[LN]สาวน้อยอ่อนแอผู้เกิดใหม่ด้วยร่างกายสุขภาพดีแข็งแรง(แกร่งที่สุด) ~ออกเดินทางจากดินแดนปิศาจเพราะอยากมีเพื่อน แต่ดูเหมือนว่าเวทมนตร์ของฉันจะแปลกไปนิดหน่อยค่ะ!?~ - ตอนที่ 1.3 บทที่1 ฟิอานน่าออกเดินทาง ③
หนึ่งสัปดาห์หลังจากออกเดินทาง
ในที่สุดฉันก็มาถึงเมืองหลวงของราชอาณาจักรมาเบิ้ลลอย…เรกาเลีย
「ฮู้~! เมืองหลวงสุดยอด!」
ตอนที่มาถึงเรกาเลียฉันมองไปรอบๆอย่างกับพวกบ้านนอกเข้ากรุง
ที่เห็นรอบๆคือ คน คน คน
รูปร่างของคนที่ดูเหมือนนักผจญภัยสะพายดาบไว้กลางหลังและคุณเมดที่ดูเหมือนมาซื้อของ
ด้วยบ้านเมืองที่ทั้งหมดดั่งในแฟนตาซีทำให้อารมณ์มันพุ่งพล่านขึ้นไปอีก
「ขนมปังอบสดใหม่ๆ! คุณหนูเอาซักอันไหม?」
และก็มีคนที่เรียกฉันมาอย่างนั้น
มันเป็นร้านเครปผลไม้สีสันสดใสและคุณพี่สาวที่แต่งตัวดูดีมีสไตล์ค่ะ
(ว้าว…ของฟุ่มเฟือยที่ไม่มีในลูนามิเลีย!)
ฉันตาเป็นประกายและได้ตัดสินใจซื้อมันมา
ราคาก็3เหรียญทองแดง
ถ้าพูดถึงโลกก่อนก็คงประมาณ3xxเยน
ถ้าให้เหรียญเงิน1เหรียญก็จะทอนมาเป็น7เหรียญทองแดง
ต้องขอบคุณคุณแม่เอลชาที่สอนทำให้คำนวณเลขได้เป๊ะๆค่ะ!(ถึงจะประหม่านิดๆก็เถอะ…)
เมื่อฉันกัดเครปไปคำนึง
「หืม!」
ก็ได้เบิกตากว้างด้วยความอร่อยค่ะ
ความหวานอ่อนๆของครีมผสมผสานกับความสดใหม่ของผลไม้ บอกได้คำเดียวเลยว่าเป็นผลงานชิ้นเอกอย่างแท้จริง!
「ฮ่าฮ่า กินเก่งนะเนี่ย」
「เครปนี่ยอดสุดๆ! เป็นผลงานชิ้นเอกของโลกเลยค่ะ」
คุณเจ้าของร้านเครปยิ้มแหยๆมีสีหน้าทีไม่ปฏิเสธเสียทีเดียวให้แก่ฉันที่พูดแบบนั้นด้วยสีหน้าจริงจัง
「ขอบคุณที่อุดหนุน! นอกจากนี้เสื้อผ้าไม่คุ้นเลยนะ พึ่งมาเมืองหลวงงั้นเหรอ?」
「ค่ะ! มาจากหมู่บ้านที่ชื่อลูนามิเลีย!」
「ลูนามิเลีย? พึ่งเคยได้ยินเลยนะเนี่ย」
「เป็นทวีปที่อยู่ข้างๆน่ะ ก็นะ ค่อนข้างบ้านนอก…」
「หุหุ ทวีปข้างๆมันโลกปิศาจไม่ใช่เหรอ」
คุณพี่สาวหัวเราะคิกคิกต่อคำพูดของฉัน
(อือ…ไม่ได้โกหกนา)
เมื่อเห็นปฏิกิริยาอย่างนั้นฉันจึงทำหน้ามุ่ย
(เดี๋ยวนะ จะว่าไปคุณแม่เอลชาให้ระวังไม่ให้บอกคนอื่นนอกจากคนที่เชื่อใจว่ามาจากลูนามิเลียนี่นา)
(เอาเถอะ คุณพี่สาวที่ขายเครปอร่อยๆคิดว่าคงเป็นคนดีไม่เป็นไรหรอกเนอะ!)
ฉันมีชื่อเสียงในการตัดสินคนอย่างไม่อะไรมากค่ะ
「โอ๊ะ จะอยู่อย่างนี้ไม่ได้แล้วสิ ต้องผ่านการสอบเข้าโรงเรียนด้วยแผนสมบูรณ์แบบที่คุณแม่เอลชาให้มา! คุณพี่สาว ขอบคุณสำหรับเครปอร่อยๆค่ะ!」
「ใฝ่ฝันเข้าเรียนเอลิเชียนนี่เอง จากนี้ไปก็รบกวนมาอุดหนุนต่อนะ~」
เมื่อฉันเริ่มวิ่งอย่างเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น คุณพี่สาวก็โบกมือให้จากข้างหลัง
โรงเรียนเอลิเชียนตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงเรกาเลียเพื่อเป็นการแสดงถึงอำนาจ
ฉันที่มักสับสนในเรื่องทิศทางก็ยังรู้ได้อย่างง่ายๆ
เพราะหอคอยเวทมนตร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนเป็นจุดบ่งบอกต่อชาวเมืองหลวงค่ะ
(นี่แหละคือความก้าวล้ำของต่างโลก! เมืองหลวงสุดยอด!)
และในที่สุดก็มาถึงประตูโรงเรียนที่ใฝ่ฝัน
อาคารที่ตกแต่งด้วยกระจกหลากสีสันดูเหมือนปราสาทจากเรื่องราวในนิทาน
「เอ่อ…ขอโทษด้วยนะ แต่เธอคือ?」
ขณะที่กำลังชื่นชมโรงเรียน เจ้าหน้าที่เฝ้าประตูคนหนึ่งก็พูดกับฉัน
「ฮี้!? ฉ ฉันฟิอานน่าค่ะ มายังเอลิเชียนเพื่อนรับการสอบเข้าค่ะ!」
「สอบเข้า? ขอดูจดหมายแนะนำได้ไหม?」
「เอ๊ะ ต้องการจดหมายแนะนำด้วยเหรอคะ!? เอ่อ…ก็ไม่ได้พกอะไรมาเป็นพิเศษ」
「ถ้าอย่างนั้นก็เสียใจด้…」
ขณะที่อยู่ในสถานการณ์กำลังจะถูกไล่นั้นเอง
「เอะอะอะไรกัน?」
ก็ได้มีคนเฝ้าประตูอีกคนปรากฏตัวขึ้น
「แหม แบบว่ามีเด็กใสซื่อไม่รู้เรื่องโลกภายนอกมาขอรับการสอบเข้าโดยที่ไม่มีจดหมายแนะนำนี่สิ ชื่อฟิอานน่าสินะ วันนี้กลับไปได้แล้ว 」
「อืม…จดหมายแนะนำนี่เป็นปัญหาจังเลยแฮะ」
ฉันที่พึ่งมาถึงเมืองหลวงไม่ได้มีอะไรพวกนี้ในใจเลย
「หืมม? เมื่อกี้บอกว่าชื่อฟิอานน่ารึ? (ซุบซิบ)」
「ก็บอกมาแบบนั้น(ซุบซิบ)」
「เจ้าบ้า! ถ้างั้นละก็เด็กเงื่อนไขนั้นไง ที่ได้รับแนะนำพิเศษของ…(ซุบซิบ)」
「หืม!?」
ขณะที่ฉันยังไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร คนเฝ้าประตูทั้ง2คนก็คุยอะไรบางอย่างกันอยู่
「「ต ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ」」
อยู่ดีๆก็ขอโทษซะงั้น
คนเฝ้าประตูทั้ง2คนต่างมองมาทางนี้ด้วยความหวาดระแวง (มันอะไรกันหนอ) ในหัวของฉันเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
「ไม่คิดว่าท่านลูกศิษย์ของท่านมหาปราชญ์แห่งเพลิงร่ายรำจะยังเยาว์วัยเช่นนี้ จะรีบนำทางไปสถานที่สอบในทันที ได้โปรดยกโทษให้ด้วยครับ!」
「ได้โปรด อย่าเผาเลยนะครับ!!」
「ไม่เผาหรอกค่ะ!?」
ท่าทีของคนเฝ้าประตูหลังจากนั้นเหมือนกับกำลังนำทางคนใหญ่คนโต
(มหาปราชญ์แห่งเพลิงร่ายรำเนี่ย คุณแม่เอลชาสินะ?)
(เมื่อก่อนทำอะไรลงไปเนี่ย!?)
