“เอ่อ…คือว่า…เขาให้ความสำคัญ…กับชั้นมากๆ…งานอดิเรกของเราเข้ากันได้ แล้วก็ …แล้วก็..เวลาที่อยู่ด้วยกันกับเขา…ชั้นรู้สึกใจเต้นเพราะมีความสุข แล้วก็….งือ.. อายจนเล่าต่อไม่ไหวแล้ว “
“ว้าย ไม่ไหวแล้ว ทำไมเธอน่ารักอย่างนี้”
อาสึกะพูดจบ กอดยุยแน่น สัมผัสที่นุ่มนวลแตกต่างจากยูมะ อ้อมกอดที่เกิดจากเพศเดียวกันก็ทำให้ยุยใจเต้นได้เช่นกัน
ทางด้านอาสึกะดูจะพึงพอใจในตัวยุยมาก เธอเอามือลูบหัวยุยราวกับลูบหัวลูกสัตว์น่ารัก
“ยุยจังน่ารักที่สุดเลย เย้ ดีใจจังที่ได้เป็นเพื่อนกับเธอ”
“เอ๋..ตะกี้เรียกชื่อชั้นเหรอ”
“เอ๊ะ? อ๊ะ ขอโทษด้วยนะพอดีว่าเรียกยุยจังมันสะดวกปากมากกว่าเรียกคามิชิโรน่ะ ไม่ชอบสินะ”
“ป..เปล่าจริงๆเรียกยุยแล้วชั้นดีใจมากกว่าเรียกนามสกุลอีก”
“จริงเหรอ? งั้นต่อไปนี้ชั้นขอเรียกเธอว่ายุยนะ ยุยจังเองก็เรียกชั้นว่าเมงุจังได้นะ”
“เอ๊ะ..อืมมมม”
“รังเกียจเหรอ?”
“ไม่ได้รังเกียจ แค่มัน..รู้สึกอายน่ะ”
“เอ๋? ทีสุงิซากิคุง เธอยังเรียกเขาว่ายูมะได้เลย อย่าคิดมาก แค่ลองเรียกดูสักครั้งพอ เดี๋ยวก็ชินไปเเอง แล้วก็ชั้นเองก็อยากให้เธอเรียกชั้นว่า เมงุจังด้วย”
“เอ่อ…เมงุจัง”
“ว่าไงยุยจัง เอ จะว่าไปตอนลูบหัวยุยจัง เส้นผมเธอนุ่มสลวยมากเลยนะ”
อาสึกะกอดยุยพลางลูบหัวเธออย่างสนุกนานไปด้วย
ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าโรคสื่อสารไม่เก่งของยุยทุเลาไปมาก เพราะเธอสามารถคุยเรื่องราวคนที่่ชอบต่อหน้าคนหมู่มากได้ แถมมีเพื่อนอย่างอาสึกะที่เป็นคนร่าเริงด้วย
“…เน่เน่ คุณคามิชิโร่ ชั้นของสัมผัสผมเธอหน่อยได้มั้ย”
นักเรียนกหญิงคนอื่นฟังอาสึกะพูดเลยเกิดความสนใจบ้าง
“อ..อืม”
ยุยค้อมหัวลงอย่างตื่นเต้น
“ไหนลองแตะซิ โห อย่่างลื่น นุ่มสลวยมากๆ ใช้แชมพูตัวหรูยี่ห้อไหนนิ”
“ขอชั้นแตะบ้างซิ …. เออ โคตรนุ่มอะแก มีเคล็ดลับอะไรพิเศษรึเปล่า”
“เอ่อ คือว่า..มีพี่ร้านเสริมสวยที่รู้จักแนะนำให้ลองใช้แชมพูมาน่ะ”
“จริงเหรอ บอกยี่ห้อมาหน่อยได้มั้ย”
“อ..อืม เดี๋ยวชั้นขอเปิดเน็ตส่งรูปให้เธอดูแปบหนึ่งนะ”
