Long Live The Hokage - ตอนที่ 17 : สัมผัสแปลก ๆ
เนื่องจาก ฮาชิรามะ เป็นกังวลเกี่ยกับความปลอดภัยของหมู่บ้านของเขา ดังนั้นเขาจึงมาเยี่ยมหมู่บ้านตระกูลอุซึมากิ เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น และในวันรุ่งขึ้นเขาก็กล่าวลากับผู้นำตระกูลและเดินทางกลับทันที
ในตอนที่พวกเขาเดินทางมา พวกเขามากันเพียงแค่ 4 คน แต่ในตอนพวกเขามีทั้งหมด 5 คน โดยที่ มาซาฮิโกะ เป็นสมาชิกคนที่ 5 ของขบวนเดินทางนี้
ตลอดทางที่พวกเขาเดินทางกลับไปยัง หมู่บ้านตระกูลเซนจู มาซาฮิโกะ ก็ยังคงรู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก และเขาก็ไม่อยากสบตากับคนอื่น
โทบิรามะ ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ มาซาฮิโกะ ขุ่นเคืองได้ถึงขนาดนี้ เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ มาซาฮิโกะ โกรธถึงขั้นที่ว่า คิดจะลับพาตัวเขาเพื่อรอให้เขาสร้าง วิชาสัมภเวสีคืนชีพ ให้เสร็จแล้วค่อยปล่อยเขาไป…
บรรยากาศน่าอึดอัดเป็นอย่างมาก แต่ไม่นานนักพวกเขาก็เดินทางมาถึง หมู่บ้านตระกูลเซนจู
เมื่อพวกเขามาถึงประตูใหญ่ ผู้คนที่ยืนรออยู่ที่ประตูก็โค้งคำนับให้ ฮาชิรามะ ทันทีที่เขาเดินผ่านประตูเข้ามา มันทำให้ มาซาฮิโกะ รู้สึกแปลก ๆ แต่เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้ ฮาชิรามะ กลายเป็น ผู้นำตระกูลเซนจูแล้ว
เมื่อพวกเขาไปถึงบ้าน มิโตะ ก็กลับไปที่ห้องของเธอ ส่วน ฮาชิรามะ กับ โทบิรามะ ก็ไปที่ห้องประชุมเพื่อสะสางงานที่ทำค้างอยู่ และบอกให้ มาซาฮิโกะ นั่งรอเข้าอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ
ในที่สุด มาซาฮิโกะ ก็ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของ เทพเจ้าแห่งนินจา
1 ชั่วโมงผ่านไป แต่ ฮาชิรามะ ก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว และการรอคอยที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ก็ทำให้ มาซาฮิโกะ รู้สึกง่วงมาก
ในที่สุด ฮาชิรามะ ก็ทำงานจนเสร็จ เขาก็พูดว่า “ท่านปู่ ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ”
“…อืม…โอ้…ไม่เป็นไร…ทำงานของท่านให้เสร็จก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันรออยู่นี่เหละ” มาซาฮิโกะ พูดในขณะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น
“ท่านพี่ ถ้าท่านทำงานเสร็จแล้ว เราก็ไปจัดการกับพวกนั้นกันเลยดีกว่า!” โทบิรามะ ตะโกนเสียงดังเพื่อให้ มาซาฮิโกะ ตื่น
มาซาฮิโกะ สะดุ้งตื่นและเผลอพูดในสิ่งที่เขาคิดก่อนที่จะหลับไปว่า “ใช่แล้ว เราต้องลักพาตัวเด็กคนนี้ และทำให้เขา…”
เมื่อเขาตั้งสติกลับมาได้ เขาก็รู้สึกว่าเขาต้องพูดอะไรสักอย่างเพื่อแก้ตัวในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไป แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรออกไป ฮาชิรามะ ก็หันไปทาง โทบิรามะ และพูดกับเขาว่า
“ไม่ โทบิรามะ ครั้งนี้นายต้องอยู่ที่นี่…ฉันไม่รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลานานแค่ไหน ดังนั้นฉันต้องการให้นายอยู่ที่นี่เพื่อดูแลหมู่บ้านของเรา”
“ฉัน…เข้าใจแล้วท่านพี่” โทบิรามะ ตอบ “ฉันจะรอท่านกลับมาอยู่ที่นี่ ฉันจะดูแลคนของเราจนกว่าท่านจะกลับมา”
แม้ว่า โทบิรามะ จะตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจ แต่เขาก็รู้ว่าการตัดสินใจของพี่ของเขาเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว
ฮาชิรามะ ยิ้มและพูดว่า “ท่านปู่ เราไปกันตอนนี้เลยไหม? จุดหมายของเราค่อนข้างไกล แล้วเราค่อยไปหาเมืองเล็ก ๆ พักระหว่างทาง ผมคิดว่าเราน่าจะไปถึงจุดหมายในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น ๆ”
“ไกลขนาดนั้นเลยเหรอ? งั้นเรากินอะไรก่อนออกเดินทางดีไหม…” มาซาฮิโกะ รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเมื่อเขารู้ว่าเขาจะไม่ได้กินอาหารหรู ๆ ไปอีกหลายวัน
“โอเค ถ้างั้น…” ฮาชิรามะ เห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนจัดอาหารมาให้พวกเขา และหลังจากที่พวกเขากินเสร็จ พวกเขาก็ออกเดินทางไปยังที่อยู่ของ กลุ่มราศีตุลย์ ทันที
ดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาเมืองเล็ก ๆ เพื่อค้างคืนได้เลย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โลกนินจาในตอนนี้ แคว้นแห่งไฟ ยังไม่มีหมู่บ้านเล็ก ๆ มากเท่าไรนัก
สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินทางต่อไปในความมืดอีก 2 – 3 ไมล์ จากนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงลานว่างกลางป่า พวกเขาตัดสินใจว่าพวกเขาจะค้างคืนที่นี่
“นี่เราจะต้องนอนกับ เทพเจ้าแห่งนินจา คืนนึงจริงเหรอเนี่ย?” มาซาฮิโกะ คิด แน่นอนว่า มาซาฮิโกะ รู้สึกตื่นเต้น แต่ความตื่นเต้นของเขาไม่ใช่เพราะความคิดลามกอะไร
ฮาชิรามะ หันมาพูดกับ มาซาฮิโกะ ว่า “ท่านปู่ เราจะผลัดกันนอนและเฝ้ายามทุก ๆ 3 ชั่วโมง แล้วก็เปลี่ยนกะกัน”
“จะทำแบบนั้นทำไม ท่านก็ใช้คาถาไม้ของท่านสร้างบ้านขึ้นมาสิ” มาซาฮิโกะ พูดออกมาเบา ๆ
“โอ้ จริงสิ” ฮาชิรามะ เพิ่งรู้ว่าเขาทำแบบนั้นได้
“เหมือนเป็นคนละคนกับตอนที่เป็นผู้นำตระกูลเลยนะเนี่ย…” มาซาฮิโกะ คิดกับตัวเอง
เพียงไม่กี่วินาที ฮาชิรามะ ก็สร้างบ้านไม้จากคาถาจนเสร็จ จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายเข้าห้องของตัวเองและนอนหลับไป
…
วันรุ่งขึ้นพวกเขาตื่นขึ้นมาแต่เช้า ทั้งคู่ล้างหน้าและกินอาหาร จากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางต่อทันที
พวกเขาเดินทางอย่างไม่หยุดพักตลอดทั้งวัน เพื่อให้ไปถึงจุดหมายได้ทันเวลาในตอนเย็น
เมื่อพวกเขาเดินทางไปสักพักหนึ่ง มาซาฮิโกะ ก็สัมผัสได้ถึงจักระของ กลุ่มราศีตุลย์ ได้จากระยะไกล และหนึ่งในพวกเขาก็ที่มีจักระที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก จักระของเขาอยู่ในระดับเดียวกับนินจาระดับ โจนินพิเศษ เลยทีเดียว แต่สิ่งที่ดูแปลกคือจักระของพวกเขาเหมือนมีอะไรบางอย่างผสมอยู่
“นี่คือ พลังงานธรรมชาติ เหรอ?” มาซาฮิโกะ รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก “แต่ พลังงานธรรมชาติ จะมีความรู้สึกที่ชั่วร้ายปนอยู่ในนั้นได้อย่างไร?”
“ท่านปู่ แถวนี้คือที่อยู่ของ กลุ่มราศีตุลย์” ฮาชิรามะ กล่าว
“ฉันรู้แล้ว ฉันตรวจจับเจอแล้ว” มาซาฮิโกะ ตอบ “แต่มีบางอย่างผิดปกติ จักระของพวกเขามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง…ทีมของท่านรออยู่ตรงไหน?”
“ไปทางนั้นอีกไม่ไกลครับ” ฮาชิรามะ ชี้ไปที่ทิศทางหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ดูสับสนเป็นอย่างมากแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ท่านปู่…ผมสัมผัสจักระของพวกเขาไม่ได้…”
พวกเขามองหน้ากันแล้วรีบตรงไปยังทิศทางที่ทีมของเขารออยู่ทันที
ทั้งคู่กลัวว่าจะมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับทีมของพวกเขา เมื่อทั้งคู่ไปถึงบริเวณนั้นทั้งคู่ก็ไม่พบร่องรอยของทีมของพวกเขาเลย พวกเขาเฝ้ามองหาอยู่นานกว่าชั่วโมง จนกระทั่งพวกเขาสัมผัสได้ถึงจักระของทีม ห่างออกไป 1 ไมล์จากที่นั่น
ฮาชิรามะ คิดว่าทีมอาจจะถูก กลุ่มราศีตุลย์ โจมตี จนต้องย้ายทีซ้อนตัว
ในที่สุดทั้ง 2 ก็มาถึงจุดที่พวกเขาสัมผัสถึงจักระของทีมได้ พวกเขาพบกับค่ายของทีม แต่ไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น มีแต่เสียงหัวเราะและเสียงร้องเพลงที่ดังออกมาจนสามารถได้ยินจากระยะไกล ซึ่งทำให้ ฮาชิรามะ รู้สึกมึนงงและในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ที่นี่ไม่เหมือนค่ายทำสงคราม แต่มันเหมือนเป็นปาร์ตี้มากกว่า…
“ท่านผู้นำกลับมาแล้ว!” ทหารตระกูลเซนจู หลายคนสังเกตเห็นว่า ฮาชิรามะ และ มาซาฮิโกะ กำลังมาและพวกเขาก็ทักทายทั้งคู่ทันที
“เซนจู เทนโกคุ อยู่ไหน?” ทันทีที่เขามาถึงและมั่นใจว่าทีมของเขาปลอดภัย เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกม ก่อนที่จะถามหาหัวหน้าทีม
“หัวหน้าอยู่ที่เต้นกลางค่ายครับ ผมจะพาท่านไปหาเขาเอง ท่านผู้นำ” หนึ่งในทหารอาสาขึ้นมาอย่างเต็มใจและเดินนำพวกเขาไป
มาซาฮิโกะ และ ฮาชิรามะ เดินตามเขาไปทันที
พวกเขาเดินมาจนถึงเต้นหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางค่าย จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปแล้วพบกับ หัวหน้าเทนโกคุ นั่งอยู่กลางห้อง เขายืนขึ้นทันทีเมื่อเห็น ฮาชิรามะ และพูดว่า “ท่านผู้นำกลับมาแล้วเหรอครับ?”
“ฉันกลับมาแล้ว เอาละ ทีนี้บอกฉันที…ว่าที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น…” ฮาชิรามะ ดูสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
นี้คือค่ายที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเตรียมการต่อสู้ แต่เมื่อเขากลับมา เขากลับพบว่าค่ายนี้กลายเป็นเหมือนกับกลุ่มเพื่อนนัดปาร์ตี้กัน ส่งเสียโหวกแหวงโวยวาย โดยที่ไม่เกรงกลัวข้าศึกจะบุกมา และเขาต้องการคำอธิบายในเรื่องนี้
“หลังจากที่ท่านจากไป กลุ่มราศีตุลย์ ก็ขอเจรจาสงบศึกกับเรา ผู้นำของพวกเขาอธิบายว่าที่กลุ่มของพวกเขาทำร้ายคนของเราเพราะความเข้าใจผิด และพวกเขาจะชดเชยให้กับความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น” เทนโกคุ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ ฮาชิรามะ ฟัง
“ดังนั้นเมื่อพวกเขาแสดงความรับผิดชอบแล้ว ผมคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องถ้าเรายังคงตั้งค่ายอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กับพวกเขา ดังนั้นผมจึงย้ายค่ายออกมาที่นี่และรอท่านกลับมา” เทนโกคุ อธิบายต่อ
“นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกข้างนอกนั้นถึงจัดปาร์ตี้แล้วโหวกแหวกโวยวายกันงั้นเหรอ?” ฮาชิรามะ ถามอย่างจริงจัง
“…” เทนโกคุ นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตอบ ฮาชิรามะ กลับไปว่า “พวกเขาต่อสู้มาหลายปี ตั้งแต่เริ่มมีสงครามเกิดขึ้นพวกเขาก็ไม่ได้ปลดปล่อยอะไรแบบนี้ออกมาเลย ผมแค่คิดว่าปล่อยให้พวกเขาสนุกและผ่อนคลายกับยามค่ำคืนบ้างก็น่าจะดี”
“เอาเถอะ ตราบใดที่คนของเราปลอดภัยก็ไม่เป็นไร”
หลังจากนั้น ฮาชิรามะ ก็หันไปหา มาซาฮิโกะ แล้วพูดว่า “ท่านปู่ ผมต้องขอโทษด้วยที่พาท่านมาถึงที่นี่ แต่ปัญหาทั้งหมดดันจบไปแล้ว” ฮาชิรามะ โค้งคำนับขณะกล่าวคำขอโทษออกมา
“ไม่เป็นไร ฉันไม่คิดมากหรอก” มาซาฮิโกะ พูดด้วยรอยยิ้ม
“ท่านผู้นำ มีอีกเรื่องหนึ่ง ผู้นำของพวกเขาต้องการพบท่านเป็นการส่วนตัว เหมือนเขาจะอยากพูดอะไรบางอย่างกับท่าน แต่ผมว่ามันไม่ค่อยน่าไว้ใจ…”
“โอเค เข้าใจแล้ว คืนนี้เราจะพักก่อน แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปหาพวกเขา” ฮาชิรามะ ดูเหมือนจะไม่กังวลว่ามันจะเป็นกับดักหรือไม่ เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง
จากนั้นเขาก็หันไปหา มาซาฮิโกะ แล้วพูดว่า “ท่านปู่ ท่านจะไปด้วยไหม?”
“อืม…ถ้าฉันได้รับเชิญ ฉันก็จะไป!” มาซาฮิโกะ ตอบ ฮาชิรามะ กลับไป ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังคงสงสัยในจักระแปลก ๆ ที่เขาสัมผัสได้อยู่ เขาจึงอยากไปเห็นด้วยตนเอง
และที่สำคัญ เขาไม่อยากให้การเดินทางครั้งนี้เปล่าประโยชน์