LEON! ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะขอกำหนดทางเดินเอง! - ตอนที่ 0 บทนำ พี่ชาย & น้องสาว
บทนำ พี่ชาย & น้องสาว
“กลับมาแล้ว”
กรรณ พูดขึ้นเบาๆหลังจากเปิดประตูเข้ามาในบ้านของเขาเอง โดยไม่ได้คาดหวังคำตอบรับจากใคร เพราะตอนนี้เป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว มิหน่ำซ้ำในตอนนี้ครอบครัวของเขาเหลือเพียงเขากับน้องสาวที่อายุห่างกันมากเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเดาว่าเธอคงจะเข้านอนไปก่อนแล้ว
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ พี่กรรณ”
เสียงใสตอบกลับมาจากภายในบ้าน ไม่นานนักก็ปรากฏร่างของสาวน้อยร่างบางวิ่งออกมาพร้อมกับกระดาษใบนึงบนมือของเธอ
“ทำไมยังไม่นอนอีกหะเราพรุ่งนี้ไม่มีเรียนหรือยังไง”
ก่อนที่แก้วน้องสาวของเขาจะได้เอ่ยปากพูดอะไรกรรณก็เอ่ยถามขึ้นมาก่อนแล้วก้าวเข้าไปลูบหัวน้องสาวของเขาด้วยความเอ็นดู
“โถ่! พี่กรรณ หนูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ อีกอย่างหนูปิดเทอมตั้งนานแล้วค่ะ แถมพรุ่งนี้ยังเป็นวันอาทิตย์อีกต่างหาก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นกรรณก็ทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ บริษัทเอกชนที่เขาทำงานอยู่นั้นไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มีเพียงวันลาหยุดประจำปีกับวันหยุดเวลาปิดงานเพียงเท่านั้นทำให้เขาตัวแทบไม่ว่างอยู่ติดบ้านเลยทีเดียว
“โทษทีๆ พี่ลืมไปเลยว่าเราปิดเทอมแล้ว แล้วนี่มีอะไรถึงอยู่ดึกดื่นป่านนี้”
แก้วได้ยินกรรณเอ่ยปากถามก็ยิ้มกว้างดีใจราวกับว่ารอโอกาสนี้มานานแล้ว เธอยื่นแผ่นกระดาษในมือให้กับพี่ชายของเธอในทันที
“นี่มัน…เรียนเก่งนะเนี่ยเรา A ทุกตัวเลย”
กรรณอดทึ่งไม่ได้น้องสาวของเขากวาดเกรด เอ ทุกวิชาทั้งๆที่สมัยที่เขาเรียนมหาลัยก็มีพลาดไปบ้างเหมือนกันแต่น้องสาวของเขาเรียนเก่งมาแต่ไหนแต่ไรฝืมือไม่เคยตกรักษาเกรดอยู่ในระดับเว่อร์วังอลังการมาโดยตลอด
“พี่ชายต้องให้รางวัลแล้วนะคะ หนูเก่งใช่ไหมล่าา”
แก้วกระโดดเข้ามาออดอ้อนกอดเอวของเขาถึงเธอจะอยู่มหาลัยแล้วก็ยังออดอ้อนเขาแล้วทำตัวเป็นเด็ก ๆ อยู่เสมอ แต่กรรณก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะแก้วเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กไม่เหมือนเขาที่ตอนนั้นเขาก็ทำงานได้หลายปีแล้ว กรรณจึงอยากให้ความรักกับแก้วให้มาก ๆ แทนคุณพ่อคุณแม่ที่เสียไป
“พรุ่งนี้พี่หยุดพอดีไปซื้อของด้วยกันกับพี่แล้วกัน ปีนี้จะซื้อเกมเหมือนเดิมใช่ไหมที่มีผู้ชายบนหน้าปกเยอะ ๆ แล้วสีผมแสบตา ๆ น่ะ”
พรุ่งนี้กรรณได้หยุดงานพอดีจึงตัดสินใจจะไปซื้อของเป็นเพื่อนน้องสาวโดยปกติแล้วน้องสาวของเขาขอเกมเป็นของรางวัลทุกปีเพราะผลการเรียนไม่เคยตกกรรณก็เลยตามใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เพื่อทดแทนที่ตนเองไม่ค่อยมีเวลาให้เธอนัก
“พี่กรรณนี่โบร่ำโบราณจริง ๆ มิน่าใครต่อใครก็มองว่าพี่เป็นพ่อหนูกันหมด”
กรรณขมวดคิ้วจนหน้าผากย่น จริงอยู่ที่เขาอายุต่างกับแก้วมากจนอาจจะเป็นพ่อได้แต่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองที่ดูแลตนเองอยู่เสมอดูแก่ขนาดนั้น
“จริงสิแก้ว วันจันทร์นี้พี่ต้องไปต่างประเทศสักเดือนนะอยู่ดูแลตัวเองได้ใช่ไหม อย่าเล่นเกมดึกเกินไป แล้วก็อย่าลืมทานข้าวให้ตรงเวลาด้วยนะ”
กรรณที่นึกขึ้นมาได้ว่าเขาต้องเดินทางไปเจรจาการค้าให้บริษัทที่ต่างประเทศก็เลยตัดสินใจพูดเตือนน้องสาวของเขาไว้ก่อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไปแต่เขาก็กังวลว่าน้องสาวของเขาจะเล่นเกมจนลืมทานข้าว
“พี่กรรณนี่เหมือนเป็นพ่อหนูจริง ๆ นั้นแหละค่ะ”
กรรณเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะใช้มือของเขาขยี้ผมฟูๆของน้องสาวเขาเบาๆ ก่อนออกเดินไปยังห้องตัวของตัวเองที่อยู่ชั้นบน
“นอนได้แล้วนะเราพรุ่งนี้พี่จะขับรถพาเราไปห้างเดี๋ยวจะไม่ตื่นเอานะ”
วันรุ่งขึ้น
“พร้อมรึยัง ไม่ลืมอะไรใช่ไหม กระเป๋าตัง โทรศัพท์ กุญแจบ้าน?”
กรรณที่อยู่บนที่นั่งคนขับหันไปถามแก้วน้องสาวของเขาก่อนจะออกรถ เผื่อว่าเธอจะหลงลืมอะไรไว้ที่บ้าน
“หนูไม่ลืมหรอกค่ะ พี่นั่นแหละแก่แล้วอาจลืมอะไรไว้ก็ได้นะ ไม่ลืมอะไรใช่ไหมคะ”
กรรณได้ยินดังนั้นก็ออกรถทันที เขาตรวจเช็คสัมภาระทุกอย่างของเขาก่อนขึ้นรถแล้วไม่มีทางที่เขาจะลืมอะไรแน่ๆ
ไม่นานนักทั้งสองคนก็มาถึงห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านที่พวกเขามาด้วยกันบ่อยครั้ง เมื่อกรรณหาที่จอดรถได้แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในห้างด้วยกัน
“พี่กรรณๆ เดินเล่นด้วยกันก่อนไหมคะเดี๋ยวค่อยไปซื้อเกมแต่ถ้าพี่มีธุระที่อื่นต่อจะไปซื้อเกมเลยก็ได้นะคะ”
“ก็ไม่นะ เดินดูก่อนก็ได้เผื่อว่าเราจะเปลี่ยนใจซื้ออย่างอื่นแทน”
กรรณยิ้มตอบน้องสาวของเขา ตอนนี้แก้วเองก็โตเป็นสาวแล้วเธออาจจะอยากซื้อเสื้อผ้าหรือว่าพวกเครื่องสำอางที่มีราคาก็ได้ ถึงปกติแล้วกรรณจะไม่เคยเห็นน้องสาวของเขานำเงินไปทำอย่างอื่นนอกจากซื้อหนังสือกับเกมแล้วก็พวกเสื้อผ้าสำหรับใส่อยู่บ้านก็ตามที
พวกเขาเดินกันอยู่สักพักนึงโชคดีที่วันนี้ที่ห้างมีงานอาหารโอทอป(OTOP) ถึงคนจะแน่นไปเสียหน่อยเพราะเป็นวันอาทิตย์แต่อย่างน้อยก็ไม่น่าเบื่อสักเท่าไหร่หากเป็นห้างในยามปกติแล้วล่ะก็กรรณคงจะไม่ค่อยสนุกกับการเดินเล่นเสียเท่าไหร่นัก
ในระหว่างเดินเล่นอยู่กรรณที่เห็นข้าวห่อใบบัวจึงตัดสินใจซื้อกลับไปเพื่อทานเป็นมื้อเย็นในวันนี้ส่วนแก้วเองก็เดินไปดูขนมต่าง ๆ กรรณที่ไม่ชอบทานขนมก็เลยแยกตัวไปเดินซื้ออาหารจำพวกกับข้าว นอกจะข้าวห่อใบบัวแล้วกรรณยังได้กุ้งแม่น้ำเผามาอีกด้วย
หลังจากที่กรรณซื้อกุ้งแม่น้ำเผาเขาดูนาฬิกาข้อมือก็พบว่าใกล้จะบ่ายสามแล้วจึงตัดสินใจโทรเรียกแก้วจะได้ไปซื้อเกมที่เจ้าตัวอยากได้เป็นรางวัล พอนัดแนะสถานที่อยู่สักพักนึงก็ได้จุดนัดพบเป็นที่หน้าร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง
“ไหนแก้วบอกอยู่ใกล้ร้านกว่าเราไง?”