ฉันรู้สึกประหม่าขณะที่เดินตามคนเฝ้าประตูไปค่ะ
ไม่นานนักก็มาถึงอาคารเล็กๆที่เรียกว่าอาคารฝึกอบรม
บรรยากาศคล้ายโรงยิมในโลกก่อน
(นี่คือโรงเรียนในเมืองหลวง! สุดยอด มีเขตแดนด้วย)
(เป็นประเภทใช้วงเวทเพื่อเติมพลังเวทเป็นระยะๆสินะ)
ฉันมองไปรอบๆด้วยการเห็นของแปลกๆ
「โฮ่ ยัยนี่รึที่ว่า…」
เสียงที่ฟังดูเย้ยหยันมันลอยมาเข้าหู
ที่นั่นมีผู้ชายที่ดูเหมือนพวกนักกีฬาอยู่
แต่งตัวเถื่อนๆด้วยเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น
ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อดูแล้วน่าจะแข็งแกร่ง
ชายคนนั้นมองมาที่ฉันแล้วเบ้ปากราวกับว่ากำลังเย้ยหยัน
「หึ แกรึที่กล้าไม่กลัวตายเข้าโรงเรียนอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยเส้นสายน่ะ เป็นแค่สามัญชนไม่มีสายเลือดอันมีค่าอะไร…หัดรู้จักฐานะตัวเองซะบ้าง!」
ถูกตะโกนมาเช่นนั้นด้วยแหละ
(อืม ยังไงดีล่ะไม่ชอบเลยค่ะ!)
「เปล่าค่ะ…ฉันแค่มารับการสอบเข้า…」
「หึ งั้นรึ ถ้างั้นก็มาเริ่มทดสอบกันเลยดีกว่า」
「เอ๊ะ? เอ่อ ต้องทำอะไร?」
ผู้ชายคนนั้นส่งเสียงฟึดฟัดทางจมูกเหมือนกับเย้ยหยัน
「โรงเรียนนี้ไม่ต้องการคนอ่อนแอ เรา…แมตตี้จะเป็นผู้คุมสอบในภาคปฏิบัติเอง」
「ค ค่ะ…รบกวนด้วยค่ะ?」
「ถ้างั้นมาเริ่มด้วยภาคปฏิบัติกันเลย นั่นสิน้า…ตอนนี้มาประลองกับเรา ถ้าแพ้จะทดสอบล้มเหลวทันที!」
คุณแมตตี้พูดออกมาเช่นนั้น
「บ้าไปแล้วเหรอ! อยู่ดีๆให้ประลองกับอีกฝ่ายที่เป็นอาจารย์แบบนี้!」
「เอาอีกแล้ว แกล้งคนอื่นที่ถนัดของแมตตี้ น่าสงสารเด็กคนนั้นอุต่สาห์มาจากที่ห่างไกล…」
「จะว่าไป แล้วจะเอาไง!! ถ้าทำอะไรไม่ยั้งคิดทำให้อึกฝ่ายที่เป็นลูกศิษย์ของท่านมหาปราชญ์แห่งเพลิงร่ายรำบาดเจ็บละก็ (บรื๋อ น่ากลัว)」
ความวุ่นวายแพร่กระจายไปทั่วจากคำพูดของแมตตี้
「ประลองสินะ เข้าใจแล้วค่ะ!」
ฉันเมื่อได้ยินคำนี้ กลับกันแล้วมันยิ่งทำให้สีหน้าแจ่มใสร่าเริงค่ะ
(หากเป็นการประลองละก็ ที่ลูนามิเลียเนี่ยทำซ้ำไปซ้ำซะจนเอียน นี่แหละโอกาส!)
(นอกจากนี้ การขู่นั่นก็เป็น”กลยุทธ์นอกกระดาน”ของการประลอง เกือบจะคิดว่าเป็นคนไม่ดีไปซะแล้ว! )
ดวงตาฉันเป็นประกาย และปล่อยมานาไหลเวียนทั่วร่างกายด้วยความตื่นเต้น
ที่ลูนามิเลียไม่ค่อยมีสิ่งบันเทิง การประลองกับชาวบ้านจึงเป็นสิ่งที่สนุกอย่างนึง
การประลองคือเกมที่จริงจังและไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ
กลยุทธ์นอกกระดานเพื่อทำลายความเยือกเย็นของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ทำกันเป็นปกติ
ถ้าเทียบกับนิสัยร้ายๆของป้าแอนแล้ว คำพูดของคุณแมตตี้นั้นดูน่ารักไปเลยค่ะ
(ในตอนแรกฉันตกหลุมอย่างง่ายๆจนตาแก่อัลถึงกับหัวเราะ ไม่มีอะไรง่ายไปกว่าการอ่านท่าทางของอีกฝ่ายที่สูญเสียความเยือกเย็น นั่นคือกฏทองคำค่ะ!)
ใช้กลยุทธ์นอกกระดานแทนที่จะทักทาย
เมืองหลวง…ช่างเป็นสถานที่น่ากลัวจริงๆ!
เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว ที่ฉันต้องทำคือสังเกตคุณแมตตี้ด้วยความเยือกเย็นค่ะ
คุณแมตตี้ที่เป็นผู้คุมสอบในโรงเรียนชื่อดังของเมืองหลวงจะแสดงเวทมนตร์แบบไหนให้เห็นกันน้า
ตั้งหน้าตั้งตารอคอยจนหยุดตื่นเต้นไม่ได้เลย
「ขอบอกไว้ก่อนนี่ไม่ใช่การขู่ คะแนนสอบภาคปฏิบัติขึ้นอยู่กับเรา…ถ้าเราให้0คะแนน การสอบเข้าของแกก็จบ」
「เรื่องนั้นจะยังไงก็ได้ รีบๆเริ่มกันเถอะ!」
ด้วยคำพูดของฉันคุณแมตตี้ก็เงียบไปเหมือนเอือมระอา
「3・2・1…ไฟท์」
เมื่อผู้ตัดสินพูดเช่นนั้น การต่อสู้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
「เป็นแค่สามัญชนดันมาทำท่าทางดูถูกงั้นเรอะ…เอาไปกินนนน!」
คุณแมตตี้กวัดแกว่งไม้เท้าเหมือนกับว่ากำลังจะบิน
(นั่นมันเวทมนตร์มงกุฏที่2…งูยักษ์แห่งเพลิง!)
ฉันคิดว่าแก่นแท้ของการประลองคือการตอบสนองต่อคำพูดและท่าทางของอีกฝ่าย
งูเพลิงที่คุณแมตตี้สร้างมานั้นพยายามกลืนกินฉัน แต่
(มันทั้งช้าและไร้อานุภาพ)
(ถ้างั้นนี่คงเป็นทำให้ชะล่าใจ ของจริงต้องอีกอย่างแน่!)
ฉันได้ตัดสินใจทันทีเช่นนั้น
เปิดช่องว่างรับการกระทำที่ไม่จำเป็นมันหลุดจากรากฐาน แต่ในเมื่อยิงมานาอย่างเบาบางฉันจึงรับมันไว้ตรงๆ
「เหอะ อย่างที่คิดก็มีดีแค่ปาก แค่นี้ก็ตอบสนองไม่ได้…」
คุณแมตตี้ส่ายคออย่างเงียบๆ
「แขตแดนคงไม่ทำให้ถึงตายแต่ดาเมจน่าจะร้ายแรง ถ้าไม่ต้องการเจ็บปวดไปมากกว่านี้…อะเร๊ะ?」
「ต่อไปจะแสดงอะไรให้ดูคะ?」
แน่นอนว่าฉันไม่บาดเจ็บอะไร
คุณแมตตี้ที่เห็นมีท่าทีตื่นตระหนก
「เมื่อกี้เป็นการทดสอบแสดงเวทมนตร์หยาบๆให้ดู ให้หาข้อบกพร่องใช่ไหมคะ?」
ฉันเอียงคอเล็กน้อย
เตรียมพร้อมรับมืออย่างระวัง
ไม่สามารถเข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงได้ค่ะ
「แก! เวทมนตร์ของเรามีข้อบกพร่องงั้นเรอะ!?」
「ค่ะ ก่อนอื่นเลยการแปลงมานาเข้าขั้นแย่ ค่าประสิทธิภาพอยู่ต่ำกว่า4x%เกินกว่าที่จะรับได้ นอกจากนี้ได้สร้างอิมเมจในสมองก่อนใช้งานรึเปล่าคะ? ถึงจะยังไม่แพร่หลายก็เถอะแต่เป็นการขาดความเอาใจใส่ค่ะ ดั้งเดิมแล้วสำหรับการโจมตีกะทันกันนั้นการใช้เวทมนตร์มันเห็นเด่นชัดค่ะ…」
ในการประลองระหว่างผู้ใช้เวทมนตร์ สิ่งสำคัญคือต้องแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเวทมนตร์ของอีกฝ่าย
ดังนั้นฉันจึงได้บอกไปตรงๆถึงเวทมนตร์ของคุณแมตตี้
「แกกกก!!」
คุณแมตตี้จ้องมาด้วยใบหน้าแดงก่ำและดวงตาแดงแจ๋
(อย่างนี้นี่เอง! ที่เหมือนจะเป็นคนที่อ่อนแอต่อกลยุทธ์นอกกระดานสินะเนี่ย!)
ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจใช้กลยุทธ์นอกกระดานซักหน่อย
สำหรับฉันแล้วเรื่องนั้นจะยังไงก็ช่าง อยากเห็นเวทมนตร์ใหม่ๆมากกว่านี้ค่ะ
เมื่อได้ยินข่าวลือการประลอง กว่าจะรู้ตัวก็มีฝูงชนมารวมตัวกันที่อาคารฝึกอมรมกับเต็ม
เหล่าผู้ชมต่างแลกเปลี่ยนความเห็นกันมากมาย
「โว้ววววววว!? คุณหนูคนนั้นป้องกันได้ไร้บาดแผลเลยแฮะ!」
「ทนได้ยังไงล่ะนั่น!」
「ม ไม่รู้สิ…แต่ที่เห็นดูเหมือนจะรับไปตรงๆ…」
「แบบนั้นมันบ้าแล้ว!?」
「ไม่อยากเชื่อ แมตตี้จอมแกล้งนั่นถูกกดดัน!」
ก็พูดอะไรกันอย่างพวกนี้
(แต่คิดว่าเป็นการต่อสู้ที่น่าเบื่อนะ เพราะไม่มีจุดอะไรที่น่าดูเลยซักนิด…แปลกจังค่ะ)
หรือว่าการประลองไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยในเมืองหลวงล่ะมั้ง
「แค่ป้องกันได้ครั้งเดียวทำมาเป็นอวดดีพูดจาใหญ่โต ฟิอานน่า เตรียมตัวให้พร้อม!」
「แน่นอน ไหนๆก็ประลองกันทั้งที ช่วยกรุณาเอาจริงตั้งแต่แรกด้วยค่ะ!」
「พล่ามอยู่ได้!」
คุณแมตตี้เริ่มร่ายอะไรซักอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง
(ถ้าอาศัยช่องว่างนี้มันก็ทำให้หมดสติได้ แต่นั่นคือวิธีที่ไม่ถูกต้องในการประลองเวทมนตร์ และนี่ยังเป็นการทดสอบ…ต้องต่อสู้อย่างซึ่งๆหน้าค่ะ!)
เพื่อที่จะรับมือจึงได้วางวงเวทไว้รอบๆให้ทำงานได้ทุกเมื่อ
และเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของคุณแมตตี้ค่ะ
หลังจากผ่านมาประมาณ2xวินาที
「เหตุผลที่แกพ่ายแพ้เพราะให้เวลาเราร่ายนี่แหละ เอาไปกินนนน!」
คุณแมตตี้ในที่สุดก็ร่ายเวทเสร็จสิ้น
มองเพียบแว๊บเดียวก็รู้ว่าเป็นเวทมนตร์ที่ไม่รู้จักและไม่รู้ถึงผลของมัน
เมื่อดูจากวงเวทและขนาด บางทีคงจะเป็นเวทมนตร์มงกุฎที่3
「ว้าว! สุดยอด เวทมนตร์ใหม่!」
「ขอโทษด้วยละกัน เวทมนตร์นี้คงออมมือให้ไม่ได้ ถ้าตายไป…อย่าแค้นกันล่ะ!」
「แหม ถ้าตายละก็จะสาปไปยันรุ่นต่อไปเลยค่ะ!!」
ที่คุณแมตตี้สร้างขึ้นมาคือโกเลมยักษ์สูงประมาณ6เมตร
คล้ายกับยักษ์หินเวทมนตร์มงกุฎที่4แต่ทำให้เรียบง่ายลง
เวทมนตร์แปลกๆที่ต่างกันเล็กน้อยกับเวทมนตร์ที่รู้จัก…น่าสนใจสุดๆค่ะ
(อือ อยากวิเคราะห์จัง!)
ฉันแคนเซิลวงเวททั้งหมดที่ติดตั้งไว้เพื่อรับมือ
โกเลมตัวโต๊โตเหวี่ยงหมัดลงมาที่ฉัน
(อีกนิด อีกนิด…)
「บ้าน่า! ทำไมถึงไม่หลบ!?」
จากนั้นก็หยุดหินยักษ์ที่ลงมาด้วยมือข้างเดียว
(อย่างนี้นี่เอง! ทำให้เรียบง่ายด้วยการทิ้งส่วนควบคุมอัตโนมัติไป!)
การวิเคราะห์ผ่าตัดอย่างรวดเร็วค่ะ
จากนั้นก็โยนโกเลมทิ้งอย่างชิลๆ
การวิเคราะห์นี้ถือเป็นส่วนที่ดีที่สุดของการประลองค่ะ
「รับไว้ด้วยมือเปล่า!? เป็นไปไม่ได้!?」
คุณแมตตี้อ้าปากค้างเอ๋อเหว๋อ
「อย่างนี้นี่เอง น่าสนใจนะเนี่ย! ถ้าเป็นฉัน…คงแบบนี้ค่ะ!」
「ฮะ!?」
ฉันทำการก๊อบปี้โกเลมยักษ์ของคุณแมตตี้
「เอนแชนท์…งูยักษ์แห่งเพลิง!」
ทำการเอนแชนท์เวทมนตร์แรกสุดไปที่โกเลม
โกเลมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเหมือนงูเพลิงถือแส้พร้อมปกป้องฉัน!
ฉันที่ประลองซ้ำไปซ้ำมาที่ลูนามิเลียเลยมีสกิลเหมือนการแสดงข้างถนนค่ะ
หนึ่งในนั้นก็คือเวทมนตร์ก๊อบปี้
หากเวทมนตร์มีโครงสร้างที่เรียบง่าย สามารถเลียนแบบโดยการ แยกส่วน・สร้างขึ้นใหม่ ไปจนถึงผ่าตัดเพียงแค่สัมผัสค่ะ
(เวทมนตร์ของคุณแมตตี้เนื่องจากสร้างแบบเรียบง่ายจึงมีจุดอ่อนที่อานุภาพลดลง)
คิดการลดอานุภาพลงไม่ว่าจะในเลเวลไหนก็ตามอาจส่งผลร้ายแรงได้ค่ะ
ถึงจะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไร้ความสามารถแบบฉันก็สามารถหยุดง่ายๆด้วยมือเดียว
(ถ้าจะชดเชยในส่วนนั้น…มันต้องแบบนี้!)
การรวมเวทมนตร์ง่าย บางครั้งก็แสดงอานุภาพอันทรงพลังได้
「กวาดให้เรียบ!」
โกเลมที่ฉันสร้างขึ้นเหวี่ยงแส้ที่เหมือนกับงูเพลิง
「ไม่จริงงงงง!? ไพ่ตายของเรา!?」
โกเลมของคุณแมตตี้กระเด็นแหลกสลาย
คุณแมตตี้ถึงกับเหลือกตาสีขาว
ทางด้านฉันยิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีก
(เพราะว่าฉันมาจากบ้านนอก เลยยั้งมือให้เหมาะๆล่ะมั้ง…)
การประลองระหว่างผู้ใช้เวทมนตร์เรียกได้ว่าเป็นการสนทนาด้วยเวทมนตร์
บทสนทนา…ถ้าจะเอาให้ตรงๆก็คือโยนบอลหากันค่ะ
โยนเวทมนตร์ใหม่ที่ทุ่มเทประยุกต์พลิกแพลงใส่กัน บางครั้งก็ค้นพบเวทมนตร์ใหม่จากคำตอบ…การทำซ้ำเช่นนี้คือความตื่นเต้นที่แท้จริงของการประลอง
(อืม…ต้องทำยังไงถึงจะให้เอาจริงได้น้า)
อยากจะสู้ที่มันนองเลือดกว่านี้ค่ะ
「คุณแมตตี้ เพราะว่าฉันมาจากบ้านนอกเลยเกรงใจเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ เอาจริงให้ยิ่งกว่านี้ได้เลยไม่มีปัญหาค่ะ!」
「เอาจริงยิ่งกว่านี้…เรอะ!?」
คุณแมตตี้เบิกตากว้างด้วยความตกใจและจ้องเขม็งมองมาทางนี้
จะบอกว่าถ้าเป็นอีกฝ่ายแค่ระดับนี้ไม่จำเป็นต้องจริงจังล่ะมั้ง
(จะทำยังไงดี…)
ไม่มีทางที่ผู้คุมสอบของโรงเรียนชื่อดังในเมืองหลวงจะมีฝีมือแค่นี้หรอกน่า
ฉันลองสร้างโกเลมเมื่อกี้ซัก1xตัวแล้วให้ถืออาวุธหลากหลายละกัน
และก็ได้ทำการล้อมคุณแมตตี้ด้วยอาวุธที่ถือและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
ถ้าไม่มีแผนผลิกกระดานก็รุกฆาตค่ะ
「ฮ ฮี้ เจ้าสัตว์ประหลาด!」
「ฮะ!? ถึงจะเป็นกลยุทธ์ แต่มันก็มีสิ่งที่พูดได้และไม่ได้นะคะ!」
ด้วยอาการช็อกที่ได้รับจึงมีโกเลมตัวนึงทิ้งอาวุธลง
ตึงงงงง!
อาวุธที่หล่นลงถึงกับทำให้พื้นสะเทือนค่ะ
(นี่คือการที่จิตใจไม่สงบ…)
ต้องพิจารณาตัวเอง ต้องพิจารณาตัวเอง
ถ้าฝ่ายตรงข้ามมองตรงนี้ คงสามารถพลิกกระดานได้ในทันที
「ฉัน พึ่งประลองครั้งแรกที่เมืองหลวงค่ะ ยังสู้ไม่พอ…อีก เอาอีก มาโยนรับส่งเวทมนตร์กันอีกเถอะ!」
「ล ล้อเล่นกันรึเปล่า!」
คุณแมตตี้คุกเข่าทรุดลงกับพื้น
ไอ้นี่มันสงครามจิตวิทยาขั้นสูงเลยนะ! พอคิดอย่างนั้นก็มีมือมาแตะที่ไหล่ของฉัน
「เอาน่าเอาน่า แมตตี้รับผิดชอบภาคปฏิบัติของโรงเรียนเราน่ะ คงมีศักดิ์ศรีตามของเขานั่นแหละ เจ้าเองก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธแต่หยุดแค่นี้เถอะ」
「เอ๊ะ!? เอ่อ…」
เมื่อหันไปก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กผมสีม่วงกำลังมองมาที่ฉัน
ดูภายนอกแล้วอาจอายุเท่ากันหรือไม่ก็อ่อนกว่า
ผมสั้นของเธอนุ่มสลวยพลิ้วไหว เน้นความน่ารักของสาวน้อย
(เอ่อ…ใคร?)
ฉันเองก็จ้องเขม็งด้วย
「เรา เอเลนา・สตาร์ลีน ถึงจะยังมือใหม่แต่ก็ได้รับความเชื่อใจฝากฝังเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้」
「อาจารย์ใหญ่!? ทั้งที่ตัวเล็กขนาดนี้เนี่ยนะ」
「เป็นคนที่เสียมารยาทอย่างเป็นธรรมชาติสินะ เจ้าเนี่ย…」
สาวน้อย…อาจารย์ใหญ่เอเลนาหรี่ตามองมาที่ฉัน
ดูไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เฟรนด์ลี่ดี
「คนใหญ่คนโตแบบนั้นมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?」
「ก็แหม ลูกศิษย์ท่านมหาปราชญ์แห่งเพลิงร่ายรำมาเคาะประตูโรงเรียนนี่นา เราเองก็คิดว่าจะมาเห็นกับตาตัวเองน่ะ」
(มหาปราชญ์แห่งเพลิงร่ายรำ? รู้สึกเหมือนได้ยินเมื่อไม่นานมานี้แฮะ คุณแม่เอลชา…หรือว่าทำอะไรที่สุดยอดเกินกว่าที่คิดไว้อีกงั้นเหรอ)
กว่าจะรู้ตัวการประลองครั้งนี้ก็ได้ถูกจับตามองโดยคนมากมายไปซะแล้ว
มันมีสมาธิอยู่แต่การต่อสู้ตรงหน้าจนเผลอไม่สนใจสิ่งรอบข้าง…เป็นนิสัยเสียของฉันเองค่ะ
「รอก่อนครับ! เรายังไม่แพ้!」
「เงียบเลยแมตตี้ มันเห็นชัดเจนตั้งแต่แรกจนจบว่าอยู่เหนือกว่า ตามมุมมองแบบเป็นกลางเจ้าน่ะแพ้ไปแล้ว」
「อุ๊…」
หลังจากถูกอาจารย์ใหญ่เอเลนาตำหนิ แมตตี้ก็จ้องฉันอย่างไม่พอใจ
(อื~ม ดูเหมือนยังมีไพ่ตายเก็บไว้อยู่แฮะ
แต่กลับต้องมาแพ้คะแนนแบบนี้! คงยอมรับไม่ได้สิเนอะ เข้าใจเลยค่ะ)
มันทำให้นึกถึงการประลองที่ลูนามิเลีย
กลยุทธ์ได้ผลและเกมกำลังจะพลิกกลับมา! แต่ดันดั๊นดันถึงเวลาอาหารเย็น เป็นความทรงจำแสนเศร้าที่ต้องแพ้คะแนนจนน้ำตาตก
「น่าเสียดายที่การประลองต้องถูกหยุดค่ะ อาจารย์แมตตี้ ไว้ถ้ามีโอกาสมาต่อกันนะคะ」
「ฮี้!」
ถ้าได้เข้าเรียน คุณแมตตี้ก็คงเป็นอาจารย์
หากเป็นไปได้ก็อยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ฉันที่คิดเช่นนั้นก้มศีรษะด้วยรอยยิ้มมีอัธยาศัยที่สุดที่จะทำได้
(แต่ทำไมอ่า!?)
กรีดร้องให้กับรอยยิ้มมันช็อกนะ
「แมตตี้เอ๋ย แล้วผลสอบภาคปฏิบัติในครั้งนี้…」
「แน่นอนว่าคะแนนเต็มครับ! ได้Sโดยไม่มีข้อตำหนิใดๆ! ไม่ผิดแน่นอนครับ ถ้างั้นขอตัว!」
หลังจากพูดอย่างนั้น อาจารย์แมตตี้ก็วิ่งฟิ้วววววหนีไป
ฉันที่เหลืออยู่ในอาคารฝึกอบรมก็ต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์ใหญ่เอเลนาอีกครั้ง
โรงเรียนเอลิเชียนเป็นโรงเรียนเอลีทดีเด่นในประเทศ
แต่เหตุผลที่อาจารย์ใหญ่อุตส่าห์มาดูการสอบเข้าของนักเรียนเพียงคนเดียวยังไงก็ไม่เข้าใจจริงๆ
「ให้ตายสิ แมตตี้คุงเองก็เป็นผู้ใชเวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยมอยู่หรอก ถ้าไม่ทำตามใจตัวเองโดยไม่สนใจใครก็คงเป็นอาจารย์ที่ไม่เลวเลย…」
「แหม นั่นน่ะในฐานะอาจารย์มันร้ายแรงนะคะ…」
ฉันอดใจไม่ได้ที่จะแทรกเข้าไป
「ให้ตายสิ ปัญหามันอยู่ที่เขาเกลียดสามัญชนครับ」
「เอ่อ…คุณ?」
「ต้องขอโทษด้วยที่แนะนำตัวช้าไป ฉันรองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้…ซิเรียส・มอนเทจ หลังจากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยครับ」
「ฮี้~ คนใหญ่คนโตอีกแล้ว!?」
ชายสวมแว่นที่ยืนอยู่ข้างหลังอาจารย์ใหญ่เอเลนาโค้งคำนับฉัน
เขาเป็นชายรูปร่างเพรียวบางแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสุภาพบุรุษสมบูรณ์และยืนอยู่ข้างหลังอาจารย์ใหญ่เอเลนา
คิดว่าคงเป็นพ่อบ้านของอาจารย์ใหญ่เอเลนาอะไรประมาณนั้นแน่ แต่กลายเป็นว่าจริงๆแล้วเป็นรองอาจารย์ใหญ่
ตกใจเลยค่ะ
เท่านี้ผู้มีตำแหน่งสูงสุดของโรงเรียนถึง2คนก็ได้มาอยู่พร้อมกันที่นี่…ฉันเกือบตกใจหงายหลังแล้วเนี่ย
「เจ้านำทางคุณฟิอานน่าไปยังอาคารที่พักหน่อย ก็รู้อยู่ว่ามันจัดลำดับไม่ค่อยดีเท่าไร แต่พรุ่งนี้จะมีการสอบข้อเขียน」
「…เอ๊ะ?」
ฉันอกสั่นขวัญแขวนจากการที่อาจารย์ใหญ่เอเลนาพูดเช่นนั้น
「อะไร เจ้าไม่เก่งข้อเขียนเรอะ?」
「เอ่อ…ไม่มั่นใจสุดๆเลยค่ะ」
「เอาเถอะ ผ่อนคลายทำตัวให้สบาย สอบข้อเขียนเป็นมาตรการบรรเทาสำหรับคนที่ทำภาคปฏิบัติได้ไม่ดีน่ะ ขอแค่มีสามัญสำนึกปกติก็หวานหมู」
「ไอ้นั่นแหละค่ะที่กังวลที่สุด!!」
เมื่อเห็นฉันกรีดร้อง อาจารย์ใหญ่เอเลนาก็ทำหน้าตาสงสัย
ก่อนที่จะออกจากลูนามิเลีย 「ลืมสอนสามัญสำนึกปกติให้เลยแฮะ!?」 หรือไม่ก็ 「ยัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้ละกัน」 ฉันถูกบอกว่าเช่นนั้น
ถึงจะบอกว่าเป็นมาตรการบรรเทา แต่อาจเป็นกำแพงขัดขวางที่สูงและยากที่สุดก็ได้ค่ะ
「ฮะฮะฮะ อย่างที่คิดเจ้านี่น่าสนใจจริงๆ ไม่จำเป็นต้องกังวล ยังไงซะก็ได้คะแนนสูงสุดภาคปฏิบัติในประวัติศาสตร์…คงเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับโรงเรียนเราถ้าไม่รับคนพรสวรรค์ระดับนี้ไว้」
「พูดมาแล้วนะ! ถึงสอบข้อเขียนจะได้0คะแนนก็ผ่านสินะ!」
เมื่อเห็นฉันพูดย้ำ อาจารย์ใหญ่เอเลนาก็ยิ้มฝืนๆ
(สำหรับฉันแล้วไม่ใช่เรื่องตลกเลยซักนิด!?)
***