[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก - ตอนที่ 26 Volume 2 Chapter 1 มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง Part 1
- Home
- [LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก
- ตอนที่ 26 Volume 2 Chapter 1 มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง Part 1
Chapter 1 : มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง
Part 1
วันที่ 13 ของเดือนที่เจ็ด ปีจักรวรรดิ 1023 ในวันนั้นป้อมเบิร์กได้ถูกแสงแดดอันร้อนระอุแผดเผา เสียงของหญิงสาวดังก้องไปทั่วกลางหอคอย ตัดผ่านอากาศอันอบอ้าว ราวกับเสียงระฆัง
[ฮิโระ อยู่ไหนน่ะ?]
ชื่อของเธอคือ เซเลีย เอสทรีย่า อลิซาเบธ ฟอน แกรนท์ เจ้าหญิงลำดับที่หกแห่งมหาจักรดิแกรนท์ แม้ในขณะที่เธอเดินผ่านป้อมปราการเหมือนแม่ตามหาเด็กที่เอาแต่ใจ เธอก็เดินด้วยท่วงท่าอันสง่างามที่ชายใดได้พบเห็นต้องตะลึง ผมสีแดงเข้มของเธอส่องประกายเหมือนไฟที่ร้อนแรง ในขณะที่รูปร่างของเธอนั้นเป็นที่หมายปองของชายหลายๆคนและริมฝีปากที่อวบอิ่ม
[ฮิโระ!]
กระนั้นรูปร่างของเธอที่โดดเด่น แต่ดาบที่เอวเธอก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ชื่อของมันคือ ลิเวียธาน และมันเป็นดาบภูติ หนึ่งในห้าอาวุธในตำนานที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิองค์แรก ผู้ก่อตั้งมหาจักรวรรดิแกรนท์ และเป็นอาวุธที่เขามอบรักกับมันมากที่สุด
[ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ย ตาบ้า?!]
เธอที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการป้อมเบิร์กที่ใหญ่ดุจเขาวงกตสำหรับเธอ การตามหาใครบางคนในเขาวงกตเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เธอกำลังกำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิด ขยี้จดหมายหรูหราภายในมือ
[หืม!?] เธอพึมพำ [ส่วนใหญ่เขาจะหมกตัวอยู่ที่ชั้นสามนี่] ชั้นสามของหอคอยกลางส่วนใหญ่ใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บหนังสือและอุปกรณ์ต่างๆ หมาป่าขาว เซอร์เบอรัส เองก็คำรามใส่ทหารที่ชอบรุกล้ำพื้นที่นี้
[บางทีฉันควรจะวกกลับไปที่ห้องของเขาดีไหมนะ?]
ไม่นานนักหลังจากที่เธอพึมพำเช่นนั้น ประตูได้ถูกเปิดออกเหนือโถงทางเดิน ข้างหน้าชั้นสามมีเซอร์เบอรัสเฝ้าอยู่หน้าห้อง ชายหนุ่มผมสีดำ ตาสีดำเองก็อยู่ข้างหลังเธอ ตัวเขาที่ดูนุ่มนิ่มและแปลกในเวลาเดียวกันกำลังสวมผ้าปิดตา นั่นคือชายหนุ่มที่ลิซตามหา
[ฮิโระ!!!] เธอตะโกนเรียกเพื่อดึงความสนใจของเขา
เขาจ้องมองลงมาและถาม [มีเรื่องเร่งด่วนอะไรเหรอ?]
[ชั้นตามหานายไปทั่วเลย!!! มีเหตุด่วนมาก!]
[ขอโทษทีพอดีหมกตัวอยู่ในห้องสมุด กำลังตามหาบางอย่างอยู่น่ะ ] ฮิโระจ้องมองไปทางห้องด้านหลังซึ่งมีประวัติศาสตร์มากมายถูกบันทึกอยู่ในนั้น
[งั้นเหรอ] ลิซพูดแบบนั้นขณะแสดงความชื่นชม
[ก็ดีใจอยู่หรอกนะที่ตั้งใจเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ช่วยบอกกันก่อนได้ไหมว่าจะไปที่ไหน จะได้ตามตัวถูก]
ตั้งแต่ฮิโระประสบกับเหตุรุนแรงทางดวงตาของเขา ลิซก็ได้ทำการโอ๋เขามากเกินไป เขาไม่มีอะไรจะตำหนิเธอที่เป็นห่วงเขา แต่ความที่เธอขี้กังวลเกินไปจนเป็นนิสัยเสียนี่สิ
[เข้าใจแล้วครับ! จะระมัดระวังให้มากขึ้นครับ] เขากล่าวเช่นนั้น [ว่าแต่มีอะไรเหรอท่าทางดูร้อนรนเชียว]
[อ่า นั่นสินะ ! ฉันได้จดหมาตอบกลับเรื่องที่ฉันร้องเรียนไปด้วยล่ะ] เธอชูมันออกมา
ฮิโระจ้องตาเขม็งไปยังเศษกระดาษที่ถูกขยำและกล่าวว่า[นั่นน่ะเหรอ ดูโทรมเชียว]
[ก็มันมาจากพ่อโดยตรง มีลายเซ็นของจักรพรรดิ” ฮิโระหยิบกระดาษที่ยับเยินขึ้นมาและกางออกพร้อมลางสังหรณ์ที่คิดว่าซวยแน่ๆ
[ม้ามันคาบมาส่งรึไงถึงได้สภาพแบบนี้]
[ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นซะหน่อย โม่ววววววว]
ลิซประท้วง
[เพราะมัวแต่วิ่งหานายจนลืมไปเลยว่าในมือถือจดหมายอยู่ก็เลยเผลอตัวไปหน่อยแฮะๆ]
เธอปรบมือเข้าหากันราวกับจะขอโทษ ด้วยดวงตาที่มองเขาอย่างลังเล ฮิโระก็หมดความคิดที่จะโกรธเธอ
มีคำกล่าวที่ว่าคนสวยทำอะไรก็ไม่ผิด และตอนนี้เขาคิดว่าเขาเข้าใจความหมายของมันแล้ว
[เฮ้อ ช่างมันเถอะ ตราบใดที่ยังอ่านได้ก็พอแล้ว]
เขาจ้องมองจดหมายและเริ่มอ่าน
ลูกสาวที่รักที่สุดของข้าได้แจ้งถึงสถานการณ์อันโดดเด่นและผลงานของเจ้าเป็นที่ประจักษ์ในการต่อสู้กับดยุคแห่งลิชไทน์ แต่ก่อนที่ข้าจะขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเจ้า ต้องพูดเรื่องสำคัญที่เจ้ากล่าวถึงทายาทของจักรพรรดิองค์ที่สอง หากเรื่องที่เจ้ากล่าวไม่เป็นความจริง เจ้าจะได้รับบทลงโทษจากเจ้าชายลำดับที่หนึ่งแซทโทเบล เจ้าชายลำดับที่หนึ่งต้องการยืนยันตัวชายคนนั้นที่อ้างตัวว่าเป็นทายาทของจักรพรรดิลำดับที่สองเป็นทายาทจริงหรือไม่ ในแง่ของการมีส่วนร่วมในสงครามอย่างใกล้ชิดกับเจ้าแล้ว ช่วยกลับมาที่เมืองหลวงของมหาจักรวรรดิทันที
ลงนาม จักรพรรดิ เกรย์ไฮน์ จักรพรรดิองค์ที่สี่สิบแปดแห่งมหาจักรวรรดิแกรนท์
[จักรพรรดิบอกว่าอยากให้ชั้นไปที่เมืองหลวง] ฮิโระกล่าวเช่นนั้น
ในแง่หนึ่งการไปชมเมืองหลวงในคราวนี้ถือเป็นโอกาสอันดีของฮิโระที่จะศึกษาสังคมชนชั้นสูงของมหาจักรวรรดิแกรนท์ ไม่ต้องพูดถึงตัวจักรพรรดิเลย ไม่มีใครบอกได้ว่ามีอันตรายอะไรรอเขาอยู่ที่บัลลังก์ เพราะงั้นการจะเข้าไปจึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง
[ งั้นเหรอ ยอดเลยนะ มาเก็บของกันดีกว่า!] ลิซกล่าวพร้อมกับดึงแขนเสื้อของเขา
[เอ่อไม่รู้ว่าเธอได้รับเชิญให้ไปหรือเปล่านะเพราะในจดหมายไม่มีเขียน]
นอกเหนือสิ่งอื่นใดการเข้าร่วมไปกับลิซจะทำให้การมาเยือนของเขาเป็นในฐานะราชวงศ์ ฮิโระสงสัยว่าศัตรูของเธอจะเคลื่อนไหวยังไง จะกล้าเผชิญหน้าต่อหน้าพระพักตร์ของจักรวพรรดิรึเปล่า แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ปลอดภัยกว่าที่เธออาศัยอยู่ในป้อมเบิร์กในตอนนี้
[นี่แน่ะ แฺฮะๆ บูบู] ลิซพองแก้มด้วยความไม่พอใจ ฮิโระรู้สึกว่าความมั่นใจของเขาเริ่มสั่นคลอนทีละนิด
[ก็บริเวณรอบๆป้อมยังไม่ปลอดภัยเลย จะทิ้งเหล่าทหารไว้ที่นี่งั้นเหรอ ถ้าเธอไม่อยู่ใครจะสั่งการ แถมยังมีงานเอกสารอีกตั้งมากมายเป็นภูเขาเลากา ต้องมีใครสักคนอยู่ทำนะ]
ลิซเถียง
[ทริสเองก็ทำได้นะ]
[เอ่อ ทริสซัง เขาเป็นพวกสมองกล้า- เขาเหมาะกับการออกคำสั่งการรบมากกว่างานเอกสาร เขาเป็นทหารด้วยนะ]
[ฉันเองก็เป็นนะ]
[ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น อย่างน้อยเธอก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่าเขา เอาล่ะ อย่างน้อยก็เซ็นเอกสารสักหน่อย]
[ถ้างั้นฉันทำงานเสร็จเมื่อไร ขอไปกับฮิโระด้วยได้ไหม?]
ลิซจ้องมองอย่างวิงวอน
[แน่นอนหากทำเสร็จ ฉันพาเธอไปได้ยังไงฉันก็ไม่อยากทิ้งเธอไว้ที่นี่อยู่แล้ว]
ลิซจ้องมองอย่างมีความหวังและกล่าว
[ถ้างั้นฉันจะเซ็นเอกสารพวกนี้ให้เสร็จในรวดเดียวเลยยยยย เอกสารแค่นี้ไม่เท่าไรหรอก]
ฮิโระพยายามเตือนเธอแต่ก็สายไปแล้ว ลิซเริ่มทำงานอย่างขมักเขม้น
[ไว้ขอโทษในภายหลัง ถ้าได้ของที่ระลึกหรืออะไรสักอย่างคงจะหายโกรธกันมั้ง]
เขาจะหนีออกไปตอนดึก ตอนนี้ฮิโระหันกลับไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวสำหรับการไปเมืองหลวง
หลังจากดวงอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆหายไปเหนือขอบฟ้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทหารทุกคนหลับในยามค่ำคืน ฮิโระเริ่มปฏิบัติการณ์ ก่อนอื่นเขาไปที่ชั้นหนึ่งของหอคอยตามทางเดินอย่างระมัดระวังและหยุดที่หน้าสำนักงาน เมื่อแอบมองเข้าไปข้างในประตูก็เห็นลิซนอนอยู่กับกองกระดาษ
ฮิโระยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย――.
[เฮ้ยมาทำอะไรที่นี่?]
ฮิโระรีบถอยห่างด้วยความเร็วมีเสียงเรียกมาจากด้านหลัง
[นี่แก อย่าบอกนะว่าจะมาลอบโจมตีองค์หญิง!?]
ใบหน้าของทหารคนนั้นที่ถือตะเกียงในมือซ้ายเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความโกรธ
[ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น เงียบก่อน เดี๋ยวลิซตื่น!]
[…หืม หมายความว่าไงไอ้หนู ฮะ ไอ้หนู มาทำอะไรดึกๆดื่นๆแบบนี้?]
เขาเป็นผู้ช่วยของลิซ ทริส ฟอน เทอร์เมียร์ พลทหารชั้นสาม
[เดี๋ยวก่อน…]
เขาลังเล ทริสอาจจะอ้างว่าฮิโระจะมาลักหลับองค์หญิงหรืออะไรสักอย่างแบบนั้นแน่ๆ ฮิโระจึงรีบอธิบาย
[ฟุมุ แกอยากออกไปจากที่นี่หลังจากองค์หญิงหลับงั้นเหรอ?]
[ใช่ จะให้ชั้นพาลิซไปด้วยไม่ได้ใช่ไหมละ?]
[แน่นอน ข้าอยากให้องค์หญิงอยู่ที่นี่ แต่เจ้าเป็นทายาทของจักรพรรดิองค์ที่สองใช่ไหม และเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าจะได้รับการคุ้มครองอย่างน้อยก็ต้องมีคนคุ้มกันไปด้วยนะ]
[ขุนนางหลายคนรวมถึงจักรพรรดิ คงจะสงสัยมากกว่าหากชั้นมีกองกำลังไปด้วย ดังนั้น ชั้นจะไปคนเดียว เพราะเดี๋ยวเกิดปัญหาโดยไม่จำเป็นเอาได้]
จนกว่าจักรพรรดิจะรู้จักเขาตอนนี้เขามีตำแหน่งเป็นแค่สามัญชนทั่วไป เขาควรจะไปแบบเงียบๆเขาอยากจะทำให้ฝันของลิซเป็นจริง เมื่อพิจารณาถึงอนาคตไม่อยากสร้างความประทับใจแย่ๆ
[กังวลเกินไปรึเปล่าไอ้หนุ่ม? นอกจากนี้ มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ผมสีดำตาสีดำ เพียงแค่นี้มันก็เป็นหลักฐานเพียงพอแล้ว]
[แค่ผมสีดำ ตาสีดำ แบบนี้ใครๆก็อ้างตัวได้หมดแล้วมั้ง]
ฮิโระคิดว่าถึงคราวจำเป็นเขาจะหยิบ จักรพรรดิสวรรค์ (เอ็กซ์คาลิเบอร์) แต่ว่านั่นไว้ใช้ตอนที่ไม่มีทางเลือก T/N: พอเข้าเล่มสองเขาเริ่มเพิ่มชื่อในกับดาบแล้วเพราะฉะนั้นผมจะเรียกชื่อดาบแทนการเรียกสมญานามนะครับ
ในกรณีที่เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิหากมีโอกาสก็จะเจอเจ้าชายแซทโทเบลอยู่ที่นั่น หากเขาหยิบ เอ็กซ์คาลิเบอร์ออกมาต่อหน้าจักรพรรดิ เขาน่าจะโดนนักฆ่าเข้าลอบโจมตีต่อหน้าพระพักตร์แน่นอน นั่นจะกลายเป็นหายนะสำหรับเขาและแซทโทเบลจะใช้ข้ออ้างนั่นในการเป็นผู้กล้า และลิซจะถูกประหารชีวิตเพราะส่งมือสังหารแบบชั้นไป
สถานที่ที่ฮิโระกำลังมุ่งหน้าไปคือเมืองหลวงที่ซึ่งมีความปรารถนามากมายไหลเวียนอยู่ที่นั่น ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลมากจนเกินไป
[เอาล่ะดูเหมือนเวลาใกล้จะหมดแล้ว ถ้างั้นชั้นขอตัวล่ะ]
[อืม เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ต้องการคนคุ้มกัน?]
[ใช่ไม่จำเป็น]
[แต่ว่าเจ้าขี่ม้าไม่เป็นแล้วเจ้าจะไปยังไงล่ะ?]
[ก่อนอื่นชั้นจะไปหาท่านคิออร์กด้วยการเดินเท้านี่ล่ะ]
ต้องมีรถม้าภายในลิงซ์แน่นอน ดังนั้นฮิโระคิดว่าหากได้รถม้ามาเขาจะไปมหาจักรวรรดิทันที
ฟุมุ…ทริสกรนและแส้งทำเป็นคิดถึงเรื่องนี้
[ในกรณีนี้เจ้าจะลองเจ้านี่ไหม…]
[หมายความว่าไง?]
[มีอะไรจะเซอร์ไพร์สนิดหน่อย ตามข้ามา]
ด้วยเหตุนี้ทิรสจึงหันหลังและเดินจากไป ฮิโระตามเขาไปด้วยความสงสัย ก็ถูกพาไปที่คอกม้า จริงๆแล้วมันไม่ใช่คอกม้าแต่เป็นพื้นที่ว่างเปล่าพอสมควร
[เจ้านี่ไง]
ทริสเคาะกรงที่ดูแข็งแรง มีบางอย่างอยู่ข้างในและส่งเสียงร้องแหลม
[อะไรละนั่น]
[เจ้านี่น่ะเหรอ สวิฟเดรค]
ต่อคำถามของฮิโระทริสยิ้มอย่างชั่วร้าย
ช่วยบริจาคค่าหนังสือได้ที่นี่