ตอนที่ 1: โดนไล่ออก
Kyou mo Ikitete Erai! to Amayakashite Kureru Shachou Reijou ga, Ore ni Kekkon Shite Hoshii to Segande Kuru Ken ~ Kanpeki Bishoujo to Sugosu 3LDK Dousei Seikatsu ~ ตอนที่ 1
เงิน เงิน เงิน.
มนุษย์ทุกคนต้องการเงินเพื่อความอยู่รอด และผมก็รู้ความจริงข้อนั้นเป็นอย่างดี
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมทำงานในตอนดึกหลังเลิกเรียน
เพียงเพื่อความอยู่รอด
ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค อาหาร และอื่นๆ อีกมากมายที่ผมต้องการในการดำเนินชีวิตต่อไป
พ่อแม่ของผมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ผมเลยต้องหาเงินทั้งหมดด้วยตัวเอง
ถ้าผมได้อาศัยอยู่กับญาติๆ ที่เสนอรับเลี้ยงผม ผมก็คงไม่ต้องลำบากแบบนี้เลย
แต่ผมไว้ใจคนที่ต้องการมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ไม่ได้
แทนที่จะเสียใจกับการตายของพ่อแม่ ผมเห็นว่าพวกเขามีความสุขมากเบื้องหลังใบหน้าที่่ทำเป็นเศร้าเสียใจ
ผมไม่อยากอยู่ร่วมกับคนแบบนี้ ถึงแม้ว่าผมจะต้องให้มรดกไปก็ตาม
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมนำเงินที่เหลือจากมรดกของพ่อแม่ ไปเป็นค่าเล่าเรียนเท่าที่จำเป็น และแจกจ่ายเงินที่เหลือทั้งหมดให้ญาติ
โดยมีเงื่อนไขว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับผมอีกเลย-
“เฮ้ เจ้าหนุ่ม พักผ่อนได้แล้ว”
“ครับ!”
ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างถนน
เนื่องจากเป็นงานที่ทำใกล้ย่านใจกลางเมืองหน้าสถานีรถไฟ ทำให้มีรถสัญจรไปมาพอสมควร และผมได้รับมอบหมายให้เป็นคนโบกไฟจารจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ
แน่นอนว่าในฐานะผู้เยาว์ ผมไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตอนช่วงดึก
งานนี้ได้รับมาเพราะรุ่นก่อนที่รู้จักไปทำงานอื่น และเป็นงานแบบรายวันที่ไม่ต้องมีประวัติย่อ
ผมรู้สึกแย่หน่อยๆที่ผมต้องโกหกเรื่องอายุมาสมัครงาน ผมก็เลยได้รับการว่าจ้าง และนั่นคือวิธีที่ผมได้ทำงาน
“เป็นเรื่องดีที่มีคนหนุ่มสาวอยู่ที่นี่ นายเป็นนักศึกษาวิทยาลัยใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“นั่นเยี่ยมมากเลย ฉันปวดหลังมากเกินกว่าจะแข่งกับนายไหวแล้ว เดียวฉันจะซื้อกาแฟมาฝากให้นะ”
“ข- ขอบคุณมากครับ”
ยานางิซังที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันนั้น ยื่นกาแฟที่น้ำตาล0%มาให้ผมหนึ่งกระป๋อง
ตอนนี้ใกล้ฤดูร้อนแล้ว และกาแฟเย็น ๆ ก็ได้ซึมเข้าสู่ร่างกายของผม ที่กำลังร้อนอบอ้าวจากชุดทำงานหนา ๆ ที่สวมใส่เพื่อความปลอดภัย
“ฉันจะกลับในอีกสิบนาที ไว้เจอกันใหม่นะ”
“ครับ”
ยานางิซังยิ้มอย่างมั่นใจและเดินกลับไปยังที่ที่เพื่อนๆ ของเขามานั่งพักกัน
พอคิดว่าทรยศคนที่ทำดีกับผมขนาดนี้ ผมเจ็บเหลือเกิน
“ผมขอโทษ….”
ถึงแบบนั้น ผมก็ไม่สามารถเสียงานพาร์ทไทม์นี้ไปได้
ผมทำงานที่ร้านสะดวกซื้อในตอนกลางวันและงานโบกรถในตอนกลางคืน
ผมมีเวลานอนและเรียนน้อยมากในทุกวัน
หากคำนวณจำนวนเงินที่หาได้กับระยะเวลาที่ใช้ไปกับมันจริง ๆ ผมคิดว่ามันคุ้มค่ามาก
หลังจากนี้ ผมจะลดเวลานอนหลับให้พอกับที่ร่างกายต้องการเท่านั้น
มันอาจจะง่ายกว่านี้ถ้าผมนอนที่โรงเรียน แต่ —- ผมไม่ต้องการใช้เวลาอันมีค่าในการเรียนรู้ไปกับการพักผ่อน
แค่ครุ่นคิดเล็กน้อย สติสัมปชัญญะของผมก็เริ่มออกจากร่างกายทันที
ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าที่สะสมได้มาถึงระดับที่ผมไม่สามารถละเลยได้อีกแล้ว
ผมยืนขึ้นจากบันไดข้างถนนที่กำลังนั่งอยู่ ไม่งั้นผมก็คงจะเผลอหลับจากการนั่งพัก
ผมยืนดูอยู่ห่างๆ สายตาของผมจับร่างที่ดูเหมือนจะโต้เถียงกับคนที่อยู่ใกล้ๆ
“ป-ได้โปรดหยุด!”
“หนูน่ารักมากเลย หนูควรไปเที่ยวกับลุงคนนี้สักคืนนะ”
ผู้หญิงอายุประมาณผม… นักเรียนชั้นมัธยปลายปีที่ 2 กำลังพัวพันกับชายขี้เมาที่ผูกเน็คไทไว้ที่ศีรษะ
[ผู้แปล : ทำไมผู้ชายญี่ปุ่นเวลาเมาต้องผูกเน็คไทที่หัวตลอดนะ มันเป็นธรรมเนียมเรอะ]
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าลำบากใจ และชายคนนั้นก็เมาเกินกว่าจะพูดแบบปกติด้วยได้แล้ว
ผู้หญิงคนนี้อาจถูกชายขี้เมาที่กำลังหงุดหงิดอยู่ทำร้ายได้ตลอดเวลา
ผมไม่สามารถเพิกเฉยต่อเธอได้ในตอนที่ผมเห็นเธอ ดังนั้นผมเลยใช้ประโยชน์ที่ผมกำลังหยุดพักผ่อนอยู่ ผมวิ่งออกจากไซต์ก่อสร้างและเข้าไปช่วยเธอ
“ เธอโอเคไหม?”
“เอ๊ะ….?”
ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาและผมสีเงินตามธรรมชาติของเธอ ซึ่งหาได้ยากในญี่ปุ่นก็ส่ายไปมาเล็กน้อย
ผมรู้จักใบหน้าและผมสีเงินนี้
ผมอยู่ห้องเดียวกับเธอตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2… และชื่อของเธอค่อนข้างคลุมเครือในหัวผมมาก แต่ผมเชื่อว่าเธอชื่อ… โทโจซัง
ผมได้ยินมาว่าเธอได้อันดับหนึ่งในทุกรายวิชาเมื่อปีที่แล้ว และผมยังได้ยินมาว่าเธอได้อันดับ 1 ในการแข่งขันเทนนิสและกรีฑา
เธอเป็นลูกสาวของประธาน โทโจกรุ๊ป ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่คร่อมญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ และผมสีเงินของเธอได้จากสายเลือดต่างประเทศ
[ผู้แปล : ต้นฉบับไม่ได้บอกว่าได้จากพ่อหรือแม่]
และรูปร่างหน้าตาของเธอนั้นทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากจนใครๆ ก็หันมามองเธอ
คนแบบนี้กำลังยุ่งอยู่กับคนขี้เมาอยู่ตรงหน้าผม
“อะไรกัน? พี่ชาย คุณพยายามจะขวางทางผมเหรอ? ”
ถ้าผมพยายามช่วยคนขี้เมาคนนี้ที่ยืนเซไปมา เขาคงจะไม่นิ่งเงียบแน่ๆ
กลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้จมูกของผมระคายเคืองจนผมรู้สึกอยากจะอ้วกออกมา ผมเพียงแค่พูดคำเดียวต่อหน้าเขาก็เพียงพอแล้ว
ผมเห็นได้เลยว่าเขาสวมแหวนอยู่บนนิ้วนางบนมือขวา
“ คุณโอเคไหม?
“ เอะ!? มีอะไร?!”
“ผมคิดว่าภรรยาของคุณคงจะอารมณ์เสียมากถ้าคุณกลับบ้านดึกขนาดนี้”
ชายคนนั้นก็มีใบหน้าตกใจเมื่อมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ
ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งที่แปลก และทันทีที่เขาเห็นมัน ใบหน้าของเขาก็ซีดขาวและความมึนเมาของเขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์
“ เฮือกถ้าไม่กลับบ้านตอนนี้…เธอเอาฉันตายแน่ๆ”
หลังจากเฝ้าดูชายคนนั้นอย่างเงียบๆ ตอนที่เขาเดินโซเซไปมา ผมกับโทโจก็มองหน้ากัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าเธอในระยะใกล้ขนาดนี้ และผมก็รู้สึกแปลกใจ
ที่ผมเผลอเกือบจะขอบคุณพระเจ้าโดยไม่มีเหตุผล เพราะคิดว่ามีคนหน้าตาดีขนาดนี้อยู่บนโลกนี้ด้วยหรอ
“ข- ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยฉัน”
“ผมเห็นเธอเหมือนต้องการความช่วยเหลือ ผมก็เลยรู้สึกอยากช่วยเธอน่ะ เอ่อ… โทโจซัง ได้รับบาดเจ็บไหม”
“ฉันสบายดี ขอบคุณ ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือนะ ฮารุยูกิ อินะโมริคุง…”
“เธอรู้ชื่อเต็มของผมได้ยังไง…?”
ผมใช้เวลาหนึ่งเดือนกับการคุยกันกับเพื่อนน้อยมาก ยกเว้นเพื่อนผู้ชายสองสามคน เพราะผมมักจะออกจากโรงเรียนทันทีหลังเลิกเรียน
ผมก็เลยคิดว่าคงไม่มีใครจำชื่อเต็มของผมได้ โดยเฉพาะโทโจซัง ที่มีเพื่อนมากมายรายล้อมอยู่ทุกวัน
“ฉันรู้ชื่อเพื่อนร่วมชั้นทุกคนในวันแรก เพื่อให้เข้ากับทุกคนได้นั่นเอง”
“อ๋อ?”
“ในทางกลับกัน อินาโมริคุง นายจำชื่อฉันไม่ได้เหรอ”
“ผมขอโทษนะ แต่ผมจำชื่อเธอไม่ได้ เอ่อ ฟุยูกะซัง? ใช่ไหม?”
เมื่อผมถามเธออย่างนั้น โทโจซังก็ดูผิดหวัง
อย่างไงก็ตาม เธอเงยหน้าขึ้นมาทันที บีบมือผมและสบตากับผม
“ฉันชื่อ โทโจ ฟุยูกิ เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับฤดูกาล “ฤดูหนาว” มันดูไม่เหมือนชื่อที่ผู้หญิงมาก ฉันเลยคิดว่ามันจะจำง่ายนิดหน่อยนะ….. นายคิดว่ายังไง?”
“เปล่า ผมคิดว่าชื่อนี้น่ารักดี”
“….นายเก่งมากในเรื่องนี้นะ อินาโมริคุง”
โทโจซังที่ดูเขินอายกับคำชมของผม ได้ไอเพื่อให้เธอสงบลงและมองมาที่ผมอีกครั้ง
“เนื่องจากเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นในคลาส 2-A ในปีนี้ มันคงจะดีถ้าเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น”
“อ๋อ แน่นอน…. อา.”
“มีอะไรรึป่าว?”
จู่ๆ เหงื่ออันไม่พึงประสงค์ก็ไหลออกมาจากตัวผม
เมื่อรู้สึกว่ามีคนจ้องมองมาที่ผม ผมหันหลังกลับอย่างหวาดกลัวและเห็นยานางิซังยืนอยู่ตรงนั่น ซึ่งต้องมาตรวจสอบผมแน่นอน
“2-A เพื่อนร่วมชั้นหมายความว่านายเป็น…. นักเรียนมัธยมปลาย? ถ้าอย่างนั้นนายยังไม่บรรลุนิติภาวะใช่ไหม”
“เอ่อ.. เอ่อ…”
“…พอแล้ว. อย่าพูดอะไรอีก”
“…ผมต้องขอโทษจริงๆครับ”
ณ ตอนนี้….
คงไม่ต้องบอกมั้งว่าผมโดนไล่ออกจากงานพาร์ทไทม์แล้ว
สามารถติดตามผลงานได้ที่ เพจ เเปลเรื่องที่สนใจ
ลงหน้าเพจก่อน 1 วันนะครับ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 5: อาบน้ำ เมษายน 13, 2022
- ตอนที่ 4: ข้อเสนอ เมษายน 7, 2022
- ตอนที่ 3: สตอกเกอร์ เมษายน 1, 2022
- ตอนที่ 2: ไปบ้านโทโจซัง มีนาคม 23, 2022
- ตอนที่ 1: โดนไล่ออก มีนาคม 23, 2022
MANGA DISCUSSION