เล่มที่ 2 ตอนที่ 14 – พลังวิเศษของเสวี่ยกี๋
ฟ้าแลบและฟ้าร้องดังก้อง นกศพบินโฉบลงมาจากท้องฟ้าที่มืดมิดราวกับเทวดาชั่ว พี่สาวแคนน่อลขี่คอเสื้อ ในขณะที่เสวี่ยกี๋ โบกสะบัดแขนของเธอตรงหน้าพี่สาวแคนน่อลในท่าร่ายรำ แล้วชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยนิ้วชี้ขวา ออกเสียงด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “พายุฝน!! โปรดมอบพลังให้กับฉันด้วย!!“
ฉันยืนอยู่ที่ประตูเมืองด้วยความตะลึงงัน เออมัน….?!
หลังจากการเสียงประกาศครั้งนั้น เสวี่ยกี๋ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียวเหมือนหุ่นยนต์ที่แบตเตอรี่กำลังจะหมด ฉันมองไม่เห็นสัญญาณแนวโน้มพลังของเธอจะทำงานเลย
โดยปกติแล้วผู้ที่ยืนอยู่แถวหน้าจะต้องเป็นนักต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม การที่พี่สาวเช่อชื่อส่งเสวี่ยกี๋ไปยืนเคียงข้างกับพี่สาวมีอา นั่นก็หมายความว่าเสวี่ยกี๋ไม่น่าจะอ่อนแอกว่าพี่สาวมีอา แม้ฉันจะไม่เคยเห็นเธอใช้พลังพิเศษมาก่อน บางทีเสวี่ยกี๋อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อกระตุ้นพลังพิเศษ
พี่สาวแคนน่อลมีอาที่อยู่ด้านข้างได้ฉีกเสื้อ และเริ่มยิงปืนใหญ่ประกายแสง จุดชนวนสงครามกับนกศพด้วยกระสุนนัดแรกของเธอ
ปืนใหญ่ลำแสงของพี่สาวมีอาทะลุท้องฟ้าสีดำราวกับลำแสงที่กำลังฉีกกระชากความมืดให้แยกขาด พวกนกศพดูเหมือนว่าจะมีความไวต่อแสงสูง พวกมันรีบปกป้องดวงตาสีขาวด้วยแขนทำให้เกิดสภาวะการตกจากฟ้า พวกมันจึงรีบปรับขบวนเพื่อรักษาสมดุล
จากนั้นวิลเลี่ยมและไคก็พุ่งตรงเข้าใส่นกศพจากทั้งสองฟาก
กล้ามเนื้อของไคโป่ง เขาโจมตีทันทีที่คลังปืนใหญ่สร้างแรงช็อคให้กับนกศพ ฉันประหลาดใจมาก ไคแข็งแกร่งจริงๆ แน่นอนว่า สิ่งที่ได้ยินมันแตกต่างจากสิ่งที่ได้เห็นด้วยตาอย่างสิ้นเชิง!!
ไคเปรียบเสมือนค้อนยักษ์เข้าต่อยตีนกศพที่อยู่บนพื้น พวกมันตัวใหญ่กว่าไคมาก แต่กลับถูกไคไล่ต้อนให้ต้องหนี
วิลเลี่ยมพุ่งเข้ามาจากอีกด้าน เขายิงลำแสงออกจากปืนขณะที่เขาวิ่ง อย่างไรก็ตาม กระสุนที่ยิงออกไปทำได้แค่เฉี่ยว เหมือนว่าเขาพยายามจะไล่พวกมันออกไปมากกว่าคิดจะทำร้ายมัน
นกศพกระโดดหลบไปตามลำแสง วิลเลี่ยมเองก็ยิงกระสุนออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขบวนของนกศพเริ่มชุลมุนวุ่นวาย
ฉันคว้าแขนแฮรี่ “บางที พวกมันอาจจะมาที่นี่ก็เพราะพี่สอง พวกเราไม่ควรเริ่มสงครามกับพวกมัน!!“
แฮร์รี่ยังคงเฝ้าดูการต่อสู้อย่างเคร่งขรึม “มันก็มีความเป็นไปได้ แต่พวกเราก็เสียงไม่ได้เหมือนกัน” เขาดูไม่มั่นคงก่อนจะหันมาหาฉัน “พวกเราแค่พยายามจะไล่พวกมันให้ออกไป นกศพเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญา พวกมันควรรู้จักถอยเมื่อเห็นว่าหน่วยป้องกันของพวกเราแข็งแกร่งเพียงใด พวกเราจะไม่ทำร้ายพวกมัน เพราะถ้าหากพวกเราฆ่าพวกมัน พวกมันก็จะกลับมาที่นี่ทุกปีเพื่อล้างแค้น” แฮรี่อธิบายแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วหรือไม่ว่าทำไมเราถึงพูดว่านกศพยากที่จะรับมือ” เขาส่ายหน้า “ผมหวังว่าเสวี่ยกี๋จะทำให้พวกมันยอมถอยได้“
ลมพัดแรงขึ้น ผ้าพันคอของพวกเรากระพือกระทบกับหน้าพร้อมกับละอองฝน กลิ่นกรดเหม็นฉุนหนักข้อ ราวกับว่ามีคนเทกำมะถันใส่หน้าของฉัน
บนขอบฟ้าเหนือฝูงนกศพ เราจะมองเห็นก้อนเมฆดำทมิฬมุ่งหน้าเข้ามาหาเราพร้อมกับพายุฝนที่โหมกระหน่ำก่อตัวกลายเป็นม่านขนาดยักษ์เคลื่อนตามตัวนกศพ กลายเป็นภาพที่สวยงามภายใต้แสงสีม่วงกระพริบท่ามกลางสายฟ้าสีแดง เม็ดฝนมีลักษณะคล้ายเม็ดพริกตกลงมาจากท้องฟ้า
“ครึ้นนน!!* เมื่อเกิดฟ้าลั่น ม่านฝนก็ตกใส่ร่างของเรา ทำให้พวกเราเปียกโชกในทันที แต่นกศพก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะล่าถอย
การโจมตีรอบแรกล้มเหลว พวกมันปฏิเสธไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ก็ไม่โจมตีต่อ วิลเลี่ยมและคนอื่นๆก็หยุดการโจมตีเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างถูกขังอยู่ในพายุฝนคลั่ง เสียงร้องโหยหวนที่โกรธเกรี้ยวของนกศพก้องอยู่ในอากาศ
*ฮูกกก*ทันใดนั้น นกศพที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงร้องโหยหวนอีกครั้ง เมื่อสิ้นสัญญาณ นกศพที่โหยหวนก็พุ่งเข้าหาพวกเรา คราวนี้นกศพ 3 แถวแรกเข้ามารุมโดยใช้จำนวน
*เปล้ง!!* สายฟ้าสีม่วงฟาดลงสู่พื้นดินเพื่อเป็นประกายไฟ ฉันยืนอึ้งไปเลย แม้ว่าสายฝนจะทำให้การมองเห็นของฉันพร่ามัว ก็ไม่อาจหยุดความหวาดกลัวที่มีต่อประกายไฟได้
“พายุฝนเริ่มแล้ว!! ทุกคนระวังตัว!“ลุงเมสันตะโกนมาจากด้านล่าง
*เปล้ง!*สายฟ้าอีกเส้นฟาดลงมาจากฟ้า นกศพรีบกระโดดหลบ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศเลวร้าย แต่พวกมันก็ไม่ย่อท้อที่จะเข้าโจมตีเรา
“นกศพฝูงนี้แตกต่างจากที่เคย!!“พี่สาวเช่อชื่อขมวดคิ้ว ขณะที่สีหน้าการแสดงออกของลุงเมสันหนักอึ้งขี้น เขาหันมามองฉัน “หลัวปิง เธอคิดเห็นอย่างไร?”
ฉันรีบหันไปมองลุงเมสัน “ฉันคิดว่า พวกมันมาที่นี่ก็เพราะพี่สอง!! ถ้าหากพวกเราสามารถเจรจากับพวกมันได้ บางทีพวกมันอาจจะหยุดโจมตี!!“
“พี่เช่อชื่อ! พลังของฉันกำลังจะหมด!“หลังจากที่พี่สาวแคนน่อลมีอากล่าวจบ ทุกคนก็มองเธอด้วยความตื่นตระหนก อะไรนะ? พลังของพี่สาวมีอามีจำนวนจำกัดด้วยเหรอ?!
สีหน้าของพี่เช่อชื่อยิ่งดูจริงจัง เธอหันมาหาฉัน “หลัวปิง ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เราคงไม่สามารถเจรจากับนกศพได้ ที่ทำได้คงมีแค่ไล่พวกมันออกไปเท่านั้น พวกมันเองก็ไม่สื่อสารกับมนุษย์อย่างเรา ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราจะไปตะโกนคุยกับมัน!“
ฉันขมวดคิ้ว นกศพก็ไม่ใช่มนุษย์ การตะโกนพูดคุยคงไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากนั้น สิ่งที่ฉันเห็นได้ชัดเลยคือพวกมันเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่ชัดเจน
“เว้นเสียแต่!!“แฮรี่ลูบค้างและมองมาที่ฉันขณะพูดว่า “พวกเราจะไปหาราชานกศพนั้น” เขาชี้นิ้วออกไปที่ปลายสุดของฝูงนกศพซึ่งมีปีกขนาดมหึมาคอยบังอยู่
ฉันมองข้ามออกไปด้วยความตกใจ ปีกใหญ่เหมือนกับเต็นท์ขนาดยักษ์ภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิด ทันใดนั้นสายฟ้าฟาดลงมายังป้อมปราการขนาดใหญ่ เกิดเป็นประกายไฟบินว่อน สายฟ้าสีม่วงไหลไปเต็นท์เป็นรูปโดมที่สร้างขึ้นมาจากปีกราวกับว่าพวกมันเป็นรั้วไฟฟ้าที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ประกายไฟค่อยๆกระจายออกไป ทำให้ปีกนกศพได้รับความเสียหายอย่างสมบูรณ์!!
“พี่เช่อชื่อ!! พวกมันกำลังจะโจมตีอีกระรอก!!“โจอี้ตะโกนด้วยหัวใจเต้นรัว!
พี่สาวเช่อชื่อหมุนตัวไปรอบๆและตะโกนเรียก “เสวี่ยกี๋!!“
เสวี่ยกี๋ที่เหมือนหุ่นยนต์หมดถ่านเริ่มขยับตัว เธอเหวี่ยงปลายนิ้วมือออกไป สร้างอากาศเย็นยะเยือกออกมาจากร่างกายของเธอ ทำให้เม็ดฝนเข้าสู่จุดเยือกแข็งกลางอากาศ เหมือนว่าเธอกำลังหยุดเวลาเอาไว้ชั่วคราว!!
อย่างไรก็ตามเวลาไม่ได้หยุดลง เม็ดฝนยังคงตกลงมา เพียงแต่ช้ากว่าเดิม หยดน้ำที่เกิดขึ้นก่อนหน้าถูกเคลือบด้วยเคลือบแข็ง ฉันสามารถหยิบมันออกมาจากอากาศได้ ตอนนี้หยาดฝนไปกลายเป็นหยดน้ำแข็งอยู่ในมือของฉัน
MANGA DISCUSSION