Long Live The Hokage - ตอนที่ 71 : มาดาระ และ เซ็ตสึดำ
นิยาย Long Live The Hokage Chapter 71 : มาดาระ และ เซ็ตสึดำ
2 ชั่วโมงต่อมาพิธีแต่งงานของเคนจิ และลูกสาวของไดเมียวก็สิ้นสุดลง โดยทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยความสุขและสนุกสนาน
“โทบิรามะ ท่านเป็นเจ้าภาพที่ดีมาก” มาซาฮิโกะมองไปที่เขา “ฉันภูมิใจในตัวเธอ มาก…” มาซาฮิโกะพูดแบบนั้นแต่การแสดงออกของเขามันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
โทบิรามะยิ้มอย่างเสแสร้ง เขาสามารถทําให้มาซาฮิโกะเกลียดเขาได้ด้วยรอยยิ้มนี้
“ท่านปู่ ขอบคุณสําหรับค่าชมครับ!” โทบิรามะลังเลอยู่นานกว่าจะตอบกลับไปแบบนั้น
มาซาฮิโกะจ้องมองไปที่โทบิรามะ ขณะที่ฮาชิรามะยังคงพูดคุยกับไดเมียวอยู่
คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานต่างเขินอาย ทั้งคู่ยังไม่ชินต่อกันมาซาฮิโกะ ทําได้เพียงส่ายหัวและยิ้ม แล้วคิดว่าการแต่งงานในโลกของนารูโตะนั้นช่างแปลกจริง ๆ…
มาซาฮิโกะอยากวิ่งเข้าไปหาทั้งคู่และบอกให้พวกเขารีบทําให้ซึนาเดะเกิดมาเสียที…แต่เขาก็รู้สึกว่าถ้าเขาทําแบบนั้นมันก็จะแปลกไปหน่อย แม้ว่าเขามักจะชอบพูดอะไรแบบนั้นอยู่แล้วก็ตาม…
ทุกคนในหมู่บ้านต่างพากันพูดถึงงานแต่งงานนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือนินจาก็ตาม
“โคโนฮะจะรุ่งเรืองมากขึ้นหลังจากการแต่งงานครั้งนี้..” ชายชราคนหนึ่งพูด
“เรามีท่านฮาชิรามะเป็นโฮคาเงะ ใครจะกล้ามายุ่งกับพวกเราล่ะ…” หญิงสาวกล่าว
“แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถพึ่งพาท่านฮาชิรามะได้ตลอดไป…” และนี่คือการตอบสนองเชิงตรรกะของนักคิดที่มีเหตุผลบางคน
“ฮาชิรามะเป็นที่ยอมรับมากเลยนะเนี่ย…” มาซาฮิโกะคิดขณะฟังการพูดคุยของชาวบ้าน
2 สาวกำลังถกเถียงกันว่า โฮคาเงะสามารถปกป้องหมู่บ้านได้กี่ปี คนหนึ่งคิดว่า 30 ปีอีกคนคิดว่า 50 ปี และต่อมาพวกเขาก็คิดว่า 100 ปี…
หลังจากถกเถียงกันอย่างดุเดือดและยาวนานพวกเธอก็ได้ข้อสรุปว่า “ไม่ว่าท่านฮาชิรามะจะปกป้องหมู่บ้านได้กี่ปี แต่ฉันคิดว่าท่านฮาชิรามะจะต้องมีอายุยืนยาวกว่าผู้อาวุโสมาซาฮิโกะอย่างแน่นอน!”
ทันทีที่มาซาฮิโกะได้ยิน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น จากนั้นหญิงสาวอีกคนก็พูดว่า “เธอรู้ไหมว่าท่านผู้อาวุโสมาซาฮิโกะอายุเท่าไรแล้ว ปู่ของฉันบอกว่าเขาดูไม่เปลี่ยนไปเลย”
“จะเท่าไรก็ช่าง! ยังไงท่านโฮคาเงะก็จะต้องมีอายุยืนกว่าเขาแน่นอน!” หญิงสาวอีกคนตอบ
มาซาฮิโกะส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น “โอ้แม่สาวน้อย แล้วพวกเธอจะต้องผิดหวัง…” แม้ว่าฮาชิรามะจะรอดชีวิตมาได้จากการต่อสู้ที่หุบเขาสิ้นสุด แต่เขาก็จะอยู่ได้อีกไม่นาน
“ในสายตาคนหนุ่มสาว ฉันดูเป็นอมตะในมุมมองของพวกเขารึเปล่านะ?”
“สําหรับคนที่เกือบจะเป็นอมตะอย่างฉัน ที่ดูเหมือนจะไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้ตามใจ ฉันควรกลับไปฝึกฝนต่อดีกว่า เพราะการต่อสู้ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว..
