「คุณไซ…..กะ?」
──คนที่มีรูปร่างแบบเดียวกับมุชิกิ、คุโอซากิ ไซกะคนนั้นยังไงล่ะ
「โย่ ไม่เจอกันนานเลยนะ『ตัวฉัน』…..พูดแบบนี้ก็ดูแปลกๆหรือเปล่านะ อุตส่ารอดจากสภาพนั้นมาได้เนี่ย พลังชีวิตยิ่งใหญ่สมเป็นตัวฉันจริงๆ」
จอมเวทย์──ไซกะ สะบัดมือไปมาด้วยท่าทีสบายๆ
「น่ะ…..」
มุชิกิไม่สามารถทำใจเชื่อสิ่งทีเกิดขึ้น ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ใบหน้าตัวเองอย่างกึ่งไม่มีสติ ราวกับต้องการจะตรวจสอบรูปลักษณ์นั้น
「นี่มัน……เกิดอะไร──」
「ฮ่ะฮ่ะ ตกใจอะไรกันน่ะ? ฮึ่ม…..แต่ว่า 『คุณไซกะ』งั้นเหรอ ต่อให้จะเชื่อยากขนาดไหน ก็ทำเหมือนเป็นคนอื่นเกินหรือไปเปล่านะ? ──อ้า, ไม่สิ──」
ไซกะหรี่ตาลงด้วยท่าทีดูสนใจ แล้วมองไปทั่วร่างกายของมุชิกิ
「หรือว่า──『เธอ』น่ะ ไม่ใช่『ฉัน』สินะ」
「……….!」
คำพูดของไซกะ ทำให้มุชิกิสะดุ้งตัวสั่น
พอเห็นแบบนั้น ไซกะก็หัวเราะคิกคักออกมา
「ถูกเผงเลยสินะ ก็คิดว่าการตอบสนองแปลกๆเยอะอยู่หรอก──อย่างงี้นี่เอง เข้าใจล่ะ คงจะใช้วิชาหลอมรวมรวมตัวเองเข้ากับคนอื่นแล้วรอดไปได้สินะ ตัวฉันก็เล่นสกปรกเสียจริง ยอมแพ้อย่างงดงามตั้งแต่ตรงนั้นก็ดีแล้วแท้ๆ」
ไซกะพูดแล้วหดไหล่
ถ้าให้พูดอย่างเคร่งครัด รูปร่างของมุชิกิกับเธอในตอนนี้ ไม่เหมือนกันหมดเสียทีเดียว
ไม่จำเป็นต้องถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ เส้นผมถูกมัดไว้อย่างเรียบร้อย ตราสัญลักษณ์ข้างบนหัวดูเป็นขวากหนามหน่อยๆ ดวงตาสีสดใสมีรอยดำจางอยู่ข้างใต้ มีวี่แววของความเหน็ดเหนื่อยและความอิดโรย
แต่ว่า ถ้าตัดสิ่งเหล่านั้นออกไป รูปลักษณ์แบบนั้น ท่าทีแบบนั้น และบรรยากาศแบบนั้น──เป็นของคุโอซากิ ไซกะ ไม่ผิดแน่
「คุณคือ…..คุณไซกะ…..งั้นเหรอครับ?」
「อา ก็ตามที่ว่ามาแหละ เอ…..เธอคือ──」
「…..คุกะ มุชิกิครับ」
「มุชิกิ โชคร้ายหน่อยนะ ต้องขอโทษแทน『ตัวฉัน』เลย มาพัวพันเข้ากับเรื่องยุ่งยากเสียแล้วสิ」
「…..หมายความว่ายังไงครับ? จะบอกว่าคุณไซกะมีแฝดเหรอครับ? หรือเป็นร่างก็อบปี้ของคุณไซกะที่สร้างขึ้นมาโดยใช้ศาสตร์เวทย์…..?」
「ฮ่ะฮ่ะ จินตนาการเหลือล้นจังนะ จริงอยู่ที่หากเป็นศาสตร์เวทย์ การเลียนแบบรูปลักษณ์คนอื่นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ว่า──ถ้าเกิดจะมีคนที่สามารถผลิตได้จนถึงวิชาวิวรณ์บทที่ 4 ของฉัน คงเป็นตัวตนที่สามารถเรียกว่าพระเจ้าได้เลยล่ะนะ」
พอไซกะพูดแล้วหัวเราะเสร็จ ก็เอานิ้วโป้งชี้ที่อกของตัวเอง
「ฉันคือคุโอซากิ ไซกะไม่ผิดแน่ ──แค่ว่า เป็นตัวตนที่ไกลจากช่วงเวลาที่เธออยู่ในตอนนี้ ไปในอนาคตอีกเล็กน้อยล่ะนะ」
「หะ────」
คำพูดที่แสนประหลาด ทำให้มุชิกิทำสีหน้าตกตะลึง
「คุณไซกะ…..จากอนาคต…..?」
ข้อมูลที่ทำใจเชื่อยาก ถูกสารภาพออกมากระทันหัน
สถานการณ์ที่เกินการคาดการณ์ ทำให้ความคิดของมุชิกิ หยุดลงไปชั่วพริบตา
แต่ว่า ก็นึกขึ้นมาได้ทันที
คำพูดของคุโรเอะ ในวันเดียวกับที่ตื่นขึ้นมาใน〈อุทยาน〉ลอยกลับเข้ามาในหัว
(──ผลไม้ที่บรรจุความรู้ในการสร้างอาวุธทำลายดาว、ความผิดปกติทางวิญญาณที่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ดั่งใจ、
ฝูงตั๊กแตกทองคำที่กลืนกินทุกสิ่ง、โรคระบาดที่มีอัตราการติดต่อและการตายสูง、
ทูตจากอนาคต ที่ย้อนเวลากลับมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์
ยักษาแห่งไฟที่เพียงแค่การมีตัวตน ก็สามารถทำให้ผืนแผ่นดินมอดไหม้────
พวกตัวตนที่มีโอกาสทำลายโลกเหล่านี้ พวกเราเรียกมันว่า 『ปัจจัยแห่งการล่มสลาย』 ค่ะ)
ใช่ มุชิกิเคยได้ยิน
──ว่าโลกใบนี้ เคยมีคนข้ามเวลามาจากอนาคต
เรื่องในคราวนี้ ก็คงถือเป็นปัจจัยแห่งการล่มสลายอย่างหนึ่ง
ทว่า──คนที่มาอนาคตคนนั้น เป็น『ใคร』คือข้อแตกต่าง
ไม่มีอะไรยากเลย ถ้ามองผลลัพธ์ดูดีๆเป็นเรื่องที่หาข้อสรุปได้ง่ายมาก
คนที่สามารถฆ่าจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกคุโอซากิ ไซกะได้ ก็มีแต่จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเท่านั้น
ทว่า ถึงอย่างนั้นก็มีสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ มุชิกิเปิดริมฝีปากด้วยสีหน้าตึงเครียด
「…..ทำไม คุณไซกะจากโลกอนาคต ถึงทำแบบนั้นกับคุณไซกะ?」
ใช่ ถ้าคำพูดทุกอย่างของเธอเป็นเรื่องจริง──สาเหตุที่ทำให้ถึงกับต้องย้อนเวลากลับมาฆ่าตัวเอง ไม่สามารถเข้าใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ไซกะพยักหน้าเล็กน้อยแล้วตอบคำถามของมุชิกิ
「เป้าหมายของฉันมีเพียงอย่างเดียว ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ในอดีต
──คือการช่วยโลก และผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้น」
「…..หมายความว่ายังไงครับ?」
พอถามกลับไปพร้อมรอยยับที่ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้ว
ไซกะก็ลดสายตาลง แล้วพูดต่อ
「…..ในอนาคตอีกไม่ไกล โลกของฉัน จะถูกการ『ล่มสลาย』มาเยือน」
「……….!?」
คำพูดที่น่าตกตะลึงถูกส่งเข้ามากระทันหัน ทำให้มุชิกิกลั้นหายใจ
แต่ว่าไซกะก็หาได้ใส่ใจกับสภาพแบบนั้น ร้อยเรียงคำพูดออกมา
「ตัวฉันในฐานะราชาโลก จะไม่หลีกเลี่ยงสิ่งนั้นไม่ได้ จะไม่ทำให้ผลลัพธ์กลายเป็น『ไม่เคยเกิดขึ้น』ไม่ได้
มีเพียงวิธีเดียวที่จะทำแบบนั้น คือการแทนที่『ตัวฉัน』ในอดีต แย่งชิงสิทธิในการจัดการโลก แล้วหาวิธีรับมือก่อนที่ต้นอ่อนแห่งความพินาศจะเติบโต
──แน่นอนว่า แม้『ตัวฉัน』ในอดีตจะตาย ฉันก็จะไม่หายไปหรอกนะ ถ้าทำให้กฏแห่งโชคชะตาคุ้มคลั่งเอาไว้ก่อน」
「ราชาโลก…..? สิทธิในการจัดการ…..?」
พอเห็นมุชิกิขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า ไซกะก็ทำหน้าเหมือนเข้าใจแล้วยักไหล่
「ดูเหมือนจะรวมความทรงจำไม่สำเร็จสินะ ช่างน่าสงสาร ──ไม่สิ แบบนี้ควรจะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่านะ? ในหัวนี้น่ะ มีข้อมูลที่ไม่รู้เสียยังจะดีกว่าอยู่มากเกินไปล่ะนะ」
ไซกะเอานิ้วชี้จิ้มที่ข้างศรีษะ พูดเหมือนเยาะเย้ยตัวเอง
มุชิกิบิดใบหน้าด้วยความสงสัย
「…..เดี๋ยวก่อนสิครับ โลกจะถึงการ…..ล่มสลาย? ถึงจะพูดแบบนั้นออกมาง่ายๆก็เถอะครับ──」
「โลกอะไรเนี่ย ไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เธอคิดหรอกนะ เพราะว่าแต่เดิม──โลกที่แท้จริงน่ะ ก็ล่มสลายไปตั้งแต่ในอดีตแล้วล่ะนะ」
「………., หา…..?」
「พูดอะไรอยู่น่ะครับ…..ถ้างั้น ที่ที่พวกเรายืนอยู่ตอนนี้มันเรียกว่าอะไรกันล่ะครับ」
ใบหน้าของมุชิกิถูกย้อมไปด้วยความสับสน และใช้ส้นเท้าเคาะลงบนพื้นดิน
พอทำแบบนั้น ไซกะก็ผุดยิ้มแล้วยักไหล่
「ที่นี่? ที่นี่ก็คืออาณาเขตวิวรณ์ของฉันไม่ใช่เหรอ?」
พอพูดจบ ก็กางแขนสองข้างเหมือนจะโชว์เมืองเขาวงกตที่ขยายตัวออกไป
「อย่าเลี่ยงคำถามได้ไหมครับ ไม่ได้พูดถึงเรื่องแบบนั้นสัก──」
「เปล่านะ เรื่องแบบนั้นแหละ ไม่ได้เลี่ยงคำถามอะไรทั้งนั้น คิดว่าตอบตรงๆแล้วด้วยซ้ำนะ」
「เอ๊ะ…..?」
พอมุชิกิมีเครื่องหมายคำถามลอยขึ้น ไซกะก็ลดสายตาลงแล้วพูดต่อ
「วิวรณ์บทที่ 1 〈ปรากฏการณ์〉, วิวรณ์บทที่ 2 〈สสาร〉, วิวรณ์บทที่ 3 〈ปรับเหมือน〉, วิวรณ์บทที่ 4 〈อาณาเขต〉
──วิชาวิวรณ์ที่กลายเป็นศาสตร์เวทย์หลักในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ถึงตรงนี้คงรู้สินะ?」
「……….」
ไซกะถามเข้ามาด้วยท่าทีเว่อวัง มุชิกิตอบรับด้วยความเงียบ จ้องมองไปยังไซกะ
ไซกะพยักหน้าเหมือนเข้าใจเจตนาของมุชิกิ
「แต่ว่า ถ้าเกิดยังมีอะไรที่เหนือไปกว่านั้น ถ้าเกิดว่า ยังมีพลังที่สามารถก้าวผ่านอาณาเขตที่ถูกยกย่องเป็นจุดสูงสุดอยู่ละก็ ──คิดว่าสิ่งนั้นจะสร้างอะไรขึ้นมาล่ะ?」
「นั่น คือ──」
มุชิกิจ้องเขม็งไปยังไซกะ แล้วคิดในหัว
วิวรณ์บทที่ 2 สร้างสสาร, วิวรณ์บทที่ 3 เอามาใส่บนร่างกาย, พอถึงวิวรณ์บทที่ 4 คือการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเพื่อวิวรณ์พื้นที่ของตัวเองขึ้นมา สามารถขยายไปได้ไม่จำกัดตามปริมาณพลังเวทย์ของผู้ใช้
ถ้าเกิดว่า ยังมีตัวตนของสิ่งที่เรียกว่าเหนือกว่านั้น สิ่งนั้นก็คือ──
「──อย่าบอกนะว่า」
คำพูดและสีหน้าของมุชิกิ ทำให้ไซกะเผยยิ้มออกมา
「ใช่แล้วล่ะ ──วิวรณ์บทที่ 5 〈โลกา〉
พื้นที่ขนาดใหญ่ที่พวกเธอเรียกกันว่าโลกน่ะ ตั้งแต่โลกที่แท้จริงล่มสลาย ก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าร่างวิวรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยจอมเวทย์เพียงคนเดียว」
「────」
ข้อมูลที่เกินสำมัญสำนึก ทำให้มุชิกิหมดคำพูด
「นับจาก『ตอนนี้』ไป 500 ปีก่อนหน้า ดาวที่ถูกเรียกว่าโลกได้ตายลง ในตอนนั้น ฉันใช้วิวรณ์บทที่ 5 เพื่อสร้างโลกที่เหมือนดาวโลกขึ้นมา แล้วอพยพผู้คนที่ยังหลงเหลือ แน่นอนว่า──ไม่ได้พามาได้ทั้งหมดหรอกนะ
ก็บอกแล้วไง ว่า『โลกใบนี้』น่ะ บอบบางกว่าที่เธอคิดเยอะเลยนะ」
「……….」
พอเห็นมุชิกิไม่พูดอะไร ไซกะก็บิดริมฝีปากเล็กน้อย
「──หึ หมดคำพูดไปเลยสินะ ยังจะไม่เชื่ออีกงั้นรึ?」
「เอ๊ะ? อ๊ะ เปล่าครับ」
แล้วมุชิกิก็ส่ายหน้า
「ถ้าเป็นคุณไซกะละก็ ต่อให้ทำเรื่องแบบนั้นก็คงไม่แปลกอะไร ยังไงก็เป็นคุณไซกะนี่ครับ
ถ้าถามว่าตอนนี้เป็นแบบไหน พอนึกถึงชีวิต 17 ปีที่ได้เกิดมาในโลกของคุณไซกะแล้วเกิดซึ้งใจขึ้นมาน่ะครับ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า อากาศนี่อร่อยจังเลย」
พอมุชิกิพูดออกไป ไซกะก็ทำตาโตขึ้นมาแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะขบขัน
「ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ นึกว่าจะพูดอะไรเสียอีก 『ตัวฉัน』นี่ก็ช่างเลือกคู่หูแปลกๆนะ」
มุชิกิมองดูไซกะที่เป็นแบบนั้น แล้วกลืนน้ำลายอย่างอ้ำอึ้ง
ไม่ได้เป็นเพราะเข้าใจสิ่งที่ไซกะพูดมาทั้งหมด กลับกัน ถ้าบอกว่าส่วนที่ไม่เข้าใจยังมีเยอะกว่า ก็คงไม่ถือว่าพูดเกินจริง
แต่ว่า ไซกะต้องการปกป้องโลกนี้จากความพินาศ เลยใช้วิธีอะไรสักทางเพื่อย้อนเวลากลับมาจากอนาคต ──มีเพียงแค่ส่วนนี้ที่สามารถทำความเข้าใจได้
ทว่า เพราะอย่างนั้นก็เลยมีจุดที่นึกสงสัย มุชิกิจ้องเข้าไปในดวงตาของไซกะ แล้วขยับริมฝีปาก
「…..แต่ว่า ถ้างั้นทำไม ถึงไปเชื่อมโยงกับการฆ่าคุณไซกะได้ล่ะครับ? ถ้าต้องการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด สู้ขอความช่วยเหลือจากตัวเองในอดีต แล้วหาทางเลี่ยงอนาคตที่เลวร้ายที่สุดจะ──」
「ไม่เป็นแบบนั้นหรอกนะ」
ไซกะพูดขัดมุชิกิ ด้วยน้ำเสียงที่มีร่องรอยของการยอมแพ้
「คำแนะนำของฉันในตอนนี้น่ะ『ตัวฉัน』ไม่มีทางยอมรับหรอก ──แม้จะเป็นทางช่วยโลกจากการล่มสลาย ก็ยังต้องมีการเสียสละจำนวนไม่น้อย」
「การเสียสละ จำนวนไม่น้อย──」
「──ใช่ ต่อให้ประมาณน้อยที่สุด ผู้คนที่อาศัยในโลกของฉันอย่างน้อย 30% จะต้องกลายเป็นรากฐานให้โลกนี้มีชีวิตอยู่ต่อไป」
「…..ซ」
มุชิกิ จุกโดยคำพูดอย่างไม่รู้ตัว
「คุณน่ะ──ฆ่าคุณไซกะที่ไม่รู้อะไร ทำร้ายรูริกับคุโรเอะ แล้วตอนนี้ยังจะบอกว่า จะสังเวยชีวิตผู้คนตั้งไม่รู้กี่ร้อยล้านอีกเหรอครับ?」
「ตัวฉันเอง ก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดหรอกนะ แต่ว่า ถ้าเกิดไม่ทำแบบนั้น โลกของฉันก็จะต้องถึงการล่มสลาย ทุกสิ่งมีชีวิตที่ยังหายใจก็จะต้องสูญสิ้น …..ถ้าถามว่าจะเลือกทางไหน คงไม่จำเป็นต้อง──」
「ไม่ได้ครับ」
มุชิกิพูดขึ้นมาปัดคำพูดของไซกะ
「…..หา?」
「──คุณไซกะน่ะ ไม่มีทางพูดแบบนั้นหรอกครับ」
ประกาศที่หนักแน่นของมุชิกิ ทำให้ไซกะทำหน้างงออกมา
「…..พูดอะไรอยู่กันแน่นะ เธอเนี่ย」
「ไม่ได้ครับ ตัวเลือกแบบนั้นน่ะ ไม่สมกับเป็นคุณไซกะ ──ถ้าเป็นคุณไซกะละก็ ไม่ว่าจะสิ้นหวังขนาดไหนก็จะก้าวผ่าน และหาเส้นทางที่สามารถช่วยทุกคนได้อย่างแน่นอนครับ」
พอมุชิกิพูดแบบนั้น ไซกะก็ทำสีหน้าไม่พอใจออกมา
「จะบอกว่าฉันไม่ทำอย่างงั้นเหรอ? ทั้งเปิดใช้มาตรการทุกอย่าง มองหาทุกหนทาง ท้ายที่สุดเลยได้เจอกับความหวังเล็กๆ ซึ่งก็คือวิธีนี้──」
「ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะครับ ถึงจะเป็นแบบนั้น คุณไซกะก็จะไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้น ──เพราะว่าคุณไซกะน่ะ รักโลกนี้ยิ่งกว่าใครไงล่ะครับ」
「────」
คำพูดของมุชิกิ ทำให้ใบหน้าของไซกะเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ในแวบแรก เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ดูตกใจ แล้วในที่สุดก็ก้าวผ่านความไม่สบอารมณ์──กลายเป็นความโกรธอย่างชัดเจน
「…..พูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายเลยนะ อย่างเธอจะไปเข้าใจอะไร?」
「ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าเป็นเรื่องง่ายหรอกครับ ก็แค่──คิดว่าคุณในตอนนี้น่ะ ดูไม่สมเป็นคุณไซกะเท่านั้นเองครับ」
รู้ตัวอยู่ว่าพูดอะไรบ้าบอออกไป
เพราะยังไงคนที่อยู่ตรงหน้า แม้จะเป็นตัวตนจากช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่ก็คือคุโอซากิ ไซกะคนนั้น
มุชิกิเพียงแค่บังเอิญไปรวมร่างกับไซกะ แม้แต่นิสัยจริงๆก็ยังไม่รู้
ข้อมูลของไซกะทั้งหมด ได้มาจากการสอบถามและดูบันทึกวีดีโอเท่านั้น ที่เคยแลกเปลี่ยนกับตัวจริง ก็มีแค่เพียงไม่กี่คำขณะที่กำลังจะตาย
ถ้าจะพูดแบบสุดโต่ง มุชิกิอาจจะจินตนาการนิสัยของรักแรกพบงดงามในอุดมคติเกินไปก็ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังพูดใส่ตัวจริงที่ยืนอยู่ตรงหน้า แม้แต่ตัวเอง ก็ยังถือเป็นความคิดที่อันตราย
แต่ มุชิกิกลับไร้ซึ่งความลังเล
ข้างในอก เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นที่แสนบ้าคลั่ง
──รุนแรงจนเปลี่ยนชีวิตของมุชิกิ คนที่งดงามน่ะ ไม่มีทางปรารถนาทางเลือกแบบนั้นหรอก
「ฮ่ะ นี่ก็พูดอะไรประหลาดอีกแล้ว ถ้าบอกว่าฉันดูไม่สมเป็นตัวเองละก็ แล้วใครกันล่ะที่จะสมเป็นคุโอซากะ ไซกะเนอะ」
รักคือความมืดบอด
รักคือความคุ้มคลั่ง
มุชิกิค่อยๆยกมือขวาออกไปข้างหน้า แล้วเอานิ้วโป้ง ชี้ไปที่กลางหน้าอกตัวเอง
「──ตอนนี้ ช่วงเวลาแห่งนี้ ในโลกนี้น่ะ ผม──ไม่สิ」
จากนั้น ก็ประกาศอย่างชัดแจ้ง
「ฉันคือคุโอซากิ ไซกะ」
「ฮะ──」
MANGA DISCUSSION