[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก - ตอนที่ 39 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว Part 3
- Home
- [LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก
- ตอนที่ 39 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว Part 3
Part 3
“…ตอนนี้ทำได้เพียงรอลิซนำตัวเธอคนนั้นมา”
สถานการณ์โดยรวมถูกตัดสินแล้ว แต่ก็ยังมีคนที่คิดต่อต้านอยู่ เพื่อให้กองทัพปลดแอควางอาวุธ พวกเขาจะต้องมีตัวกาด้าและผู้หญิงคนนั้น
ฮิโระเดินผ่านกลุ่มกบฏที่วางอาวุธและยอมจำนน เดินไปยังที่ๆกาด้าเคยอยู่ อย่างไรก็ตามทหารของจักรวรรดิล้อมกาด้าเอาไว้ จนฮิโระมองไม่เห็นเขา
พวกเขาคอยเฝ้าระวังเพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มกบฏจะไม่พาตัวกาด้ากลับไปได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็โอเวอร์ไปหน่อย
ขณะที่ฮิโระเดินผ่านเหล่าทหารเพื่อเข้าไปยังศูนย์กลาง――,
“อย่าคิดว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจะสามารถมีชีวิตอยู่รอดในโลกใบนี้ร่วมกับมนุษย์หรอกนะ”
ลูกชายของขุนนางที่สวมชุดเกราะชั้นดีกำลังกระทืบกาด้า มีทหารคนอื่นๆที่ใช้ประโยชน์จากครั้งนี้ในการระบายอารมณ์
“ถ้าไม่ใช่เพราะความเมตตาของเทพเจ้าองค์แรก พวกแกก็คงโดนเทพแห่งสงครามกวาดล้างจนหมดสิ้น พวกแกน่ะเป็นเผ่าพันธุ์ต่ำต้อยที่คิดเนรคุณเผ่าที่ไว้ชีวิตพวกแกไว้ยังงั้นเรอะ!”
ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะรู้สึกแบบนั้น พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์เพราะเพื่อนร่วมรบถูกฆ่าตาย ฮิโระอาจจะเมินผ่านไปได้หากพวกเขาทำอย่างมีสมองคิดสักหน่อย
ยังไงก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้อย่างยิ่งที่ใครบางคนจะมาแทรกแซงแผนการของเขาเพื่อมาระบายอารมณ์โดยที่ตัวเองไม่ได้ทำผลงานใดๆเลย
“นายควรหยุดอยู่แค่นั้นจะดีกว่านะ”
ฮิโระพูดด้วยน้ำเสียงเข้มๆ แต่ก็โดนมองด้วยความไม่พอใจ
“ไอ้เด็กเปรต แกคิดว่ากำลังคุยอยู่กับใครหะ?”
“ก็นายกับผู้ติดตามของนายไง”
“…แกรู้ไหมชั้นเป็นใคร?”
“ก็ไม่รู้หรอก ดังนั้นก็บอกมาเลยดีกว่า เป็นนายพลที่มีชื่อเสียงหรือเป็นผู้นำหน่วยไหน?”
“ชั้นนำกองทัพหน่วยที่ยี่สิบหก แดเนียล ฟอน เอ็ดเวิร์ด”
แดเนียลนั้นอยู่กองหลังของกลุ่มแรก และถ้าเขาได้เห็นการต่อสู้ของฮิโระคงไม่กล้าอวดเบ่งแบบนี้ ทหารรอบตัวที่เห็นการต่อสู้ของฮิโระแล้วต่างถอยกลับและหน้าซีด
เขาอาจจะมาที่นี่เพราะได้ยินว่ามีเผ่าปีศาจถูกจับได้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองข้ามการละเมิดวินัยทางทหารในครั้งนี้ รวมถึงการกระทำโดยพลการต่อนักโทษที่ถูกจับกุมแล้ว
“…ไอ้เด็กเปรตแบบแกมันควรตายไม่ก็กลายเป็นทาส”
อืมช่างอวดเบ่งเสียจริงๆ สำหรับอนาคตของชายคนนี้แล้วอาจจะแย่ยิ่งกว่ากาด้าก็ได้ หลังจากไตร่ตรองมานาน ฮิโระคิดว่าหมอนี่ไม่เหมาะกับแผนการในอนาคตของเขา
“ขอโทษด้วย แต่นายทำให้ชั้นไม่มีทางเลือก เพราะชั้นสามารถหาคนอื่นมาแทนที่นายได้เสมอ”
“หาาาา?”
“ไม่เข้าใจงั้นเหรอ? เป็นพวกสมองกลวงสินะ ชีวิตของแกน่ะมันไร้ค่ายิ่งกว่าเผ่าปีศาจตรงนั้นอีก”
“ว่าไงนะ――?”
ศีรษะของแดเนียลลอยไปในอากาศขณะที่พยายามจะคว้าตัวฮิโระเลือดสดๆไหลลงมา หัวของเขาตกลงกับพื้นพร้อมสีหน้าโกรธแค้น
“อ่าา ขอโทษทีเพราะชีวิตของแกมันไร้ค่าเกินไป ตายอยู่ที่นี่น่ะดีแล้ว”
เมื่อทุกคนพูดไม่ออก ฮิโระจึงเข้าหากาด้า
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“เอาน่ามันก็แค่เหมือนการกระตุ้นให้ข้าตื่นเท่านั้นเอง”
“ชั้นไม่อยากให้นายมาตายที่นี่ และจะไม่ให้ใครมาแตะต้องนายได้อีก วางใจได้เลย”
“นี่เจ้าจะปฏิบัติกับข้าดีกว่าพวกของเจ้าอีกเหรอ”
“ฮะฮะ จะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะ”
อย่างไรก็ตาม ฮิโระกล่าวในขณะที่เหยียดหลังและมองไปรอบๆ
ในที่สุดทหารกลับมาสงบสติอารมณ์และวางมือบนด้ามเพื่อจะชักดาบออกมา
“อ่า มันจะดีกว่านะถ้าพวกแกไม่ชักดาบออกมา ไม่อยากโดนข้อกล่าวหาดูหมิ่นราชวงศ์ใช่ไหม?”
สวิฟเดรคเข้ามาหาฮิโระข่มขู่เหล่าทหาร
ฮิโระหยิบไม้อันหนึ่งที่มีผ้าพันเอาไว้และปักมันลงกับพื้น ลมพัดและผ้าที่พันรอบเอาไว้ก็แผ่กว้างไปทั่วท้องฟ้า
มันเป็นธงที่ชายคนหนึ่งเคยใช้มัน
ปัจจุบันมันถูกกล่าวขานว่าเป็นนิทานพื้นบ้านและสามารถเห็นได้ในภาพวาดเท่านั้น นี่คือสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนของแกรนท์ให้ความศรัทธา
――เป็นธงที่มีมังกรถือดาบสีเงินขาวไว้บนพื้นหลังสีดำ
นี่คือธงศักดิ์สิทธิ์ที่จักพรรดิองค์ที่สองและหนึ่งในเทพทั้งสิบสององค์ของมหาจักรวรรดิแกรนท์ เทพแห่งสงครามใช้มัน
ทุกคนต่างตาเบิกกว้าง ราวกับว่าได้เห็นตัวตนในตำนานกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งและต่างจับจ้องไปที่ธงและฮิโระ ทุกคนทำได้แต่อ้าปากค้างไม่สามารถพูดอะไรได้
เป็นกาด้าที่ทำลายความเงียบงัน
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……….ตอนนี้ข้าเข้าใจทุกอย่างแล้วถึงเหตุผลที่ข้าแพ้ด้วย!”
ฮิโระมองไปที่กาด้าที่สงสัยซึ่งจู่ๆก็หัวเราะออกมา กาด้าคำรามขึ้นไปบนฟ้า
“นี่เจ้าคิดจะใช้ข้างั้นเหรอ! เจ้าปล่อยให้ข้ารอดเพียงเพื่อสิ่งนี้งั้นเหรอ? นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการใช่ไหม?”
