Love Code at the End of the World - LCEW เล่มที่ 2 ตอนที่ 16 – ราชานกศพ
“บิล!!“แฮรี่ตะโกนสุดเสียง
*ฟุบ* บิลวิ่งไปด้านหน้าเสวี่ยกี๋และตะโกน *ย๊ากกกก!* ด้วยผมยาวพริ้วไหวไปตามสายลม มันทำให้เขาดูเหมือนคนที่กำลังเกรี้ยวกราด
เธอไม่ชอบพูด และเขาก็มักจะไปนั่งเงียบๆอยู่ด้านข้างเธอ
เธอมักจะฝันกลางวัน ในขณะที่เขาพึ่งพอใจกับการเฝ้ามองเธอฝันกลางวันอยู่ห่างๆ
เธอเป็นปราการด่านแรกในการทำศึก และเขาก็คอยเฝ้ามองเธอจากด้านหลังด้วยความชื่นชม
เมื่อเธอตกอยู่ในอันตราย เขาก็จะเป็นคนแรกที่เอาตัวไปขวางตรงหน้าเธอ และร้องคำรามด้วยรัก!!
“อ๊ากกกก!!“
ทันใดนั้น ท้องของฉันก็เกิดอาการเกร็ง ก่อนที่ฉันจะอาเจียน ฉันมองเห็นนกศพที่อยู่ตรงหน้าบิลร่วงลงมากระแทกพื้น สำรอกของเหลวออกมาจากปาก
นกศพตัวที่อยู่ใกล้กับบิลมากที่สุดมีสภาพที่เลวร้ายมาก มันนอนปวกเปียกอยู่บนพื้นไร้เรี่ยวแรงไม่อาจลุกขึ้นยืน
เสวี่ยกี๋ที่ยืนอยู่ข้างหลังบิลก็รีบหันหลังอาเจียน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฉันรู้สึกได้ ด้วยตำแหน่งของฉัน อาการจึงไม่รุนแรงเท่ากับเธอ พลังพิเศษของบิลเหมือนจะมีเขตแดนจำกัด การโจมตีของเขาจะรุนแรงเมื่ออยู่ใกล้เขา ยิ่งอยู่ห่างไกล ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะลดทอนลง
*ซ่าา*สิ้นเสียงคำราม อากาศโดยรอบตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นเหม็นของอาเจียน ถึงแม้ว่าฉันจะอาเจียนจนหมดท้อง ฉันก็ยังอยากอาเจียนอีกสักรอบเมื่อได้กลิ่นอาเจียน
ทุกคนที่อยู่ด้านหลังประตู อาเจียนออกมาพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นแฮรี่ เซีย ไค วิลเลี่ยม
นกศพหมดเรี่ยวแรงจะบิน ตัวที่กางปีกสร้างโล่กำบังก็ยังคงตัวพึ่งอาเจียน ปีกที่เกาะกลุ่มพังทลายเหมือนแผ่นเหล็กของรถถังที่ถูกฉีกออกจากกัน
*หลัวปิง!! แหว๊ะ!!“ลุงเมสันมองมาที่ฉันขณะที่เขาพยายามพยุงตัวกลับกำแพง “ไปเดี๋ยวนี้ ไปตามหาราชานกศพ!!“
ลุงเมสันชี้นิ้วไปทางนกศพกลุ่มที่อยู่ด้านหลังของฝูง “ตรงนั้น แหว๊ะ!! มันจะต้องเป็นตัวที่ออกคำสั่ง!!“เขาเช็ดคราบสกปรกที่มุมปาก “เขาจะต้องเป็นราชานกศพ!!” จากนั้นเขาก็เริ่มอาเจียนต่อ
ท้องของฉันยังคงเกร็ง
“โจอี้! เอื้อก!!“ฉันปิดปากกระโดดลงไปข้างล่าง โจอี้ที่ถูกเตะออกจากประตูเมืองมองมาที่ฉัน “อะไรหรอ น้องปิง“
“พาฉัน…แหว๊ะ!!….ไปที่ด้านหลังของฝูง…แหว๊ะ…นกศพ!!“ฉันชี้ไปทางนกศพกลุ่มที่อยู่ด้านหลัง พวกนกยังคงอาเจียน ในขณะเดียวกัน พวกมันก็จัดขบวนในรูปแบบเต็นท์และถอยร่นด้วยความเร็วสูงเพื่อออกนอกระยะบิล
“เข้าใจแล้ว!! แหว๊ะ!!“โจอี้อาเจียนอาหารที่กินเข้าไปออกมาขณะที่พยักหน้า
ฉันยืนอยู่ข้างหลังโจอี้ ปล่อยให้เขาแบกฉันขึ้นหลัง จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ราวกับว่าพยายามป้องกันไม่ให้ตัวเองอาเจียนออกมา พร้อมกับกระโดด!!
นกศพที่อยู่แนวหน้าสูญเสียความมั่นใจในการต่อสู้ บนพื้นดินเต็มไปด้วยคราบอาเจียน
พลังพิเศษของบิลช่างน่าขยะแขยง!! มันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!!
