ยูมะเดินมาหาที่เตียง กล่าว
“ขอถามอีกรอบละกันว่ามีอะไรที่อยากได้มั้ย ต้นเหตุเธอป่วยเกิดจากชั้นเองฉะนั้นจะขออะไรที่เอาแต่ใจ ผมพร้อมทำให้ไม่มีปัญหาครับ”
“บอกแล้วว่าไม่ต้องคิดมากแท่้ๆ..”
“เวลาที่อ่อนแอให้พึ่งพาคนอื่น ก่อนหน้านั้นเป็นเธอเองที่พูดคำนี้กับผมเองนะ”
“..ชั้นคิดว่าตัวชั้นเอาแต่พึ่งพายูมะมานานเกินแล้วน่ะสิ”
“เออน่า ช่างมันเถอะ สรุปมีอะไรที่อยากขอร้องมั้ยครับ”
“อืม ถ้างั้น แปะแผ่นลดไข้ให้ชั้นหน่อยละกัน”
“อ้อ นี่น่ะเหรอ”
ยูมะเดินไปหยิบแผ่นลดไข้ที่วางหัวเตียง ลอกฟิล์มออก ใช้มือหนึ่งเสยผมตรงหน้าผากยุยก่อนจะบรรจงแปะแผ่นลดไข้
“ขอบคุณนะ”
“มีอย่างอื่นอีกมั้ย”
“จริงๆเป็นเพื่อนคุยแค่นี้ชั้นก็ดีใจมากแล้วแต่ว่า..อืมมม”
“ว่าไง อยากขออะไรก็ว่ามาไม่ต้องเกรงใจครับ”
“”…บอกเองตะกี้ใช่มั้ยว่าเป็นคำขอเอาแต่ใจก็จะทำตามให้”
“อืม”
“ถ้างั้น..ขอซุกมือ..ชั้นจะดีใจมากๆ”
สงสัยเพราะพิษไข้มั้ง ทำให้เธอกล้าขอแบบนี้ มันก็แอบเขินหน่อยๆแหละ
ยุยค่อยๆถอนมือออกจากผ้าห่ม ยูมะรู้งานยื่นฝ่ามือไปสัมผัสกับมือเธอ
ฝ่ามือเล็กๆของเธอวันนี้อุณหภูมิสูงกว่าปกติ ยุยเอาฝ่ามือไปซบ
“ฮะฮะ มือยูมะเย็น รู้สึกดีจัง”
“มีอย่างอื่นที่อยากให้ทำอีกมั้ย”
“…อยากให้ลูบหัวหน่อย”
“ครับครับ”
ในขณะที่มือหนึ่งโดนยุยคว้าไปซบ ยูมะใช้อีกมือหนึ่งลูบหัวยุย บางทีคงเป็นเพราะพิษไข้ล่ะมั้งทำให้วันนนี้ยุยดูจะเป็นเด็กขี้อ้อนมากกว่าปกติ
“เน่…ยูมะ”
“หือ มีอะไรเหรอครับ”
“ทำไมยูมะถึงอ่อนโยนกับชั้นเหรอ”
“เพราะว่าเธอคือเพื่อนคนสำคัญ เหมือนเป็นน้องสาวของผมน่ะสิ”
ยูมะกล่าวจบ สีหน้ายุยแข็งไป
“…แค่นี่้เหรอ”
“เอ๊ะ?”
ตกใจหมด
เอาจริงๆ คำตอบในใจยูมะมันไม่ใช่เพื่อนหรือน้องสาวหรอก หัวใจที่เต้นตูมตามเพราะถูกถามกระทันหัน ทำเอาเขาอยากจะเปลี่ยนคำตอบ
“ที่จริงคือ..”
ตอนนี้หัวใจยูมะเต้นแรง สีหน้าเริ่มร้อน ทางยุยเองก็มีสีหน้าแดงไม่แพ้กัน
แต่ว่าสุดท้ายยูมะก็ไม่ได้ตอบออกไป มีเพียงความเงียบ ทว่าบางทีความรู้สึกของเขาแม้จะไม่ได้พูด แต่เธออาจจะรู้ได้ผ่านทางมือของผมและนิ้วที่ลูบอย่างอ่อนโยนแล้วก็ได้
“ยูมะ…มีอีกเรื่องชวนเอาแต่ใจที่อยากจะขอร้องได้มั้ย”
“เอ๊ะ? อ้่อ ได้อยู่แล้ว”
“…นอนด้วยกันได้มั้ย”
“…ง่า เธอนี่น้า บอกแล้วนะว่าให้มีความระมัดระวังมากกว่านี้หน่อย”
“ไม่ได้เหรอ”
“…แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวพอนะ”
ยูมะกล่าวจบ ขึ้นเตียง โดยมียุยที่กระเถิบไปจนเกิดที่ว่างพอให้นอนด้วยกันได้
ทันทีที่ยูมะนอนบนเตียง ยุยซบหน้าเข้ากับอกยูมะ ก่อนจะกอด
(โอ้ยย จะดีรึเปล่าวะเนี่ยที่ทำตามคำขอเธอ..”
ร่างกายของยุยช่างตัวเล็กน่ากอด นุ่มนิ่มไปหมดแถมยังอุ่นดีด้วย ความรู้สึกว่ายุยกำลังซบอกเขาอยู่เล่นเอาใจเต้น
ยูมะลูบหัวยุยอย่างอ่อนโยน ทางยุยก็ตอบสนองด้วยการซูกเข้ากับอกเขาแน่นกว่าเก่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกได้ว่า สุขใจจนล้นเลย
ก่อนหน้านี้ที่เคยมาค้างบ้านยุยก็ได้นอนกอดเธอแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าสาเหตุมันเกิดจากเธอกลัวฟ้าผ่า
แต่ว่าตอนนี้สาเหตุมันคนละอย่างกัน เล่นเอารู้สึกเหมือนจะละลายเพราะความสุขเลย
แน่นนอว่าในฐานะที่ยูมะเป็นผู้ชาย ก้มีความรู้สึก18+บ้างแหละ แต่ความรู้สึกที่มีมากกว่านัี้นคือความสุขจนใจเต้นตึกตัก เป็นความอุ่นใจและสบายใจที่ได้กอดเธอจนเกิดความคิดว่าไม่อยากห่างออกจากเธออีกเลย
“กอดแบบนี้โอเคแล้วใช่มั้ย”
“อืม”
“วันนี้ดูเป็นเด็กขี้อ้อนมากกว่าปกตินะครับ”
“ยูมะเป็นคนบอกเองว่าขออะไรก็ได้นี่นา”
“ม่า เฉพาะวันนี้นะ”
“อืม”
กล่าวจบ ยุยซบหน้าเข้ากับอกยูมะแนบกว่าเก่า
ยุยจะรู้สึกมีความสุขแบบเดียวกับที่ผมกำลังรู้สึกในตอนนี้ว่า กอดเธอแล้วสุขเหลือเกินรึเปล่านะ
ความรู้สึกยูมะในตอนนี้คือความรัก รักเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก ยูมะออกแรงกอดเธอแน่นกว่าเก่า
“อ๊ะ..”
“โอ๊ะ โทษที เจ็บเหรอ”
ยูมะคลายแรงอ้อมกอด ทว่ายุยกลับดึงแขนเสื้อเขา เงยหน้าขึ้นมองจากอ้อมอกยูมะ
“เปล่า ..กอดแน่นกว่านี้อีกสิ”
“……เอ๋”
เจอคำขอนี้เข้าไปเล่นเอายูมะหลุดอุทานออกมา กระนั้นเขาก็ออกแรงกอดยุยแน่นกว่าเก่าตามคำขอเธอ
เวลาค่อยๆผ่านไป จนสักพัก ยูมะได้ยินเสียงลมหายใจนิ่งเป็นจังหวะหลับสนิทของยุย
(ว่าแล้วเชียว ยังไงผมก็ชอบเธอจริงๆ)
ได้กอดเธอแบบนี้แล้ว มันรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่พึ่งพาได้ ทำให้ยูมะดีใจมาก
แต่ว่ามันก็แอบชวนอึดอัดกับสถานการณ์ตอนนี้นิดนึงเพราะว่า ยุยกอดผมแน่นราวกับเป็นหมอนข้าง ขาของเธอก่ายทับขาของผม
ความตั้งใจของยูมะตอนแรกคือพอยุยหลับแล้ว เขาถึงจะกลับบ้าน แต่ว่าถ้ายุยกอดเขาแน่นแบบนี้ เกิดขยับตัวไม่ดี ยุยอาจจะตื่นก็ได้ ซึ่งยูมะไม่อยากจะไปขัดความสุขที่เธอหลับสนิทในตอนนี้
(ได้กลิ่นยุยด้วยแฮะ)
ยูมะได้กลิ่นดอกไม้จากตัวยุย เล่นเอาใจเต้นตึกตัก ร่างกายของยุยทั้งนุ่มและละมุม แค่ได้กอดร่างเล็กๆนี้เรื่อยๆก็รู้สึกว่าความเครียดและเมื่อยล้าในตัวบรรเทาหายไป
ยูมะคิดไปพลาง รู้สึกผ่อนคลาย..แล้วเขาก็เผลอหลับไป
*****
แชะ
เสียงอะไรหว่า เหมือนเสียงกล้องถ่ายรูปมือถือเลย…
ยูมะสะลึมสะลือตื่นเพราะเสียงนี้
“อืมม…หือ?”
“อ๊ะ ยูมะคุง ตื่นแล้วเหรอ? ขอโทษนะ พอดีว่าทั้งสองคนหน้าตอนนอนหลับน่ารักมากเลยเลยเผลอไปน่ะ”
“….ห๊ะ?์”
ภาพที่ยูมะเห็นในตอนนี้คือแม่ของยุยกำลังยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปยูมะกับยุยตอนกำลังนอน
ยูมะสตันพักนึงก่อนจะเริ่มเข้าใจสถานการณ์
เชี่ยละไง กุนอนกอดยุยแล้วเผลอหลับไป จากนั้นแม่ยุยก็เข้ามาเห็นภาพที่เกิดขึ้นแล้วเธอก็ถ่ายรูปสินะ
จบ 22-3
MANGA DISCUSSION