Long Live The Hokage - ตอนที่ 28 : การตีเหล็ก
ระหว่างทางกลับ ฮาชิรามะ ไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดทั้งทางกลับ
หลังจากการต่อสู้จบลง ฮาชิรามะ ได้ส่งตัวแทนไปที่ หมู่บ้านตระกูลซารุโทบิ พร้อมกับแร่ที่ขุดได้จำนวน 10% จากที่ขุดได้ทั้งหมด ตามที่พวกเขาได้ตกลงกันเอาไว้ ส่วนเรื่องที่ว่า ตระกูลซารุโทบิ จะแบ่งสัดส่วนของที่ได้ ให้ตระกูลพันธมิตรอย่างไรนั้น ฮาชิรามะ ไม่ได้สนใจ เพราะเขาคิดว่ามันอยู่นอกเหนือจากส่วนของ ตระกูลเซนจู แล้ว
มาซาฮิโกะ รู้สึกมีความสุขเพราะเขาได้แต้มการเข้าร่วมมาอย่างไม่คาดคิด ไม่ใช่เพราะว่าเขาได้ช่วยเหลือ ตระกูลซารุโทบิ แต่เขาได้รับแต้มมาจาก
“เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์สำคัญของโลก นารูโตะ : มีดจักระ”
“รางวัล : คุณได้รับแต้มการเข้าร่วม 2 แต้ม!”
แต่ มาซาฮิโกะ ก็จำได้ว่า มีดจักระ เป็นอาวุธประจำกายของ ซารุโทบิ อาซึมะ และมันก็น่าแปลกใจมากที่อาวุธนั้นถูกสร้างมาตั้งแต่ตอนนี้
ถ้า อาซึมะ เป็นเหลนของ ผู้นำตระกูลซารุโทบิ คนปัจจุบัน…ถ้าอย่างนั้นอาวุธชิ้นนี้ก็ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนานจริง ๆ
ในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ เขาได้ใช้แต้มการเข้าร่วมไป 1 แต้ม เพื่อเพิ่มให้กับค่าสถานะ การขุด และเขาก็ได้รับแต้มการเข้าร่วมเพิ่มมา 2 แต้ม ดังนั้นรวมแล้วเขาก็ไม่แต้มการเข้าร่วมเพิ่มมา 1 แต้ม
“เดือนนี้ช่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจจริง ๆ เราไม่คิดเลยว่าแค่ในช่วงยุคก่อนการต่อตั้ง เราจะได้แต้มการเข้าร่วมมาเยอะขนาดนี้ และดูเหมือนว่าอาจจะยังได้มากกว่านี้อีกนะเนี่ย…” มาซาฮิโกะ รู้สึกตื่นเต้นและเขาก็ต้องการแต้มการเข้าร่วมมากกว่านี้
หลังจากกลับมาถึง หมู่บ้านเซนจู แล้ว ส่วนที่ มาซาฮิโกะ โปรดปรานมากที่สุดก็เริ่มขึ้น
การเฉลิมฉลอง!
ในขณะที่เลี้ยงและดื่มเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของพวกเขา ฮาชิรามะ ก็ยืนขึ้นก่อนที่จะพูดว่า “ชัยชนะครั้งนี้ ทำให้เราได้เหล็กนำจักระมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น หากผู้ใดต้องการที่จะนำเหล็กเหล่านั้นไปทำอาวุธจักระ ก็ให้บอก โทบิรามะ ได้เลย แต่ตอนนี้ มาสนุกกับงานเลี้ยงกันต่อเลย”
นินจาเซนจู มองหน้ากัน พวกเขาไม่กล้าเอ่ยปากขอแร่นั้น แม้ว่าพวกเขาจะต้องการก็ตาม พวกเขาได้แต่รอให้ใครสักคนเอ่ยปากขอก่อน เมื่อ มาซาฮิโกะ เห็นดังนั้น เขาจึงยิ้มและยืนขึ้น ก่อนที่จะพูดออกมาว่า “โทบิรามะ ฉันอยากได้อาวุธสัก 2 ชิ้น”
โทบิรามะ พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนก็รีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปหา โทบิรามะ เพื่อขอแร่ทันที
วัสดุสำหรับทำ อาวุธจักระ ดังกล่าว ไม่สามารถผลิตได้โดยใช้ แร่นำจักระ ทั้งหมด ในการสร้าง อาวุธจักระ นั้น มีการใช้ แร่นำจักระ เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น นั้นหมายความว่าวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้ทำ อาวุธจักระ ก็ยังคงเป็นเหล็กอยู่ดี เพราะเหล็กจะช่วยให้อาวุธมีความคงทนและแข็งแรง ดังนั้นในกระบวนการสร้าง แร่นำจักระ และเหล็กธรรมดา จะต้องถูกผสมเข้าด้วยกันอย่างถูกต้อง นั่นทำให้ทรัพยากรเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก!
ในวันถัดมา มาซาฮิโกะ ก็มาที่ โรงตีเหล็กของตระกูลเซนจู
ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ วัสดุต่าง ๆ และช่างตีเหล็กที่ทำหน้าที่ตีอาวุธขึ้นมา
มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ที่จะสามารถหา แร่นำจักระ ได้ในช่วงที่เกิดสงครามแบบนี้ ดังนั้นช่างตีเหล็กที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากที่สุดเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้ตีขึ้นมาได้
“ท่านปู่ ตอนนี้โรงตีเหล็กมีงานที่ต้องเร่งผลิตให้เสร็จอยู่เป็นจำนวนมาก ผมต้องขอโทษด้วย แต่เราคงต้องรอไปก่อน จนกว่างานของพวกเขาจะเสร็จ” โทบิรามะ พูด
“ไม่ใช่ปัญหา…แต่เดี๋ยวก่อน…เรางั้นเหรอ? ท่านก็มาทำอาวุธเหมือนกันเหรอเนี่ย?”
“ใช่ครับ ผมอยากได้ ดาบแสงสายฟ้า นะครับ” โทบิรามะ ตอบ
มาซาฮิโกะ คิดในใจว่า “ดาบแสงสายฟ้า! ถ้าจำไม่ผิด มันคือดาบที่จะถูกขโมยไปจาก โคโนฮะ สินะ?!”
“ถ้าเราอยู่ตอนมันถูกสร้างขึ้น เราก็น่าจะได้คะแนนการเข้าร่วมอย่างน้อยก็ 2 คะแนน แต่ถ้าฉัน…”
ทันใดนั้น มาซาฮิโกะ ก็หันไปหา โทบิรามะ และพูดว่า “ฉันว่าฉันไม่รอดีกว่า ฉันจะตีมันขึ้นมาเอง เอ้อ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะทำให้ท่านด้วย”
“ท่านปู่ ท่านจะตีอาวุธเองจริง ๆ เหรอ?!” โทบิรามะ รู้สึกตกใจเมื่อได้ยิน มาซาฮิโกะ พูดคำนั้นออกมา
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โทบิรามะ เพิ่งได้เห็นความสามารถในการขุดของ มาซาฮิโกะ ที่เกินความคาดหมายของเขาเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่คิดว่านอกจากความเชี่ยวชาญในการขุดแล้ว มาซาฮิโกะ ยังมีความสามารถในการตีอาวุธอีกด้วย
มาซาฮิโกะ เหลือบไปมอง โทบิรามะ แล้วพูดว่า “แล้วท่านจะต้องร้องว้าว!”
ในโรงตีเหล็ก
มาซาฮิโกะ หยิบค้อนขึ้นมา จากนั้นก็หยิบเหล็กขึ้นมาตี
มาซาฮิโกะ ตีอาวุธอยู่นานจนใบหน้าเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แต่ว่าไปแล้วมันจะเรียกว่าตีอาวุธได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ มันเหมือนกับเขาตีเหล็กไปมั่ว ๆ มากกว่า และจริง ๆ แล้วตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาต้องทำอะไรต่อไป
มาซาฮิโกะ ตีเหล็กต่ออีกกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ค่าสถานะ การตีเหล็ก ของเขาก็ยังไม่ปรากฏออกมาบนแถบสถานะของเขาสักที
มาซาฮิโกะ เหลือบมองไปที่ช่างตีเหล็กคนอื่น แล้วเขาก็เห็นว่าบางคนกำลังมองมาที่เขาด้วยท่าทางตลกขบขัน เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกอายขึ้นและพูดออกมาว่า “เออ…ฉันไม่ได้ทำมันมาหลายปีแล้ว ฝีมือฉันก็สนิมขึ้นเป็นธรรมดา”
หนึ่งในช่างตีเหล็กเหล่านั้นมองไปที่โลหะที่ มาซาฮิโกะ กำลังตีอยู่แล้วพูดออกมาว่า “สนิมขึ้นรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้คือนี่คงไม่ใช่ฝีมือของช่างตีเหล็กแน่นอน!” มาซาฮิโกะ รู้สึกอายขึ้นมายิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคนี้
จากประสบการณ์ของ มาซาฮิโกะ ที่มีตอนที่เขาขุดเหมือง เขาพบว่าค่าสถานะจะปรากฏขึ้นมาหลังจากที่เขาลองทำสิ่งนั้น ๆ ไปไม่กี่ครั้ง แต่ตอนนี้ เขาตีเหล็กมานานกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายังคงพยายามทำต่อไปจนมืดค่ำ แต่แล้วเมื่อช่างตีเหล็กคนสุดท้ายออกจากโรงตีเหล็กไป ในที่สุดความพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จ
การตีเหล็ก LV 0 (0/100)
“อ่าฮ๊า! ในที่สุด!” ถ้าช้ากว่านี้อีกสัก 2 นาที มาซาฮิโกะ คงจะยอมแพ้ไปแล้ว แต่โชคดีที่ค่าสถานะ การตีเหล็ก ของเขาปรากฏขึ้นมาเสียก่อน!
ด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก เขาจึงเพิ่มแต้มไป 1 แต้มอย่างไม่คิด
การตีเหล็ก LV 6 (10000/20000)
“แจ๋งจริง ๆ เหมือนกับประสบการณ์การตีเหล็กหลายปีกำลังแล่นอยู่ในสมองของเราเลยนะเนี่ย…”
มาซาฮิโกะ ต้องการที่จะตีอาวุธของเขาให้เสร็จ แต่เขาก็เห็นว่าช่างตีเหล็กคนอื่น ๆ กลับไปหมดแล้ว นอกจากนั้น มาซาฮิโกะ ก็หิวเป็นอย่างมาก และเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขายังไม่ได้ทานอาหารเย็น
หลังจากกลับมาบ้านและทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว มาซาฮิโกะ ก็ใช้ประสบการณ์ใหม่เกี่ยวกับการตีเหล็กที่เขาเพิ่งได้มาทั้งหมดจากการได้รับค่าสถานะ เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างอาวุธทั้ง 2 ชิ้นของเขาขึ้นมา
“ดูเหมือนว่า LV 6 จะเป็นระดับที่สูงที่สุดของคนปกติที่จะทำได้ ถ้าเป็นคนปกติ ความสามารถระดับนี้คงจะถูกเรียกว่า ปรมาจารย์ด้านการตีเหล็ก ละมั้ง”
มาซาฮิโกะ มองไปที่แต้มการเข้าร่วมของเขาที่เหลืออยู่ 4 แต้ม
“เก็บไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินดีกว่า แต่จะว่าไป เราก็มีโอกาสที่หลังจากที่สร้าง ดาบแสงสายฟ้า เสร็จ เราจะได้แต้มการเข้าร่วมเพิ่มมาอีก…”
มาซาฮิโกะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็กัดฟันและตัดสินใจเพิ่ม 3 แต้ม ให้กับค่าการตีเหล็ก
การตีเหล็ก LV 8 (40000/60000)
“ถ้าแบบนี้ละก็ พรุ่งนี้อาวุธของเราทั้ง 2 เล่มต้องเสร็จอย่างแน่นอน!” มาซาฮิโกะ คิดเรื่องนี้ก่อนที่เขาจะหลับไป
…
ในตอนเช้าของวันถัดมา เมื่อ มาซาฮิโกะ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาก็รีบวิ่งตรงไปที่โรงตีเหล็กทันที
ด้วยเวลาเพียงครึ่งวัน อาวุธทั้ง 2 ชิ้นของ มาซาฮิโกะ ก็เสร็จสมบูรณ์ เขาถือดาบ 2 เล่นเอาไว้ในมือ
การตีเหล็ก LV 8 แตกต่างจาก LV 6 เป็นอย่างมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะสามารถตีดาบทั้ง 2 เล่มขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เขาลองเหวี่ยงดาบเพื่อดูสมดุลของมัน แต่แล้วเขาก็บังเอิญเหวี่ยงดาบไปโดนเตาเผาเตาหนึ่งจนทำให้มันเกิดรอยร้าวขึ้น
“ปัดโถ่! สร้างปัญหาจนได้สิเรา!” มาซาฮิโกะ รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก และเขาก็ทำท่าทางเขิน ๆ แล้วรีบออกไปพร้อมกับดาบของเขาอย่างรวดเร็ว
มาซาฮิโกะ คิดอยู่นานว่าเขาจะไปที่ไหนดี แล้วเขาก็นึกถึง สนามฝึกซ้อมของตระกูลเซนจู ขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็ไปที่นั่นเพื่อทดสอบดาบของเขาทันที
เพราะนี่คือ ดาบจักระ ดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงเค้นจักระเข้าไปในดาบทันที
“โอ้…” มาซาฮิโกะ ยื่นมือออกไปห่างตัวเล็กน้อย เพราะเมื่อเขาเค้นจักระเข้าไปในดาบ แสงเจิดจ้าก็เปล่งออกมาจนทำให้เขาแสบตา
“ถ้าแสงจะจ้าขนาดนี้ ดาบนี้ก็คงจะไม่สามารถใช้ในการซุ่มโจมตีได้สินะ แต่บางทีเราอาจจะทำให้ศัตรูตาบอดได้ถ้าเราฉีดจักระเข้าไปมากกว่านี้” มาซาฮิโกะ พูดกับตัวเอง
มาซาฮิโกะ ตรวจสอบความสมดุลของใบมีดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดออกมาว่า
“พรุ่งนี้ เราจะแสดงให้พวกเขาเห็นถึงผลงานชิ้นเอกของ ท่านปู่คนนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า…”