[LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ - ตอนที่ 25
“เอาละ ที่นี่แหละ อา อากาศสดชื่นจังเลย~”
ณ ด้านข้างโรงยิม โทคิวะได้นั่งลงตรงหน้าประตูและเหยียดแขนออกไปยาวๆ
ในตอนพักกลางวัน โรงยิมจะเปิดให้ทุกคนได้ใช้บริการ และผู้คนก็จะมาออกกำลังกายกัน แต่อาจเป็นเพราะมันเพิ่งเริ่มพักจึงไม่มีใครคนไหนมาใช้เลย
ตรงอาคารเรียนที่อยู่ไกลๆ มีเสียงผู้คนพลุกพล่าน ส่วนรอบตัวเรานั้นเงียบสงบ ดูเหมือนว่าเราคงไม่ต้องกังวลเรื่องสายตาคนอื่น
“…แล้ว นายจะพูดเรื่องอะไรล่ะ”
ผมนั่งลงข้างๆ และรีบตัดเข้าเรื่อง
“อ่า ก็นิดหน่อยน่ะ…คือว่าเมื่อวาน”
โทคิวะหยุดเปิดฝากล่องข้าวกลางวันและพูดออกมาด้วยเสียงชิลๆ แบบเดิม แต่บนใบหน้าของเขานั้นมีท่าทางอึดอัดใจ
“พอฉันทำกิจกรรมชมรมเสร็จก็บังเอิญไปเจอเข้ากับอายาโนะจังน่ะ แล้วตอนนั้นอากาศมันร้อน เราก็เลยคุยกันว่าจะไปซื้อไอศกรีมที่ร้านสะดวกซื้อ”
“เอ๊ะ เรื่องจริงเหรอ…”
มันไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญหรอก…
แต่เรื่องที่เราขอให้เธอช่วยก็มีแค่การลาดตระเวนเก็บข้อมูลเท่านั้นนี่ เพราะงั้นเธอก็ไม่น่าจะมาเก็บข้อมูลกับโทคิวะ
“จากนั้นพวกเราก็แวะไปที่ร้านค้าใกล้ๆ แล้วก็คุยกันนิดหน่อยก่อนจะแยกกันน่ะ…แต่คราวนี้ อายูมิกลับโผล่ออกมา”
…เอ๋ คัตสึนุมะก็อยู่ตรงนั้นด้วยเหรอ
“เสร็จแล้ว อายูมิก็เริ่มพูดหลายๆ อย่างกับอายาโนะจัง—”
เมื่อเล่าไปถึงตรงนั้นโทคิวะก็ได้นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะเล่าต่อ
“นี่อายูมิเป็นคนพูดนะ…เห็นเขาบอกว่าช่วงนี้อายาโนะจังคุยกับคนไปทั่วเลยน่ะ แถมคนที่คุยด้วยกันทั้งหมดก็ยังเป็นผู้ชายอีก”
“เอ๊ะ…”
ดะ เดี๋ยวนะ! เรื่องนั้นเราไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย!?
“ปะ ไปได้ยินมาจากไหนน่ะ”
“อ่า ฉันก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดหรอก แต่เหมือนฉันเห็นอิเดะกับอานายามะพูดออกมาประมาณว่า ‘สาวน่ารักที่มาคุยกับฉันช่วงนี้น่าหนักใจจังน้า นี่ฤดูกาลเป็นที่นิยมของฉันมาถึงแล้วสินะ’ แล้วก็ดูเหมือนสาวน่ารักที่ทั้งสองคนว่าก็คืออายาโนะจังน่ะ”
นั่นมันอะไรกันน่ะ…
เพื่อนร่วมชั้นทั้งสองคนที่เพิ่งถูกกล่าวถึงไปแม้จะเป็นมีนิสัยต่างกัน อย่างคนหนึ่งเป็นพวกขี้หลีส่วนอีกคนหนึ่งเป็นโอตาคุ แต่ทั้งคู่ก็นับว่าเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเป็นสมาชิกของกลุ่มที่ไปเที่ยวเล่นกับคุณคิโยซาโตะด้วย
“ดูเหมือนว่าเพื่อนของอายูมิจะไปเห็นพวกเขาคุยกันเข้าน่ะ เห็นบอกว่าทั้งคู่ดูคุ้นเคยกันสุดๆ…”
ในตอนนั้นหัวของผมก็ปิ๊งขึ้นมาได้ว่า
หรือว่าอุเอโนะฮาระจะ—
“เพราะงั้นอายูมิก็เลยเกิดเป็นห่วง…แล้วก็มาบอกกับฉันไว้ว่า ‘ระวังยัยผู้หญิงเล่นหูเล่นตานั่นไว้’ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรผิดไป…”
จากนั้นโทคิวะก็ทำหน้าตกใจตื่นและโบกมือพั่บๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า