ภาพแห่งความสงบและร่าเริงภายในกําแพงหมู่บ้านไม่ได้กระจายไปสู่ภายนอก เพราะด้านนอกของหมู่บ้านกาลังมีพายุที่โหมกระหน่อย
หุบเขาแห่งสายลม.ลึกลงไปใต้ผิวน้ําในถ้ําใต้ดินที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นที่อยู่อาศัยใต้ดินขนาดใหญ่ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ มากมาย
ภายในห้องหนึ่งมีเทียนจุดอยู่บนโต๊ะทําให้ในห้องมีแสงสว่างสลัว ๆ และความรู้สึกภายในห้องก็ทําให้ที่นั่นดูน่ากลัวอย่างแท้จริง ในห้องนั้นมี 2 คน…หรือพูดอีกอย่างว่า 1 คนกับ 1 สิ่ง อยู่ที่นั่น
คนคนั้นก็คือ อุจิฮะ มาดาระ ซึ่งเพิ่งออกจากโคโนฮะไปเมื่อไม่นานมานี้
หลังจากเงียบไปนาน มาดาระก็พูดซ้ํา ๆ ว่า “แกกาลังบอกว่าแกเข้าใจเจตจํานงของฉันงั้นเหรอ?”
ทันทีที่มาดาระตื่นขึ้นมา เขาก็พบกับบางอย่างสีดํายืนอยู่ตรงหน้าเขา บางสิ่งที่ดูไม่เหมือนมนุษย์ แต่สามารถพูดได้เหมือนมนุษย์และร่างกายเหมือนมนุษย์
“ใช่แล้ว…” เซ็ตสึดำ ตอบช้ํา ๆ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างอื่นนอกจากคําโกหก
ตามแผนเดิมที่เซ็ตสึดำวางไว้ก็คือ เขาต้องการเซลล์ของฮาชิรามะ ดังนั้นเมื่อมาดาระและฮาชิรามะต่อสู้กัน เขาก็จะไปเก็บมันมาในตอนนั้น เพื่อเอามันมาช่วยปลุกเนตรสังสาระ และฝึกฝนการใช้จักระหยินและหยางให้กับมาดาระ และหลังจากที่มาดาระตาย เขาก็จะได้รับความไว้วางใจจากมาดาระ และมาดาระก็จะมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับเขาเพื่อที่เขาจะชุบชีวิตมาดาระขึ้นมาในอนาตค…
แต่…แผนการของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยการปรากฏตัวของอุซึมากิ มาซาฮิโกะ
เดิมที เซ็ตสึดำคิดว่าเมื่อมาซาฮิโกะต่อสู้กับมาดาระ แม้ว่ามาซาฮิโกะจะไม่ตายในเวลานั้นแต่เขาก็จะสูญเสียพลังชีวิตส่วนใหญ่ไปและเขาก็จะตายในที่สุด
แต่โดยไม่คาดคิด เมื่อเซ็ตสึดำเฝ้าดูโคโนฮะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาพบว่ามาซาฮิโกะยังมีชีวิตอยู่ แถมยังเชี่ยวชาญในการใช้จักระหยินและหยางเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น มาซาฮิโกะพร้อมแล้วสําหรับการต่อสู้ที่หุบเขาสิ้นสุดของมาดาระกับฮาชิรามะ โดยที่มาซาฮิโกะไม่แสดงอาการกลัวเลยสักนิด ทําให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ดังนั้นเขาจึงจําเป็นต้องออกมา ถ้าเขาไม่ออกมาช่วยมาดาระในตอนนี้ มาดาระอาจตายในการต่อสู้ครั้งนี้… และถ้าเป็นอย่างนั้น เขาก็คงต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีกว่าจะสามารถคืนชีพคางุยะขึ้นมาได้
“แกพลาดแล้วที่คิดว่าฉันโง่” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง มาดาระก็พูดประโยคนี้ออกมา
เขานึกถึงใบหน้าของมาซาฮิโกะ ที่กําลังยิ้มแล้วพูดกับเขาว่า “โง่ไปรึเปล่า…เจ้าหนูมาดาระ..” หลังจากทั้งหมด มาดาระก็เคยถูกมาซาฮิโกะล้อเล่นอยู่บ่อยครั้ง ทําให้มาดาระเริ่มฉลาดขึ้นในการต่อสู้กับกลอุบายแบบนี้…
ทําให้มาดาระเริ่มสงสัยเซ็ตสึดำ และใช้เนตรวงแหวนออกมา
“เดี๋ยวก่อน…” เซ็ตสึดำรีบขัดจังหวะ แม้ว่าเขาจะสามารถจัดการทุกอย่างในโลกนี้ได้ แต่การได้มีโอกาสติดต่อกับคนอย่างมาดาระก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและอันตรายมาก
หลังจากนั้น เซ็ตสึด่าก็ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์สําคัญหลายอย่างที่มาดาระประสบมาตลอดชีวิตราวกับว่าเขาเป็นคนที่เห็นทุกสิ่งด้วยตาเขาเอง
มาดาระเลิกคิ้วแล้วคิดกับตัวเองว่า “เจ้านี่เฝ้าดูฉันตลอดเวลาเลยรึเปล่าเนี่ย?”
อย่างไรก็ตาม มาดาระก็เริ่มสับสนมากขึ้นไปอีกเมื่อเซ็ตสึดำเริ่มบรรยายรายละเอียดการต่อสู้ของเขากับ มาซาฮิโกะ
“ไม่มีทางที่เจ้านี่จะสอดแนมพวกเราได้…ตอนเราสู้กับเจ้ามาซาฮิโกะ นอกจากฮาชิรามะ แล้วก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่น เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครอยู่ที่นั้นแล้วนินจาระดับฉัน 3 คนจะไม่สามารถสัมผัสได้ ฉันไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไร แต่ความสามารถในการตรวจจับของชายแก่นั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ…แล้วไหนจะเรื่องของฉันอีกล่ะ เจ้านี้แอบเข้ามาในบ้านของฉันยังไง? หรือว่าที่จริงแล้ว…มันอยู่ในตัวฉัน?!”
ตอนนี้ มาดาระเริ่มสับสนมากขึ้นเขาติดอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สิ่งมีชีวิตสีดําที่อยู่ตรงหน้าเขา…อยู่ในร่างกายของเขามานานแล้ว…
หลังจากครุ่นคิดและไตร่ตรองอยู่นาน ในที่สุด มาดาระก็เงยหน้าขึ้นจากนั้นเขาก็มองไปที่ดวงตาของเซ็ตสึดำโดยตรงแล้วพูดว่า “ฉันเชื่อแกก็ได้…”
เซ็ตสึดำหายใจอย่างโล่งอกและคิดกับตัวเองว่า “ในที่สุดแกก็อยู่ในกํามือของฉันแล้ว! โชคดีที่เขาไม่สังเกตว่าฉันเป็นคนแก้ไขศิลาอุจิฮะเอง…”
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกําลังเข้าทาง เซ็ตสึดำจึงถามมาดาระว่า “ถ้าฉันคิดไม่ผิด ท่านกําาลังวางแผนที่จะสู้กับฮาชิรามะในปีหน้าใช่ไหม?”
“นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?” มาดาระขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ท่านไม่กังวลกับชายแก่คนนั้นเหรอ อุซึมากิ มาซาฮิโกะน่ะ?” เซ็ตสึถามอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนประเด็น
มาดาระยิ้มและส่ายหัว “ชายแก่? ชายแก่อายุ 80 ปีคนนั้นนะเหรอ…? คนที่กําลังต่อสู้กับเวลาของตัวเอง เขาจะมาเป็นปัญหาได้ยังไง!”
เซ็ตสึด่า รู้สึกพูดไม่ออก…
เขาอยากจะบอกมาดาระว่ามาซาฮิโกะทําอะไรในตอนนี้ แต่เขาก็กลัวว่ามาดาระจะสงสัย เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจอย่างลับ ๆ “ฉันต้องคิดหาวิธีจัดการชายแก่คนนั้นให้ได้ ฆ่าเขาเลยดีไหม? ไม่ มันจะดูน่าสงสัยเกินไป ฉันต้องหาวิธีอื่น”
“และอุซึมากิ มาซาฮิโกะ เขาอาจมีความลับอะไรบางอย่าง…”
“ขอให้ท่านโชคดี” เซ็ตสึดำ พูดจากนั้นเขาก็จมลงไปในพื้นดินและหายไป
ในเวลานั้น มาซาฮิโกะที่เพิ่งมาถึงสนามฝึกนินจาของโคโนฮะ ก็รู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“มีใครนินทาฉันรึเปล่าเนี่ย? อ่อ แน่ละ ไดเมียว กาลังสาปแช่งฉันอยู่แน่ ๆ…”
“ช่างมันเถอะ ฉันต้องรีบฝึกแล้ว การต่อสู้กําลังใกล้เข้ามา แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากสําหรับชายอายุ 70 ฉันก็จะไม่ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาหรอก…”
มาซาฮิโกะคิดขณะขมวดคิ้ว “เอาล่ะ ฉันควรทําอะไรสักอย่างกับ…เซ็ตสึดำ”
“มาลองดูกันสิ! มาดูกันว่าใครจะเป็นนักต้มตุ้นตัวจริง!”