต่ในตอนนี้ ขาไม่ได้งอ ตัวก็ไม่ได้สั่น เธอแปลกใจว่าตัวเองสู้ได้ตามปกติ เธอรู้ดีกว่าทุกคนว่าตัวเธอนั้นไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้เลย บางทีอาจเป็นเพราะศัตรูของเธอไม่ใช่มนุษย์ ดูจากรูปร่างแล้วเห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่ อาจจะเพราะแบบนั้นเลยเอาชนะได้ง่ายๆ
รอบตัวเธอมีสเกเลตันสีแดงล้อมอยู่
"สุดท้ายแล้ว สเกเลตันก็คือสเกเลตัน สีเปลี่ยนไปแต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้น! แค่นี้น่ะไม่คู่ควรกับสุดยอดนางเอก มาสก์วอนเดอร์ ผู้นี้หรอก! "
เมจิคัลเกิร์ลสวมหน้ากาก ยกแขนขวาของเธอขึ้น เอาแขนซ้ายมาไว้ที่อก และอ้าขากว้าง เธอเรียกมันว่า วิคตอรี่โพส ชาโดว์เกลนั้นมากับมาสก์วอนเดอร์ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกตอนเริ่มเกม แต่เธอก็ไม่เข้าความหมายของ วิคตอรี่โพส อยู่ดี
“เอ่อ… เธอโอเคไหม?”
ชาโดว์เกลถามเพราะเป็นห่วง ตอนที่เธอทำวิคตอรี่โพสอยู่นั้น มีอะไรบางอย่างมาโดนด้านหลังศรีษะของมากส์วอนเดอร์ก็อาบไปด้วยสีแดง เห็นแล้วดูเจ็บมากเลย
“แค่นี้น่ะไม่พอที่จะล้ม มาสก์วอนเดอร์ ได้หรอก…แต่ก็เจ็บนิดหน่อย! ”
“เหมือนเธอจะไม่ได้โดนสเกเลตันโจมตี แต่ทำไมถึงบาดเจ็บได้ล่ะ?”
เมจิคัลเกิร์ลที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ถามขึ้นมา ที่ศรีษะและแขนของเด็กสาวนั้นถูกพันด้วยผ้าพันแผล
แต่สีหน้าของเธอดูไม่ได้เป็นห่วงเอาซะเลย
“ก็ตอนที่ขว้างหินใส่พวกสเกเลตัน ตอนนั้นเราเองก็รู้สึกเจ็บด้วยนะ ไม่คิดว่ามีตัวอื่นอยู่ด้านหลังเหมือนกัน…”
“บางทีพวกมันอาจมีพลังพิเศษบางอย่าง การซื้อหนังสือภาพมอนเตอร์ที่ร้านค้าทุ่งหญ้าน่าจะคุ้มค่า แม้ราคาจะสูง แต่ฉันก็เชื่อว่าคุ้มค่ากับการลงทุน”
เมจิคัลเกิร์ลที่นั่งอยู่บนวีลแชร์พูดขึ้น บอกให้พวกเธอดูเมจิคัลโฟน
เมื่อชาโดว์เกลมองดู พบว่าเธอมีเมจิคัลแคนดี้ 56 ชิ้น
“87!!!”
มาสก์วอนเดอร์พูดอย่างแปลกใจ
แม้เธอจะทำท่าโพสทุกครั้งที่จัดการสเกเลตันได้ เธอยังมีแคนดี้มากกว่าชาโดว์เกลอีกงั้นเหรอ?
“เท่านี้ คงพอซื้อหลายๆอย่างแล้ว”
“ว้าว ตรงนี้ได้มากกว่าพวกสีขาวอีก ไม่ผิดใช่ไหม?” ชาโดว์เกลพูด
“พวกเราเพิ่งเปลี่ยนจากที่รกร้างมายังทุ่งหญ้าเอง อาจจะคิดไปว่าศัตรูที่นี่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม จริงๆอาจจะไม่ขนาดนั้น แต่พวกเราต้องให้ความสำคัญกับการเปิดพื้นที่ใหม่มาก่อน”
เมจิคัลเกิร์ลที่อยู่บนวีลแชร์ พีเฟิล พยักหน้ากับตัวเองตอนที่พูด
“เอาล่ะ เปิดแผนที่ พวกเราจะกลับไปยังเมืองทุ่งหญ้ากัน”
พอพีเฟิลพูดเสร็จก็เคลื่อนวีลแชร์ของเธอออกไป
ไม่แม้กระทั่งจะพูดว่า “ตามมาสิ” หรือ “ไปด้วยกันเถอะ” ชาโดว์เกลกับมาสก์วอนเดอร์จึงรีบตามไป
พีเฟิลไม่เปลี่ยนไปเลย ตั้งแต่จับคู่กันกับชาโดว์เกลในโลกจริง ไม่มีอะไรเปลี่ยน
เธอคิดเสมอว่าจะทำอะไรเพื่อคนอื่น นั่นคือทำไมเธอยึดตัวเองเป็นใหญ่ เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองคิดดีกับคนอื่นที่สุด ให้คนอื่นทำตามที่เธอสั่ง เป็นคนที่หยิ่งและเห็นแก่ตัว ทำอะไรตามใจ
และไม่ว่า มาโมริ โทโทยามะ อยู่ที่ไหน ที่นั่นจะมี คาโนเอะ ฮิโตโคจิ อยู่ด้วย
แม้จะเป็นเมจิคัลเกิร์ลก็ไม่เปลี่ยนไป
มาโมริ โทโทยามะ กลายเป็นเมจิคัลเกิร์ล ชาโดว์เกล
ในขณะที่ คาโนเอะ ฮิโตโคจิ กลายเป็นเมจิคัลเกิร์ล พีเฟิล
ชาโดว์เกลนั้นคอยระวังหลังให้พีเฟิลอยู่เสมอ
แต่มาโมริสาบานด้วยเกียรติของเธอว่า จะไม่เคารพ, รัก หรือพึ่งพาเธอแต่อย่างใด
คาโนเอะยืนอยู่เหนือคนอื่นเสมอ ตอนที่เธอจัดการศัตรูเธอก็ทำอย่างโหดร้ายทารุณ
เธอคิดว่าคนอื่นนอกเหนือจากคนที่ใกล้ชิดคือเครื่องมือไม่ก็ทาส
แม้จะเป็นแบบนั้น เธอก็เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าเป็นคนดี มีเมตตา เป็นที่รักของคนอื่นและในความคิดของเธอคิดว่าทุกคนรักเธอด้วย
มาโมรินั้นอยู่ใกล้ชิดกับคาโนเอะกว่าใคร
แม้เธอจะคิดว่า “ยัยนี่น่ากลัวจริง” บ่อยครั้ง
แต่กระนั้น มาโมริยังอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
ตระกูลฮิโตโคจินั้นร่ำรวยมาก มีทรัพย์สมบัติสะสมมากมายหลายชั่วอายุคน
มีมากขึ้น มากขึ้น มาจนอ้วนเหมือนกับสัตว์ประหลาด
พวกเขาใช้เงินไปกับสวนหินของตัวเองพอๆกับเงินที่พนักงานออฟฟิสหาได้ทั้งชีวิต
คฤหาสน์ของพวกเขาคือเมืองทั้งเมือง ดังนั้นพื้นที่ทั้งหมดจะมีชื่อว่า ฮิโตโคจิ
แม้กระทั้งสถานีรถไฟกับป้ายรถเมล์ก็เป็นทรัพย์สินของฮิโตโคจิ
ครั้งหนึ่งมีเด็กซนๆขว้างหินใส่คาโนเอะ
วันถัดมาครอบครัวเขาก็ถูกย้ายไปทันที ไปยังที่ไกลแสนไกล
ตระกูลโทโทยามะนั้น รับใช้ตระกูลฮิโตโคจิมาหลายชั่วอายุคนแล้ว
พ่อแม่ของมาโมริเองก็บอกความหมายชื่อของเธอว่าคือ “ปกป้อง” ในภาษาญี่ปุ่น
“ต้องปกป้องนายหญิงอายุน้อยผู้นี้มากกว่าใครอื่น”
ชีวิตของเธอคือสิ่งนี้ เธอยืนอยู่เบื้องหลังในฐานะผู้ปกป้อง
ตั้งแต่ก่อนที่เธอจะจำความได้ หากมาโมริทำอะไรเอะอะ ผู้ใหญ่ก็จะโกรธเธอ
การที่ยืนอยู่เบื้องหลังคาโนเอะ มาโมรินั้นต้องฟังถ้อยคำสรรเสริญที่มีต่อคาโนเอะมากมาย
ผู้คนที่มาพบตระกูลฮิโตโคจินั้นทำแบบนั้นบ่อยครั้ง แต่มีเพียง 40% ที่มาจากใจจริง
อีก 60% เป็นพวกอยากประจบประแจง
แม้แต่ในโรงเรียนหญิงล้วนของพวกเธอ คาโนเอะก็มีความสามารถด้านวิชาการและกีฬายอดเยี่ยม
แต่เธอเป็นคนเบื่อง่าย ไม่เคยเล่นอะไรได้นาน ร่างกายใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบ
8 ใน 10 คนจะเหลียวมามองเสมอ
ตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย คาโนเอะนั้นเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง
เพราะแบบนี้บางครั้งมาโมริก็ต่อต้านและไม่ร่วมมือด้วย
เธอถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กว่าการรับใช้ตระกูลฮิโตโคจินั้นเป็นเรื่องปกติ
ตั้งแต่นั้น เธอก็เริ่มเห็นพ่อแม่และตัวเองโดนเหยียดหยาม
หลังจากกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลก็ไม่ได้เปลี่ยนไป พีเฟิลยังคงมอบคำสั่ง
แล้วชาโดว์เกลก็จะพูดว่า “อื้อ อื้อ” ทำตามที่สั่งพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อพวกเธอเข้ามาในเกม คำสั่งแรกที่พีเฟิลสั่งคือ
“พันผ้าพันแผลให้ที”
เพราะชาโดว์เกลมีต้นแบบมาจากชุดพยาบาล ตัวเธอจึงมีผ้าพันแผลอยู่ด้วย
“เมจิคัลเกิร์ลน่ะมี 2 ประเภท แบบหนึ่งคือเมจิคัลเกิร์ลสายต่อสู้ กับ ไม่ใช่สายต่อสู้” พีเฟิลพูด
ดูภายนอกเหมือนเธอจะบาดเจ็บ แต่จริงๆเธอไม่ได้เป็นอะไร ส่วนวีลแชร์ที่มาจากแรงบันดาลใจของเธอนั้นยิ่งทำให้ดูเป็นคนป่วยเข้าไปอีก
“เมจิคัลเกิร์ลสายต่อสู้น่ะเหมาะกับการทำงานสกปรก ฉันอยากให้มีคนแบบนั้นอยู่ใกล้ๆหากมีอะไรเกิดขึ้น เพราะพวกเราไม่มีความสามารถแบบนั้น ”
“งั้นแล้วทำไมต้องพันผ้าล่ะ?”
“พวกนั้นต้องมีความปรารถที่จะปกป้องผู้อ่อนแอ
หากเห็นเป็นเด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ไม่ก็คนป่วย ก็จะแสดงความสงสารออกมาไงล่ะ”
เทียบกับชาโดว์เกล คนที่ยังสงสัยว่าทำไมถึงถูกสเกเลตันโจมตี ดูเหมือนพีเฟิลจะวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว เมื่อกำจัดมอนเตอร์, รวบรวมไอเท็ม แต่ก่อนอื่นต้องมุ่งหน้าไปที่เมือง คงเพราะความรู้สึกเหมือนกับเกม RPG ตอนนี้พีเฟิลจะยุ่งกับเมจิคัลโฟนของตัวเองอยู่ เธอทำแม้กระทั่งสำรวจด้านในอาคาร เพื่อหาคำใบ้ที่อาจมีอยู่ในนั้น
นี่คือโลกแห่งเกมใช่ไหม?
ถ้าใช้แสดงว่ายังมีผู้เล่นคนอื่นอีก
หากมีผู้เล่นคนอื่น พวกนั้นคือเมจิคัลเกิร์ลรึเปล่า?
ถ้าเป็นเมจิคัลเกิร์ล พวกเราต้องสู้กันเองไหม?
อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ พีเฟิลถึงพันตัวเองด้วยผ้าพันแผลและแสร้งทำเป็นคนเจ็บ
เพื่อที่จะล่อเมจิคัลเกิร์ลที่มีคุณธรรมอันสูงส่ง ปกป้องผู้อ่อนแอออกมานั่นเอง
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ของชาโดว์เกล
พีเฟิลนั้นไม่ใช่คนที่จะคอยมาอธิบายความคิดตัวเองให้ใครฟัง
จากการที่รู้จัก คาโนเอะ ฮิโตโคจิ มานาน
เธอเป็นคนจำพวกที่ใช้ความปรารถนาดีจากคนอื่นให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง
แล้วเธอก็จับได้มา 1 คน
มาสก์วอนเดอร์ คนที่เหมือนหลุดออกมาจากคอมมิคซุปเปอร์ฮีโร่อเมริกัน
จากชุดรัดรูป ผ้าคลุมสีม่วง หน้ากากสีดำที่เผยให้แค่ดวงตาสีฟ้า ผมสีทองที่ส่องประกายอยู่ใต้แสงอาทิตย์ เป็นคนที่เสียงดัง และรูปร่างดี
“ในนามแห่งความยุติธรรม จะลงโทษความชั่วร้ายเอง! บอกมา เจ้าเป็น มิตร หรือ ศัตรู กันแน่?”
ชาโดว์เกลเข็นวีลแชร์ของเธอไปขตามคำสั่ง
เมื่อมีคนได้ยินเสียงที่เธอตะโกนบนอาคาร เธอก็เห็นใครบางคนกระโดดออกมา
เธอกระโดดลงมาบนพื้น งอเข่า มีฝุ่นกระจายอยู่รอบตัว
เธอยกแขนขวาของเธอขึ้น เอาแขนซ้ายมาไว้ที่อก และอ้าขากว้าง แล้วพูดด้วยเสียงดัง
“เราชื่อ มาสก์วอนเดอร์! เป็นเมจิคัลเกิร์ลแห่งความยุติธรรม!”
ชาโดว์เกลไม่รู้ว่าเธอแนะจนพีเฟิลพูดตอบกลับไป
“ฉันพีเฟิล ส่วนนี่คือชาโดว์เกล ยินดีที่ได้รู้จักนะ มาสก์วอนเดอร์”
“เธอบาดเจ็บนี่นา! พวกสเกเลตันมันทำเหรอเนี่ย?”
“อ่า เพราะแบบนั้นถึงเข้ามาหาพวกเราเหรอ? ดีใจจัง ขอบคุณมากนะ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก สุดยอดนางเอกน่ะช่วยเหลือคนที่เจอปัญหา อยู่เสมอ ล่ะ!”
แล้วก็ได้มาสก์วอนเดอร์เข้ามาช่วย ซึ่งเป็นคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอด
เป็นไปตามแผนของพีเฟิล
หากเป็นความชั่วร้ายโลกนี้ก็ดูง่ายไปหมด ชาโดว์เกลคิดในใจ
หลังจากนั้นพวกเธอไปที่เมือง ตั้งปาร์ตี้ เคลียภารกิจ ปลดล็อคพื้นที่ใหม่
แล้วก็มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ใหม่คือ ทุ่งหญ้า
ภารกิจที่ต้องเคลียของทุ่งร้างคือ “เดินจากมุมหนึ่งของทุ่งร้างไปยังอีกมุมหนึ่ง” ซึ่งเหตุผลที่เคลียได้เร็วขนาดนี้เป็นเพราะพีเฟิล
เวทมนตร์ของพีเฟิล เมจิคัลวีลแชร์ ที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วจนสร้างคลื่นกระแทกและโซนิคบูมได้
ด้วยสิ่งสามารถร่นระยะเวลาจากที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงลดลงเหลือแค่ 20 นาที
ในช่วงเวลาเดียวกัน ชาโดว์เกลกับมาสก์วอนเดอร์ ก็ไปรอบๆพื้นที่ทุ่งร้างเพื่อเก็บสะสมเมจิคัลแคนดี้
ชาโดว์เกลสงสัยว่ามาสก์วอนเดอร์จะคิดยังไงกันนะ ที่เห็นพีเฟิลที่ควรจะเป็นคนเจ็บ แต่กลับพุ่งไปอย่างรวดเร็วแบบนั้น ทิ้งไว้แค่ฝุ่นเป็นทาง
"ดีจัง ที่เธอแข็งแรงดี"
มาสก์วอนเดอร์พูดออกมา เห็นได้ชัดว่า เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี
______________________________________________________________________________
☆ เมจิคัลเดซี่
เมจิคัลแคนดี้ในโลกนี้ก็คือเงิน ซึ่งได้มาจากการฆ่ามอนเตอร์
มันหมายความว่านี่คือรางวัลของการจัดการมอนเตอร์
สำหรับตอนนี้ หากไม่รู้จะทำอะไรก็ควรออกไปเก็บสะสมแคนดี้
เพราะมันรับประกันได้ว่าคือสิ่งที่มีประโยชน์แน่ๆ
นี่คือสิ่งที่ฟาลอธิบาย
แต่ชื่อของ “เมจิคัลแคนดี้” มันเป็นสิ่งที่คุ้นหูมากสำหรับเดซี่และนกโกะจัง
ก็เลยถามฟาลกลับไป
“อ๋อ เป็นการทดสอบของอีกเขตนึงน่ะ ปอน! เมื่อเมจิคัลเกิร์ลช่วยเหลือคนอื่นก็จะได้รับเมจิคัลแคนดี้ จะได้รับมากหรือน้อยขึ้นอยู่ว่าช่วยคนไปมากแค่ไหนน่ะ ปอน! เป็นวิธีเอาไว้วัดการทำเรื่องดีๆของเมจิคัลเกิร์ลน่ะ ปอน!”
มันดูเป็นระบบเกินไป
แต่ด้วยเหตุภายใน ก็เลยกลายเป็นแค่การทดสอบที่ล้าสมัย
ตอนนี้เลยเอาแต่ชื่อมาใช้เท่านั้น
บางทีเดซี่อาจได้ยินเหตุการณ์จากที่ไหนซักที่มาก่อน
______________________________________________________________________
เหมือนกับทุกๆที่ในเกม ร้านค้าในเมืองนั้นว่างเปล่า
มีเพียงไอเท็มฟื้นพลังกับเสบียงแสดงอยู่ในเมนู
เมจิคัลเดซี่กดปุ่มช่วยเหลือเรียกฟาลออกมา
“บัตรผ่านนี่มันใช้ทำอะไร? เห็นตั้งราคาขายอยู่ที่แคนดี้ 5 ชิ้น”
“ต้องใช้บัตรผ่านเพื่อย้ายจากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่งนะ ปอน!
1 ปาร์ตี้ใช้ 1 ใบ ปอน! จะมีผลจนถึงรุ่นสางวันถัดไปล่ะ ปอน!”
“งั้น…ฉันจะซื้อบัตรผ่าน ทุกคนโอเคไหม?”
ทั้ง 3 คนพยักหน้า เมจิคัลเดซี่ ชี้ไปที่เมนู “เอาล่ะบัตรผ่าน 1 ใบแล้วก็…เสบียง?”
“ระดับความหิวเป็นอัตราซ่อนที่อยู่ในเกมนะ ปอน! แต่โชคร้ายหน่อยนะ แม้จะเป็นเมจิคัลเกิร์ล
พออยู่ในเกมพวกเธอก็ต้องกินอยู่ดี ปอน! ระวังอย่าให้หิวกันด้วยนะ ปอน!”
เมื่อฟาลพูดแบบนั้น เดซี่ก็รู้สึกหิวเข้าจริงๆ หลายชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในเกม เพราะไม่มีนาฬิกา อุณหภูมิกับอากาศเองก็ไม่ได้ไปตามธรรมชาติ สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของเวลาไม่ได้เลย
“โอ๊ะ แล้วไอ้ ‘R’ นี่คือ?” เดซี่ถามต่อ
ไอเท็มส่วนใหญ่จะมีชื่อ เช่น โพชั่นขวดใหญ่, โพชั่นขวดเล็ก, เสบียง
เดซี่แค่มองชื่อไอเท็มก็เข้าใจแล้วว่าคืออะไร ส่วนไอเท็ม ‘R’ นี่คือปริศนา
ไม่ใช่แค่ชื่อน่าสงสัย แต่ราคายังแพงกว่าอย่างอื่นอีกด้วย
สำหรับ เสบียง ใช้อันละ 1 แคนดี้ โพชั่นขวดใหญ่ ใช้ขวดละ 20 แคนดี้
เจ้านี่ใช้ตั้ง 100 แคนดี้
“เป็น ไอเท็มสุ่ม น่ะ ปอน! บางครั้งจะได้แรร์ไอเท็มที่เจ๋งๆด้วยนะ ปอน!”
“โอ้!” บางคนพูดขึ้นมาด้วยเสียงสนุกสนาน เดซีคิดว่าคงเป็นจีโนไซโค
“ฮะฮ่า! ว่าแล้วเชียว ในเกมแบบนี้มันต้องมีระบบสุ่มไอเท็มแน่ๆ!”
“มีอะไรน่าตื่นเต้นเหรอ? รูว”
“ลองคิดดูสิ! ถ้ายังเปิดหาไม่ได้ไอเท็มที่ต้องการ เราก็จะเปิดหามันไปเรื่อยๆไม่รู้จบ
จนกระทั่งรู้ตัวว่าจมอยู่หนี้แห่งฝันร้ายแล้ว แล้วอีกไม่นานคนเก็บเงินก็จะโทรมาหาล่ะ”
“นั่น…ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหนเลย รูว”
“เธอไม่เข้าใจเหรอ? นั่นคือจุดสำคัญเลยนะ! อ๊าาา จิตวิญญาณนักสะสมมันตื่นขึ้นแล้ววว!”
“แต่ว่า…พวกเรามีแคนดี้ไม่พอนะคะ” นกโกะจังพูดขึ้นมา
ตามที่นกโกะจังพูด พวกเธอมีแคนดี้ไม่พอ รวมกัน 4 คนมีแค่ 20 ขาดอีก 80 ถึงจะซื้อไอเท็ม ‘R’ ได้
“อ่า แย่จังเลย เจ้านี่น่ะทำให้เกมสนุกขึ้นเยอะเลยนะ รู้ไหม?”
“ตอนนี้เป็นโปรโมชั่นลดราคาอยู่นะ ปอน! เปิดครั้งแรกใช้ 10 แคนดี้เองนะ ปอน!”
เดซี่สาบานได้เลย เธอเห็นตาของจีโนไซโคใต้หมวกนั่นส่องแสงระยิบระยับได้
“เปิดเลย! เปิดเลย! เปิดนะทุกคน! รออะไรอยู่ล่ะ? เอาน่า เปิดเถอะ ตอนนี้ ตอนนี้ ตอนนี้เลย!!! ”
“แต่ซื้อโพชั่นหรือเสบียงไม่ดีกว่าเหรอ รูว?”
“นั่นเอาเงินส่วนที่เหลือไปซื้อก็ได้! ตอนนี้เจ้านี่มันลด 90 เปอร์เซ็นต์อยู่นะ
ถ้าพวกเราไม่ซื้อที่นี่เดี๋ยวนี้ล่ะก็อดแน่ๆ!”
สุดท้ายก็ให้แคนดี้จีโนไซโคไป พวกเธอซื้อไอเท็ม ‘R’ และเปิดได้ ‘แผนที่’
แผนที่ถูกติดตั้งลงในเมจิคัลโฟนเป็นแอป
เมือง พื้นที่ และตำแหน่งปัจจุบันถูกแสดงอยู่บนหน้าจอ
หากเพิ่มชื่อสมาชิกในปาร์ตี้ลงไป ก็จะเห็นตำแหน่งของแต่ละคนได้ด้วย
จีโนไซโคยืดอก
“เห็นม๊า ได้ไอเท็มมีประโยชน์ด้วย เปิดได้ของดีมาใช่ไหมล่ะ!” เธอพูดอย่างภูมิใจ
@เนี๊ยวเนี๊ยวแนะนำว่าให้รวบรวมข้อมูลก่อน
ในขณะที่จีโนไซโคอยากไปสำรวจพื้นที่ใหม่ นกโกะจังนั้นคอยทำตามที่เดซี่ตัดสินใจ
และในที่สุดเดซี่ก็ตัดสินใจได้ “ไปสำรวจพื้นที่ใหม่กันเถอะ”
ตั้งแต่ที่ทุกคนตัดสินใจเข้าร่วมเกม เดซี่ก็ลงเอยด้วยการกลายเป็นผู้นำของกลุ่ม
เธอไม่รังเกียจอะไรหากจะมีคนเชื่อใจ แต่มันก็นานมาแล้วที่ไม่ได้เป็นแบบนี้
บางทีเธอควรจะตื่นเต้นกับเรื่องนี้กว่าที่คิดก็ได้
เธอรู้สึกว่าหากจะไปพื้นที่อื่นต้องระวังตัว แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าอยู่ที่ทุ่งร้างต่อไปจะเป็นเรื่องดี
ด้วยการเข้าร่วมเกมนี้และรับบทเป็นผู้นำ เดซี่ต้องการที่จะชนะ หมายความว่าพวกเธอต้องเดินไปข้างหน้าตามคนที่มาก่อนให้ทัน
พวกเธอจัดการสเกเลตันที่ขวางทาง เดินไปตามแผนที่ที่แสดงอยู่บนเมจิคัลโฟน
ในที่สุด พวกเธอก็พบว่าทางถูกขวางไว้โดยประตูไม้โบราณ เหมือนสิ่งก่อสร้างในยุคเอโดะ
ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างยอดเขาสูง
เมื่อเดินผ่านไปพบว่า ทุ่งร้างกลายเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้า
หญ้าสีเขียวสดใสที่ยาวถึงเข่าพริ้วไหวไปตามสายลมจนไปถึงขอบฟ้า
ดูสบายตากว่าทุ่งร้างมาก
แสงแดดก็ไม่แรงเท่าด้วย อุณหภูมิก็เช่นกัน
“หืม ยังเป็นพื้นที่โล่งกว้างไม่เปลี่ยนสินะ”
จีโนไซโคเอนตัวไปข้างหน้า เอามือไว้บนหมวก มองดูไปรอบๆ
นอกจากประตูด้านหลังแล้ว พื้นที่นี้ดูสบายตาขึ้น แต่ก็เบื่อได้เช่นกันหากมองนานๆ
“หวังว่าจะมีเมืองอยู่ใกล้ๆเหมือนก่อนหน้านี้นะคะ…”
นกโกะจังเอาแผนที่ในเมจิคัลโฟนขึ้นมาดู
“เมืองก็ดีอยู่หรอก แต่ในเกมแบบนี้ สิ่งที่พวกเราจำเป็นต้องมีจริงๆคือจุดฟาร์มแคนดี้นะ”
จีโนไซโคออกหมัดแย็บซ้ำๆ เหมือนว่าทำชาโดว์บ๊อกซิ่งอยู่
“เหมือนฟาลจะบอกว่า ประตูจะเปิดถ้าทำภารกิจของพื้นที่เสร็จแล้ว มันมีรางวัลด้วยใช่ไหม รูว?”
@เนี๊ยวเนี๊ยวพูดในขณะที่นั่งลงสำรวจทุ่งหญ้า
ความคิดหลายๆนั้นทำให้เดซี่หยุดคิด การหาสถานที่ฟาร์มเองก็สำคัญเช่นกัน
เมจิคัลเดซี่นั้นได้บอกตัวเองว่าห้ามใช้ความรุนแรงใดๆ
ดังนั้นพวกสเกเลตันจึงเป้าที่เหมาะกับการระบายความหงุดหงิดของเธอที่เก็บเอาไว้
แม้จะเป็นศัตรูที่อ่อนแอ แต่นั่นคือสิ่งดีที่สามารถฆ่าให้ตายโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่อยงจริยธรรมอะไร
ภารกิจหลักเองก็สำคัญ พวกเธอจำเป็นต้องไปยังพื้นที่ใหม่ๆเพื่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า
และแน่นอนหากจะจบเกมเป็นคนแรก ต้องทำให้เร็วด้วย นั่นคือเรื่องทั่วไปในวีดีโอเกม
เพราะแบบนั้น เดซี่จึงบอกตัวเองว่าให้ใจเย็นไม่ว่าจะสู้หรือไม่สู้ก็ตาม
การต่อสู้น่ะมันสนุก โดยเฉพาะ…ในเกม
ข้อดีของเกมคือไม่ต้องรู้สึกผิดใดๆ สู้ได้ตามที่อยาก และตัวเธอก็ต้องการทำเรื่องเหล่านี้ด้วย
“เอาล่ะ ไปที่เมืองกันก่อน! พวกเราต้องหาคำใบ้เรื่องภารกิจที่ต้องเคลียในพื้นที่
แล้วก็หาที่ดีๆไว้ฟาร์มด้วย”
______________________________________________________
เมื่อเข้ามายังพื้นที่ใหม่แล้ว แผนที่ของพื้นที่ใหม่นั้นก็จะแสดงขึ้นมาทันที
พวกเธอเลยรู้ว่าเมืองอยู่ตรงไหน
เป็นแผนที่ที่ใช้งานได้ดีจริงๆ จีโนไซโคพูดอย่างตื่นเต้น
เอาล่ะ มุ่งหน้าไปที่เมืองทุ่งหญ้ากันเถอะ
พวกเธอเดินไปได้ไม่ถึง 5 นาทีก็พบกับ…
“หวา! สีแดงล่ะ!” จีโนไซโคพูดขึ้น
“อี๋…ขยะแขยงจังค่ะ…” นกโกะจังทำหน้าบูดเบี้ยว
นี่เข้ามาในพื้นทีของมอนเตอร์แล้วเหรอเนี่ย?
สเกเลตันหลายตัวคลานขึ้นมาจากพื้นแต่ไม่เหมือนกับที่ทุ่งร้าง พวกมันถูกย้อมด้วยสีแดง
“สเกเลตัน มาร์ค II สินะ รูว?”
“ตัวเดิมเปลี่ยนแต่สีเนี่ย ไม่สมกับเป็นเกมที่สร้างมาจากเวทมนตร์เลย”
“ทุกคนระวังตัวด้วย” เดซี่พูด “ตอนนี้พวกเราอยู่ในพื้นที่ใหม่ ดังนั้นศัตรูอาจจะแข็งแกร่งขึ้น
อย่าตัดสินมันจากหน้าตา สู้ด้วยทุกอย่างที่มีซะ!”
จีโนไซโคเอาที่บังหน้าของเธอลง @เนี๊ยวเนี๊ยวยืนอยู่ในท่าแบบกังฟู
ส่วนนกโกะจังก็จับไม้ถูพื้นที่ติดริบบิ้นของเธอ
พวกเธอมีแผนที่จะสู้กับพวกมอนเตอร์นี่แล้ว
ก่อนอื่น จีโนไซโคเข้าโจมตีก่อน
ตามที่จีโนไซโคบอก พลังเวทของเธอคือ ‘สูทอมตะ’
แม้แต่ซุปเปอร์โนว่าหรือบิ๊กแบงก็ไม่มีผลกับตัวเธอ…
ตราบเท่าที่เธอไม่ได้เอาที่บังหน้าขึ้น เหมือนว่าจะไม่มีการโจมตีแบบไหนได้ผลเลย
ถ้าหากเป็นเดซี่บีมของฉันล่ะ…
ความคิดนั้นผ่านเข้ามาในหัวของเดซี แต่เธอไม่ได้พูดออกไปดังๆ
เมจิคัลเดซี่คือเมจิคัลเกิร์ลที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ดังนั้นเธอไม่ควรจะคิดอะไรแบบนี้
จีโนไซโค เตะ ต่อย และอาละวาดใส่ศัตรู่ตรงหน้า ปืนลำแสงที่เอวของเธอดูเหมือนจะเป็นเครื่องประดับจริงๆ เธอใช้แต่การต่อสู้มือเปล่า ไม่เคยเห็นเธอหยิบมาใช้เลย
เธอตรวจสอบการโจมตีของศัตรู ไม่ว่าศัตรูจะโจมตีมาแบบไหน และรุนแรงเพียงใด
“โอ้! เหมือนว่าไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ!! ไม่ได้ต่างจากตัวสีขาวเท่าไหร่เลย!”
หลังจากเธอรายงานแบบนั้น @เนี๊ยวเนี๊ยวกระโดดเตะใส่สเกเลตัน
นกโกะจังก็เอาไม้ถูพื้นของเธอทุบไปมา ทำลายกระโหลกของพวกสเกเลตันแตกเป็นเสี่ยงๆ
เมจิคัลเดซี่เองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ
ใช้เข่าโจมตี, ใช้ฝ่ามือ, เตะไปด้านหน้า เธอจัดการสเกเลตันได้ตามที่เธอฝึกฝนมา
แค่พริบตา สเกเลตันทุกตัวถูกกำจัดจนเหลืออยู่เพียงตัวเดียว
"ทุกคนถอยไป! ฉันจะจัดการด้วยท่าไม้ตายเอง!"
เมื่อเห็นว่าทุกคนหลบไปแล้ว เธอจึงชีนิ้วไปที่สเกเลตัน และตะโกนออกมา
เธอควรจะโจมตีแบบปกติ แต่ว่ามีแฟนๆของเธออยู่ด้วย คงจะเสียชื่อพอดีหากไม่ได้จัดการด้วยท่าไม้ตาย นี่คือแฟนเซอร์วิส
“เดซี่ บีมมมม!”
ลำแสงสีเหลืองโดนตัวของสเกเลตันตรงๆ
เธอคิดว่ากระดูกจะแตกกระจัดกระจายเป็นชิ้นๆ ซี่โครงบินขึ้นฟ้า
แต่สเกเลตันกับเดินอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
@เนี๊ยวเนี๊ยวกระโดดเข้าไปหา เตะเข้าไปที่ส้นเท้า เอว ลำคอ และทั่วร่างของสเกเลตันอย่างรวดเร็ว จนกำจัดมันได้
จีโนไซโคชี้ไปที่เดซี่แล้วกรีดร้องออกมา ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างเดซี่กลับไม่ได้ยิน
มีบางอย่างไหลพรวดออกมาจากคอของเธอ ทะลักออกมาเป็นของเหลวอุ่นๆ
เธอมองเห็นท้องฟ้า มันเป็นสีฟ้าสดใส ท้องฟ้าที่ไร้เมฆมีแต่ดวงทิตย์ลอยอยู่
มีอะไรบางอย่างโจมตีเดซี่จากด้านหลัง เมจิคัลเดซี่เห็นหน้าท้องของเธอเต็มไปด้วยสีแดงฉาน เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด และหัวใจของเธอเต้นแรงเป็นครั้งสุดท้าย
และในที่สุดเธอก็สิ้นใจ
______________________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
เอาเมืองเป็นฐาน, ล่ามอนเตอร์ในทุ่งหญ้า, เก็บรวบรวมเมจิคัลแคนดี้
ในเวลาเดียวกันก็รวบรวมข้อมูลเรื่องภารกิจที่ต้องเคลียของพื้นที่ไปด้วยและหาคำใบ้เพื่อจบเกมไปด้วย
การแยกตัวกันนั้นมีความเสี่ยงก็จริง แต่ต้องขอบคุณแผนที่ที่พวกเธอเปิดได้มากจากไอเท็ม ‘R’
จึงทำให้รู้ตำแหน่งของแต่ละคนในปาร์ตี้
พวกเธอตัดสินใจแบ่งเป็น 2 ปาร์ตี้ ปาร์ตี้ต่อสู้ และปาร์ตี้ลาดตระเวณ
เพจิกะรู้สึกโล่งอกจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอไม่กล้าพอที่จะเข้าร่วมปาร์ตี้ต่อสู้
และทนไม่ได้ที่จะเผชิญกับสายตาที่จ้องมองว่าตัวเองไม่ทำอะไรเลย
ริโอเน็ตต้ายังซุบซิบแสดงความเห็นอยู่ บางทีเพจิกะอาจจะได้ยินเธอพูดว่า
"พวกเราปาร์ตี้กัน 3 คนดีกว่า" ออกมาก็ได้
“ฉันว่า ถ้าแบ่งเป็น 2 ปาร์ตี้จะดีไหม?” ริโอเน็ตต้าพูด
เพจิกะคิดว่าได้ยินริโอเน็ตต้าพึมพำว่าไม่ได้ขอเพจิกะมาเข้าปาร์ตี้ของเธอ
เพราะเธอทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ได้แต่รอให้เวลาผ่านไปเท่านั้น
เธออยากเคลียพื้นที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่รู้สึกเลยว่าเกมมันคืบหน้า
แต่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่ดีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพจิกะบอกไม่ได้ว่ามันจะหายไปตอนไหน
เพจิกะอาสาตัวเองเข้าปาร์ตี้ลาดตระเวณ
“ฮ่าฮ่าฮ๋า! มาหาข้อมูลชนิดที่ว่า ยัยตุ๊กตา นั่นยังต้องตะลึงกันดีกว่า”
เพจิกะกลัวคำพูดหยาบคายของริโอเน็ตต้า เหมือนกับความเงียบของแคลนเทล
หากเทียบกับสองคนนั้นแล้ว มิโยคาตะ โนนาโกะนั้นไม่ได้น่ากลัว และรูปร่างนั้นดูปกติ ดูเป็นมนุษย์กว่าทั้งสองคนด้วย
“พื้นที่ทุ่งหญ้านี่มันดีจังคิดงั้นไหม? อย่ากลับไปที่ทุ่งร้างอีกเลยเถิด!”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ แต่ช่วยเบาเสียงซักนิด…”
“หวังว่าจะมีตัวอะไรอยู่แถวนี้บ้างนะ ถ้ามีล่ะก็ดิฉันจะรับมาเลี้ยงเอง!”
“เอ่อ…”
“เพจิกะกลายมาเป็นเมจิคัลเกิร์ลได้ยังเหรอ? ดิฉันเป็นได้เพราะได้รับเมลน่ะ!”
“คือฉันบอกว่า…”
“น่ารักใช่ไหมล่ะ!? ความน่ารักน่ะคือ ยุติธรรม!! นะ”
“เอ่อ… คือช่วยอย่า…”
ในขณะที่ลาดตระเวณนั้น มิโยคาตะ โนนาโกะ พูดเสียงดังแบบไม่หยุด
เพจิกะกังวลว่ามอนเตอร์จะโผล่ออกมาเพราะเสียงของเธอรึเปล่า
เมื่อทิวทัศน์เปลี่ยนไปโนนาโกะจะเริ่มพูดจ้อ เมื่อลดพัดเธอก็จะหัวเราะ
แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอก็จะพูดเรื่องตัวเองต่อไป
ตามที่มิโยนากะพูด เธอมีเพื่อนที่น่ารักมากๆชื่อว่า ทามะจัง
แต่เธอพาทามะจังเข้ามาในเกมกับเธอด้วยไม่ได้
ตามที่ฟาลบอก นอกจากชุดและอาวุธของเมจิคัลเกิร์ลแล้ว จะนำอย่างอื่นเข้ามาในเกมไม่ได้
เรื่องทั้งหมดนี้มันเหนื่อยกว่าการเดินซะอีก เพราะความเหนื่อยล้าจึงทำให้เสบียงรสชาติอร่อยขึ้น
แต่เพจิกะไม่รู้สึกดีใจเลย
“ควรมีอย่างอื่นนอกจากสเกเลตันด้วยสิ!”
พวกเธอนั่งลงบนหินและกำลังกินเสบียงแห้งๆที่ไร้รสชาติ
ตูม!
โนนาโกะทุบหินที่อยู่ใกล้ตัวเธอ เพจิกะตกใจจนทำอาหารของเธอหล่นลงพื้น
เธอหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป่าฝุ่นก่อนที่จะทานต่อ
“ถ้ามีแต่สเกเลตันออกมา ดิฉันก็ใช้พลังเวทไม่ได้ หากสร้างเพื่อนได้ล่ะก็ดิฉันก็จะมีประโยชน์กับปาร์ตี้เป็นครั้งแรก! แต่ตอนนี้ดิฉันเป็นแค่เมจิคัลเกิร์ลที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ คนแบบนั้นไม่มีใครต้องการหรอก”
เพจิกะทำได้แค่ทำอาหารอร่อยๆ เธอจึงพูดไม่ได้ว่าตัวเองมีส่วนร่วมกับปาร์ตี้มาก
เธอสงสัยว่ามิโยคาตะคิดยังไงกันนะ แต่เธอกลัวที่จะถามออกไป
“เพราะแบบนั้นดิฉันถึงได้มองหามอนเตอร์ใหม่ในพื้นที่แห่งนี้ตอนลาดตระเวณยังไงล่ะ!”
โนนาโกะพูดพร้อมกับกำหมัด
“เพจิกะ! ถ้าเห็นมอนเตอร์ใหม่ล่ะก็บอกให้รู้ด้วยนะ! เพื่อแทนคำขอบคุณ หากคนอื่นพยายามไล่เธอออกจากทีมล่ะก็ ดิฉันจะ ปกป้อง เธอเอง!”
“อ่า…ขอบคุณค่ะ…”
มิโยคาตะจับมือของเพจิกะและส่ายขึ้นลง เหมือนว่าจะพยายามให้กำลังใจ
แม้สิ่งที่เธอพูดนั้นจะฟังดูแปลก แต่เพจิกะก็ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไร
เทียบกับที่ทุ่งร้างแล้ว ที่ทุ่งหญ้านี้ดูมีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตมากกว่า
แม้โนนาโกะนั้นจะพูดถึงเรื่องมอนเตอร์ประเภทอื่น
แต่ช่างโชคร้ายไม่มีมอนเตอร์ตัวอื่นนอกจากสเกเลตันสีแดงออกมาเลย แม้แต่มดก็ยังไม่เห็น
“ห่วยแตก! เกมนี้มันโคตรห่วยแตก!”
โนนาโกะพึมพำ เพจิกะพยักหน้าตาม
ไม่มีมอนเตอร์ออกมา สำหรับเพจิกะที่กลัวมอนเตอร์นั้นคือโชคดี
แต่สำหรับโนนาโกะคือโชคร้าย แต่พวกเธอก็ได้พบกับผู้เล่นคนอื่น
พีเฟิล เมจิคัลเกิร์ลที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ ที่พบกันในเมืองบอกว่าเธอกำลังทำภารกิจเพื่อปลดล็อคพื้นที่ต่อไปอยู่ ส่วนสมาชิกในปาร์ตี้คนอื่นนั้นก็ออกไปรวบรวมแคนดี้
เธอดูเหมือนจะหายไปหากสัมผัส หากแตะต้องอาจแตกสลาย
เพจิกะคิดว่ามันดีแล้วเหรอที่ปล่อยเธอทำคนเดียว แต่เสียงของพีเฟิลก็เข้มแข็งกว่าตัวตนที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า ถึงยังไงเธอก็คือเมจิคัลเกิร์ล
“เหมือนว่าหลายๆปาร์ตี้จะเริ่มกันแล้วสินะ แต่ก็ยังมีผู้เล่นเดี่ยวตามใจอยู่คนนึงด้วย” พีเฟิลบอกพวกเธอ
ผู้เล่นเดี่ยว… แค่คิดว่าต้องจัดการสเกเลตันคนเดียวก็ทำให้เพจิกะตัวสั่นแล้ว
หากเป็นเธอล่ะก็ คงโดนฆ่าในพริบตาแน่
“มีกลุ่มนึงกำลังล่าอยู่ทางด้านตะวันออกของเมือง อีกกลุ่มทำแบบเดียวอยู่ทางใต้” พีเฟิลพูดเสริม
“แต่แปลกนิดหน่อย ตรงที่ยังไม่ได้กำหนดพื้นที่อะไรกัน แต่ทุกคนก็กระจายตัวออกไปแบบเอง
อ๊ะ! อีกอย่างนึงพวกสเกเลตันสีแดงในพื้นที่ทุ่งหญ้าน่ะ ระวังพวกมันด้วย”
“แต่พวกมันอ่อนแอนี่นา! ไม่เห็นต่างจากพวกสีขาวเลย!”
“ไม่เหมือนสีขาวนะ พวกสีแดงมันมีความสามารถสะท้อนการโจตีระยะไกลได้”
พีเฟิลพูด พร้อมเอาเมจิคัลโฟนของตัวเองออกมาให้พวกเธอดูภาพของสเกเลตันสีแดง
ภาพของสเกเลตันนั่นดูแข็งแกร่งกว่าของจริงซะอีก
ชื่อ: สเกเลตันทรงพลัง
เมจิคัลแคนดี้: 8 ~ 12
พื้นที่เกิด: ทุ่งหญ้า
จำนวนต่อกลุ่ม: 5 ~ 20
ธาตุจุดอ่อน: ไฟ
สามารถสะท้อนการโจมตีระยะไกลได้ กรุณาใช้การโจมตีระยะประชิดเพื่อกำจัด
มีคำอธิบายเพิ่มเติมของสเกเลตันสีแดงแสดงอยู่บนหน้าจอ
“คนในปาร์ตี้ของฉันขว้างหินใส่ แล้วตอนนี้บนศรีษะของเธอก็มีแผลใหญ่” พีเฟิลอธิบาย
“อะไรล่ะนี่? ข้อมูลมอนเตอร์?”
“เป็นข้อมูลจากสมุดภาพมอนเตอร์ ขายอยู่ในร้านค้าทุ่งหญ้าน่ะ ฉันคิดว่านี่เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน ถ้าเธอโจมตีมันจากระยะไกล มันก็จะสะท้อนกลับ”
เพจิกะกับโนนาโกะรีบส่งข้อความหาแคลนเทลทันที
‘สเกเลตันสีแดงสะท้อนการโจมตีระยะไกลได้’
พวกเธอแลกเบอร์กัน เหมือนแอปอีเมลจะยังใช้ไม่ได้ แต่ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างจึงยังสามารถส่งข้อความหาคนในเกมได้
“พวกเธอควรไปที่ร้านค้าทุ่งหญ้านะ มันมีไอเท็มดีๆขายอยู่ อาวุธกับชุดเกราะก็มี แม้วัสดุจะดูเรียบง่ายสำหรับเมจิคัลเกิร์ลไปหน่อย”
เพจิกะจดสิ่งที่พีเฟิลลงบันทึกในเมจิคัลโฟน แล้วก็แยกกันกับพีเฟิล
แม้จะเป็นการบอกข้อมูลให้กับพวกเธอฝ่ายเดียว แต่พีเฟิลก็ยังยิ้มและโบกมือลาพวกเธอ
“เธอเป็น คนดี จังเลยว่าไหม?”
“ค่ะ…ฉันดีใจจริงๆที่เราได้เจอคนดีๆ” เพจิกะเห็นด้วย
พีเฟิลเป็นเมจิคัลคนเดียวที่พวกเธอพบในขณะลาดตระเวณ
คนอื่นคงจะฆ่ามอนเตอร์อยู่ที่ไหนซักแห่ง เพราะที่ทุ่งหญ้านี้ได้แคนดี้เยอะกว่าที่ทุ่งร้าง
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่มีคนอยากฟาร์มแคนดี้กัน
มีข้อความอยู่เต็ม ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิต มีเพียงอาคารรูปร่างแปลกตา มีคำใบ้เขียนอยู่ในโปสเตอร์ ไม่ใช่คำใบ้แบบว่า ‘ที่นี่คือเมืองทุ่งหญ้า’ แต่เป็น ‘มอนเตอร์จะเกิดที่จุด X’
ร้านค้าในแต่ละเมืองมีของที่ขายต่างกันควรระวังไว้ด้วย เพจิกะจดไว้ทุกๆอย่าง
“ดิฉันไม่ชอบแบบนี้เลย”
“เอ๋? ทำไมเหรอคะ?” เพจิกะถาม
“ก็มันไม่มีหีบสมบัติอยู่ในบ้านเลยนี่นา! มองหาทุกที่แล้วแต่ก็ไม่เจอเลย”
“อ่า งั้นเหรอคะ…”
แม้โนนาโกะจะบ่นโอดโอย เพจิกะก็หยิบจดหมายในบ้านหลังหนึ่งขึ้นมา ทำตามขั้นตอนที่เขียนไว้ หลังจากนั้นเธอก็ได้รับเมจิคัลแคนดี้ 100 ชิ้น
“เท่านี้ภารกิจก็ สำเร็จ อย่างงดงาม!” โนนาโกะตบมือ
เหมือนว่าจะกลับมาอารมณ์ดี ส่งเสียงดังเหมือนเดิมแล้ว เพจิกะคิด
ตกดึก พวกเธอตรวจสอบจำนวนแคนดี้ แล้วก็เข้าไปรวมกลุ่มกับปาร์ตี้ต่อสู้ที่ด้านหน้าเมืองทุ่งหญ้า
นั่งเป็นวงกลมแลกเปลี่ยนข้อมูลกันและกัน พูดถึงเรื่องเมจิคัลแคนดี้ที่หามาได้
ดูเหมือนการประชุมรอบกองไฟ แต่เมจิคัลเกิร์ลนั้นสามารถมองเห็นได้ในความมืด จึงไม่ต้องห่วงเรื่องมอนเตอร์และกังวลเรื่องความอบอุ่น
ริโอเน็ตต้าดูเหนื่อยมาก หน้าตาของเธอดูไม่ค่อยดีแถมไม่ค่อยพูดด้วย ส่วนแคลนเทลก็เงียบตามปกติ แต่หางของเธอไม่ได้ส่ายไปมา หมายความว่าเธอเองก็เหนื่อยเช่นกัน
เพจิกะคิดว่าพวกเธอเหนื่อยจากการต่อสู้ แต่เหมือนว่าไม่ใช่แบบนั้น
“พวกเราแทบจะไม่ได้แคนดี้เลย” ริโอเน็ตต้าพูด
“โฮ่! คราวก่อนเจ้าพูดยังไงเรื่องคนที่ไม่ได้ทำงานกันนะ?”
“ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำแต่ ทำไม่ได้ เลยต่างหาก”
ทุกครั้งที่พวกเราเจอสนามล่าแห่งใหม่ ก็จะเจอเมจิคัลเกิร์ลอยู่ที่นั่นแล้ว
พวกนั้นบอกเราว่า ‘นี่คือที่ของพวกเรา ไปหาที่อื่นซะ’ แล้วก็ไล่พวกเราออกมา
“เป็นคนที่ น่ารังเกียจ ซะจริง!”
“เห็นด้วย น่ารังเกียจเหมือนเธอเลย”
ก่อนที่โนนาโกะจะรายงาน แคลนเทลกระทืบกีบเท้าเธอลงบนพื้น
โนนาโกะจึงนั่งลง แล้วริโอเน็ตต้าก็ปิดปาก
เพจิกะจับเสบียงของเธอพร้อมสั่นไปด้วย
ไม่ว่าเธอจะหิวมากแค่ไหน เธอก็กินอาหารนี่ไม่ลง เพราะมันไม่อร่อยเลย
แต่กระนั้นเพจิกะคิดว่า ริโอเน็ตต้าเป็นคนเดียวที่พฤติกรรมไม่ดี และแคลนเทลเองก็เป็นคนที่ไม่ให้อภัยกับคนที่มีทำอะไรแย่ๆ ถ้ามีคนบอกให้พวกเธอไสหัวไปที่อื่น พวกเธอจะไปจริงๆเหรอ?
เห็นทั้งสองคนดูเหนื่อยแบบนี้ เป็นไปได้ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่เพจิกะคิด เมจิคัลโฟนของเธอก็ดังขึ้น ไม่ใช่แค่ของเพจิกะแต่ของคนอื่นก็ด้วย
บนหน้าจอมีข้อความแสดงอยู่ว่า
แจ้งเตือนกิจกรรม! อีก 5 นาทีผู้เล่นทุกคนจะถูกเทเลพอร์ตไปที่เมืองทุ่งร้าง!
______________________________________________________________________________
☆ ชาโดว์เกล
สถานที่เปลี่ยนไปแบบฉับพลันเหมือนกับตอนที่เริ่มเกม ขาของชาโดว์เกลรู้สึกไม่มั่นคง เธอจึงด้านหลังวีลแชร์ของพีเฟิลเอาไว้
เป็นพลังที่บังคับให้เคลื่อนย้ายจริงด้วย
ในตัวเมืองนั้นมีเมจิคัลเกิร์ลรวมตัวกันอยู่ แม้จะเป็นเกม แต่การได้เห็นเมจิคัลเกิร์ลมารวมตัวในที่เดียวกันมันก็ดูน่าตื่นเต้น
เมจิคัลเกิร์ลชุดมิโกะเดินเข้าไปหาเมจิคัลเกิร์ลชุดซามูไรแล้วตะโกนคำพูดแปลกๆออกมา
"เกอิชา! ฮาราคีรี! เก็นชูวเดะโกซารุ!"
แต่เมจิคัลเกิร์ลชุดซามูไรไม่ได้สนใจเธอ
เมจิคัลเกิร์ลชุดเมด, ชุดจีน และชุดไซไฟ
ทั้ง 3 คน นั่งอยู่ที่มุมคุยอะไรกันอยู่กับเมจิคัลเกิร์ลที่สวมหมวกกับผ้าคลุมเหมือนนักสืบชื่อดัง
บางทีชาโดว์เกลอาจคิดไปเองแต่พวกเธอดูหน้าซีดมาก
เมจิคัลเกิร์ลที่ครึ่งล่างเป็นกวาง หางของเธอนั้นส่ายไปมาอยู่ที่พื้น เธอรู้สึกตื่นเต้นอยู่รึเปล่านะ ข้างๆเธอนั้นมีเมจิคัลเกิร์ลชุดเชฟทำอาหารอยู่ด้วย ตัวเธอรู้สึกเหมือนไม่สบายใจ
ชาโดว์เกลมองพวกเธอทุกคน และสายตาก็ไปหยุดที่คนๆหนึ่ง
เธอจึงกระซิบกับพีเฟิล “นั่นเธอคนนั้นไง”
สายตาของเธอไปหยุดที่เมจิคัลคนหนึ่งที่สวมชุดแฮมเตอร์ ดูเป็นเมจิคัลที่นุ่มนิ่มน่ารัก
เธอกำลังเคี้ยวเม็ดทานตะวันขนาดยักษ์ มีเมจิคัลเกิร์ลอีกคนที่คาดธนูขนาดใหญ่กำลังคุยกับเธออยู่ข้างๆ แต่บอกได้ยากว่าเด็กสาวชุดแฮมเตอร์ฟังอยู่รึเปล่า
“ใช่แล้ว ไม่ผิดแน่ แต่ขนาดต่างกันน่ะ”
จากคำพูดของชาโดว์เกล มาสก์วอนเดอร์พยักหน้าตอบรับ
______________________________________________________________________________
ในตอนที่พีเฟิลกำลังรวบรวมข้อมูล ชาโดว์เกลกับมาสก์วอนเดอร์ก็ออกไปรวบรวมเมจิคัลแคนดี้
ล่ามอนเตอร์ ต่อสู้กับพวกมันแบบไม่หยุด
แม้แต่ในเกมก็ยังมี นายทุนกับคนงาน, ผู้บริการกับกรรมกร, ผู้ใช้กับผู้ถูกใช้ ไม่เคยเปลี่ยน
พวกเธอวิ่งในทุ่งหญ้าอันไร้สิ้นสุด จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
สำรวจทุกซอกมุมของพื้นที่จนพบกับหน้าผาสูงชันที่ทำหน้าที่เป็นเขตแดน
จัดการสเกเลตันสีแดงทุกตัวที่เจอตามทาง
เมื่อพวกเธอพักกินอาหารก็เกิดเรื่องขึ้น
มาสก์วอนเดอร์รู้ตัวคนแรก “นั่น…อะไรน่ะ?”
ชาโดว์เกลมองตามสายตาเธอไป มาสก์วอนเดอร์วางฝ่ามือของเธอลงบนพื้น มองอย่างตั้งใจ
ชาโดว์เกลทำเหมือนกัน ตอนแรกเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนในที่สุดเธอก็รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้อย่างช้าๆ มันแรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ
“ดูนั่นสิ” มาสก์วอนเดอร์พูดกระตุ้นให้เธอดู ชาโดว์ก็มองตามไปอีกครั้ง
เธอเห็นอะไรบางอย่างตรงเส้นขอบฟ้าเดินเข้ามาหาพวกเธอ
มันดูเหมือนมอนเตอร์ แต่ก็ดูเหมือนคือเมจิคัลเกิร์ล
ชาโดว์เกลขยี้ตาแล้วมองดูอีกครั้ง
“เอ่อ…มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับที่นี่รึเปล่านะ?”
“สำหรับเราก็ปกติดีนะ”
เทียบกับชาโดว์เกล, มาสก์วอนเดอร์ และพีเฟิลแล้ว ตัวเธอดูใหญ่กว่ามากๆ
แรงสั่นสะเทือนจากพื้นดินแรงขึ้นและแรงขึ้น แรงพอที่จะยกชาโดว์เกลขึ้นจากพื้นได้
จะมีสิ่งมีชีวิตซักกี่ชนิดบนโลกที่แค่วิ่งก็สร้างแผ่นดินไหวได้แล้วบ้างนะ?
เธอหยุดที่ระยะประมาณ 100 เมตรก่อนจะถึงตัวพวกเธอ แม้จะอยู่ไกลแต่ก็ยังต้องเงยหน้ามอง
ความสูงของเธอ…
ไม่สิ รวมทุกอย่างของตัวเธอแล้วน่าจะสูงเกิน 30 เมตร
“ห้ามล่าที่นี่นะ!” เธอตะโกนออกมา
เสียงของเธอก็ใหญ่เช่นกัน หญ้ารอบๆตัวพวกเธอสั่นตามที่เธอพูด
ชาโดว์เกลรู้สึกเหมือนว่าเธอจะปลิวไปได้เลยหากไม่ก้มตัวต่ำลง
“ทีมของเชอร์น่าเจอที่นี่ก่อน! ออกไปเลยนะ!”
เจ้ายักษ์นั่นตะโกน บอกให้พวกเราออกไปจากที่นี่
นั่นหมายความว่าเธอไม่ใช่มอนเตอร์ แต่คือเมจิคัลเกิร์ล
“ในเกมนี้น่ะมันไม่มีกฎที่เธอจะพูดแบบนั้นได้อยู่หรอกนะ!”
มาสก์วอนเดอร์ขึ้นเสียง เธอไม่ยอมแพ้เมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่คนนี้
เธอไม่อยากแพ้ แต่ชาโดว์เกลอยากให้เธอถอยออกมา
ขาของชาโดว์เกลสั่น น่ำตาก็เริ่มคลอ
มาสก์วอนเดอร์พูดสิ่งที่ชาโดว์เกลคิดอยู่ออกมา
เธอรู้ว่ามาสก์วอนเดอร์นั้นรักความถูกต้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะชนะ
จะสู้กับเจ้ายักษ์ 30 เมตรนี่ยังไงล่ะ?
“ถ้าไม่ออกไปล่ะก็เชอร์น่าจะโกรธแล้วนะ!”
เจ้ายักษ์นั่นดูโกรธ เธอกระทืบเท้าซ้ำๆ จนพื้นดินเริ่มสั่น
ชาโดว์หน้าคะมำลงบนพื้นหญ้า “ไม่ไหว ไม่ไหวหรอก พวกเราสู้เธอไม่ได้”
เธอคลานเข้าไปจับผ้าคลุมของมาสก์วอนเดอร์ แล้วพูดต่อว่า “ไม่ใช่สิ่งที่เราสู้ได้เลยนะ หนีเถอะ ไม่จำเป็นต้องสู้ด้วย หนีเถอะค่ะ”
มาสก์วอนเดอร์กำมือ ตั้งท่าพร้อมสู้
“มันอาจไม่ถูก แต่ความยุติธรรมที่ไร้ซึ่งพลังมันไร้ความหมาย”
“แต่ที่จะสู้ด้วยเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้เลยนะ!”
“เราคือมาสก์วอนเดอร์! เมจิคัลเกิร์ลแห่งความยุติธรรมและความแข็งแกร่ง!”
เธอตะโกนขึ้นมาและกระโดด กระโดด กระโดดขึ้นไป…
ชาโดว์เกลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ตั้งแต่ที่มาสก์วอนเดอร์กระโดดออกไปตัวเธอก็ไม่ร่วงลงพื้นเลย
เหมือนว่าระยะกระโดด และความเร็วของเธอนั้นไม่สนกฎฟิสิกส์เลย
ระยะห่าง 100 เมตร ลดลงไปด้วยความเร็วสูง
เพราะด้วยความเร็วสูง
เมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่จึงตอบสนองกับลูกเตะของมาสก์วอนเดอร์ที่เตะไปที่หน้าอกไม่ทัน
ผัวะ…
มากส์วอนเดอร์เตะไปที่เธอ แต่แทนที่จะเรียกว่าเตะ มันดูเหมือนการสัมผัสเบาๆมากกว่า
เมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่ถึงกับปลิวเหมือนขนนก ปลิวไปไกลเกินกว่า 30 เมตรกว่าจะร่วงลงพื้น
หากร่างกายที่ใหญ่ขนาดนั้นถูกโยนไปไกลกว่า 30 เมตร มันควรจะมีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้น แต่เธอก็ลงพื้นอย่างนุ่มนวลจนแทบจะไม่มีเสียง แม้กระทั่งใบหน้าของเธอคนนั้นยังเต็มไปด้วยความสับสน
และโยกคอไปมา
“อะไรเนี่ย? พลังเวทของเธองั้นเหรอ?”
“พวกเราไม่อ่อนข้อให้เธอหรอก!”
ชาโดว์เกลไม่ว่าอะไรที่เธอพูดว่า “พวกเรา” แต่ยิ่งกว่านั้น เธอทึ่งในการต่อสู้ของมาสก์วอนเดอร์ที่น่าเหลือเชื่อ เธอจ้องเขม็งไปที่การต่อสู้ระหว่าง ไททันกับสุดยอดนางเอก
“คิดว่าทำแบบนี้กับคนอื่นแล้วจะหนีไปไหนได้เหรอ?”
เมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่ยืนขึ้น เธอกวาดมือขวาเพื่อสร้างลม
ชาโดว์เกลหมอบลงกับพื้นจับต้นหญ้าเอาไว้ แต่เหมือนหญ้าก็แทบจะปลิวไปด้วยกันแล้ว
“ก็ลองดูสิ ถ้าคิดว่าเอาชนะเราได้นะ!”
มาสก์วอนเดอร์ตะโกนออกมา
ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด ก็มีเสียงตะโกนออกมา
“เดี๋ยวก่อน!!!”
ไม่ใช่เสียงของมาสก์วอนเดอร์ ไม่ใช่เสียงของเมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่
ชาโดว์เกลเองก็ไม่ได้กล้าพอที่จะตะโกนออกมาด้วย
เธอเพิ่งสังเกตุเห็น ที่ไหล่ของเมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่มีคนยืนอยู่ และโยนอะไรลงมาจากด้านบน
ตอนแรก เธอคิดว่าเป็นการโจมตี เธอเห็นอะไรบางอย่างหล่นลงมา
มันคือเจ็มสีฟ้าขนาดเท่ากับกำปั้นของเด็กทารก ไม่ใช่เจ็มธรรมดา ทุกมุมของมันส่องประกาย
ถ้าเป็นของจริงล่ะก็จะมีค่าขนาดไหนกันนะ? คงจะเป็นของปลอมแน่ๆ
“ฮับ!”
เด็กสาวใส่ชุดวันพีซสีฟ้า สวมผ้าคลุมขนสัตว์สีขาว
มีหางมีแถบขาวสลับดำออกมาจากด้านหลัง เป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจากเมจิคัลเกิร์ล
จากจุดที่ไม่มีอะไร จู่ๆเธอปรากฎตัวออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ชาโดว์เกลก้าวถอยหลังกลับไป
เมจิคัลเกิร์ลคนนั้นชูนิ้วชี้และนิ้วก้อย และไขว้แขนของเธอที่หน้า ย่อเข่าขวาและยืดขาซ้ายออก
เป็นท่าโพสที่ดูพิลึกดี
“ประกายแสงสีฟ้าแห่งสนามรบ ลาพิส ลาซูไลน์ มาแล้วจ้า!”
มาสก์วอนเดอร์เดินเข้าไปหาเธอ พร้อมกับยกแขนขวาขึ้น เอาแขนซ้ายมาไว้ที่อก และอ้าขากว้าง
วิคตอรี่โพส นั่นเอง
“เราคือมาสก์วอนเดอร์! เมจิคัลเกิร์ลแห่งความยุติธรรมและความแข็งแกร่ง!”
ทั้งสองคนจ้องกันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีใครเลิกโพสท่าของตัวเอง
ทันใดนั้นในเวลาเดียวกัน พวกเธอก็ยื่นมือขวามาจับกันและกัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย?
ชาโดว์เกลไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เหมือนว่าทั้งสองคนจะสื่อสารกันเข้าใจ
เมจิคัลเกิร์ลคนนั้นเธอชื่อว่า ลาพิส ลาซูไลน์ เธอหยิบเจ็มสีฟ้าแล้วหันหน้าไปทางเมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่
“กลับได้แล้ว เชอร์นี่! ไม่ต้องสู้กับสองคนนี้หรอก!”
เมจิคัลเกิร์ลที่เสียงดัง …และอีกคนที่เสียงเล็กๆ
“แต่ว่า เมลวิลล์บอกว่าให้ปกป้องสนามล่า…” เมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่ค้าน
“เน่…” มีอีกเสียงหนึ่งพูดขึ้นมา
ชาโดว์เกลมองตามเสียงไป เธอเห็นรูปร่างที่เลือนลางดูกลมกลืนไปกับทุ่งหญ้า
ค่อยๆปรากฎให้เห็นเด่นชัดขึ้นอย่างช้าๆ จนสีเขียวของทุ่งหญ้าหายไป รูปร่างที่ปรากฏออกมาคือเมจิคัลเกิร์ล ในมือขวาเล็กๆของเธอถือธนูยาว มือซ้ายนั้นถือฉมวกที่ดูธรรมดา เป็นอาวุธที่ดูแปลก
เธอสวมเสื้อคลุมสีเทาอ่อน สวมกระโปรงสั้นเผยให้เห็นส่วนขา มีเถาวัลย์และกุหลาบสีม่วงพันอยู่ที่เส้นผมสีน้ำตาลแดงของเธอ และมีหูเอลฟ์ ทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าเธอคือเมจิคัลเกิร์ล
เมจิคัลเกิร์ลในปาร์ตี้นี้ มีกฎว่าอยู่ดีๆต้องปรากฎตัวรึไงนะ? ชาโดว์เกลสงสัย
"เท่พูขาวแห่งเน้เมแต่โผ้แขงแก่งเท่าน้านที่จาร่าด้าย
ผวกเทอแก่งพอดางน้านช้ายซาหนามร่านี้ด้าย"
ชาโดว์เกลขมวดคิ้ว เธอมองเมจิคัลเกิร์ลคนนั้นแล้วรู้สึกบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสำเนียงแปลกๆหรือเพราะน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกสงบ หรือเพราะอยู่ดีๆเธอก็ปรากฎตัวออกมากันแน่?
ชาโดว์เกลมองไปที่มาสก์วอนเดอร์ ดูสงบนิ่ง ไม่กระวนกระวายอะไร
มาสก์วอนเดอร์ไขว้แขนขึ้น การที่เธอทำแบบนี้ มันเหมือนย้ำว่าหน้าอกตัวเองใหญ่ยังไงชอบกล
“เมลวี่บอกว่า พวกเธอใช้ที่นี่ได้ เพราะพวกเธอแข็งแกร่งน่ะ”
ลาพิส ลาซูไลน์ แปลให้พวกเธอฟัง
เด็กสาวที่ลาพิส ลาซูไลน์เรียกว่าเมลวี่นั้นพยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอห้ายโชกลี”
สีของเด็กสาวคนนั้นกลายเป็นสีเขียวอีกครั้ง กลมกลืนไปกับทุ่งหญ้าแล้วหายไปในที่สุด
ลาพิส ลาซูไลน์ ไต่ขึ้นไปบนเมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่และยืนอยู่บนนั้น
“เอาล่ะ ไว้เจอกันคราวหน้านะ! บาย!”
เมจิคัลเกิร์ลตัวใหญ่วิ่งออกไป ทุกๆก้าวของเธอทำให้พื้นดินสั่นเหมือนตอนมา
ลาพิส ลาซูไลน์ โบกมือของเธออยู่บนไหล่ ทั้งคู่ดูเล็กลงเรื่อยๆจนหายไปที่เส้นขอบฟ้า
ชาโดว์เกลมองที่มาสก์วอนเดอร์ เธอเองก็โบกมือเช่นกัน
______________________________________________________________________________
หลังจากที่ชาโดว์เกลพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเสร็จแล้ว พีเฟิลก็พยักหน้าเป็นการตอบสนอง
แม้เวลาจะผ่านไป 3 วันแล้วหลังจากเกมเริ่ม แต่ท่าทีของพีเฟิลก็ไม่ได้อ่อนล้าแต่อย่างไร
“ตอนนี้เธอตัวเล็ก นั่นก็หมายความว่าเธอใช้พลังเวทขยายร่าง” พีเฟิลพูด
“ในโลกจริงนั้นคงใช้งานยากเพราะมันดึงดูดความสนใจ แต่ในเกมเธอใช้ได้ตามต้องการโดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะเห็น”
“น่าตกใจสุดๆเลย! แต่ก็ไม่ใช่ศัตรูเราหรอก” มาสก์วอนเดอร์พูด
“แล้วก็คนที่หายตัวได้ ” พีเฟิลพูดต่อ “ฉันว่ามันเหมือนการพรางตัวมากกว่าหายตัวได้นะ เพราะสีของเธอค่อยๆเปลี่ยน”
“เหมือนจะมีประโยชน์มากนะนั่น! ไม่ใช่ศัตรูเราอีกเหมือนกัน”
“ใช่แล้วล่ะ เท่าที่ฉันรู้จักเธอน่ะเป็นคนที่แข็งแกร่ง และนั่นคือความแข็งแกร่งที่จำเป็นสำหรับผู้พิทักษ์ความยุติธรรม ฉันไม่ได้พูดถึงกล้ามเนื้อหรือพลังเวท แต่เธอมีจิตใจที่แข็งแกร่ง”
แก้มของมาสก์วอนเดอร์กลายเป็นสีแดง เหมือนว่าจมูกเธอจะเชิดขึ้นนิดหน่อยด้วย พีเฟิลรู้ว่าเธอชอบคำเยินยอ
ในตอนนั้นก็มีเมจิคัลเกิร์ลเข้ามาหาพวกเธอ
เมจิคัลเกิร์ลคนนั้นชูนิ้วชี้และนิ้วก้อย และไขว้แขนของเธอที่หน้า ย่อเข่าขวาและยืดขาซ้ายออก
“ประกายแสงสีฟ้าแห่งสนามรบ ลาพิส ลาซูไลน์ มาแล้วจ้า!”
มาสก์วอนเดอร์เองก็ยกแขนขวาขึ้น เอาแขนซ้ายมาไว้ที่อก และอ้าขากว้าง ตามเธอ
เธอทำท่าวิคตอรี่โพส นั่นเอง
“เราคือมาสก์วอนเดอร์! เมจิคัลเกิร์ลแห่งความยุติธรรมและความแข็งแกร่ง!”
ทั้งสองคนจ้องกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน ยิ้มและจับมือกัน
นี่พวกเธอจะทำแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกันรึไงนะ? ชาโดว์เกลหวังว่าอย่างน้อยก็อย่าช่วยทำต่อหน้าคนอื่นเถอะ…
“เอาล่ะ เอาล่ะ เอาล่ะ! ขอบคุณทุกคนที่มารวมตัวกันที่นี่นะ ปอน!”
เสียงออกมาจากเมจิคัลโฟน ชาโดว์เกลรู้จักอยู่คนเดียว คน…เหรอ? ที่ลงท้ายด้วย ‘ปอน’ และมาด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน
ชาโดว์เกลเอาเมจิคัลโฟนของเธอออกมาดู มีภาพสามมิติออกมาจากหน้าจอ รูปทรงสีขาวดำลอยอยู่ในอากาศ เหมือนกับเมจิคัลโฟนของคนอื่นที่กำลังดูสิ่งเดียวกัน
“วันนี้คือวันล็อกเอาท์ล่ะ ปอน! พวกเธอจะล็อกเอาท์ตอนอาทิตย์ตกดิน พวกเราจะใช้เวลาในการซ่อมบำรุง 3 วันตามเวลาโลกจริง ก่อนที่พวกเธอทั้งหมดจะล็อกอินอีกครั้งล่ะ ปอน! เดินหน้าต่อไป การเล่นเกมของพวกเธอจะตามกำหนดการณ์แบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ ปอน! ”
ฟาลหมุนตัวไปรอบๆ มีประกายสีทองระยิบระยับออกมาในอากาศด้วย
“ตามปกติแล้ว ในวันล็อกเอาท์จะมีกิจกรรมพิเศษ ปอน!
โดยจะสุ่มกิจกรรมที่โชคดีมากจนถึงโชคร้ายสุดๆล่ะ ปอน!
วันนี้คือ…โฮะ โฮ่! แหม แหม แหม เป็นกิจกรรมโชคดีมากล่ะ ปอน!
ในเมืองทุ่งหญ้ามีคำใบ้อยู่ รู้รึเปล่า ปอน? อยากให้ทุกคนไปที่ๆคำใบ้อยู่ตอนนี้เลย ปอน!
คนที่ไปถึงคนแรกจะได้รับ แรร์ไอเท็มพิเศษจากฟาล- ”
พีเฟิลไม่ได้รอให้ฟาลพูดจบ
เธอรีบออกไปทันทีเหมือนจรวดและทิ้งเพียงฝุ่นควันจำนวนมากได้ด้านหลัง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง มีเมจิคัลเกิร์ลบางคนที่ตามพีเฟิลไป ส่วนชาโดว์เกลกับคนที่เหลือยืนมอง
______________________________________________________________________
ไม่มีใครเอาชนะความเร็วของพีเฟิลได้
แม้ว่าคนอื่นจะออกตัวก่อน แต่มันก็จะจบลงด้วยชัยชนะของเธอที่นำไปกว่า 1000 เท่า
หลังจากจบกิจกรรมนี้ ชาโดว์เกลเชื่อว่าจะไม่มีใครโกรธพีเฟิลที่ออกตัวไปเร็วแบบนั้น
ครั้งหน้าหากมีกิจกรรมคล้ายๆกันอีก คงจะมีหลายคนโกงในแบบเดียวกัน มันทำให้เธอท้อใจ
เพราะคนแบบพีเฟิลมักจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอยู่ตลอด
แรร์ไอเท็มที่เธอได้รับคือเหรียญ
ด้านหน้าเป็นรูปเด็กสาวถือไม้เท้า ด้านหลังสลักเป็นรูปดาว สีทอง ขนาดเดียวกับเหรียญ 500 เยน
แต่หนักหว่า ชาโดว์เกลบางทีอาจจะเป็นทองแท้ก็ได้ แต่เธอไม่มีทักษะประเมินค่า ไม่อยากกัดทดสอบเหมือนคนสมัยก่อนด้วย บางทีมันอาจจะไม่บอกอะไรกับเธอเลยก็ได้
“นี่คือ มิราเคิลคอยน์ ปอน!” ฟาลพูดเสริม “หากเอาติดตัวไปด้วยจะเพิ่มอัตราการดรอปนะ ปอน!”
“อัตราดรอป?” พีเฟิลถาม “หมายถึงจะได้แคนดี้มากขึ้นงั้นเหรอ?”
“ไม่ ไม่ บางครั้งศัตรูบางชนิดก็จะดรอปไอเท็มนอกจากแคนดี้ด้วย ปอน!
ศัตรูบางชนิดสามารถดรอปไอเท็มหายากมากในโอกาสที่หายากมาก ปอน!
เหรียญนี้จะมีประโยชน์เมื่อพยายามหาแรร์ไอเท็ม ปอน!
มันจะเพิ่มอัตราการดรอปมากกว่าปกติ 5 เท่าเลยล่ะ ปอน!”
พีเฟิลโอนรางวัลของเธอไปให้มาสก์วอนเดอร์
ตอนนี้ มิราเคิลคอยน์ อยู่ในคลังไอเท็มของเธอ
การย้ายไอเท็มนั้นไม่ได้จำกัดแค่เหรียญ ทั้งแผนที่ และโพชั่น ก็สามารถย้ายได้
แต่ต้องใส่เข้าไปในเมจิคัลโฟนก่อนถึงจะใช้ได้ ซึ่งเป็นไปตามแบบของเกม
“ฉันจะให้กับมาสก์วอนเดอร์ใช้เหรียญนี้ เธอไม่ว่าอะไรใช่ไหม?” พีเฟิลพูด
ชาโดว์เกลคิดว่า พูดแบบว่าเธอจะสนหากฉันบอกว่าไม่ได้งั้นแหละ
แถมมาสก์วอนเดอร์เองก็เป็นคนที่เหมาะสม เพราะเป็นคนที่มีโอกาสกำจัดศัตรูมากที่สุดด้วย
“เราจะไม่ปล่อยให้แรร์ไอเท็มที่ให้มานี้เสียเปล่าแน่ ไว้ใจเราได้เลย!” มาสก์วอนเดอร์ทำท่า วิคตอรี่โพส จนหน้าอกกระเพื่อม
______________________________________________________________________________
ฝั่งมาสเตอร์ #2
“หมายความว่ายังไงน่ะ ปอน? นี่ฟาลหูฟาดรึเปล่า ปอน?”
ในห้องที่มีจอภาพจำนวนมากเรียงรายอยู่
กำลังแสดงภาพพื้นที่ต่างๆจาก เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจค
ทุ่งร้าง, ทุ่งหญ้า, ในตัวเมือง และพื้นที่ที่ยังไม่ถูกค้นพบ ทั้งหมดนั้นถูกบันทึกโดยกล้องวงจรปิด
จอภาพนั้นอยู่ติดกับผนัง อยู่ทั้งบนพื้นและเพดาน มีอยู่ทุกซอกทุกมุม
ทั้งหมดคือแหล่งกำเนิดแสงภายในห้อง
“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ได้หูฝาดหรอกกก~”
เด็กสาวคนหนึ่งกำลังแก้รูบิคของเธอ โดยไม่ใช้วิธีการปกติที่ต้องแก้ด้วยมือเดียว
เธอวางมุมรูบิคไว้บนนิ้วชี้อย่างสมดุล จ้องไปที่มัน รูบิคก็ขยับไปเรื่อยๆ
จนสีต่างๆเข้ากันเป็นรูปแบบด้วยตัวเอง
แว่นตาของเธอวางอยู่บนโต๊ะ ด้านข้างคือเมจิคัลโฟนที่อยู่ใกล้ๆจอภาพ
ด้านบนมีภาพสามมิติของฟาลลอยอยู่แบบสั่นๆ
เพราะฝุ่นที่ฟุ้งอยู่ทั่วในอากาศมันรบกวนการทำงานของภาพสามมิติ
ภาพสั่น บิดเบี้ยว และกลับมาในรูปแบบเดิมแม้จะไม่คงที่
“ไม่ สิ่งที่เธอบอกเรามันต่างกัน ปอน!
ไม่มีใครสมควรตายทั้งนั้น แถมบอกว่าความเสียหายจะไม่ส่งผลมาที่ร่างกายจริงด้วย ปอน!”
“แต่รูปแบบของเกมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปนี่?”
“ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ก็ไม่มีใครเข้าร่วมหรอก ปอน!”
“แต่พวกนั้นไม่มีทางเลือกนี่นะ หึหึ พวกนั้นหยุดอะไรไม่ได้หรอกกกกนะ ชั้นไม่ปล่อยให้ทำแน่"
“ดินแดนเวทมนตร์ไม่นั่งเฉยๆปล่อยให้เรื่องเกิดขึ้นแน่ ปอน!”
ฟาลตะโกนออกมา น้ำเสียงเปลี่ยนไป ฟังนุ่มลึก เหมือนกับผู้ชายวัยผู้ใหญ่
สายตาของเด็กสาวก็ยังจับจ้องอยู่ที่รูบิค
“ชั้นไม่รายงานไปหรอกนะ เจ้าโง่ แกเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้บอกผู้เล่นด้วย
แกมันเป็นแค่มาสคอต ไม่มีน้ำยาพอที่จะไม่เชื่อฟังมาสเตอร์ตัวเองหรอก
ดังนั้นแกรายงานไปไม่ได้หรอก ไม่ได้ ไม่-ได้!”
“คิดอะไรอยู่น่ะ ปอน? ตลกฝืดเหรอ ปอน? ช่วยเก็บอารมณ์ขันให้คนอื่นด้วยล่ะ ปอน!”
“ชั้นไม่ได้ตลกหรอกนะ ตลกของจริงน่ะคือ ดินแดนเวทมนตร์ที่ไม่สนใจเด็กพวกนี้ต่างหาก”
“ฟาลเข้าใจความกังวลของมาสเตอร์นะ ปอน! เด็กพวกนี้ บางทีคงอันตรายด้วย ปอน!
แต่ไม่รู้ว่าดินแดนเวทมนตร์ปิดหูตัวเอง ไม่รับฟังอะไรเลยรึเปล่า ดังนั้นเราถึงต้องทำให้แน่ใจ
เข้าใจใช่ไหม ปอน! เข้าใจที่เราพูดใช่ไหม ปอน! นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไม-”
“เด็กพวกนี้แค่ต้องพิสูจน์ให้พวกเราเห็นว่า พวกเธอคือเมจิคัลเกิร์ลที่แท้จริงแค่นั้น”
เสียงที่ตามมามีแค่เสียงกดรูบิคของเธอเท่าน้ัน
MANGA DISCUSSION