สรุปทั้งสี่คนแวะร้านข้าวใกล้ๆโรงเรียน ตอนนี้ทั้งสี่คนนั่งบนเก้าอี้ มีโต๊ะคั่นกลาง แบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นยุยกับยูมะ ส่วนอีกฝั่งเป็นแม่ยุยกับเนเน่
คุณแม่ยุยกระแอมหนึ่งครั้ง วกเข้าประเด็นทันที
“อธิบายเรื่องวันนั้นให้ฟังหน่อยซิ แม่สัญญาว่าไม่โกรธ เพราะฉะนั้นขอให้เล่าความจริงทั้งหมดมา”
“ให้ผมอธิบายกี่หนก็บอกเหมือนเดิมครับ ผมแค่ค้างเฉยๆ เพราะเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้มีทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้นเลยครับ”
“อืม ใช่ค่ะ ไม่มีอะไรที่คุณแม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลยค่ะ”
“แล้วเรื่องเส้นผมยูมะคุงที่ตกบนเตียงยุย จะอธิบายเรื่องนี้ว่าไง”
“เรื่องนั้น…คือว่า….พวกเรา..นอนด้วยกันบนเตียงเดียวกันครับ”
“บนเตียงเดียวกัน?”
“…ครับ”
“ลูกเป็นนักเรียนหญิง ขึ้นมอปลายแล้วนะ การนอนบนเตียงเดียวกับผู้ชาย หนูจะให้แม่คิดยังไงบ้างล่ะ”
“..ขอโทษค่ะ”
“ผมเองที่เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ปฏิเสธคำขอร้องยุยเองครับ แล้วก็นอกจากนี้ …อืม อย่างเช่น จูบแบบที่คนรักทั่วไปเขาทำกัน พวกเราก็ไม่ได้ทำแบบนั้นเลยนะครับ เนอะ ยุย บอกแม่สิว่าเราไม่ได้จูบกันเลย”
“ช..ใช่ค่ะ..เรื่องจูบ พวกเรา…. พวกเรา…”
“หือ ว่าไงคะ”
จู่ๆยุยหน้าแดงเขินหนักมากไม่อธิบายต่อ ถ้าเป็นมังงะ ฉากนี้ต้องเห็นไอน้ำโผล่บนหัวยุยแน่
เธอนึกขึ้นได้ว่า ยูมะไม่รู้เรื่องที่เธอนอนบนเตียงเดียวกับยูมะแล้วฝันว่า เธอถูกเขาจูบ และเป็นคนขอให้เขาจูบซ้ำด้วย ภาพความทรงจำเรื่องนี้แว่บขึ้นมาตอนเธอกำลังจะอธิบายให้แม่เธอฟัง
“หนู…หนูขอตัวไปล้างมือก่อนนะคะ!”
“เอ๊ะ? อ้าวเฮ้ย ยุย?”
ยุยทนความเขินจากภาพความทรงจำไม่ไหว ชิ่งหนีไปซะแล้ว
ยุยเล่นกูละไง ชิบหายสิครับ งานเข้าละจ้า
คนนอกเห็นยุยทิ้งยูมะแบบนี้ ถึงยูมะจะยืนกรานว่าไม่ได้จูบจริงก็เปล่าประโยชน์ บอกเลยว่า (อย่าแก้ตัวว่าไม่ได้จูบ ถึงยูมะอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ ) ภาษากายมันบอกชัดเจน
สายตาของเนเน่กับแม่ยุยทิ่มแทงเขาสุดๆ ถ้าสายตาทั้งคู่เป็นเลเซอร์ บอกได้เลยว่ายูมะตัวขาดแน่นอน
สถานการณ์ที่แก้ตัวก็ไปเปล่าประโยชน์ แถมเจอสายตาทิ่มแทงแบบนี้ สิ่งเดียวที่ยูมะทำได้คือก้มหน้าจิบน้ำในแก้วแก้กลุ้มเท่านั้น
เนเน่เห็นสภาพยูมะ เธอถอนหายใจ ก่อนเอ่ยปากถาม
“เรื่องนั้นไว้ว่าอีกที สรุปว่ายูคุงชอบยุยจังรึเปล่า”
“ห๊ะ เนเน่”
จู่ๆเจอคำถามที่คาดไม่ถึง เล่นเอายูมะเงยหน้าเลิกดูดน้ำ สีหน้าท่าทางเนเน่เข้าโหมดจริงจัง แสดงชัดเจนว่าคำถามที่ถามไป ต้องการคำตอบจริงไม่ล้อเล่น
“ระหว่างยูคุงกับยุยจังเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง อันนั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่ควรตรวจสอบ และเป็นสิ่งที่แม่ยุยอยากจะรู้ก็คือ หากว่าทั้งสองคนไม่ได้คบกันแล้วล่ะก็ จะเชื่อใจฝากฝังยุยจังไว้กับยูคุงได้อย่างไร”
“ใช่ค่ะ”
แม่ยุยพยักหน้ารับกับคำพูดเนเน่ ส่งสายตาจริงจังกล่าว
“ยูมะคุง พวกชั้นไม่ได้คาดคั้นจะเอาความรับผิดชอบจากเธอ แต่ว่าเรื่องต่อจากนี้มันสำคัญต่อเด็กนี้มาก”
ยูมะก็เข้าใจ มันก็สำคัญจริงๆแหละ
ยุยร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก ช่วงม.ต้นก็แทบไม่ได้ไปโรงเรียน ฉะนั้นตอนนี้คนที่ใกล้ชิดยุยมากที่สุดคือยูมะ เพราะอยูากับยูมะ ยุยถึงพัฒนามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคสื่อสารไม่เก่ง แม้จะยังไม่หายบขาด แต่ก็สามารถหัวเราได้ และออกมาทานข้าวนอกบ้านได้
แต่ว่า ในทางกลับกัน ถ้ายูมะเป็นคนสร้างบาดแผลทางใจให้ยุย ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอคงจะไม่อยากไปโรงเรียน เป็นเด็กเก็บตัว ฉะนั้นการกระทำของยูมะ ส่งผลกระทบต่อยุยมหาศาล ระดับสั่งเธอหันซ้ายหันขวาหนได้เลย คุณแม่กังวลเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรี่องที่เข้าใจได้
ฉะนั้น ในเมื่อคุณแม่เขาจริงจังและเป็นห่วงยุยมาก ยูมะคิดว่าเขาต้องแสดงความชัดเจนให้เธอรับรู้ไปเลย
“ครับ ผมชอบยุยครับ…”
“ชอบในฐานะคนรัก?”
