Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ - ตอนที่ 1215
แดนสวรรค์ การรุกราน?
อาณาจักรหลิงหวิน ภูมิภาคซีเหอ แดนสวรรค์ตะวันตก
เมืองลี่จ้าวอยู่ใกล้ประตูสวรรค์มากที่สุดไม่มีที่ใดใกล้กว่านี้อีกแล้ว
เมืองลี่จ้าวเป็นฐานทัพใช้ตีหอทงเทียน เนื่องจากเกาะสุริยาเป็นฐานที่มั่นด้านหลัง มีผู้เฒ่าหมากรุกเป็นผู้พิทักษ์คอยดูแลป้องกันไม่ให้เชลยชาวหอทงเทียนหนีออกมา เส้นทางลับข้างหน้าได้เปิดใช้อุปกรณ์ระเบิดดวงดาวทำลายเมืองลี่จ้าวและดินแดนในรัศมีหลายสิบกิโลเมตรโดยรอบจนราบคาบ
วันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังบินไปยังซากปรักหักพังที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใช้งานเป็นเวลานาน
คนที่อยู่แถวหน้าคือเจ้าอ้วนไห่ เย่คง เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวที่เย่ว์หยางปล่อยให้หาประสบการณ์ในอยู่ในเมืองลู่หลิว ภูมิภาคสวนสวรรค์
ก่อนที่จะเดินทางถึงซากปรักหักพัง เย่คงหยุดและแยกออกห่างเจ้าอ้วนไห่อย่างระมัดระวังราวกับว่าจะมีศัตรูที่น่ากลัวโดดลงมาในพื้นที่ปรักหักพัง ไม่เพียงแต่เย่คงและเจ้าอ้วนไห่เท่านั้น แต่เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวก็พร้อมเผชิญหน้ากับศัตรูด้วย
“เด็กๆ ไม่ต้องกังวล!”
เสียงอ่อนโยนดังขึ้นเหมือนกับอยู่ในท้องฟ้าห่างไกล แต่ชัดเจนเหมือนดังในหู
ในท่ามกลางพื้นที่ไหม้ปรักหักพัง มีชิ้นส่วนซากหักพังส่วนหนึ่งลอยอยู่ ตรงกลางมีช่องกลมขนาดสิบเมตรไม่ทราบลึกเท่าใด ชายชราผมขาวแต่งตัวหวีผมเรียบร้อยออกมาจากช่องกลม เขาใช้นามว่าเจียวซือผู้ปลอมตัวพรางตัวเป็นหัวหน้าพ่อบ้านในเมืองลี่จ้าว ซึ่งแท้ที่จริงคือราชาเกาเผิงหนึ่งในสี่ราชันย์ผู้ค้ำบัลลังก์ของจักรพรรดิอวี้และเป็นผู้อาวุโสที่น่าเคารพ
เย่ว์หยางมายังเมืองลี่จ้าวเพื่อช่วยเหลือผู้อาวุโสหอทงเทียนผู้ถูกจองจำในสงครามจักรพรรดิอวี้ครั้งก่อน แต่สหายเก่าทั้งหมดนี้เหลือแต่เพียงวิญญาณ เนื่องจากผ่านไปถึงหกพันปีแล้ว พวกเขาไม่ต้องการกลับหอทงเทียนไปเผชิญพบหน้าผู้เยาว์รุ่นหลังที่พวกเขาไม่รู้จัก
พวกเขาทำได้แต่เพียงลอบคุ้มครองดินแดนมาตุภูมิจากแดนสวรรค์ที่ห่างไกล
“ผู้อาวุโสราชันย์เกาเผิง” เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ถอนหายใจโล่งอกเมื่อพวกเขาเห็นราชาเกาเผิง
เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวบินลงมาสมทบเช่นกัน
สำหรับราชันย์เกาเผิง เขาคือผู้อาวุโสรุ่นก่อน
เกาเผิงโบกมืออย่างสุภาพ “ไม่มีราชาเกาเผิงอีกแล้ว นี่เป็นยุคของจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ นี่คือยุคสมัยของพวกเจ้า พวกเจ้าไม่ต้องมากมารยาทกับเราก็ได้ ว่าแต่พวกเจ้ามีอะไรจะพูดก่อนยืนยันอีกไหม?”