***
(ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะ)
ยูมะสังเกตการณ์กลุ่มยุยอยู่ห่างๆ ได้เห็นเหตุการณ์อาสึกะกอดยุย และเด็กผู้หญิงคนอื่นลองลูบผมยุย ถึงยุยจะยังมีอาการตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้เกร็งจนเกินงามก็เบาใจเยอะ
“สุงิซากิสนใจเด็กคนนั้นเหรอ”
คนที่ถามยูมะคือ เด็กหนุ่มใส่แว่น ท่าทางคงแก่เรียน นาโกะ เทรุฮิโกะ
เขาเป็นเพื่อนสมัยมอต้นกับยูมะ และเป็นแฟนกับอาสึกะ
“เด็กผมขาวคนนั้นใช่คุณคามิชิโร่สินะ เห็นนายอยู่ด้วยกันกับครอบครัวเธอตั้งแต่เมื่อวานแล้วนิ”
“อืม จำได้มั้ยที่ชั้นเล่าให้ฟังนายว่าได้รู้จักเพื่อนเก่งๆที่ชั้นเล่นด้วยกันในเกมแกรนด์เกดที่ชื่อชวาร์ช ยัยนั่นล่ะคือชวาร์ช”
“อ้อ บังเอิญสุดๆเลยนะ”
“ตอนรู้ว่าเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ชั้นตกใจมาก แล้วก็ช่วงปิดเทอมชั้นก็ไปเล่นด้วยกันบ่อย ก็เลยซี้กันดี แต่ว่ายัยนั่นร่างกายอ่อนแอแต่เด็กแถมยังไม่มาโรงเรียนซะนาน เลยกังวลนิดหน่อย”
“อืม..แล้วนายกับเธอมีความสัมพันธ์เกินเพื่อนรึยังล่ะ”
นาโกะถามตรงประเด็นด้วยสีหน้านิ่งเฉย เจ้าหมอนี่เป็นคนประเภทนี้แหละ ไม่เสียเวลาคิดเยอะ ถามอะไรตรงไปตรงมาเข้าประเด็นตลอด
“ป..เปล่า ชั้นกับยัยนั่นไม่ได้มีความสัมพันธ์ถึงขั้นนั้น จะว่าไปนายกับอาสึกะคบกันแล้วนิ ชีวิตช่วงนี้เป็นไงบ้างล่ะ”
“ก็ไม่ต่างจากที่แล้วมา”
“ไม่ต่าง? ตั้งแต่วันที่เจอกันจนคบเป็นแฟนเนี่ยนะ ไม่มีอะไรเพิ่มจากเดิมสักนิดรึ”
“ไม่ต่างจากที่แล้วมา”
“…ไม่ต่างงั้นเหรอ”
หากเทียบกับยูมะที่พอเจอเหตุการณ์ความรักหรืออะไรที่ไม่คาดคิด จะเป็นคนที่แสดงออกทางสีหน้าท่าทางชัดเจน กลับกัน นาโกะดูจะเป็นคนเยือกเย็น และนิ่งในทุกสถานถารณ์ เป็นขั้วตรงข้ามกับยูมะเลย
เอาเหอะ ถ้าดูจากความนิ่งของหมอนี่ กับความไฮเปอร์ของอาสึกะ เอาจริงๆก็นึกภาพสองคนนี้ตอนโรแมนติกไม่ออกจริงๆแหละ
พื้นฐานนิสัยของนาโกะเป็นคนที่ดูแล้วไม่ใช่คนสนใจเรื่องความรักราวกับนักบวช แถมยังเป็นคนที่นิ่งขั้วตรงข้ามด้วย
ฉะนั้น จุดร่วมที่ทำให้ทั้งสองคนนี้สนิทกันคือ..