ต้องล้อกันเล่นแน่ๆขณะที่กาด้าพูด ในขณะนั้น ดาบของจักรพรรดิปีศาจก็เปล่งประกายและหายไปราวกับละลายไปในอากาศ ใช้เวลาสักครู่กว่าที่กาด้าจะสังเกตเห็นใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยิ้มออกมาอย่างจริงใจและเศร้าไปพร้อมๆกัน
“…เหลือจะเชื่อเลยจริงๆ”
สีหน้าของเขาทำให้ฮิโระคิด ดาบของจักรพรรดิปีศาจยอมแพ้ในตัวกาด้าแล้ว
“ตอนนี้นายก็เป็นแค่ซลอร์ตต้าทั่วไป แต่ยังมีหินเวทย์อยู่ ดังนั้นก็น่าจะแข็งแกร่งอยู่แล้วล่ะ”
“พอใจเจ้ารึยังล่ะ?”
“ไม่รู้สิ ไม่ว่าทางไหนชั้นก็มีความสุขทั้งนั้นแหละ.”
ถึงแม้กาด้าจะถูกดาบจักรพรรดิปีศาจถอดทิ้ง แต่มันก็ไม่ขัดแผนการในอนาคตของเขา จากนั้นฮิโระมองไปที่เหล่าทหาร พวกเขาดูเหมือนจะยังตะลึงและจ้องฮิโระ นี่คิดจะตะลึงกันไปอีกนานแค่ไหน
ฮิโระถอนหายใจและพูดออกมา
“ชื่อของชั้นคือ ฮิโระ ชวาร์ชตช ฟอน แกรนท์ เป็นทายาทของจักรพรรดิองค์ที่สองซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม ชั้นเองก็เป็นราชวงศ์และมีตำแหน่งในฐานะเจ้าชายลำดับที่สี่ของมหาจักรวรรดิแกรนท์”
เสียงของฮิโระแม้จะไม่ดัง แต่มันฟังดูชัดเจนท่ามกลางเสียงทั้งหมด
“ในฐานะที่เป็นสมาชิกของราชวงศ์ ชั้นไม่อนุญาตให้ใครขัดขวางวินัยทางการทหารและทำอะไรต่อเชลยศึกได้ หากใครคิดฝ่าฝืนจะต้องพบเจอชะตากรรมเดียวกันกับแดเนียลที่ใช้อำนาจโดยพลการ หากใครมีข้อโต้แย้ง ให้ก้าวมาข้างหน้า”
เสียงนั้นไม่ได้ไพเราะ แต่มันเป็นน้ำเสียงที่จริงจังและมีพลังมากพอที่จะทำให้ผู้ฟังทั้งหมดต้องยอมสยบ
“ไม่มีใครจะคัดค้านใช่ไหม? อ๋อ แล้วก็จับตัวสองคนนั้นไว้ด้วย.”
ฮิโระชี้ไปยังคนที่ทำร้ายกาด้าก่อนหน้านี้ ทหารที่ถูกฮิโระชี้ต่างมีสีหน้าตกใจ แต่พวกเขาก็โดนทหารคนอื่นจับตัวเอาไว้
“ปล่อยนะ!”
“เป็นบ้าอะไรกันวะ พวกปีศาจมันฆ่าเพื่อนๆของพวกเรา แกเองก็ควรจะเกลียดมันด้วยสิ!”
หลังจากลงโทษแดเนียลแล้ว มันคงทำให้ขวัญกำลังใจทหารลดลง และเหล่าทหารที่ไม่เข้าใจต่างก็หงุดหงิด
พวกเขาเองก็ต้องถูกลงโทษเช่นกัน
“พาพวกมันไปแนวหลัง และส่วนที่เหลือ หากมีใครใช้กำลังต่อผู้ที่ยอมจำนนแล้วจะต้องถูกลงโทษ แจ้งให้ทุกหน่วยทราบโดยทั่วกัน.”
ฮิโระมองไปที่กาด้าขณะที่ทหารเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตามคำสั่ง
“ถึงเวลาแล้วที่ผู้หญิงที่นายห่วงใยจะถูกพามาที่นี่”
“ข้าขอสาบานหากแกทำให้นางมีรอยขีดข่วนแม้แต่นิดเดียวจะฆ่าแกแน่.”
“…ทำไมเธอคนนั้นถึงสำคัญกับนายขนาดนั้น? ขอถามหน่อยได้ไหมว่าทำไม”
หลังจากลังเลเล็กน้อย กาด้าก็พูดออกมาตามตรง
“…พอดีมันไม่สะดวกที่เผ่าปีศาจจะเป็นผู้นำเหล่ามนุษย์ ดังนั้นข้าจึงใช้นาง แม้ข้าจะกระทำสิ่งที่เห็นแก่ตัวเช่นนี้ แต่นางก็เต็มใจที่จะทำ อย่างน้อยข้าก็อยากให้นางได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ด้วยสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น มันคงไม่มีวันอีกแล้ว.”
“ในกรณีนี้ ชั้นมีข้อเสนอให้นาย”
“ข้อเสนอ?”
“ใช่ ถ้านายเชื่อฟังคำสั่งของชั้นนับแต่นี้ไป ชั้นจะพาหญิงสาวคนนั้นกลับบ้านอย่างปลอดภัย.”
ฮิโระยังคงบอกกาด้าที่ขมวดคิ้วสงสัย
“คิดว่านั่นไม่น่าจะใช่ความคิดที่เลวร้าย และไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนายที่ช่วยหญิงสาวคนนั้นและหนีไปจากสนามรบ เพราะเสียดาบจักรพรรดิปีศาจไปแล้ว และคงไม่โง่พอที่จะทำเรื่องไร้สาระใช่ไหม.”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เจ้าจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าสิ่งที่เจ้าพูดมันเป็นความจริง? ไม่มีการรับประกันว่าจะสามารถส่งเธอกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย.”
“ชั้นขอสาบานต่อราชันภูติ.”
ฮิโระหันไปมองทางทิศใต้หลังจากพูดแบบนั้น ม้าตัวหนึ่งเข้ามาหาเขา คนที่ขี่นั้นคือลิซ เธอชะลอความเร็วและดึงบังเหียนให้หยุดต่อหน้าฮิโระ
“พามาแล้วล่ะ”
เธอคนนั้นสวมฮู้ดสีดำนั่งอยู่ข้างหลังลิซ
“ขอบคุณสำหรับความพยายาม ชื่อของเธอคือ?”
“มิลล์ ผู้บัญชาการของกองทัพปลดแอค.”
เธอกล่าวเช่นนั้น ฮิโระเดินเข้ามาหาเธอและมองเข้าไปตรงใบหน้าของเธอ รู้สึกเดจาวูแปลกๆ
“คุณลุง!”
ในขณะที่ฮิโระกำลังงง มิลล์กระโดดลงมาจากม้าและกอดกาด้า
“ขอโทษด้วยนะที่ข้าไม่สามารถทำตามที่เจ้าหวังได้…”
“ไม่เลยค่ะ ฉันดีใจที่คุณลุงไม่เป็นไรนะคะ.”
“ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
“ไม่เลยค่ะ พี่สาวคนนั้นดูแลหนูดีมาก”
“งั้นเหรอ…”
ฮิโระมองไปที่ลิซขณะที่พวกเขาชื่นชมกับการที่ได้มารวมตัวกันอีกครั้ง
“ก่อนที่จะคุยถึงเรื่องในอนาคตช่วยบอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที้แนวหน้า?”
“ก่อนที่ฉันจะไปถึงค่ายหลักของกลุ่มกบฏ สิ่งที่เหลือมีแค่ยามส่วนตัวของเธอคนนี้.”
“เหลือแค่ยาม?”
“ใช่ คนอื่นๆออกจากสนามรบทันทีที่สงครามเริ่มขึ้น ดูเหมือนว่าทหารบางส่วนในค่ายหลักก็หนีไปในทันที ดังนั้นเลยมีกลุ่มต่อต้านน้อย และฉันก็พาเธอมาได้อย่างง่ายๆเลยล่ะ.”
“รู้ไหมว่าพวกเขาหนีไปทางไหน?”
“ไปทางตะวันออกน่ะ.”
“ขอบคุณมาก ตอนนี้ก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว”
ฮิโระมองไปทางทิศตะวันออก ด้านหลังของกองทัพกบฏที่หนีไปทางป้อมอาซูบ้า มันเป็นการล่อลวงให้เราเข้าไปอย่างง่ายๆ และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเห็นฝ่ายตรงข้ามจากมุมนี้ ฮิโระหันกลับมาสนใจกาด้า
“กาด้านายได้สั่งให้พวกทหารรับจ้างอยู่ทางด้านหลังเหรอ?”
“ใช่อยู่หลังแถวกองทัพทาส”
ถ้างั้นก็ลงล็อคพอดี แนวหลังถูกพวกราชอาณาจักรลิชไทน์ซื้อตัวไปเรียบร้อย ไม่มีเวลาคิดว่าเมื่อไหร่ตอนไหน เป็นความจริงที่ว่าพวกกองหลังนั้นหายไปทำให้พวกเราต้องไปจัดการพวกมัน
“ลิซ ตอนนี้เธอบัญชาการทหารสองพันนายใช่ไหม แต่ตอนนี้ปล่อยให้ทริสเป็นคนคุมทัพอยู่ใช่รึเปล่า?”
“อืม ตามนั้นเลย”
หลังจากได้ยินคำตอบของลิซ ฮิโระก็เรียกทหารม้าสองนาย
“มีอะไรให้รับใช้ครับท่าน?”
“ขอโทษด้วยที่ต้องให้พวกนายเป็นผู้ส่งสาร แต่ต้องการให้พวกนายไปที่ปีกซ้ายและบอกลอร์ดทริสว่า ให้พวกเขาส่งกองกำลังไปยังทิศตะวันออก บอกเขาว่าเป็นคำสั่งของฝ่าบาทเซเลีย เอสทรีย่า.”
“รับทราบ!”
“อีกอย่างต้องการให้ไปที่ค่ายหลักและบอกนายพลไคโล บอกให้เขาส่งหน่วยสำรองไปยังทิศตะวันออกซึ่งกองทัพราชอาณาจักรลิชไทน์จะซุ่มรออยู่ที่นั่น บอกเขาว่านี่เป็นคำสั่งจากเจ้าชายลำดับที่สี่”
“รับทราบครับท่าน!”
จากนั้นฮิโระก็หันมามองลิซ
“ลิซชั้นอยากให้เธอรีบไปรวมตัวกับทริสโดยเร็วที่สุดและควบคุมกองกำลังทางปีกซ้าย”
“แล้วฮิโระล่ะ?”
“ศัตรูจะเข้าชาร์จใส่พวกเราเต็มกำลัง ดังนั้นพวกเราจะต้องจัดการพวกเขาให้ได้มากที่สุด ชั้นจะเป็นคนออกไปซื้อเวลาให้เอง”
ฮิโระคว้าธงของตัวเองขึ้นและกระโดดขึ้นไปบนสวิฟเดรค
“แล้วข้ากับมิลล์ต้องทำยังไง?”
กาด้าขัดจังหวะ
“มิลล์ควรไปกับลิซและนายควรขี่อูฐตามพวกเขาไป.”
ฮิโระเหวี่ยงดาบสีเงินตัดเชือกที่มัดกาด้าเอาไว้
“ปล่อยให้ข้าเป็นอิสระเหรอ ข้าอาจจะฆ่าแม่หนูนี่และหลบหนีไปก็ได้นะ”
“นายเอาชนะลิซไม่ได้หรอกหากไม่มีดาบจักรพรรดิปีศาจ และจะไม่สามารถพามิลล์หนีไปไหนได้ด้วย อย่างที่ชั้นบอก”
และนอกจากนี้ ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาหากฮิโระทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่ เขาไม่ได้อยากให้พวกนี้หลบหนีแต่ก็ไม่ได้อยากให้ถูกฆ่าเช่นกัน เขาเลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำแบบนี้ และฮิโระเชื่อใจในตัวกาด้า
เพราะว่ามิลล์อยู่ภายใต้การคุ้มครองของลิซ กาด้าจะไม่สามารถลงมืออะไรได้ เขาทำได้แค่ตามเธอไปอย่างเงียบๆ
“ถ้างั้นชั้นไปก่อนล่ะ”
ที่ด้านบนสุดของทางลาดชัน ไม่ฝุ่นจำนวนมากขึ้นปกคลุมจากอีกด้านหนึ่ง ฮิโระเปลี่ยนสีหน้าและขี่สวิฟเดรคข้ามทะเลทรายไป