“อ๊ะ อีกอย่าง สำหรับฉันแล้วอายาโนะจังก็ยังเป็นคนเดิมนะ ใช่ฉันจะว่าเธอดูแปลกๆ อะไรแบบนั้น! ก็แค่คิดว่า ‘ช่วงนี้ทำไมเขาไปไหนบ่อยจังน้า’ อะไรแบบนี้”
—อา เข้าใจแล้ว
ที่แท้อุเอโนะฮาระก็กำลังเก็บข้อมูลตัวต่อตัวโดยไม่บอกเราอยู่นี่เอง
“เพราะงั้นฉันก็เลยบอกกับอายูมิไปแล้วว่านั่นเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่พอลองคิดดูว่าบางทีหัวหน้าห้องอาจจะรู้บางอย่าง ก็เลยมาลองคุยกับนายดูน่ะ”
“…โทษนะ ฉันเองก็เพิ่งรู้นี่แหละ…”
“อ่า งั้นเหรอ…”
ผมกำหมัดแน่นในขณะที่โทคิวะเกาแก้มอย่างลำบากใจ
—จากที่โทคิวะพูดมา เขาไม่คิดว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมันเป็นเรื่องที่แย่ เขาก็แค่คิดว่าเธอเข้าไปคุยกับคนเพื่อทำความรู้จักกันเท่านั้น ไม่ได้เอาแต่ระวังตอนพูดเหมือนกับผม
แต่ปัญหาก็คือเคสที่ผ่านมาทุกอย่างมันดูเชื่อมกันอย่างมีอคติ
เป้าหมายทุกคนเป็นผู้ชาย คุยกับคนไปทั่วในเวลาสั้นๆ เรื่องที่อุเอโนะฮาระเป็นเพื่อนสนิทของผม ไหนจะคนที่จับมันได้ก็คือคัตสึนุมะซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นศัตรูกับผมอีก
เนื่องจากการผสมผสานขององค์ประกอบทั้งหมด การกระทำของอุเอโนะฮาระจึงถูกตีความไปในเชิงลบได้ว่า ‘เป็นยัยสาวแปลกหน้าไปที่ร่อนหาผู้ชายจากห้องเรียนอื่นไปทั่ว’
ในระหว่างที่เก็บช้อมูลจะไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้ ดังนั้นต่อให้จะหาข้อแก้ตัวไปยังไง มันก็ต้องหาหลักฐานเพื่อสร้างความน่าเชื่อถืออยู่ดี
ในทางกลับกัน การจะเพิกเฉยและดำเนินการไปตามปกติมันก็เสี่ยงกับแผนการเกินไป
ไม่สิ ที่สำคัญกว่านั้น ถ้าเกิดเรื่องราวมันยังดำเนินไปในทิศที่แย่ต่อแบบนี้ละก็ ชื่อเสียงของยัยนั่นคงได้—
ผมรู้สึกตัวว่ากำลังหายใจสั้นกว่าเดิม ดังนั้นผมจึงหายใจเข้าไปลึกๆ เพื่อทำให้ตัวเองสงบลง
จะว่าไปแล้ว… จนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องราวมันจะยังไม่แพร่กระจายออกไปนะ
ถ้าเกิดข่าวลือมันยังอยู่แค่ในกลุ่มของคัตสึนุมะ หากเราสามารถรับมือมันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เราก็อาจจะเลี่ยงปัญหาไปได้
แต่ก่อนอื่น ก็ต้องยืนยันรายละเอียดกับเจ้าตัวก่อน…
หลังจากตัดสินใจได้แบบนั้น ผมก็กดส่งข้อความหาอุเอโนะฮาระอีกครั้ง
“อะหวา…”
—แต่แล้ว
โทคิวะก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมา และขมวดคิ้วพร้อมกับพึมพำ
“คราวนี้มีอะไรล่ะ…”
ผมถามพร้อมกับรู้สึกแหม่งๆ
“อา ก็…”
โทคิวะเกาหัวด้วยท่าทางอึกอักอย่างผิดปกติ
“ฉันเองก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน…”
เขาส่งโทรศัพท์มาให้ผมอย่างลังเล
ชื่อของ ‘คัตสึนุมะ อายูมิ’ มันได้ปรากฏอยู่ในช่องของผู้ส่งในแอปส่งข้อความ และข้อความที่ตามมานั่นก็คือ
『นี่คือหลักฐาน』
—วิดีโอที่แนบอยู่ในนั้น ก็คืออุเอโนะฮาระที่กำลังพูดคุยกับผู้ชายอย่างสนิทสนม