นี่คือวันสิ้นโลก การเติมเต็มท้องอิ่มเป็นเรื่องที่ยากมาก!! ใครจะยอมอาเจียนสิ่งที่กินเข้าไปออกมา?! นกศพบางตัวตักอาหารที่สำรอกออกมายัดกลับเข้าปากตัวเอง
“อุ๊บบบ!!“ฉันรีบเอามือปิดปาก หน้าอกของโจอี้กระตุก ร่างกายของเขาอ่อนแรงก่อนจะสะดุดลงจากพื้น จากนั้นเขาก็รีบกระโดดก้าวต่อไป
โจอี้อุ้มฉันในขณะที่เขากระโดดและกระโดดผ่านฝูงนกศพ ขณะที่เราลงจอดด้านหลังอากาศตรงหน้าเราก็ใสเหมือนน้ำฝนและฟ้าแลบรอบตัวเรา ในขณะนั้นฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ในนรกอีกต่อไป แต่ผ่านไปอีกด้านหนึ่งแล้ว
พื้นดินเปียกโชก ถ้าหากฟ้าผ่าลงมา ผลลัพธ์คงน่ากลัวเกินกว่าจินตนาการ!! อย่างไรก็ตาม ฝนฟ้าคะนองก็เหมือนจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า พลังวิเศษของเสวี่ยกี๋ก็หยุดทำงาน ดังนั้นน้ำฝนจึงกลับมาตกเหมือนเดิม ชำระล้างคราบอาเจียนออกไป
ในขณะเดียวกัน แส้ยาวๆวิ่งเข้าใส่พวกเราระหว่างที่ฟ้าแลบ มันคือหางนกศพ โจอี้อุ้มฉันแล้วรีบกระโดด เขาอยู่กลางอากาศ แต่ก็ถูกหางอีกอันฟาดเข้าที่ตัวเขา และดึงขาของเขาลงเบื้องล่าง
“อ๊ากกก!!“ขณะที่ฉันร่วงลงมาด้านล่าง หางของมันก็พันรอบขาฉัน จับฉันเหวี่ยงเหมือนนั่งรถไฟเหาะ
โชคดีที่ฉันผ่านการจำลองแรงเหวี่ยงในการฝึกฝนครั้งล่าสุด ฉันจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆตอนขับยานอวกาศ ฉันจึงจำเป็นต้องฝึกฝนสร้างความอดทนเมื่อถูกแรงกระแทก
อย่างไรก็ตาม…..
ฉันก็อาเจียนตอนจำลองการฝึกครั้งแรกกับมังกรน้ำแข็ง มันเป็นเรื่องที่น่าอายจริงๆ
*ฮูกกกก!* ฉันได้ยินเสียงคำรามสั้นๆซึ่งแตกต่างจากเสียงหอนก่อนหน้า จากนั้นนกศพก็หยุดและโยนฉันลงบนพื้น ฝนเริ่มตกหนัก ฉันที่เปียกโชกลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายฝน ร่างกายสกปรกมอมแมมแย่ยิ่งกว่าตอนที่ฉันมาถึงโลกใบนี้ครั้งแรกเสียอีก
*ฝูดดดด ฝูดดดด*เสียงหายใจหนักแน่นดังมาจากบริเวณโดยรอบ ฉันมองขึ้นไปผ่านสายฝนและเห็นนกศพขนาดใหญ่กำลังบินเข้ามาหาพวกเรา พวกมันกางปีกล้อมรอบตัวฉันกลายเป็นกระโจมใหญ่ปิดกั้นพายุด้านนอกเหลือเพียงแค่รู้เล็กๆให้แสงสว่างเข้าไป
เบื้องหน้าของฉันกลายเป็นม่านฝน นกศพ 2 ตัวเครื่องออกจากกัน และเปิดทางให้นกศพที่มีกล้ามเนื้อปูดโปนเข้ามาภายในวงล้อม ฝีเท้าของเขาหนักหน่วงแต่ละก้าวก่อให้เกิดเสียงเหมือนกลองชุด ผมสีขาวของเขามันเป็นหางม้าห้อยไปด้านหลัง โดยที่บนศีรษะของเขาปรากฏเป็นมงกุฎแวววาว!!
มันเป็นวงกตจริงๆที่ทำขึ้นมาจากแพลตตินั่มประดับประดาไปด้วยอัญมณี!! มันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดตั้งแต่ฉันมาเยือนโลกใบนี้ แต่มันอยู่บนหัวของนกศพ เสื้อผ้าของเขาแตกต่างจากนกตัวอื่นๆเช่นกัน มันไม่ใช่หนังสัตว์ แต่เป็นชุดกีฬาสีดำแขนกุด!! วัสดุที่ยืดหยุ่นเผยให้เห็นหน้าอกล่ำสันของเขาซึ่งมีโลโก้มงกุฎสีทองปักอยู่
ฉันคุ้นเคยกับวัสดุที่ใช้ทำชุดกีฬานั่น มันทำให้เขากางแขนขาและปีกก็อย่างอิสระทั้งยังอบอุ่นและกันน้ำได้
ราชานกศพเดินไปรอบๆตัวฉัน เขาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ฉันโดยที่ฉันไม่กล้าขยับตัว หากมองเข้าไปในดวงตาที่เหมือนเห็นดวงจันทร์ เขาช่างเหมือนกับพี่สองจริงๆ
ในช่วงเวลานั้นโลกที่สร้างขึ้นมาจากปีกนกศพก็เหลือเพียงแค่ฉันกับราชานกศพ เราต่างมองกันภายใต้ความเงียบและแสงวาบของฟ้าแลบ
เขาดมกลิ่น!!
ฉันรู้แล้ว!! ตัวของฉันก็ต้องมีกลิ่นพี่สองแน่ๆ ทุกๆวัน ฉันทั้งกินทั้งนอนกับพี่สอง กลิ่นของเธอจะต้องติดตัวฉัน แม้ว่าฉันจะเปียกโชก แต่กลิ่นก็ไม่มีทางหายไปทั้งหมด ถึงมนุษย์จะดมกลิ่นไม่ได้ แต่นกศพจะต้องรับกลิ่นได้อย่างแน่นอน