“เออ นาโกะ ช่วงนี้ยังเล่นเกมแกรนด์เกทอยู่มั้ย เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นเลย”
“ช่วงนี้ไม่มีอีเวนท์น่าเล่นเท่าไร เลยเข้าไปทำเควสประจำวันแล้วก็ออกเลย แต่ว่าอีเวนท์หน้าน่าสนใจมาก ถ้าเริ่มเมื่อไรถึงตอนนั้นก็ตั้งใจจะปั่นเควสท์เพิ่มแหละ”
“อ้อ อีเวนท์ โคลาโบกับอนิเมะ แบล็คฮอก สินะ นายชอบเหรอ”
“อืม ทั้งงานภาพและคนแต่ง ชั้นชอบหมด ตอนนี้ให้เป็นเมะในดวงใจเลย”
“โห นี่นายลงทุนค้นประวัติคนแต่งเลยเหรอ ..อนิเมะเรื่องนี้มันเป็นไงบ้างล่ะ”
หลังจากนั้นนาโกะอธิบายสรรพคุณอบ่างละเอียดยิบ ตั้งแต่งานภาพ งานเขียน คุณภาพอนิเมะ คนแต่ง และพร้อมแนะนำว่าจะดูยังไงให้สนุกอย่างละเอียดยิบด้วยสีหน้าราบเรียบ
นี่แหละคือสาเหตุที่นาโกะกับยูมะซี้กัน เขาเล่นเกมส์แกรนเกท ชอบอนิเมะ และมีมุมมองที่เฉียบคมในการประเมินสถานการณ์หรือเรื่องราวที่แตกต่างจากคนทั่วไป เวลาคุยกับนาโกะถึงสนุกมาก แถมนาโกะยังเป็นคนคอยช่วยติวบทเรียนเวลายูมะขอร้องด้วย เขาไม่ปฏิเสธคำขอร้องยูมะ และพยายามช่วยยูมะ สอนยูมะอย่างสุภาพตลอด
ถ้าดูมุมมองภายนอก นาโกะเป็นหนุ่มเนิร์ด ไม่มีไรน่าสนใจ แต่ถ้าได้สนิทกับเขาจะรู้ว่าเป็นคนดี และน่าสนใจมาก ด้วยเหตุนี้ยูมะจึงซี้กับนาโกะ
และด้วยเหตุนี้เช่นกัน ยูมะถึงอยากให้นาโกะเป็นเพื่อนกับยุย
หากเป็นนาโกะที่สมองเฉียบแหลม เขาคงไม่พูดถึงเรื่องสีผมยุย แถมเล่นเกมแกรนด์ฌกทบวกกับชอบอนิเมะด้วย ซึ่งยุยน่าจะคุยกับนาโกะได้เข้ากันดี
แต่จะไปขอร้องนาโกะตรงๆว่า นายช่วยเป็นเพื่อนกับยุยได้มั้ย มันก็ดูทะแม่งๆ ทื่อด้านไร้ลูกเล่นเกินไป
“เออ ว่าไปมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย ชั้นอยากสร้างกรุ๊ปไลน์คุยเรื่องเกมกับอนิเมะล้วนๆ นายสนใจเข้าร่วมกลุ่มมั้ย ม่า.. แล้วก็เรื่องสมาชิกกลุ่ม จะมีแค่3คนคือนาย ชั้น แล้วก็..คุณคามิชิโร่น่ะ”
ยูมะคิดว่าหากคุยกันตรงๆ อาจจะลำบากใจ สู้เรื่มจากคุยผ่านแชทก่อนน่าจะดีกว่า
ส่วนคำตอบนาโกะก็คือ หมอนั่นพยักหน้าเล็กน้อย ตอบอืม
“งั้นขอถามเผื่อไว้ก่อน คุณคามิชิโร่น่ะ เป็นคนยังไง และตอนคุยสามารถคุยถึงเรื่องอะไรได้บ้าง ปกติเด็กผู้หญิงจะมีเรื่องที่ไม่อยากให้ถามอยู่นะ”
“อืม ก็คุยเรื่องเกมเรื่องเมะแบบไม่สปอยเกินก็ไม่มีปัญหานะ เจ้าตัวเองชอบบอกว่า “ชั้นค้นคว้าเรื่องพวกนี้จากในเน็ตมาก่อนแล้ว”…. อืม แล้วถ้าว่าตามตรง ชั้นก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าตัวเป็นผู้หญิงตอนออกมาเจอกันในชีวิตจริงนี่แหละ”
“เจ้าตัวคงผ่านอะไรมาเยอะสินะ”
นาโกะกล่าวด้วยใบหน้านิ่ง
“เพราะงี้แหละเลยอยากให้นายมาร่วมกลุ่มแชทนี่แหละ”
“อืม งั้นส่งคำเชิญมาเลย”
ยูมะหยิบมือถือส่งคำเชิญให้นาโกะเข้าร่วมกลุ่ม
แน่นอนว่า เป็นกลุ่มที่มียุยอยู่แต่แรกแล้ว เสียงเตือนจึงดังในโทรศัพท์ยุยด้วยเช่นกัน ยุยหยิบโทรศัพท์มาดู ส่วนอาสึกะที่อยู่ข้างๆเลยเห็นว่าเนื้อหาโทรศัพท์มีอะไรบ้าง
“เอ๋ ทำไมสมาชิกลุ่มถึงมีนาโกะด้วย”
อาสึกะกล่าวเสียงดังผิดจากตอนสนทนาปกติ นี่เป็นครั้งแรกที่่ยุยได้ยินเธอกล่าวดังขนาดนี้
“แหม นาโกะเป็นแฟนชั้นนะ เจ้าตัวอยู่ไหนน้า ฮาโล นาโกะคุง♥”
อาสึกะส่งยิ้มหวานหันซ้ายขวาไปทั่ว โบกมือหยอยๆหานาโกะ
ยูมะเห็นสภาพอาสึกะเลยหัวเราะแห้งๆ
“เธอทำอะไรของเขาน่ะ”
“เธอคิดว่ากำลังแสดงความรักในแบบฉบับของตัวเองน่ะ”
หลังจากนั้นสรุปว่า ที่อาจารย์บอกว่า ให้แยกกลุ่ม ตอนนี้ไม่มีใครสนแล้ว เพราะอาจารย์เห็นอาสึกะตะโกนแถมส่ายมือเดินหายังไม่ว่าอะไร คราวนี้ต่างคนต่างจับกลุ่มหาเพื่อนสนิทแต่ละคน
“นาโกะคุง”
อาสึกะหานาโกะเจอปุ๊บ เธอส่งเสียงดีใจ เดินมากอดเขาจากข้างหลัง หลังหัวนาโกะสัมผัสกับหน้าอกของอาสึกะ ยูมะเห็นสภาพนาโกะกับอาสึกะแล้วรู้สึกเขิน ส่วนเจ้าตัวนาโกะที่หลังหัวสัมผัสกับหน้าอกอาสึกะกลับมีสีหน้านิ่งเฉย เงยหน้ามองบนกล่าว
“เคยบอกไปแล้วนี่ครับว่าในโรงเรียนอย่าทำแบบนี้”
“โทษทีโทษที คือว่านะ ตะกี้ชั้นเพิ่งคุยกับเพื่อนใหม่ชื่อยุยจัง แล้วเห็นแชทเด้งชื่อนาโกะเลยอยากเจอเธอน่ะ
ยูมะลองหันไปหายุยดู พบว่า ยุยอยู่ข้างหน้ากลุ่ม ผู้หญิงคนอื่นกำลังส่งสายตาเป็นประกายอยู่ข้างหลังยุย
(อะไรของพวกนั้น…)
หลังจากนั้น บางคนตบหลังยุยเบาๆราวกับให้กำลังใจเธอ สักพักหนึ่ง ยุยหน้าแดง เดินก้มหน้ามาหายูมะ
“…ยุย”
“..งือ….งือ”
ยุยททำท่าเหมือนพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่หน้าแดงอายจัด เลยพูดไม่ออก
เอาเหอะ เรื่องตื่นเต้นจนพูดไม่ออก เป็นสถานการณ์ที่่ยูมะเจอบ่อย เลยรับมือได้ง่ายๆ
“คุยกันทางแชทมั้ย”
ยุยได้ยินปุ๊บ พยักหน้าตอบทันที
ยุยนั่งข้างๆยูมะ หยิบโทรศัพท์มาแชท
ยูมะเริ่มแชทถามก่อน
“ดูๆแล้วเห็นคุยกับพวกผู้หญิงได้ดีแล้วนี่นา”
“อืม ทั้งหมดต้องขอบคุณอาสึกะ คุณอาสึกะเป็นคนดีจริงๆนะ”
“ม่า ก็นะ ต้องยอมรับยัยนั่นเรื่องสกิลมนุษยสัมพันธ์อะนะ จะว่าไปถ้าอาสึกะเข้าร่วมแชทเธอจะว่าอะไรมั้ย”
ระหว่างยูมะพิมพ์แชท ปรากฏว่าอาสึกะแอบมาอยู่ข้างหลังยูมะตอนไหนก็ไม่รู้ อ่านแชทโทรศัพท์เรียบร้อย
“เห? ชมกันขนาดนี้เลยเหรอ เขินจัง “
อาสึกะกล่าวเสียงสูง แทรกหน้ามาข้างๆยูมะ
ยูมะรู้สึกเขินที่มีสาวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ หันไปดูนาโกะ ปรากฏว่าหมอนั่นไม่มีปฏิกริยาใดๆ
“อย่าแอบดูสมาร์ทโฟนคนอื่นสิฟะ แต่ก็นะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอมาก อาสึกะ”
“ไม่เป็นไร ชั้นได้เพื่อนเพิ่มก็แฮปปี้แล้ว เนอะ ยุยจัง”
“อ…อืม”
“โม่ ยังอืมอีกเหรอ บอกละให้เรียก เมงุจัง ยังอายที่เรียกชื่ออยู่อีกรึ”
“อืม..แต่ว่า..ชั้นจะพยายาม..เม…เมงุจัง”
“กรี๊ดดดด น่ารักจังเลย”
คราวนี้อาสึกะผละจากยูมะ หันไปกอดยุยแทน
…เห็นสาวๆกอดกันด้วยมิตรภาพ รู้สึกถึงยูริเบ่งบาน ยูมะเลยเกิดอาการใจเต้นกับภาพที่เห็น แต่พอหันไปดูนาโกะ ไอ้หมอนั่นยังทำหน้าตายไม่รู้สึกรู้สาเหมือนเดิม
หลังจากอาสึกะเริ่มใจเย็น ยูมะถือโอกาสแนะนำนาโกะให้ยุยรู้จัก
“ยุย หมอนี่เป็นเพื่อนชั้นตั้งแต่มอต้น ชื่อนาโกะ เห็นหน้านิ่งๆแบบนี้แต่เนื้อแท้ไม่ใช่คนเลว อยากให้เธอสนิทกับเขานะ”
“นาโกะ เทรุอากิครับ ฝากตัวด้วยนะ”
เสียงนาโกะกล่าวเบาๆ แต่แฝงความจริงจัง สำหรับยุยที่ไม่เคยได้คบกับเพื่อนมาก่อน จึงตื่นเต้นกังวลเป็นพิเศษ
“เอ่อ..คือว่า..ฝากตัวด้วยเช่นกันค่ะ”
“พวกเราเป็นเด็กมอปลายเหมือนกัน ไม่ต้องสุภาพก็ได้ครับ”
“ค…ค่ะ”
สำหรับยุยที่ขาดเพื่อน การเจอคนบุคลิกแบบนาโกะอาจจะยังไม่เคยชินและทำตัวไม่ถูก
แต่แน่นอนว่า ยูมะมีแผนอยู่แล้ว
“ยุย แชทกรุ๊ปน่ะ นาโกะเข้าร่วมแล้ว เธอลองคุยผ่านแชทได้นะ”
“เอ๋..อืม”
ยุยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมพิมพ์แชท ทางด้านนาโกะก็รู้งาน หยิบโทรศัพท์มารอทันที สมแล้วที่เป็นหมอนี่ อ่านบรรยากาศได้เฉียบจริงๆโดยไม่ต้องพูดสักคำ
ยุยพิมพ์แชทส่งอีกครั้งว่า ฝากตัวด้วยนะคะ
แม้ว่าจะเป็นแชท แต่ก็ยังสุภาพอยู่ดี แสดงว่ายังตื่นเต้น ส่วนอาสึกะนั่งอยู่ข้างๆมองยุยแชทไม่พูดอะไร
“ฝากตัวด้วยนะ”
“นาโกะน่ะคออนิเมะเลย ฉะนั้นเรื่องอะไรก็ถามได้หมด ยุยลองคุยดูได้นะ”
ยูมพิมพ์แชทจบ ส่งสายตาหายุยเป็นนัยว่า ลองพิมพ์ถามเลย ยุยยังกล้าๆกลัวๆแต่ก็กดแชทพิมพ์ถาม
“นาโกะคุงชอบอนิเมะเรื่องไหนเหรอ”
“นั่นสินะ”
นาโกะยกนิ้วแตะปาก ท่าทางคงแก่เรียนเหมือนคนกำลังคิดตอบโจทย์ข้อสอบโอลิมปิกที่มันยากมาก บอกเลยจากสายตาภายนอกว่า เจ้าตัวจริงจังสุดๆ
สักพัก นาโกะพิมพ์แชท
“เรื่องที่ผมชอบตอนนี้ มี หลายเรื่องนะเช่น ซนปาโร วันเดอร์เฮฟเว่น ริคดัน และที่ติดหนักตอนนี้คือเรื่อง โลลิแคน กับ มะนิโมะนิโมะฟุโมะฟุ น่ะ “
ยุยอ่านข้อความจบ อุทานห๊า ในใจ เพราะนึกไม่ถึงว่านาโกะจะชอบโลลิแคน เพราะเรื่องนี้เป็นอนิเมะชีวิตประจำวันของพวกตัวละครโลลิ
ส่วนอนิเมะมะนิโมะนิโมะฟุโมะฟุ เป็นอนิเมะภาพวาดใสๆแก๊งเด็กน้อยตัวละครโลลิหูสัตว์
ดูท่าทางเด็กเนิร์ดนักศึกษาคงแก่เรียน แต่ดันมีชอบอนิเมะแนวใสๆสายโลลิซะงั้น ช่างขัดกับภาพลักษณ์สุดๆจนอดไม่ได้ที่ยุยจะอุทานออกมา
ยุยแชทถามต่อ
“ดูโลลิแคนกับมะนิโมะอยู่เหรอคะ”
“อืม ตอนนี้ตัวละครมะนิโมะที่ชอบสุดคือสาวน้อยจิ้งจอก ผมไปดูข้อมูลอาจารย์คนวาด แกบอกว่าตั้งใจออกแบบตัวนี้ให้ดูมีอารมณ์แบบพี่สาว แถมอาจารย์วาดหางตัวละครเรื่องนี้สวยและมีเอกลักษณ์มาก แค่ผมดูผ่านหน้าจอยังมีอารมณ์อยากเอาหน้าไปซบกับหางนุ่มๆของพวกตัวละคร ต้องบอกเลยว่างานอนิเมะเรื่องนี้มันขั้นเทพจริงๆ”
ยุยอ่านแชทจบ มองหน้านาโกะกับแชทสลับกัน คนแชทเรื่องอนิเมะคือหนุ่มแว่นท่าทางจริงจังคนนี้จริงเหรอ พอหันไปหายูมะ เขาพยักหน้าตอบเป็นภาษากายว่า ใช่แล้วเธอดูไม่ผิดหรอก
*****
จบ ch12-2
ตอนนี้อืดนิดหนึ่ง ถ้าใครลุ้นบทหวานคู่พระนางคงจะอึดอัด แต่ถ้ามองแบบปูเนื้อเรื่อง มันจะทำให้เห็นชัดว่า ทำไมพระเอกนางเอกถึงสนิทสนมกับสองคนนี้ แล้วเดี๋ยวตอนหลังเพื่อนสนิทจะเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ปลดล็อคความรู้สึกยุยด้วย ทนอ่านกันไปก่อนนะ อย่าเพิ่งดรอปน้องยุยน้า ผมไม่โกหกหลอกให้มาอ่านนิยายที่ไม่สนุกหรอก 55
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION