[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก - ตอนที่ 3 Chapter 1 เผชิญหน้า Part 2
Part 2
มหาจักรวรรดิแกรนท์ซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของทวีปกลาง เมืองหลวงของมหาจักรวรรดิมีชื่อว่า คลาดิอุส ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากฝั่งตะวันออกของป้อมปราการเทาเอ็น(Taoen)
ป้อมปราการนั้นถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นป้อมปราการที่สำคัญที่สุดสำหรับจักรพรรดิองค์แรก เหตุผลก็คือประเทศใกล้จะพินาศและจากที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของประเทศนี้
ผู้บัญชาการที่สืบทอดฐานที่มั่นทางประวัติศาสตร์สำคัญได้รับการแต่งตั้งโดยผู้เกี่ยวข้องกับราชวงศ์แกรนท์ ตอนนี้ เซเลีย เอสทรีย่า อลิซาเบธ ฟอน แกรนท์ เจ้าหญิงลำดับที่หกของมหาจักรวรรดิแกรนท์ ขณะนี้เธอกำลังจัดการประชุมกับผู้ติดตามของเธอในห้องบัญชาการ
ตรงกลางห้องมีลิซและชายสองคนยืนรอบโต๊ะ
“สัมภาระทั้งหมดถูกบรรจุลงในเกวียน ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือเมื่อไรเราจะออกเดินทางไปถึงป้อมปราการเบิร์ก…” ชายที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนแก้มของเขากล่าวเช่นนั้น นามของเขาคือ ดิออส ฟอน มิคาเอล
“แต่ว่าเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะถูกซุ่มโจมตี.”
ตามคำพูดของดิออสคนที่พูดออกมา คือ ทริส ฟอน เทอร์เมียร์ หัวหน้า ห้ากองร้อย แม้ว่าจะเป็นนักรบอาวุโส แต่เขาก็ยังเป็นถึงชายที่มีพละกำลังช้างสาร
”การเคลื่อนไหวของเจ้าหญิงเป็นที่รู้กันทั่วทั้งมหาจักรวรรดิ ไม่มีการรับประกันว่าจะไม่มีใครวางแผนทำอะไร”
“อย่างที่คาดไว้ ทหารม้าหนึ่งร้อยนายและทหารราบสองร้อยนายคงจะไม่พอสินะ?”
ใบหน้าของลิซเริ่มซีดขณะที่สบตากับดิออส
“ช่วยไม่ได้ทหารส่วนใหญ่ในป้อมเทาเอ็นเป็นกองทัพจักรวรรดิที่หนึ่ง เราไม่สามารถพาพวกเขาไปกับเราได้ นอกจากนี้ถ้าเราไปที่ป้อมปราการเบิร์ก ไม่ ถ้าเราเข้าไปในดินแดนของ มาร์เกรฟ กรินด้า พวกเราจะปลอดภัย”
ป้อมเบิร์กอยู่ในเขตความดูแลของมาร์เกรฟกรินด้า ซึ่งเป็นคุณลุงของลิซ มาร์เกรฟ ลูเซ็น คิออร์ก ฟอน กรินด้า (Margrave Luzen Kiork von Grinda)
“คุณลุงน่าจะยินดีต้อนรับฉันแน่นอน แต่ฉันกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรลิชไทน์(Lichtine).”
ทางตอนใต้ของดินแดนมาร์เกรฟกรินด้าเป็นดินแดนค้าทาสของของราชอาณาจักรลิชไทน์ ซึ่งตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับเหล่าหมาป่าผู้หิวโหยในทะเลทรายจะเคลื่อนไหวอย่างไร
เมื่อลิซแสดงสีหน้ากังวล ดิออสก็ปลอบใจเธอด้วยการพูดอย่างหนักแน่น
“พวกเราไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่คิดว่าจะมีการโจมตีจากราชอาณาจักรหรอกครับ.”
ราชอาณาจักรลิชไทน์อยู่ภายใต้อิทธิพลของมหาจักรวรรดิแกรนท์มาหลายปีแล้ว ดังนั้นแม้ว่าดินแดนของมาร์เกรฟกรินด้าและราชอาณาจักรลิชไทน์จะมีเส้นแบ่งพรมแดน แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ๆเกิดความสงบสุขซึ่งไม่เคยเห็นความขัดแย้งใดๆในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
“ก็จริง คราวนี้ปัญหาอยู่ที่ผู้ที่มีมุมมองเชิงลบต่อเจ้าหญิง.”
ทริสเข้าร่วมบทสนทนาและพูดต่อ
“ตัวข้าคิดว่าสิ่งที่ลำบากมากที่สุดคือการแทรกแซงจากทายาทคนอื่นๆ”
การเคลื่อนไหวนี้เกิดจากแผนการการของรัชทายาทคนอื่นๆ เธอถูกย้ายมาที่ป้อมปราการที่เงียบสงบไม่มีการต่อสู้ ซึ่งหมายความว่าเธอถูกตัดขาดจากการขึ้นสู่จุดสูงสุดเพราะไม่สามารถสร้างชื่อเสียงได้
“ผมเองก็ไม่เข้าใจเรื่องนั้นเลย นายหญิงมีลำดับในการสืบทอดบัลลังก์ถึงอันดับแปด ไม่มีประโยชน์เลยที่พวกเขาจะมาข้องเกี่ยวกับนายหญิง.”
ดิออสหลีกเลี่ยงการระบุอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเพราะไว้หน้าลิซ แต่ก็ไม่ผิดเลยที่จะบอกว่าลิซเป็นคนที่ถูกทอดทิ้ง
“นั่นเป็นเพราะ….เธอเป็นผู้ถือครองหนึ่งในห้าดาบภูติจักรพรรดิ”
“แล้วยังไง ? มันก็แค่ดาบเล่มหนึ่งไม่ใช่เหรอt?”
เมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายของดิออส ลิซก็มองพวกเขาด้วยความโกรธ
“อาระ อาระ ปากกล้าขาแข็งขึ้นเหลือเกินนะคะ ถ้าท่านพ่อของฉันได้ยิน เขาคงจะตัดคอพวกคุณทิ้งแน่นอนค่ะ บางทีอาจจะโดนเหล่าภูติที่สถิตย์อยู่ก็ได้นะคะ.”
“อืม ถ้าผมมีเวลามากลัวภูติ ก็ไม่มีทางจะมากล้าออกรบแบบนี้หรอกครับ.”
ดิออสพูดอย่างหนักแน่น ทริสหัวเราะเสียงดัง
“ก๊ากฮ่าฮ่าฮ่า อย่าลืมขอโทษก่อนเข้านอนนะเห้ย.”
ดาบภูติจักรพรรดิทั้งห้า นี่คือดาบล้ำค่าห้าเล่มที่จักรพรรดิองค์แรกทรงขัดเกลาขึ้นมาเมื่อได้รับพลังมาจากราชันภูติ ว่ากันว่ามีเจตจำนงของภูติสถิตย์อยู่ในดาบ
พวกเขาเหล่านั้นจะไม่มีวันปรากฏตัว เว้นแต่ว่าจะยอมรับในตัวของผู้ถือครอง และถ้าพยายามบังคับใช้งานพวกเขาปรากฏตัว จะโดนสาปส่ง อย่างไรก็ตามหากได้รับการยอมรับจะได้รับพลังมหาศาล
ด้วยเหตุผลดังกล่าว พวกเขาเหล่านั้นจึงขนานนามสิ่งนี้ว่า “ของขวัญ” จากราชาภูติ
ดาบภูติจักรพรรดิเพลิง เป็นดาบทีมีภูติแห่งไฟสิงสถิตย์อยู่
ดาบภูติจักรพรรดิเหมันต์ เป็นดาบที่มีภูติน้ำแข็งสิงสถิตย์อยู่
ดาบภูติจักรพรรดิอัสนี เป็นดาบที่มีภูติแห่งสายฟ้าสิงสถิตย์อยู่
ดาบภูติจักรพรรดิวายุ เป็นดาบที่มีภูติแห่งลมสิงสถิตย์อยู่
ดาบภูติที่เหลือหายไปจากประวัติศาสตร์มานานจนไม่มีเอกสารพบว่ามันเป็นอาวุธประเภทใด มีแต่การกล่าวถึงว่ามันเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิองค์ที่สอง
ในบรรดานั้น ดาบภูติจักรพรรดิเพลิงเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิองค์แรก อย่างไรก็ตาม ไม่มีจักรพรรดิคนไหนได้รับเลือกให้ใช้ดาบภูติจักรพรรดิเพลิง
หลังจากผ่านไปพันปี และในที่สุดเจ้าของที่สามารถครอบครองดาบภูติจักรพรรดิเพลิงได้ปรากฏตัวขึ้น นั่นคือ ลิซ ซึ่งเป็นเจ้าหญิงลำดับที่หก
ไม่สามารถให้เจ้าหญิงแต่งงานกับประเทศอื่นได้ พ่อของเธอซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์ปัจจุบันได้มองยศนายพลให้แก่เจ้าหญิงและให้เธอเป็นผู้บัญชาการประจำป้อมปราการเทาเอ็น จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครลงมือทำอะไร
―ทายาทสืบทอดบัลลังก์
เมื่อจุดศูนย์กลางอยู่ที่ดาบภูติจักรพรรดิเพลิงซึ่งเป็นสิ่งที่จักรพรรดิองค์ที่หนึ่งโปรดปราน หากลิซสามารถขยายอำนาจและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดข่าวลือและสนับสนุนเธอในฐานะจักรพรรดิองค์ที่หนึ่งกลับชาติมาเกิด
ดังนั้นจึงเป็นอันตรายที่จะให้เจ้าหญิงลำดับที่หกอยู่ใกล้กับมหาจักรวรรดิ เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง เรนฮาร์ด แซทโทเบล ฟอน แกรนท์ ตัดสินใจย้ายเธอไปยังเขตชายแดน
โดยปกติแล้วนี่คือสิ่งที่ทายาทคนอื่นๆครหาว่าใช้งานเพื่อกองทัพส่วนตัว แต่ครั้งนี้มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทายาทคนอื่นๆต่างร่วมมือกันกำจัดเหล่าขุนนางที่สนับสนุนลิซ
หลังจากสูญเสียผู้สนับสนุน ลิซก็ลงเอยด้วยการเป็นผู้บัญชาการของป้อมปราการอันห่างไกล และระหว่างทาง ก็ไม่มีการรับประกันว่าฝ่ายแซทโทเบล จะไม่ส่งกองทัพไปเพื่อลอบสังหารเธอ นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่ารัชทายาทอีกคนหนึ่งจะส่งกองทัพส่วนตัวของพวกเขามาสมทบด้วย เธอเลยต้องออกเดินทางไปยังป้อมเบิร์ก
ดิออสเกาหัวขณะชี้ไปยังแผนที่ๆอยู่บนโต๊ะยาวๆ
“มีถนนสองสายไปยังป้อมเบิร์ก มีทางทิศใต้ อันนี้ถือว่าเป็นกับดักอันสมบูรณ์แบบที่จะส่งพวกนักฆ่า โจร ทั้งหลายมาดักรอตรงนี้ อีกทางหนึ่งคือทางทิศตะวันออกเหนือหุบเขาฮิมเมลในเทือกเขาเกลาซาร์ม ทางด้านของประเทศเล็กๆของบัลม์ เข้าสู่ดินแดนของมาร์เกรฟกรินด้า”
“พวกเรามีทหารม้านี่ เหล่าทหารม้าไม่สามารถข้ามภูเขาฮิมเมลได้หรอกนะคะ.”
“หากเราเลือกจะไปทางทิศใต้ เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีจากทุกทิศทางได้ วิธีเดียวที่เราจะรอดชีวิตคือการข้ามภูเขาฮิมเมล.”
ตามคำพูดของดิออส ทริสที่อยู่ข้างๆวางของบางอย่างบนแผนที่
“ถ้างั้นพวกเราควรแยกกันดีไหม พวกเราไม่สามารถส่งคนทั้งหมดไปที่ภูเขาฮิมเมลได้ แถมเราต้องการกองกำลังที่เบี่ยงเบนความสนใจ ดิออส ข้าอยากให้เจ้านำทหารราบห้าสิบนายพร้อมทหารม้ามุ่งหน้าไปที่ป้อมเบิร์ก หากพบศัตรูตามเส้นทาง ให้ละทิ้งเกวียนสัมภาระทั้งหมดและเอาตัวรอดจนกว่าจะไปถึงเขตของมาร์เกรฟกรินด้า แบบนั้นโอเคไหมครับเจ้าหญิง?”
ลิซดูไม่มั่นใจ แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็พยักหน้าเล็กน้อย ดิออสถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ประสบความสำเร็จในการตกลงแผนการ และหันไปหาทริส
“แล้วตาแก่ล่ะจะทำยังไง?”
“ข้าจะข้ามหุบเขาฮิมเมลไปพร้อมกับเจ้าหญิง.”
“อืม ไอ้แก่อย่าฝืนตัวเองล่ะ…”
“หืม ข้ายังไม่ถึงช่วงวัยทองสักหน่อย”
“งั้นเหรอ แต่เมื่อเร็วๆนี้แขนของปู่ดูเล็กลงนะคะ?”
“ห๊ะ? จริงเหรอ?!”
เรื่องตลกของลิซทำให้ห้องบัญชาการมีความคึกคักเล็กน้อย