กรรณที่มองหาแก้วอยู่นานสองนานก็เหลือบมองไปเห็นน้องสาวของเขากำลังยืนเหม่อลอยมองเสื้อผ้าในตู้กระจกอยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ห่างจากจุดที่เขาอยู่เพียงไม่กี่บล็อก
“หึ”
กรรณยกยิ้มที่มุมปากขึ้นเล็ก เขาพอเดาได้อยู่แล้วว่าเด็กสาวในวัยนี้ต้องมีความต้องการในด้านเสื้อผ้าหน้าผมและการแต่งตัวเป็นธรรมดา เขาค่อยๆก้าวเข้าไปหาแก้วช้าๆ
หลายปีก่อนตั้งแต่ที่พ่อแม่เสียไป กรรณที่เข้ามาเป็นผู้ปกครองให้แก้วก็รู้สึกอยากดูแลเธอให้ดีแต่หลายครั้งที่เธอปฏิเสธการเอาอกเอาใจของเขา มันทำให้เขาเจ็บปวดที่ทำอะไรเพื่อเธอไม่ได้เลย
น้องสาวของเขาอาจจะดูร่าเริงแจ่มใสแต่เขารู้ดีว่าภายในเธอเกรงใจเขามากแค่ไหน ขนาดเกมที่เธอชอบ แก้วยังร้องขอให้เขาซื้อให้เพียงปีละครั้งเท่านั้นเอง
กรรณพอเขาเสียพ่อแม่ไปก็เลยอยากตอบแทนพวกท่านที่ไม่อยู่แล้วผ่านตัวน้องสาวของเขาแทน ทุกวันนี้ลึกๆเขาเสียใจอยู่ที่เขาไม่มีเวลาให้แก้วเขากลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง กลัวว่าจะเสียแก้วไปโดยที่เขายังไม่ได้ดูแลเธอ
กรรณที่กำลังจะก้าวขาเข้าไปในร้านเพื่อซื้อชุดที่น้องสาวของเขาจับจ้องเมื่อครู่ แต่ขาของเขาก็ต้องหยุดลงเมื่อมีคนมาคว้าข้อมือของเขาไว้
“พี่กรรณจะทำอะไรคะ?”
กรรณหันกลับมาจ้องมองไปยังดวงตาของน้องสาวของเขา ใบหน้าที่สะท้อนผ่านแว่นตาให้เขาได้เห็นคือใบหน้าที่สุดแสนจะดื้อดึงที่คุ้นเคย
‘ดวงตาที่ดูแข็งกร้าวกับนิสัยหัวแข็งนี่ช่างเหมือนกับพ่อเหลือเกิน’
กรรณคิดในใจเมื่อมองไปยังน้องสาวที่มีท่าทีจะปฏิเสธสิ่งของที่เขาอยากจะหยิบยื่นให้อีกครั้ง เมื่อเห็นใบหน้าที่เหมือนแม่ของเธอกับนิสัยที่คล้ายกับพ่อของเธอทำเอาใจของกรรณก็อ่อนยวบยาบราวกับท่านทั้งสองอยู่ตรงหน้า
“แก้วอยากได้ไม่ใช่หรือไงพี่แค่จะซื้อให้”
แก้วได้ยินกรรณพูดดังนั้นก็ชะงักไปครู่นึงก็ทำท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ถ้าพี่อยากซื้อให้จริงๆ เอาอย่างงี้ไหมถ้าหากเทอมหน้าหนูได้ A ทุกวิชาอีกล่ะก็ค่อยมาเดินดูด้วยกันใหม่”
กรรณได้ยินน้องสาวของตัวเองพูดดังนั้นก็แปลกใจจนคิ้วขมวดเป็นปม ใช่ว่าแก้วจะร้องขออะไรบ่อย ๆ ค่าใช้จ่ายกินอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้มากมายอะไร ออกไปทางน้อยเสียด้วยซ้ำเพราะว่าเธอ ประหยัดเอา ๆ แถมสมัยเรียนมัธยมบางปีเธอก็ยังสอบชิงทุนการศึกษาได้อีกด้วย
กรรณรู้สึกเศร้ามากที่เขาทำตัวเหมือนเป็นผู้ปกครองที่ไม่ได้เรื่อง บ้านก็ไม่ค่อยได้กลับอยู่แต่ที่ทำงาน แถมวันหยุดที่นานๆจะมีสักครั้งน้องสาวของเขายังแทบไม่ร้องขออะไรอีกเขาเองก็อยากให้น้องสาวออดอ้อนให้มากๆแล้วรู้จักพึ่งพาเขาให้มากขึ้นกว่านี้อีก
“ทำไมล่ะถ้าแก้วอยากได้ก็ซื้อตอนนี้เลยก็ได้นี่”
แก้วที่ตอนนี้ลากกรรณออกจากการยืนขวางหน้าร้านมาหลบมุมข้าง ๆ ร้านก็จ้องมองที่พี่ชายของเธออย่างเหนื่อยหน่าย เธอเข้าใจเขาดีว่าเขาพยายามดูแลเธอและเอาใจเธอ ดีที่ตัวเธอเองเป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่ายแถมยังอ่านใจคนเก่งพอสมควร หากเป็นเด็กผู้หญิงคนอื่นคงจะต้องเสียคนจากการกระทำบ้าๆของพี่ชายตรงหน้าเธออย่างแน่นอน เธอคิดว่าเป็นเรื่องน่าแปลกที่เขายังไม่มีแฟนจนอายุปูนนี้ทั้ง ๆ ที่เป็นสายเปย์แท้ ๆ
แต่แก้วไม่ได้รับรู้เลยว่ากรรณนั้นเขามีความประสงค์จะเป็นผู้ปกครองที่ดีของแก้วเขาจึงปฏิเสธผู้หญิงทุกคนรวมถึงเพื่อนๆที่ชวนเขาไปเที่ยวในวันหยุดเพื่อจะมาดูแลเธอโดยเฉพาะ
“พี่คะ เดี๋ยวหนูก็เสียคนหรอกตามใจแบบนี้ เทอมหน้าดีกว่าค่ะ รับเป็นของรางวัลมันน่าภาคภูมิใจกว่าไม่ใช่เหรอคะ”
คราวนี้เป็นฝ่ายกรรณที่ครุ่นคิดบ้าง คงเป็นอย่างเดียวที่เหมือนกันเป๊ะของพี่น้องคู่นี้คงเป็นความคิดมากนี่แหละเมื่อได้ข้อสรุปกรรณก็พยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นเราไปซื้อเกมที่ตกลงกันไว้เถอะนะแก้วคงอยากจะได้รางวัลของครั้งนี้แล้วใช่ไหม”
กรรณยิ้มบางมองไปยังน้องสาวของเขา ที่ตอนนี้กำลังอมยิ้มเรื่องอะไรอยู่เขาเองก็ไม่ทราบไม่แน่เธออาจจะกำลังมีความสุขที่กำลังจะได้ชุดใหม่ในเทอมหน้าก็เป็นได้
“อมยิ้มอะไรน่ะเรา อย่ามัวแต่อู้สิเดี๋ยวตกเย็นรถยิ่งติดๆอยู่”
แก้วที่ได้ยินกรรณบ่นก็ค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ เมื่อกรรณเห็นน้องสาวของเขาเริ่มออกเดินเขาก็เดินตามไปในทันที หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงร้านขายเกมที่มาด้วยกันบ่อยครั้ง เมื่อแก้วเดินมาถึงร้านก็ก้าวเข้าไปบอกชื่อเกมกับพนักงานขายหน้าเคาน์เตอร์ในทันที กรรณที่ไม่ค่อยรู้เรื่องก็ยืนรอเป็นแค่เพียงคนจ่ายเงินเพียงอย่างเดียว
“ขอบคุณค่ะ พี่กรรณ”
เมื่อซื้อเกมส์เสร็จท่าทางของแก้วที่ยิ้มแป้นและกอดห่อใส่กล่องเกมซะแน่นก็ทำให้กรรณอดยิ้มออกมาอีกครั้งอย่างพอใจไม่ได้ เมื่อเขาได้เห็นน้องสาวของตนดีอกดีใจจนสมกับเป็นเด็กอย่างนี้ก็ทำเอาเขาสบายใจขึ้นเปราะนึง
เนื่องจากทั้งสองคนเดินห้างไปก่อนจะมาซื้อเกมแล้วจึงเดินทางกลับบ้านในทันที และวันต่อมากรรณก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่เช้า
“โชคดีนะคะพี่กรรณถ้านอนยังไม่พอบนเครื่องก็พักบ้างนะคะ”
แก้วโบกมือส่งพี่ชายของเธออยู่หน้าบ้านในขณะที่กรรณกำลังจะขึ้นแท็กซี่ไปสนามบิน ตัวกรรณเองที่ยังตื่นไม่เต็มที่เสียเท่าไหร่ก็หลับปากงืมงัม โดยเขามีแผนว่าจะไปนอนต่อบนเครื่องบินอยู่แล้วต่อให้แก้วไม่บอกเขาก็ตามที