เมื่อเขาถามโดยตรง เย่คงและคนอื่นเปลี่ยนสีหน้าทันที ปกติเจ้าอ้วนไห่จะยิ้มร่าเริงอยู่เสมอ แต่ตอนนี้สีหน้าเขาเครียด
เย่คงพยักหน้าหนักแน่นยืนยัน “ข่าวสารถูกต้อง ได้รับการยืนยันแล้ว”
เมื่อได้ยินคำตอบจากเย่คง หนึ่งในสี่ราชันย์ค้ำบัลลังก์ของจักรพรรดิอวี้มองดูสีหน้าจริงจังและถอนหายใจเล็กน้อย “หกพันปี เป็นเวลาหกพันปีแล้ว แม้จะไม่มีจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่เกิดขึ้น ตำหนักกลางแดนสวรรค์ไม่ลืมที่จะส่งพวกเขาไปที่หอทงเทียน พวกมันไม่เคยปล่อยให้เราได้มีเวลาได้พักและฟื้นตัว หอทงเทียนเป็นหนามตำตาพวกเขาตลอดหกพันปีที่ผ่านมา พวกเขาจะจับตามองดูเราอย่างสงบเงียบโดยไม่ลงมือทำอะไรได้อย่างไร? นอกจากนี้การเติบโตของพวกเจ้าเด็กน้อยรุ่นหลังเริ่มจะคุกคามพวกเขา พวกเขาจะไม่มีทางทำเป็นตาบอดต่อไป! เมื่อจ้าวสุริยาตาย ข้าก็มีลางสังหรณ์นี้บ้างแล้ว พวกเขามาเร็วกว่าที่ข้าคาดเดาเล็กน้อย!”
เจ้าอ้วนไห่เกาศีรษะพูดขึ้นอย่างกังวล “เจ้าเด็กนั่นไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย พวกเราเพียงไม่กี่คนเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะกองทัพของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้?”
องค์ชายเทียนหลัวดูถูกที่เขาตาขาว “อย่าพูดอะไรให้ใหญ่โตเกินไป! กองทัพตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์น่ะหรือ? แค่เพียงทหารรับจ้างแดนสวรรค์ก็เพียงพอบดขยี้หอทงเทียนได้ทั้งหมด! แค่นักสู้ที่ระดับสูงกว่าปราณฟ้าระดับห้า ตำหนักกลางแดนสวรรค์สามารถหานักรบระดับนั้นได้เป็นแสนคน ไม่ต้องพูดถึงทหารที่มีระดับพลังต่ำกว่าปราณฟ้าระดับห้าและระดับปราณดิน ศัตรูมีจำนวนไม่น้อยกว่าล้าน อาศัยแค่เพียงเราเจ้าคิดว่าต่อให้อีกฝ่ายไม่สู้ตอบโต้เลย เจ้าจะสามารถฆ่าพวกเขาได้กี่คน?”
“แสนคน?” ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงเมื่อได้ยินว่าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เกณฑ์ไพร่พลนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าได้ถึงแสนคนถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน
“นั่นเป็นเรื่องที่คาดกาณ์ไว้ก่อนแล้ว” เสวี่ยทันหลางตัดสินใจ
“แม้ว่าจะเป็นตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเรื่องที่ยากมากกับการเกณฑ์กำลังนักสู้เหนือปราณฟ้าระดับห้าให้ได้สักแสนคน ที่สำคัญไม่ใช่ว่านักสู้ปราณฟ้าที่สูงกว่าระดับห้าทุกคนจะยินดีจะไปหอทงเทียนเพื่อขายชีวิตให้กับพวกเขา ตอนนี้พวกเขารับสมัครทหารหลายคนพิสูจน์ว่าพวกเขาได้เตรียมการแล้ว” เย่คงเห็นด้วย
“ยังมีข่าวอะไรอีก?” เกาเผิงสงสัยว่าทำไมเย่คงและเจ้าอ้วนไห่สามารถเข้าใจความเคลื่อนไหวของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้
“เรื่องเป็นเช่นนี้ บางทีท่านผู้อาวุโสอาจจำได้ คุณชายสามตอนที่อยู่ในเมืองลี่จ้าว ครั้งหนึ่งเขาช่วยราชาและพระสนมของเผ่ากาทอง ราชากาทององค์ชายแปดเผ่าบูรพาอูไห่ได้ทราบข่าว เขารีบส่งข่าวไปที่ภูมิภาคสวนสวรรค์เพื่อเตือนคุณชายสามทันที แต่เขาไม่รู้ว่าคุณชายเข้าดินแดนมิติฝึกฝน หลังจากพวกเขาเทียวไปเทียวมาอยู่ในเมืองลู่หลิวหลายรอบจึงได้พบเจอพวกเรา” เย่คงอธิบายให้เกาเผิงฟัง
“ดังนั้นเจ้าถึงได้ส่งหมาป่าปีศาจล้างโลกมาส่งข่าวให้เรา!” เกาเผิงพยักหน้า
“ฮุยไท่หลาง?” เจ้าอ้วนไห่ตอนนี้พบว่าฮุยไท่หลางไม่อยู่ที่นั่น
“ข้าให้มันกลับไปหอทงเทียน” เกาเผิงถอนหายใจ “แม้ว่าข้อมูลที่เจ้าส่งมายังไม่ชัดเจน แต่ข้าพอจะเดาได้ว่ากองทัพตกอยู่ภายใต้แรงกดดันดังนั้นข้าจึงปล่อยให้เจ้าหมาป่าปีศาจล้างโลกไป หวังว่าหอทงเทียนจะได้รับทราบข่าวล่วงหน้าและเตรียมการได้ทัน”
“ประตูแดนสวรรค์เป็นรอยแตกของมิติเวลา ไม่อาจใช้ได้ไม่ใช่หรือ? ฮุยไท่หลางจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?” เย่คงและคนอื่นๆ ตกใจ
ถ้าฮุยไท่หลางหายไปในรอยแยกมิติเวลาของประตูแดนสวรรค์ที่ถูกผนึก
อย่างนั้นเขาไม่รู้จะอธิบายกับเย่ว์หยางอย่างไรดี
ฮุยไท่หลางคือหมาป่าปีศาจล้างโลก แต่ไม่ได้ทำสัญญากับเย่ว์หยาง มันไม่ใช่อสูรพิทักษ์ ถ้ามีข้อผิดพลาดไป หรือถูกมิติกาลเวลาดูดเข้าไปในรอยแยก มันจะไม่มีทางฟื้นคืนชีพ เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ได้แต่คิดว่ามันคงรวดเร็วพอและปลอดภัย
พวกเขาไม่คิดจะปล่อยให้มันผ่านรอยแยกมิติเวลากลับไปยังหอทงเทียน
แต่พอเกาเผิงราชันย์คุกฟ้าพูดขึ้น
ทุกคนหวาดกลัว
ขออย่าให้เกิดอุบัติเหตุเลย มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่มีหน้าพบเย่ว์หยาง
เกาเผิงหัวเราะ “หมาป่าปีศาจล้างโลก มันฉลาดกว่าพวกเจ้า และมีร่างที่เกือบจะเป็นอมตะอยู่แล้ว ดังนั้นรอยแยกมิติเวลาเล็กน้อยทำอะไรมันไม่ได้ นอกจากนี้ ข้าไม่ได้ปล่อยให้มันไปทางรอยแยกมิติเวลาด้านประตูสวรรค์ เพื่อหลีกเลี่ยงความน่ากลัว ข้านึกถึงอีกทางหนึ่ง ความจริงมันอยู่ภายใต้ซากหักพังที่นี่ ความจริงอาวุธวิเศษระเบิดดวงดาว ได้สร้างรอยแยกจากที่พวกเราเหล่าเฒ่ากระดูกผุกร่อนได้สร้างไว้ พอระเบิดออกช่องมิติเวลาก็ขยายยาวไปถึงผนึก ถ้าจะใช้ร่างมนุษย์ผ่านไปจะค่อนข้างอันตราย แต่ไม่มีปัญหากับหมาป่าปีศาจล้างโลก พวกเจ้ามั่นใจได้เลยว่าข้าไม่เลอะเลือนจนถึงฝังเจ้าหมาป่าปีศาจล้างโลกอย่างไม่มีเหตุผล!”
โชคดีจริงๆ!
ทั้งเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ลูบอกโล่งอกด้วยคำพูดของราชันย์คุกฟ้าราวกับยกภูเขาออกจากอก
“ด้วยวิธีนั้นหอทงเทียนจะได้รับแจ้งถึงการมาถึงของกองทัพตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนสวรรค์” องค์ชายเทียนหลัวถอนหายใจโล่งอก แม้ว่าแรงกดดันจากกองทัพยากจะต่อต้านแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เตรียมตัว
“ข่าวสารคาดว่าจะถูกส่งกลับมา แต่ไม่มีจำนวนที่แน่นอน” เกาเผิงส่ายหัว “จดหมายพวกเจ้าตอนแรกเป็นข้อมูลที่ยังไม่รู้กัน!”
“อันที่จริงจำนวนที่แน่นอนต่อไปนี้เป็นพันธมิตรอีกกลุ่มหนึ่งที่บอกกับเรา” เย่คงพูดอย่างจนใจ “องค์ชายแปดอูไห่ไม่ทราบจำนวนที่เฉพาะเจาะจงของทัพหน้า เขาต้องเร่งเวลามาแจ้งเราอย่างรวดเร็วที่สุด นอกจากนี้เขาบอกว่าจะยังไม่เร่งเข้าพิชิตหอทงเทียน แต่จะบุกเข้าภูมิภาคซีเหอ และพวกกลุ่มกบฏและพวกอาณาจักรมืดเพื่อประกาศโทษคุณชายและเป็นการแก้แค้นให้เผ่าเก้าแสง แต่ทันทีที่ได้ยินพวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือเอาชนะหอทงเทียน… ไม่นานหลังจากนั้นเราจึงส่งฮุยไท่หลางมารายงาน นอกจากนี้ยังมีสหายอีกคนหนึ่งนามว่าตู๋กูฉางฟงช่วยยืนยันข่าวนี้ กล่าวกันว่าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์สามารถระดมนักสู้ปราณฟ้าจากภูมิภาคร้อยเขตโดยรอบ มีนักสู้ระดับราชานับไม่ถ้วนได้รับเลือกให้มีส่วนร่วมกับการเคลื่อนไหว เพื่อค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดและพยายามรอคุณชายสามดูว่าเขาจะกลับมาได้ทันเวลาหรือไม่ เรารอในเมืองลู่หลิวเกือบหนึ่งเดือน คุณชายสามยังไม่กลับจากการฝึกฝน อย่างไรก็ตามเราได้รับข้อมูลจากหมิงลี่ฮ่าว พี่ชายของหมิงเยี่ยกวงหนึ่งในสามจอมภพแดนสวรรค์ที่เคยทำสงครามกับจักรพรรดิอวี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่แน่นอน คราวนี้กองทหารเกณฑ์ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์มีนักสู้ฝีมือดีสูงกว่าปราณฟ้าระดับห้าเกินแสนคน กองทัพธรรมดาหนึ่งล้านคน ไม่รวมพลขนส่งอีกล้านคน”
“กองทัพหนึ่งล้าน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะระดมพล เราคงจะมีเวลาอยู่บ้าง” เกาเผิงคาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือนจากการรุกรานอย่างเป็นทางการ
“กล่าวกันว่าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์มีพลังเทเลพอร์ตที่เรียกว่าแสงนำทางศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสามารถโอนส่งข้ามดินแดนได้รวดเร็วมาก” เย่คงพูดอย่างไม่กังวล
“ถูกแล้ว แต่ถ้ามีอยู่จริง การส่งกองทัพระยะไกลคงเป็นงานที่ง่าย” เกาเผิงพยักหน้า
“เราต้องเตรียมการภายในหนึ่งเดือน” องค์ชายเทียนหลัวตัดสินใจ ขณะที่เสวี่ยทันหลางคร้านจะใช้สมอง ส่วนที่เขารับผิดชอบก็คือลงมือและฆ่าศัตรูให้มากเข้าไว้
“พันธมิตรในส่วนต่างๆ ของแดนสวรรค์จะให้เวลาเราบ้างอีกเล็กน้อย” เจ้าอ้วนไห่มองโลกในแง่ดี
“หมิงลี่ฮ่าวกลายเป็นพันธมิตรจริงๆ หรือ? น่าเชื่อถือหรือไม่?” เกาเผิงยังคลางแคลงใจเช่นกัน ในเวลานั้นสามจอมภพแดนสวรรค์ทำลายอาณาจักรของจักรพรรดิอวี้ล่มสลาย พวกเขาจะเป็นพันธมิตรกันได้อย่างไร?
“นี่เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างคุณชายสาม” เย่คงหัวเราะ
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณชายสามเขียนจดหมายรักอักษรรูนส่งให้หมิงเยี่ยกวงคงเป็นเรื่องยากที่คิดจะเป็นพันธมิตร
แน่นอนว่าหมิงลี่ฮ่าวผู้นี้สามารถกลายเป็นพันธมิตรหรือมีมิตรภาพขณะที่ต่อสู้กับจ้าวสุริยา หลังจากศึกนี้ลุงผู้มีรสนิยมความแข็งกร้าวลงเอยกับสาวจูกวงสูงแปดเมตรอย่างมีความสุข เย่ว์หยางยังคงส่งของขวัญแต่งงานไปให้ แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกปัดอธิษฐานสมบัติระดับกึ่งเทพก็ตาม
อาหงพูดถูกตั้งแต่แรก ถ้ามีสมบัติใดๆ ตกไปอยู่ในเงื้อมมือเย่ว์หยางแล้ว คิดจะเอาคืนกลับมาเป็นเรื่องยาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
หมิงลี่ฮ่าวไม่ยอมคบหาใครง่ายๆ เรื่องนี้เป็นจริงแน่นอน
“แล้วตอนนี้พวกเจ้ามีแผนอะไร?” เกาเผิงรู้สึกละอายเล็กน้อย แม้ว่าฮุยไท่หลางจะกลับไปรายงานแต่ข้อมูลยังไม่ถูกต้องแม่นยำ หอทงเทียนยังไม่ทราบวิธีการเตรียมตัว ต้องมีใครบางคนกลับไป แต่รอยแยกมิติเวลานั้นเป็นสถานที่อันตรายอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงเย่คงและเจ้าอ้วนไห่เหล่านี้เลย เขาเองก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะกลับไปยังหอทงเทียนได้สำเร็จ นี่ไม่ใช่ความสามารถใหญ่หรือปานกลาง แต่ข้างในเป็นวังวนรอยแยกกาลมิติ เป็นเรื่องง่ายที่จะหลงอยู่ในช่องว่างนั้น กาลมิติอาจจะปลอดภัย แต่ใช้เวลาปีหรือครึ่งปีกว่าจะออกไปได้ นั่นจะช้าเกินการหรือเปล่า?
“เราจะไป” เจ้าอ้วนไห่ก้าวออกมาข้างหน้าและตบอกมั่นใจ
“เจ้า? พวกเจ้าน่ะหรือ?” เกาเผิงส่ายหน้าทันที “คิดดูให้ดี! รอยแยกมิติเวลามีขนาดเล็กมากและไม่เสถียรยิ่งกว่ารอยแยกอีกด้านหนึ่งของประตู ร่างกายที่ไม่ใช่มนุษย์ถึงจะต้านทานได้ แม้ว่าจะมีเจตจำนงราชันย์ก็อาจจะต้านทานได้ชั่วขณะ ยากที่จะคงอยู่ได้ นี่ไม่ใช่ชั่วขณะหนึ่ง อาจต้องใช้เวลาหลายวัน หรือสิบวันหรือครึ่งปี พวกเจ้าจะผ่านไปได้อย่างไร? ยิ่งมีคนมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ในกรณีที่เจ้าคนหนึ่งถูกกระแสกาลมิติดูดเข้าไป จะยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้กับการหายไปของพวกเจ้า หากพวกเจ้าต้องการกลับไปที่หอทงเทียนอย่างปลอดภัย นั่นยากยิ่งกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์เสียอีก ไม่อย่างนั้นเปลี่ยนเป็นให้พวกเจ้าเฝ้ารักษาพื้นที่รอยแยกมิติเวลานี้ไว้ ยังไงพวกเราก็เป็นปีศาจชราแล้ว เราทุกคนมีชีวิตอยู่มามากพอแล้ว ต่างจากพวกเจ้าที่มีอนาคตที่ไม่จำกัด!”
“เรามีวิธีที่ดีกว่าท่าน!” เจ้าอ้วนไห่ยืนเชิดหน้ายืดอกด้วยสีหน้าภูมิใจ “อย่าบอกนะว่าเราไม่รู้วิธีควบคุมพลังงานของรอยแยกมิติเวลา แม้ว่าเราจะเข้าใจ แต่เราไม่ยอมให้ท่านเสี่ยง ผู้อาวุโสหลายคนมีแต่จะทำให้วิญญาณแตกสลายเมื่อเข้าสู่รอยแยกมิติเวลา พวกท่านมีโอกาสจะถูกทำลายทันที ครั้งนี้เรื่องการผ่านเข้าไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเถอะ! ในฐานะผู้เยาว์รุ่นหลัง เรามีความกล้าที่จะสำรวจและเดินหน้าต่อไป นั่นเป็นธรรมเนียมของเราชาวหอทงเทียน….และเหนืออื่นใด เราได้พบวิธีที่ดีที่สุด!”
“เจ้ามีวิธีหรือ? พวกเจ้ามีวิธีอะไรดีๆ?” ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงรู้สึกทึ่งประหลาดใจทันที เจ้าอ้วนผู้นี้มีวิธีคลี่คลายปัญหาหรือ?
“ขอเก็บเป็นความลับชั่วคราว!” เจ้าอ้วนไห่ยิ้มจนเห็นฟันหน้าทั้งแปดซี่
“….” เกาเผิงพูดไม่ออก พวกเจ้าไม่ควรทำอย่างนี้กับผู้อาวุโสไม่ใช่หรือ? เด็กพวกนี้เป็นผู้เยาว์รุ่นหลังแบบไหนกัน! จะเอาไปเปรียบเทียบกับคนมีสาระได้อย่างไร? คุณชายสามผู้นั้นก็ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ เจ้าอ้วนผู้นี้ก็ร้ายไม่เบา หรือว่าเขาไร้เดียงสาเกินไป? เขาไม่เข้าใจเด็กยุคนี้จริงๆ!
นอกจากนี้ยังมีเย่ว์หยางที่อยู่ในขุนเขาเหนือขุนเขา แน่นอนว่าเป็นไม่ได้ที่จะรู้เรื่องราวการรุกรานหอเทียนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้เร็วพลัน
หลังจากที่เขาเอาชนะบุรุษลึกลับเขาบรรลุระดับใหม่อีกครั้ง
ครั้งแรกที่เขาต้อนรับการกลับมาขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ก่อนที่อาหงและอาหมันจะค้นหาร่องรอยของจีอู๋ลี่ และไม่รอให้เสวี่ยอู๋เสียกลับมาโดยไม่ทราบว่านางอยู่ที่ใด เขาตัดสินใจควบคุมสิ่งต่างๆ ในขอบเขตระดับใหม่ของเขาและพัฒนาตนเองต่อไป ก่อนที่เขาจะพยายามทดลองกับเย่ว์หวี่และอู๋เหิน เขาจำได้ว่ายังมีเทวีเสรีภาพอยู่ในครอบครัว เขาทำงานหนักเกินไปจนลืมนาง
ร่างกายครึ่งหนึ่งของนางหายไป และนางไม่ยอมให้รักษา จนบัดนี้..
บัดนี้
ดูเหมือนเป็นเวลาที่สมควรแล้ว
เขาต้องคุยกับนางอย่างระมัดระวัง