“อึ่ก..”
ยูมะชะงักกึก จะให้พูดออกไปตอนนี้ก็อาย แต่ว่า เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ต้องไปต่อให้ถึงขีดสุดละกัน
“…..ใช่ครับ ผมชอบยุย…ในฐานะคนรักครับ ขอโทษด้วยครับ”
“ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก ก่อนหน้าก็บอกไปแล้วว่าแม่ไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้ แล้วก็เรื่องที่ยูมะคุงค้างที่บ้านยุย เป็นความจริงใช่มั้ย”
“…จริงครับ”
“ได้ทำอะไรมากไปกว่านอนด้วยกันรึเปล่า”
“ไม่ได้ทำจริงๆครับ ผมพูดจริงนะครับ”
ยูมะกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดชีวิต
แม่ยุยฟังจบ หัวเราะเล็กน้อย
“เข้าใจแล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะที่ถามซ่อกแซ่กขนาดนี้ แม่ห่วงเพราะยุยเป็นเด็กผู้หญิงน่ะ”
“ไม่หรอกครับ เรื่องเป็นห่วงมันเป็นเรื่องปกติครับ”
ดูเหมือนว่าแม่ยุยจะไม่ติดใจถามเรื่องค้างคืนกับยูมะต่อแล้ว
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้แหละ จู่ๆลูกสาวสุดรักสุดหวงดันพาผู้ชายมานอนค้างบ้านตอนตัวเองไม่อยู่ นี่ยังไม่รวมนิสัยเฉพาะตัวของยุยอีกที่ค่อนข้างขาดความระมัดระวังต่อเพศตรงข้าม ใครไม่ห่วงก็แปลกแล้ว
“คือว่า…ผม..ชอบยุยจริงๆนะครับ…ผมจะทนุถนอมยุย ถึงผมจะยังเป็นแค่เด็กน้อยในตอนนี้ แต่ผมก็พูดจากใจจริงครับ ผมจะไม่ทำให้ยุยต้องทุกข์ใจเป็นอันขาด เพราะฉะนั้น….”
“เพราะฉะนั้น (ขอให้คุณแม่ยกลูกสาวให้ผมเถอะ ) อยากจะบอกแบบนี้ใช่มั้ย”
“อ๊ะ..เอ่อ ไม่ใช่นะครับ..แต่ว่า..เอ่อ…อืม…จะพูดไงดี”
เจอคำพูดจากแม่ยุยเล่นเอาสตันเลย ในหัวมีคำพูดมากมายที่อยากจะบอกแม่ยุยแต่ดันนึกไม่ออก อยู่ๆก็ไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่อยู่ข้างในใจยังไงดี ตอนนี้ในหัวยูมะมีแต่ภาพยุยล้วนๆ
ตัวชั้นเองอยากทำอะไรกับยุยกันแน่ อยากจะมอบอะไรให้ยุย ยูมะพยายามค่อยๆนึกหาคำพูด รวบรวมสติ ก่อนจะเอ่ยปากบอก
“ผมจะทนุถนอมยุยให้ดีที่สุด ขอให้โปรดไว้ใจผมครับ ผมจะทำให้เธอมีความสุขครับ”
สุดท้ายก็นึกได้ดีแค่นี้แหละ แค่เอาคำพูดตอนแรกมาดัดแปลงนิดหน่อย แต่มันมาจากใจจริงของยูมะทั้งหมดแล้ว
สรุปไปๆมาๆ อีแบบนี้มันเข้าอีหรอบ คำพูดมากมายความหมายเท่าเดิมนี่หว่า นี่มันก็ไม่ต่างกับที่แม่ยุยบอกตะกี้เลยว่า ขอให้คุณแม่ยกลูกสาวให้ผมเถอะ ยูมะรู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้าตัวเอง
แม่ของยุยฟังจบ เธอกล่าว…..
****
จบCH12-1
ตัดจบแบบละครไทย 555 ไปรอลุ้นกันนะครับว่า แม่ยุยจะว่ายังไงบ้าง จะกราดเกรี้ยว หรือให้โอกาส หรือต่อรอง ลองทายเล่นๆกันดูนะครับ
ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION