**สรุปรวดรัดนะครับ จะได้ไปถึงตอนไคลแม็กไวๆ
ยูมะพายุยกลับมาส่งบ้าน ยุยกลับมาก็มานั่งทบทวนว่าพูดไปว่าเป็นเพื่อน แต่สุดท้ายถึงรู้สึกเจ็บเองแบบนี้
สักพักหนึ่ง อาสึกะแชทมาคุยกับยุย ถามว่า พรุ่งนี้ว่าง อยากไปซื้อเสื้อ เพราะว่าจะไว้ใส่ไปเดทกับนาโกะ มีร้านไหนแนะนำมั้ย
ยุยเลยถามยุมะว่า พาอาสึกะไปร้านเนเน่ได้มั้ย ยูมะก็แจ้งเนเน่ให้
สรุปว่า วันอาทิตย์มีแค่ยุยกับอาสึกะไปซื้อเสื้อที่ร้านเนเน่ด้วยกันสองคน
พออาสึกะเจอป้ายร้านรีเวิส ออฟ เดอะเวิล ครั้งแรกก็อ้าปากหวอ ใช่ร้านเสื้อจริงเหรอ
ยุยเห็นแล้วนึกถึงตอนเธอมาครัั้งแรกกับยูมะ คงมีปฏิริยาแบบนี้ไม่ต่างกัน
พอเข้าไปในร้าน มีเนเน่ยิ้มแย้มออกมารอต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับยุยจัง ส่วนทางนี้ก็คืออาสึกะจังสินะ ขอบคุณที่คอยดูแลยูมะน้องชายชั้นมาตลอดนะคะ”
“ทางนี้ก็เช่นกันค่ะ ขอบคุณที่น้องชายคุณมีมิตรภาพให้กันโดยตลอด ว้าว ตกใจหมด ไม่นึกว่าสุงิซากิคุงจะมีพี่สาวน่ารักขนาดนี้”
“ขอบคุณนะ เข้าไปในข้างในเถอะ ได้ยินว่าหาชุดไปเดทใช่มั้ยเอ่ย”
“ใช่ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
“ฮะฮะ ร่าเริงแจ่มใสดีจัง ขอถามเพิ่มนะว่า หนุ่มที่ไปเดทเขามีรสนิยมยังไงบ้าง”
“อ๊ะ ขอโทษด้วยค่ะ เรื่องนั้นไม่ค่อยทราบเท่าไร แต่ว่าตัวผุ้ชายค่อนข้างเป็นคนจริงจัง คิดว่าน่าจะไม่ชอบสไตล์ฉูดฉาดเท่าไร”
“โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ตัดตัวเลือกพวกสีฉุดฉาดออกไปก่อน แต่เสื้อที่ใส่ก็ต้องขับความร่าเริงของอาสึกะออกมาให้เห็นด้วย งั้นก็ต้องผสมผสานลูกเล่นเข้าไปนิดหนึ่ง คิดว่าไงบ้างคะ”
“รบกวนด้วยค่ะ เอ้อ แต่ว่าหนูยังเป็นเด็กมอปลาย เรื่องราคาถ้าแพงไปอาจจะไม่ไหว..”
“ไม่ต้องห่วง พี่คำนวณถึงเรื่องพวกนี้ไว้ให้แล้ว รับรองว่าไม่เกินงบเด็กมอปลายจ่ายไหวแน่”
เนเน่พูดจบ หันมาหายุย
“ยุยจังวันนี้จะทำอะไรบ้างเอ่ย จะลองเสื้อเฉยๆพี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ”
“ม..ไม่ดีกว่าค่ะ ว…วันนี้ไม่ได้กะจะมาซื้อเสื้อด้วยค่ะ เพราะว่ายูมะไม่ได้มาด้วยกัน…”
“…….”
“ทั้งสองคนเป็นอะไร ไม่พูดไม่จาเลย”
“เปล่าจ้า แค่คิดว่ายุยจังน่ารักที่สุดเลย”
“เห็นด้วย พี่ก็คิดแบบเดียวกัน”
“?”
*****
หลังจากนั้น อาสึกะกับเนเน่ก็จะเข้าไปเลือกเสื้อด้วยกัน ส่วนยุยจะอยู่ห่างๆไม่ไกล สามารถได้ยินทั้งคู่คุยกันชัดเจน
ระหว่างเลือกเสื้อไปด้วย อาสึกะจะระบายความกังวล
“เฮ้อ ไม่อยากจะพูดออกมาเอง แต่ถ้าหน้าอกหนูอึ๋มกว่านี้มันคงดีกว่า”
“เท่าที่ดูพี่คิดว่าขนาดหน้าอกเธอก็อยู่ในค่าเฉลี่ยนะเด็กมอปลายนะ หุ่นก็ดีด้วย”
“ง่า แต่ว่าเทียบกับพี่สาวแล้วมันคนละเรื่องเลยนะคะ”
อาสึกะหัวเราะหื่นๆจ้องไปที่หน้าอกเนเน่ เอาจริงๆหน้าอกอาสึกะก็ไม่ได้เล็กมาก แต่หากไปเทียบกับเนเน่ต้องบอกว่าอึ๋มคนละเบอร์
อาสึกะมองหน้าอกเนเน่สลับกับของเธอเอง
“…..คุณสุงิซากิคะ”
“เรียกเนเน่ก็ได้ค่ะ”
“ถ้างั้นก็ คุณเนเน่คะ มีเคล็ดลับอะไรที่ช่วยให้หน้าอกใหญ่ขึ้นรึเปล่าคะ”
เนเน่หัวเราะกับคำถามอาสึกะ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณลูกค้าคะ ไม่ทราบว่าแฟนของคุณลูกค้าเขาชอบแบบบึ้มๆเหรอคะ”
“อันนี้หนูก็ไม่มั่นใจ แต่ว่าเด็กผู้ชายโดยธรรมชาติน่าจะชอบคนอกโตมากกว่าคนอกเล็กน่ะค่ะ”
“อืม ถ้าพูดถึงเคล็ดลับเหรอ ก็เรื่องพื้นฐานทั้งนั้น กินอาหารให้ครบห้าหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ไดเอ็ทแบบหักโหม เลือกยกทรงที่เหมาะกับเรา อ้อ แล้วก็คอยนวดหน้าอกเป็นประจำด้วย”
“เอ๋ นวดเหรอคะ มันต้องทำไงบ้างเหรอคะ”
“อธิบายปากเปล่ามันเข้าใจยาก ขอนวดน้องให้เข้าใจด้วยร่างกายเลยได้มั้ย”
“ได้ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ”
“อืม ก่อนอื่นก็เริ่มและใส่แรงประมาณนี้”
“ฮิย้า ต้องนวดแบบนี้เลยเหรอคะ”
“หึหึ ใช่แล้วค่ะ อดทนนิดนึงนะคะ อ่าาา นี่สินะ แรงสะท้อนและความนุ่มแบบนี้ สมเป็นเด็กมอปลายจริงๆ หุหุหุ….”
“เดี๋ยวนะคะคุณเนเน่ ทำไมระหว่างนวดถึงพูดอะไรแปลกๆแบบนั้นคะ ฮิย้าาา”
เนเน่กับอาสึกะคุยกันส่งเสียงดังเพลิดเพลิน ยุยได้ยินทุกคำพูดทั้งคู่ชัดเจน หน้าแดงแป๊ด ไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไง จะห้ามหรือจะอยู่เฉยๆ หันซ้ายหันขวาล่อกแล่ก
สุดท้าย สิ่งที่เธอทำคือ….มองหน้าอกตัวเอง
ถ้าบอกว่าหน้าอกอาสึกะเล็กแล้ว ของเธอนี่หนักกว่าอีก ไม้กระดานเรียกพี่เลย
ยุยนึกถึงตอนที่ยูมะคุยผ่านแชทแล้วยังไม่รู้ตัวจริงเธอว่าเป็นผู้หญิง เขาเคยบอกด้วยว่าชอบผุ้หญิงอกอึ๋ม
ระหว่างที่เธอคิดถึงเรื่องยูมะ อาสึกะกับเนเน่หัวเราะร่าเริง อาสึกะโบกมือหายุย
“ยุยจัง ยุยจัง ยุยจัง เธอก็ควรเข้ามาฟังเคล็ดลับด้วยกันนะ”
“เอ๊ะ..ม..ไม่ดีกว่าค่ะ … ชั้นไม่ได้อยากอึ๋มให้ยูมะดู…”
เนเน่ฟังจบ เธอส่งรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา
“อาเร้ อาสึกะจังยังไม่เอ่ยชื่อยูมะสักคำเลยนะ”
“อ๊ะ….ง่า…..”
“ฮะฮะ โทษทีโทษที แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลก็ได้ พี่รู้อยู่แล้วว่ายุยจังกับยูคุงต่างฝ่ายต่างชอบอีกฝั่งนะ”
“อย่าว่าอย่างงี้เลยค่ะ เพื่อนในห้องทุกคนส่วนใหญ่เค้าก็คิดเหมือนกันค่ะว่าทั้งคู่คบกันอยู่ เอาง่ายๆถ้าบอกเพื่อนในห้องว่าสองคนนี้ไม่ได้คบกัน คนในห้องคงขำเหมือนบอกว่าพระอาทิคย์ขึ้นทิศตะวันตกเลยล่ะค่ะ”
ยุยฟังคำพูดของทั้งคู่จบ ตัวแข็งทื่อ ก่อนจะเอ่ยปากระล่ำระลัก
“ม..ไม่ใช่..นะคะ..ช…ชั้นกับยูมะ…เป็นแค่เพื่อนกัน…ชั้นไม่ได้คิดว่า…ความสัมพันธ์เราอยากข้ามไปมากกว่านั้น”
“ม่าม่า ไม่ต้องเขินหรอกน่า ชั้นเป็นเพื่อนเธอนะ ไม่ต้องกลบเกลื่อนแล้วก็ได้”
“ถูกละจ้า พี่เองก็ช่วยเชียร์อยู่นะ”
“ม..ไม่ม่ได้กลบเกลื่อนจริงๆค่ะ..ชั้นเพิ่งจะบอกยูมะไปว่า ต่อจากนี้อยากให้เราเป็นเพื่อนกันตลอดไปน่ะค่ะ…”
“…..ห๊ะ?”
อาสึกะกับเนเน่เปลี่ยงเสียงอุทานพร้อมกัน สบตากันเองราวกับจะถามว่า ตะกี้ไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย ก่อนจะมองไปที่ยุยอีกครั้ง
ยุยเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดจากการจ้องของทั้งคู่จนอยากจะหนีออกจากที่นี่
แต่ถ้าดูรูปการณ์แล้ว แสดงว่ายูมะยังไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เนเน่ฟังสินะ
“เดี๋ยวนะ เแปบนะ ขออีกที ตะกี้ที่ยุยจังพูดหมายความว่าไงคะ”
“หนูบอกกับยูมะว่า อยากจะคงความสัมพันธ์ไว้แค่เพื่อนตลอดไปค่ะ”
“ไม่ๆๆ ไม่ใช่ละ ก็พวกเธอต่างคนต่างชอบอีกฝั่งกันมากขนาดนั้นเลยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ”
“ก็…ก็มัน..”
“แปบนะ พี่ว่าอย่าเพิ่งยืนคุยตรงนี้ เราเข้าไปคุยหลังร้านดีกว่า”
“เอ๋…แล้วร้านคุณเนเน่ล่ะ?”
“เดี๋ยวพี่ให้เด็กในร้านดูแลไปก่อน เข้ามาข้างในทั้งคู่เลย”
และแล้วทั้งสามคนก็เดินเข้าไปหลังร้าน
***
พอเข้ามาข้างในหลังร้าน ข้างในมีโต๊ะเล็กๆกับเก้าอี้ให้นั่ง ทั้งสามคนนั่งบนเก้าอี้ก่อนเริ่มสนทนา
“ไหนเล่าต่อจากเมื่อกี้ซิ มีเรื่องอะไรกับยูคุงรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ ไม่ได้อยากมีเรื่องอะไรทั้งนั้นเลยค่ะเพราะหนูอยากจะคงความสัมพันธ์เพื่อนกันตลอดไป..”
“ไม่ได้อยากมีเรื่องอะไรทั้งนั้นนี่มันหมายความว่าไงเหรอ ก็เธอชอบสุงิซากิคุงไม่ถูกรึไง”
“เพราะงั้น….ชั้นถึงปฏิเสธเขา ….ถ้าสมมติคบเป็นแฟนกันแล้วจากนั้นต้องเลิกรากันไป ชั้นไม่อยากเผชิญกับเรื่องนี้ในอนาคตน่ะ…”
“…ห๊าาาาาาา?”
อาสึกะตะโกนออกมาอย่างงุนงงจากใจ ในขณะที่เนเน่หรี่ตามองยุย
“เดี๋ยวนะ มันแปลกมาก ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่คบแต่ต่างฝ่ายต่างชอบพอกันทั้งคู่ มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ..”
“อาสึกะจัง สต๊อป พี่เข้าใจความรู้สึกของเธอทุกอย่างเลย แต่เธอช่วยเงียบก่อนแปบนึงนะ”
อาสึกะเองก็อยากจะถามต่อ แต่เมื่อเจอการเบรคจากเนเน่ จึงเก็บคำถามไว้ใจใจ
เนเน่มองดูยุยที่ดูขาดความมั่นใจ เธอถอนลมหายใจเล็กน้อย ปั้นหน้ายิ้มแย้มกล่าว
“พี่คิดว่าพี่เป็นคนที่เข้าใจและรู้สถานการณ์ของทั้งคู่มากที่สุดนะ สิ่งที่พี่เข้าใจตอนนี้คือ ตอนนี้ยุยกลัว เพราะว่าสำหรับยุยจัง ยูคุงคือคนสำคัญที่แท้จริง เป็นคนแรกที่สามารถเรียกว่าเพื่อนได้เต็มปากเต็มคำ เป็นคนที่มีอิทธิพลเปลี่ยนแปลงและช่วยเหลือยุยหลายเรื่อง และเป็นผู้ชายที่ยุยรักมาก เพราะฉะนั้นหากความสัมพันธ์เปลี่ยนไป ยุยจังกลัวว่าอนาคตจะเปลี่ยนไปทางเลวร้าย ทุกอย่างที่พี่พูด ถูกต้องมั้ัย”
“….ถูกค่ะ”
“เอ่อ…ขอโทษนะคะ ยุยจังกับสุงิซากิคุงก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
อาสึกะถามอย่างเกรงใจ เพราะเธอไม่รู้อดีตของยุยมาก่อน
“ยุยจัง ถ้าเธอไม่ว่าอะไร เรื่องนี้ให้พี่อธิบายอาสึกะได้มั้ย”
ยุยลังเลเล็กน้อยก่อนพยักหน้า
หลังจากนั้นเนเน่จึงสรุปเรื่องราวในอดีตให้อาสึกะฟังคร่าวๆว่า ตั้งแต่พบกันในชีวิตจริง ยูมะเป็นคนช่วยยุยเรื่องโรคสื่อสารไม่เก่งกับเรื่องโดนล้อเลียนเรื่องสีผมมาโดยตลอด
“…ชั้นขอโทษนะ ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยเผลอพูดอะไรไปโดยไม่คิดถึงความรู้สึกเธอ”
“อืม ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องใส่ใจนะ”
“ถ้างั้นขอพี่ทวนอีกรอบนะ ยุยจังอยากรักษาความสัมพันธ์ไว้แค่เพื่อนกับยูคุง ยุยจังเลยบอกว่า “ต่อจากนี้อยากให้เราเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ” ถูกต้องใช่มั้ย?”
ยุยพยักหน้ากับคำตอบของเนเน่
เนเน่เองก็รู้สึกถึงบรรยากาศหนักอึ้ง เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะระบายออกมา
“พี่เข้าใจความคิดของยุยจังแล้วล่ะ แต่ว่านะ คิดว่าทำแบบนี้มันดีแล้วเหรอ”
“คือว่า….”
คำพูดของเนเน่แทงใจยุย เธออยากจะแสร้งพูดว่ามันดี แต่ก็พูดไม่ออก
เนเน่จึงกล่าวต่อ
“สิ่งที่พี่จะพูดต่อไปนี้อาจฟังดูโหดร้าย แต่พี่คิดว่า การเลือกรักษาระดับความสัมพันธ์ไว้ที่เพื่อนด้วยการพูดว่า “ต่อจากนี้อยากให้เราเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ” มันเป็นการเดินหมากที่ผิดพลาดนะ”
“เอ๋…”
“พี่ขอถามกลับนะ ยุยจังคิดว่าจะเว้ยระยะห่าง รักษาความสัมพันธ์อย่างนี้ไว้ได้ตลอดไปเหรอ วันนี้พวกเธออาจจะเรียนห้องเดียวกัน แต่วันหน้าตอนเลื่อนชั้นปี พวกเธออาจจะถูกจับแยกคนละห้องก็ได้ หรือตอนเข้ามหาลัย ส่วนใหญ่ก็มีโอกาสที่จะเลือกมหาลัยคนละที่ หรือตอนทำงาน ก็อาจจะถูกโยกย้ายไปประจำสาขาต่างจังหวัดต้องย้ายที่อยู่ไปพักอาศัยแถวนั้นแทน ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคต ยุยจังมั่นใจมั้ยว่า จะรักษาความสัมพันธ์กับระยะห่างไว้ที่เพื่อนได้ตลอด?”
“เรื่องนั้นมัน…”
“ยุยจังน่าจะเคยได้ยินว่า ความห่างไกลทำให้ความสัมพันธ์จืดจางลง พี่อาจจะกล่าวแรงไป แต่ความสัมพันธ์เพื่อนอย่างที่ยุยจังว่าไว้มีโอกาสที่จะจบลงเพราะระยะทางนะ”
“ต..แต่ว่า..หนูกับยูมะยังเจอกันในเกมและพัฒนาความสัมพันธ์ได้แม้จะห่างกันนะคะ…”
“…แล้วถ้าต่อจากนั้น ช่วงเวลาที่ยูคุงอยู่ห่างจากยุยจัง ยูคุงไปพบรักสาวคนใหม่ขึ้นมา เรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถูกมั้ย”
.”……..อึ่ก”
คำพูดเนเน่เป็นสิ่งที่ยุยไม่เคยแม้แต่จะฝันถึงสักนิด ทันที่ฟังจบ ร่างกายยุยถึงกับชาไปทั้งตัว
เนเน่เป็นคนที่รู้ถึงสถานการณ์และนิสัยของทั้งสองคนดี เธอกล่าวต่อ
“เห็นมั้ยว่าเรื่องแบบนี้มีโอกาสเป็นไปได้ ชีวิตมอปลายเทอมแรกมันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ยูคุงเป็นคนที่มีข้อดีมากมาย และหากมีสาวน่ารักสักคนมองเห็นข้อดีตรงนี้และชิงสารภาพรักกับเขา คิดว่ายูคุงจะรับรักเธอคนนั้นรึเปล่าล่ะ”
เนเน่กล่าวจบ เธอประสานตากับยุย จ้องเขม็ง บ่งบอกความจริงจัง
“…และถ้าสมมติว่ายูคุงตอบรับคำสารภาพเป็นแฟนกับเด็กคนนั้น คิดว่าความสัมพันธ์ที่ยุยต้องการจะยังคงเป็นไปได้มั้ย ทุกการกระทำของยูคง ไม่ว่าจะเป็นไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน ทำกิจกรรมด้วยกัน เดินจับมือกัน ทุกๆสิ่งก็จะถูกผู้หญิงคนนั้นแย่งไปหมด ถึงตอนนั้นยุยจังจะยิ้มออกมั้ย?”
“ม…ไม่…นะ”
ยุยลองจินตนาการภาพตาม
ถ้ายูมะไปสนิทสนมกับหญิงอื่น แล้วเธอจะกลายเป็นตัวอะไรในสายตาเขา
เธอจะไม่มีสิทธิ์จับมือเขา เธอจะหมดโอกาสถูกเขาลูบหัว และสักวันหนึ่งสายตาของยูมะที่มองเธอจะเปลี่ยนไปเป็นมองเหมือนเธอเป็นมารผจญ กอ ขอ คอ ในชีวิตของเา
“ไม่เอานะ ชั้นกลัว…ถ้าเป็นถึงขั้นนั้น..ชั้นไม่ต้องการ..”
แค่จินตนาการ หัวใจเธอก็เจ็บแปล๊บไปทั้งกายจนน้ำตาแทบไหล
อาสึกะเห็นสภาพยุยที่ทุกข์ใจ เธอจังกล่าว
“จำเรื่องที่ชั้นเล่าประสบการณ์รักให้ฟังได้มั้ย ตอนมัธยมต้นชั้นบอกเธอว่าชั้นโคตรบ้าเลย เรียนเพราะอยากตามคนรัก แต่นั่นเป็นเพราะชั้นก็กลัวเหมือนกัน ถ้าขึ้นมอปลายแล้วจะไม่ได้พับกับนาโกะคุงอีก ความสัมพันธ์ของเราคงจบลงแค่มอต้น เพราะฉะนั้นชั้นจึงพยายามอ่านหนังสือสอบอย่างเต็มที่ และผลของความพยายาม ตอนนี้ชั้นกับนาโกะคุงถึงได้อยู่ด้วยกันทุกวันไง ถ้ายุยจังอยากจะอยู่ด้วยกันกับสุงิซากิคุงตลอดไปล่ะก็ เธอก็ต้องพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้นะ”
“…เปลี่ยนแปลงเหรอ”
ยุยถามทั้งสีหน้าพร้อมจะน้ำตาแตกได้ทุกเวลา
อาสึกะส่งยิ้มให้กล่าวต่อ
“ใช่แล้ว ถ้าเธออยากอยู่กับสุงิซากิคุง เธอต้องพยายามสู้เพื่อเอาชนะมัน ชั้นเองก็เหมือนกัน เพราะชั้นก็ตั้งใจว่าจะเป็นฝ่ายรุกนาโกะคุงตลอดสามปีนี้เต็มทุกท่วงท่าด้วย”
เนเน่ฟังอาสึกะพูดจบ เธอหัวเราะกล่าวเสริม
“เธอพูดถูกแล้ว ถ้าเป็นฝ่ายอยู่เฉยๆไม่อยากเปลี่ยนแปลง มันก็ไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์ได้ ถ้ายุยจังจะหนีในสิ่งที่เกลียดหรือไม่ชอบ อันนี้เข้าใจได้ แต่การหนีในสิ่งที่ตัวเองรัก พี่ว่ามันไม่ถูกต้องนะ หากหนีต่อไปเรื่อยๆ สักวันคนที่ต้องเป็นฝ่ายเสียใจภายหลังคือยุยจังนะ”
ยุยหลับตานิ่ง ฟังคำพูดของทั้งคู่ให้ซึมซับในใจ
คำพุดของพวกเธอเหมือนไฟส่องทางให้ยุย
แม้ว่าเธอจะยังคงขี้ขลาด ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่ว่าความรู้สึกในใจของเธอที่ชัดแจ้งแน่นอนคือ
(ชั้นรักยูมะ)
รักมากที่สุด ให้ความสำคัญที่สุด ไม่อยากจะยกเขาให้ผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น อยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไป อยากเป็นคนสำคัญอันดับหนึ่งในสายตายูมะ เพื่อให้เรื่องพวกนี้เป็นไปได้ ไม่ว่ายังไงชั้นก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้
ยุยก้มหน้านิ่งยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหล
เนเน่มองยุย ส่งรอยยิ้มด้วยความปรารถนาดี
“พี่ขอโทษนะที่พูดจาทำร้ายจิตใจเธอ”
“…ไม่เป็นไรค่ะ แล้วก็ขอบคุณนะคะ”
“จากนี้ยุยจังคิดจะทำไงต่อ “
ยุยหน้าแดงกับคำถามของอาสึกะ ถึงแม้เธอจะอาย แต่ก็พูดออกมากว่า
“ชั้นชอบยูมะ ชั้นอยากจะอยู่ด้วยกันกับเขาตลอดไป”
เธอพูดจบ สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวต่อ
“ชั้นอยากจะเป็น..คนรักของยูมะคุง”
ในที่สุดเธอก็สามารถพูดคำนี้ออกมาได้จากใจ
****
จบ CH15-1
จุใจกับการแปลสองชั่วโมงนะครับ ทีเดียวปลดดราม่าในใจเลย คิดว่าคนอ่านน่าจะชอบนะครับ (แต่ยอดคนอ่านนี่มันน้อยจนน่ใจหายจริงๆ เรื่องนี้ออกจะสนุกมากแท้ๆ TT
ตอนหนัา ยุยเริ่มเป็นฝ่ายรุกบ้างแล้ว และเธอจะทำยังไงบ้าง ต้องคอยติดตามนะครับ
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION