ในอีกด้านหนึ่ง ยุยมีสีหน้าแดงแป้ด เธอเข่าทรุดนั่งบนพื้รอเมื่อได้ยิบทสนทนาว่า”ยูมะคุง เธอจะทนุถนอมยุยใช่มั้ย” “ครับผมจะทนุถนอมยุยครับ”
ตอนแรกยุยเข้าใจว่าหูฝาดเข้าใจผิดไปเสียอีก
เธอยิ่งอายกว่าเดิมอีกเมื่อเห็นคุณแม่เห็นตัวเธอเองว่าลอบฟังอยู้ แต่แม่เธอเองยังกล่าวกับคนในห้องรับแขกว่า “ไม่มีใครอยู่”
แม่เธอส่งสัญาณมือเป็นเชิงว่าให้ยุยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กลัวห้องตัวเองซะ เธอเลยงอนิ้วชี้เข้าหานิ้วโป้งเป็นสัญญาณว่ารับทราบค่ะ
ยุยหีวใจเต้นแรงมากจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังลั่น รีบเดินกลับห้องอย่างระวังไม่ให้ยูมะรู้ตัว เมื่อปิดประตูห้องเรียบร้อย เธอนั่งกับเตียงพร้อมเสียงหัวใจเต้นแรง
ยุยไม่ได้ยินเสียงพ่อเธอที่บอกว่า จะใช้ทั้งชีวิตทถุถนอมยุยใช่มั้ย สิ่งที่ยุยได้ยินมีเพียงเสียงยูมะที่ตอบอย่างจริงจังว่าจะทนุถอนอมยุยจากปากยูมะเท่านั้น
ถึงตอนนี้เสียงหัวใจเธอยังคงเต้นโครมครามไม่หยุด
ยุยได้ยินว่ายูมะจะทนุถนอมเธอ ไม่สิ สิ่งที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรงไม่หยุดคือคำพูดนั้น เธอคิดว่าเธอไม่ได้เข้าใจผิด กับคำพูดที่ยูมะบอกว่า “ได้โปรดยกลูกสาวให้ผมด้วยครับ”
ระหว่างกำลังครุ่นคิดกับเรื่องนี้ ยุยได้ยินเสียงเค่าะประตูเล่นเอาสะดุ้งเฮือกกระโดดโผลงขึ้นมา
“ยุย ขอแม่เข้าไปได้มั้ย”
หลังจากแม่ยุยกล่าวจบ ยุยรีบตอบ “ๆอ..อืม เข้าได้เลยค่ะ”
แม่ยุยเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง พอเห็นสีหน้ายุย แม่แค่นหัวเราะห
“ไหวมั้ยลูก หน้าแดงมากเลยนะ”
“เอ่อ..คือว่า”
“ดูจากสีหน้าลูกแสดงว่าได้ยินคำพูดยูมะทุกคำตั้งแต่แรกเลยสินะ”
“….อืม”
ยุยพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความอายสุดขีดให้กับแม่ทีเข้ามาคุยกับเธอ
“เอ่อ..คือว่า..แม่คะ”
“ว่างายคะ”
“สิ่งที่หนูได้ยินตะกี้หนูไม่ได้ฟังผิดมันคือเรื่องนั้นใช่มั้ยคะ”
“เรื่องนั้นมันคือเรื่องไหนคะลูก”
“มันคือ…เรื่องที่ว่ายูมะชอบหนู…จริงรึเปล่าคะ”
“ใช่ ถูกต้องแล้วจ้า”
“เอ๋ ทั้งหนูทั้งยูมะต่างคนต่างก็ชอบ…”
“ก้ถูกแล้วไง”
พอเจอบุคคลที่สามกล่าวในเรื่องที่ว่าตัวเองชอบ ยุยรู้สึกอายม้วนต้วน เธอเอามือสัมผัสแก้มตัวเอง รู้สึกได้ว่าแก้ทร้อนราวกับมีไฟอยู่ข้างใน
“หนูควร..ทำไงต่อดีคะคุณแม่…..หนูอายมากจนต่อจากนี้คงไม่กล้าเจอหน้ายูมะคุงแล้วค่ะ”
คุณแม่หรี่ตามองด้วยความอ่อนโยนขณะจ้องมองอากัปกริยาลูกสาวเธอ
“นั่นสินะ งั้นก็กล้ำกลืนความอับอายแล้วเดินหน้าต่อไปสิ”
“เอ๋”
”ตอนนี้ต่างคนต่างก็รุ้ถึงความรู้สึกอีกฝ่ายแล้ว หนูก็แค่อ้อนเขาในสิ่งที่ลูกอยากจะทำโดยไม่ต้องไปสนเรื่องอายไง”
“แต่ว่า..ทำแบบนั้นมัน…”
“แม่เข้าใจความรู้สึกของลูก แม่ถึงไม่บังคับนะ แต่แม่เชื่อว่าถ้าหนูทำตามสิ่งที่แม่พูด ยูมะจะดีใจมากๆนะ”
“…งั้นเหรอคะ”
“แน่นอน แม่มั่นใจมากว่าถ้าหนูอ้อนยูมะ ยูมะต้องดีใจมากๆค่ะ”
“….อืม
“ฮะฮะ แม่บอกได้เลยว่าถ้าหนูอ้อนพร้อมกับท่าทีที่หนูแสดงให้แม่เห็น การันตีว่ายูมะดีใจมากแน่ …เดี๋ยวแม่จะกลับห้องรับแขกละ ยุยจะเอาไงต่อคะ”
“ขอหนูไปทำใจให้เย็นกว่านี้ก่อนดีกว่าค่ะ..”
“รับทราบ แม่เอาใจช่วยนะ”
หลังจากแม่ยุยกลับเข้าห้อง เธอกลับไปที่ห้อง ล้มตัวนอนบนเตียง กอดและเอาหน้าซุกหมอนข้างด้วยกริยาน่ารัก สีหน้ายังแดงก่ำ หัวใจยังเต้นระรัวด้วยความอายและความสุขล้นจนดีใจ ต่อจากนี้เธอควรจะทำไงต่อดีนะ
“…ได้กลิ่นยูมะ..จากหมอนข้างด้วยแหละ”
เธอสูดลมหายใจเข้าแรงกว่าเก่าเพื่อดมกลิ่น
เธอเพิ่งนึกได้ว่ายูมะเพิ่งจะนอนด้วยกับเธอบนเตียงตรงนี้
“ชั้นชอบ…กลิ่นนี้จังเลย”
(คนที่นิสัยดีจะมีกลิ่นกายชวนพึงปรารถนา) คำนี้เธอเคยได้ยินมาก่อนแล้วตอนนี้เธอกำลังหลงใหลกับมันเลย
ยุยนึกถึงตอนที่ยูมะเองก็พูดออกมาว่า “ยุยมีกลิ่นหอมดีจัง”
“…แหะๆๆๆ”
ยุยมีความสุขมากๆเมื่อคิดว่าคนที่เธอชอบก็คิดแบบเดียวกับสิ่งที่เธออยู่จนสีหน้าออกการการเก็บไม่มิดเลย
ยุยสูดกลิ่นยูมะจากหมอน หายใจเข้าลึกยิ่งกว่าเดิม ยิ่งสูดเธอยิ่งรู้สึกผ่อนคลายพร้อมด้วยหัวใจเต้นตึกตักจากความสุขล้น ยุยกอดหมอนข้าวราวกับแทนที่หมอนข้างเป็นตัวยูมะเอง
“…จากนี้ชั้นควรทำไงต่อดีน้า…”
หลังจากนี้ ยุยจมเจ่าอยู่กับความนึกคิดตัวเองขณะซบหมอนไปด้วย
จบ ch22-5
*****
หมายเหตุจากผุ้แปล
ไม่เจอกันซะนาน อัพตูมเดียวเลยน่าจะจุใจนะครับ พอดีว่าเฟสมันหารหัสเข้าไม่เจอเลยไม่ได้อัพยาวเลย พอเจอแล้วก็เลยจัดหนักซะหน่อย หวังว่าทุกท่านจะชอบนะครับ
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION