“งั้นแสดงว่าทุกวันนี้ที่ไปเล่นร้านเนตคาเฟ่นี่คือวัยรุ่นชายหญิงอยู่ด้วยกัน2ต่อ2 …แถมเมื่อกี้ยูคุงก็อุ้มน้องเค้าด้วย สัมผัสแนบเนื้อใกล้ชิดกันอีก … ไม่ผิดแน่ ทั้งสองคนคบกันอยู่สินะ ยูคุงนี่ร้ายจริงๆ”
“ม.ไม่ได้คบกันสักหน่อย ไม่มีอะไรใกล้เคียงแบบนั้นเลย”
“โกหกตกนรกน้า”
“หยุดล้อเหอะคร้าบบ รู้อยู่แล้วว่าถ้าบอกไปจะเจอเนเน่ล้อแบบนี้ไงถึงไม่อยากจะเล่า แล้วก็ผมขอตัวไปหาเสื้อให้ยุยเปลี่ยนก่อนนะครับ”
ยูมะพูดจบเบี่ยงประเด็นหนีเนเน่ โกยแน่บกลับห้องตัวเอง
เมื่อกลับถึงห้อง ยูมะหยิบผ้าเช็ดตัวกับหาเสื้อไซส์ที่ตัวเล็กพอจะให้ยุยผลัดเปลี่ยน
(มันน่าจะมีเสื้อเราสมัยเด็กหลงเหลือบ้างสิน่า”
โชคดีว่ายูมะเจอเสื้อตกค้างสมัยเรียนประถมเหลืออยู่ จากนั้นพอคิดว่ายุยกำลังจะสวมเสื้อของเขา ไม่รู้ทำไมเด็กหนุ่มรู้สึกหน้าแดงเขินนิดๆ เขาส่ายศีรษะยิกละความฟุ้งซ่านเดินกลับไปจุดเปลี่ยนเสื้อหน้าห้องน้ำ
ถ้าเป็นมังงะเลิฟคอมทั่วไป จังหวะไปห้องน้ำนี่ต้องเจอยุยเปลื้องผ้าอยู่หน้าห้องน้ำเห็นทุกสัดส่วนให้พวก18+ชื่นชม แต่ความเป็นจริงคือเธออยู่ในห้องน้ำนั่นแหละ แต่ไม่รู้ทำไม เขาดันมีความคิดว่าเรื่องในมังงะ ถ้ามันเกิดได้ในชีวิตจริงสักครั้งก็ไม่แย่นะ
เสียงน้ำจากห้องน้ำชัดเจนว่ายุยกำลังอาบน้ำอยู่ ยูมะนำเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวไปวางตรงจุดเปลี่ยนเสื้อ
“ยุย เดี๋ยวชั้นให้ยืมเสื้อของชั้นใส่ไปก่อน ส่วนเสื้อเธอ รอตากให้แห้งก่อนค่อยว่าอีกที่นะ”
“อืม…ขอบคุณนะ”
ยุยตอบกลับท่ามกลางเสียงน้ำฝักบัว
ห้องน้ำที่แมนชั่นยูมะเป็นกระจก ฉะนั้นถ้ามองผ่านกระจกจะเห็นเงาสัดส่วนของคนที่กำลังอาบน้ำได้ระดับหนึ่ง
ยุยกำลังเปลือยเปล่าอยู่หลังประตูบานนี้
เพียงแค่คิดเท่านี้ สีหน้ายูมะร้อนผ่าว รีบส่ายหัวหนักกว่าเดิม นี่กุเป็นอะไรของกูเนี่ย ตั้งแต่อุ้มยุยแล้วได้สัมผัสก้นนิ่มๆของเธอ อาการฟุ้งซ่านนี่โหมกระหน่ำไม่หยุดเลยเว้ย
ยูมะเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ยุยก็น่ารัก ฉะนั้นมันก็ไม่แปลกที่ยูมะจะเกิดอาการ 18+ งุ่นง่านอยู่ตอนนี้ แต่ระงับความอยากของตัวเองไว้
ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าจะไม่หันไปมองกระจกอีกแล้ว แต่สัญชาตญาณข้างในก็หัามใจไม่ได้ ไม่นะ ทำไมหัวของชั้น หันไปที่ห้องน้ำ ชั้นจะหันไปอีกทางนะโว้ย แล้วนี่แค่เห็นเงาเธอหลังห้องน้ำ ความฟุ้งซ่านกุนี่ไม่หยุดสักที
“….ยูคุง”
“เหวออออ!”
จู่ๆข้างหลังก็มีคนเรียกชื่อด้วยเสียงสูง เล่นเอาสะดุ้งโหยงสุดตัว พอหันกลับไปดูก็พบเจ้าของเสียงกำลังส่งยิ้มล้อเลียนอยู่
“มายืนจดๆจ้องๆอะไรอยู่ตรงนี้เอ่ย”
“ป..เปล่าสักหน่อย ผมแค่รอส่งเสื้อเฉยๆ”
“อ้อเหรอ งั้นที่พี่คิดว่ายูคุงกำลังจะแอบถ้ำมองคือพี่คิดไปเองสินะ”
ถ…ถูกต้อง คิดไปเองครับ ใครมันจะไปถ้ำมองเล่า”
“อย่างนี้นี่เอง ไม่ได้ถ้ำมองแต่ถ้าเขาเสนอตัวให้มองได้ก็จะดูแบบจัดเต็มสินะ”
“โว้วว พูดไปเรื่อย ผมกับยุยไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างนั้นสักหน่อย..”
“อ้อ น้องเขาชื่อยุยนี่เอง ว้าว นี่ถึงขั้นเรียกชื่อจริงน้องเขาซะด้วย แบบนี้จะเรียกว่ามีความสัมพันธ์แบบไหนดีล่ะ”
“เนเน่ ผมไหว้ล่ะคร้าบ ให้กราบทีนก็ยอม วันนี้ขอเหอะ เนเน่ช่วยอยู่ในห้องนิ่งๆไม่ต้องล้อผมสักวันหนึ่งได้มั้ยครับ”
“ฮะฮะ สงสัยพี่แกล้งหนักไปสินะ หึหึ ไม่ต้องห่วงจ้า พี่ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอทั้งสองคนหรอก เชิญตามสบายทั้งคู่นะ”
เนเน่กล่าวจบเดินกลับห้อง
ยูมะคิดว่าวันนี้ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ฟะ
หลังจากนัั้นสักพัก ยุยออกจากห้องน้ำ
“ขอบคุณที่่ให้อาบน้ำนะ”
ยุยสวมเสื้อของยูมะ ทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรเลย แต่ยูมะแค่คิดว่า ยุยกำลังสวมเสื้อเขาอยู่ เขาก็รู้สึกใจเต้นตึกตักโดยที่หาเหตุผลไม่ได้
ทางด้านยุย สภาพก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ายูมะ ท่าทางเธอกระวนกระวายตื่นเต้นเช่นกัน
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ยุยได้เที่ยวบ้านเพื่อนผู้ชาย ด้วยความที่เสื้อยูมะหลวม จึงมีพื้นที่ให้ยุยดึงเสื้อขึ้นมาปิดครึ่งปากครึ่งจมูก
ยูมะเห็นความน่ารักของยุย เขาเริ่มเขิน ทางยูมะเองก็เพิ่งจะเคยพาเพื่อนผู้หญิงมาเที่ยวถึงที่แมนชั่นครั้งแรกเช่นกัน
“มีโจ๊กสำเร็จรูปอยู่ สนใจกินมั้ยครับ”
“อืม สนใจ”
“ได้ งั้นนั่งรอที่ห้องรับแขกแปบนะ”
ยูมะไปที่ครัว เตรียมโจ๊กไว้สองถ้วย ไว้กินคนละถ้วยกับยุย
ยูมะเดินกลับมาพร้อมถ้วยสองใบ ส่งใบหนึ่งให้ยุยที่กำลังนั่งอยู่เก้าอี้รับแขก
“เอ้า ระวังร้อนนะ”
“”อืม ขอบคุณนะ”
ถ้วยโจ๊กส่งควันหอมฉุย ยุยเป่าถ้วยให้หายร้อนสักนิดก่อนจะกิน
“ฮัดชิ่ว”
“ไม่ได้เป็นไข้ใช่มั้ย ถ้าปวดหัวมีอาการตัวร้อนอะไรให้รีบบอกนะ”
“อืม”
ยุยเป่าโจ๊กสักพัก ดื่มไปหนึ่งคำ
“อร่อยจัง”
สภาพยุยตอนนี้ดูจะใจเย็นขึ้นแล้วหากเทียบกับตอนอยู่หน้าแมนชั่น ท่าทางเธอตอนเป่าถ้วยก็น่ารักมากเหลือเกิน เพียงแค่ดูก็เล่นเอาอยากจะเอ่ยปากชมเชย แต่ว่า…
“…..”
“…..”
ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าแมนชั่น ทั้งสองคนต่างเอ่ยความในใจตัวเองหมดแล้ว ยูมะเลยมองยุยนิ่งๆไม่พูดไม่จาอะไรพลางคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาว่าทำอะไรไปบ้าง
สรุปว่า เขาทั้งกอดยุย ทั้งอุ้มยุยอย่างแนบแน่น แถมยังจับก้นนิ่มๆของเธอเต็มมือทั้งคู่ แล้วก็พายุยเข้ามาในบ้านตัวเองอีก คิดแล้วก็ร้อนใจเหมือนกัน เพราะว่าถึงยังไงยุยเป็นผู้หญิง ถ้าโดนผุ้ชายทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่ ส่วนใหญ่ต้องเกลียดขี้หน้าผุ้ชายคนนั้นแน่
ด้วยความร้อนใจราวมีชนักติดหลัง ยูมะเลยดื่มโจ้กระบายความเขินโดยไม่เป่า
“อ้ากก ร้อนนน”
ยูมะหน้าเหยเก เป่าปากฟู่ๆให้โจ้กในปากคลายความร้อนสักนิดนึงก้ยังดี ยุยเห็นสภาพยูมะแล้วหลุดยิ้มออกมา
ทางด้านยุยเองก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แก้มตัวเอง แต่เธอเก๊กนิ่ง ค่อยๆดื่มโจ๊ก ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนส่งข้อความหายูมะ แน่นอนว่ายูมะเห็นยุยส่งข้อความก็หยิบสมาร์ทโฟนตัวเองขึ้นมาพิมพ์แชทตอบด้วย
“ยูมะ มีพี่สาวด้วยเหรอ”
“อืม ถึงจะบอกว่าพี่สาว แต่เธอก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แค่อาศัยอยู่ด้วยกันเฉยๆ แล้วอายุพี่เขาก็ไม่ได้มาก เลยรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า
ส่วนสาเหตุที่เขาเป็นพี่ชั้นเกิดจากครอบครัวของชั้นกับพี่แต่งงานกันอีกรอบหนึ่ง เราเลยเป็นลูกติดของแต่ละฝั่งครับ”
“ง่ายๆคือเป็นพี่สาวบุญธรรมสินะ นี่มันอารมณ์เลิฟคอมสาวแกลชัดๆ”
“ห๊ะ พูดอะไรของนาย เลิฟคอมสาวแกลเนี่ยนะ”
“ก็มัน..อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับพี่สาวบุญธรรมสุดสวย นี่มันซีนปักธงตามมังงะหรือเมะชัดๆ”
“ปักธงบ้าอะไรเล่า”
“”นี่นี่ สารภาพมาตามตรงก็ได้นะว่าไม่ได้มีอะไรจริงๆเหรอ ผมก็ไม่ได้รังเกียจงานพล็อตสาวแกลหรอกนะ”
“แสสสส เมิงอย่าเอา2dกับ3dมาปนกันในชีวิตจริงสิฟะ ถึงอยู่ด้วยกันจริงแต่ไอ้เรื่องปักธงห่าเหวอะไรนั่นลืมไปได้เลย”
“เอ๊ะ จะว่าไปตะกี้บอกว่าอยู่ดัวยกันสองคนกับพี่ใช่มั้ย แล้วพ่อแม่ยูมะไปไหนเหรอ”
“อ้อ พ่อแม่ไปทำงานต่างประเทศ ชั้นเลยอยู่กับพี่แค่สองคนในแมนชั่นนี้”
“พล็อตมันชวนคิดแนวเอโระจริงๆนะ”
“เป็นผู้หญิงแท้ๆอย่าใช้คำว่าเอโระได้มั้ยฟะ”
พอส่งแชทจบ ทั้งคู่ต่างสบตากัน ก่อนจะค่อยๆหลุดขำออกมา ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกันสมบูรณ์แล้ว
***
หลังจากนั้นพักใหญ่ ยูมะพายุยกลับมาส่งที่บ้านด้วยกัน ตอนนี้ยุยกลับมายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติ เขารู้สึกโล่งใจมาก
เมื่อส่งยุยเสร็จเรียบร้อย ยูมะกลับมานอนบนเตียงห้องตัวเองพลางคิดถึงเรื่องของยุย
เหตุการณ์ในวันนี้ ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม แต่กระชับในฐานะเพื่อน…ไม่สิเพื่อนสนิทมากกว่า เป็นความสัมพันธ์เพื่อนสนิทที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ยูมะคิดแบบนี้ รู้สึกดีใจ
(แต่ว่า….ถ้ายังรักษาอาการป่วยของยุยไม่ได้ เหตุการณ์วันนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นกับเธออีกก็ได้)
ไอ้ที่ยุยมาถึงแมนชั่นผมได้ อย่าไปนับ กว่ายุยจะมาถึงได้ ผมมั่นใจว่าเธอต้องอดทนและใช้ความพยายามอย่างมาก ฉะนั้น ถ้ายังรักษาโรคไม่ได้เต็มร้อย อย่างน้อยก็ต้องหาวิธีเสริมความมั่นใจให้เธอมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่านี้
ในตอนนี้ ยูมะมีความรู้สึกหลายอย่างปนอยู่ในใจ ความสัมพันธ์ของเราจะอยู่ตราบเท่าที่โรคขอยุยยังไม่หาย แต่ถ้ารักษาหายดีแล้ว พวกเราจะเป็นยังไงต่อไป ถึงแม้ชั้นอยากจะให้โรคยุยหาย แต่ทำไมชั้นถึงติดใจเรื่องความสัมพันธ์ของชั้นกับยุยนะ
แต่เรื่องนั้นก็ว่ากันทีหลัง โฟกัสเรื่องยุยก่อน ถ้าเร่งมากไป ชั้นอาจจะทำร้ายจิตใจยุยอีกก็ได้ ซึ่งสภาพยุยตอนนั้น ชั้นไม่อยากเห็นมันอีกเป็นครั้งที่สอง
หลังจากนั่งครุ่นคิดหาวิธีสักพัก ยูมะก็นึกไอเดียออก เขาดีดตัวขึ้นจากเตียง เดินไปห้องเนเน่ สูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย ตัดสินใจเคาะประตู
“เนเน่ ขอเข้าไปได้มั้ย”
“เชิญจ้า”
เนเน่กำลังนอนอยู่บนเตียง เล่นสมาร์ทโฟนอยู่ แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าจริงจังของยูมะ เธอรู้แล้วว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ จึงลุกขึ้นนั่ง
“มีอะไรรึเปล่า ทำหน้าขึงขึงมาเชียว”
“…มีเรื่องจะขอร้องอย่างหนึ่งครับ”
ยูมะก้มหัวลงเล็กน้อยหลังกล่าวจบ
*****
จบCH4-3
ยังไงก็ยืนยันว่าไม่ทิ้งเรือ่งนี้แน่นอนครับผม จะแปลให้สุดจนจบชัวร์ ขอไม่พูดเยอะ พอดีโดนชวนแดกเหล้า ไว้มีโอกาสจะมาตอบทุกท่านครับ
ตอนหน้ามาลุ้นกันนะครับ ว่ายูมะขอร้องอะไร
ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION