King propose - ตอนที่ 5 แม่มด Part จบ
「──────」
──หดแคบลง หดแคบลง
ความรู้สึกที่ราวกับตัวเองกำลังถูกลับให้คมขึ้น
──ขยายใหญ่ขึ้น ขยายใหญ่ขึ้น
ความรู้สึกที่ราวกับโลกกำลังหลอมละลาย
มุชิกิที่เปลี่ยนจากรูปลักษณ์ของไซกะเป็นของตัวเอง เพียงมองดูไซกะ จากกลางซากอิฐที่กำลังพังทลาย
สิ่งนั้น ช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด
คล้ายคลึงกับตอนที่วิวรณ์ศาสตร์เวทย์ด้วยร่างกายของไซกะ ความรู้สึกไร้เทียมทานอย่างน่าประหลาด
แต่ว่า ตอนนี้มุชิกิไม่ได้อยู่ในร่างกายของไซกะ ไม่มีทางที่จะใช้ศาสตร์เวทย์ของไซกะได้
ใช่แล้ว ถ้าพูดถึงสิ่งที่มุชิกิในตอนนี้สามารถใช้ได้──
ก็มีเพียงศาสตร์เวทย์ของมุชิกิเองเท่านั้น
「อา───」
แน่นอนว่าของแบบนั้น มุชิกิไม่เคยใช้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร คุณสมบัติแบบไหน ผลลัพธ์หลังการฝึกจะเป็นเช่นไร──เรื่องนั้นจินตนาการไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ว่า
อา แต่ว่า
ร่างกายของมุชิกิ มีประสบการณ์สั่งสมที่จอมเวทย์ฝึกหัดทั่วไปไม่มีทางมีได้เด็ดขาด
มีตัวตน ของความรู้สึกที่ไม่ควรจะมี
──จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด คุโอซากิ ไซกะ
สัมผัสที่แท้จริงของการควบคุมศาสตร์เวทย์ของราชาโลก คุโอซากิ ไซกะ อยู่ในกำมือ
ที่เหลือก็เแค่ ทำตามอย่างระมัดระวัง
เพียงแค่นั้น──
ศาสตร์เวทย์ออริจินอลของมุชิกิ ที่ไม่เคยมีตัวตนก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ก็จะส่งเสียงร้องแรกเกิดออกมา
「──งั้นเหรอ เธอเองก็เป็นจอมเวทย์สินะ ใช่วิชาที่แปลกเสียจริง」
ไซกะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า หรี่ตามองแล้วพูดเข้ามา
「แต่ว่า แล้วมันยังไงล่ะ? วิวรณ์บทที่ 1 บอบบางแบบนั้น จะไปทำอะไรได้?」
เรื่องแบบนั้น มุชิกิเองก็อยากรู้เหมือนกัน วิชาที่เพิ่งถือกำเนิดของมุชิกิเป็นวิชาแบบไหน จนถึงตอนนี้ มุชิกิเองก็ยังไม่สามารถทำเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์
แต่ว่า คำพูดที่มีไว้ตอบคำถามของไซกะ──ได้ถูกกำหนดไว้แน่นอนอยู่แล้ว
「──ช่วย คุณไงล่ะครับ」
「……….ซ」
คำตอบที่ตรงไปตรงมาของมุชิกิ ทำให้ไซกะจ้องกลับมาด้วยดวงตาที่บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
「ฟังผิดไปหรือเปล่านะ? เหมือนบอกว่าจะ ช่วยฉัน──อย่างงั้นเหรอ?」
ดวงตาหลากสีของไซกะ ถูกย้อมด้วยความโกรธ การดูถูก และความหวั่นไหวเล็กน้อย จ้องมองลงมายังมุชิกิ
มุชิกิค่อยๆเงยหน้าขึ้น
「…..คุณไซกะ เป้าหมายของคุณ ไม่ใช่การมาแทนที่คุณไซกะใน『ตอนนี้』 แต่เป็นการปกป้องโลกจากการล่มสลาย…..สินะครับ?」
「…..เรื่องนั้นมันทำไมกันนะ?」
มุชิกิใช้นิ้วโป้งชี้ที่หน้าอกตัวเอง ตอบรับคำพูดของไซกะ
「งั้นก็หมายความว่า ถ้าอนาคตที่เลวร้ายที่สุดถูกเปลี่ยนแปลง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าคุณไซกะในตอนนี้แล้วสินะครับ」
「จะดูถูกกันก็ให้มันน้อยๆหน่อย โชคชะตาแห่งการล่มสลายที่แม้แต่ตัวฉันยังไม่อาจหลีกเลี่ยง คิดจะหักล้างมันยังไงกันล่ะ!」
「…..ครับ คงไม่ทำได้ง่ายแบบนั้น แต่ว่าอย่างน้อย…..คุณกับคุณไซกะในตอนนี้ ก็มีจุดที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงอยู่นะครับ 」
「…..อะไรล่ะ?」
พอไซกะถามเข้ามาอย่างดูสงสัย มุชิกิก็จ้องหน้าไซกะตรงๆแล้วตอบกลับ
「──ตัวตนของผมไงล่ะครับ
ผมน่ะ จะช่วยคุณไซกะให้ดูเอง
เพราะการปรากฏตัวของคุณ ทำให้ผมได้เจอกับคุณไซกะ
เพราะการปรากฏตัวของคุณ ทำให้โชคชะตาเปลี่ยนแปลงไป
เพราะงั้น──ทางเลือกที่จะทำให้คุณต้องมีสีหน้าแบบนั้นน่ะ จะไม่ปล่อยให้เลือกเด็ดขาด…..!」
「……….!」
คำพูดของมุชิกิ ทำให้ไซกะหยุดหายใจวูบหนึ่ง──จากนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวในทันที
「อย่าได้ใจไปนะ แค่คนธรรมดาที่บังเอิญมาเจอกับ『ตัวฉัน』ตอนใกล้ตายน่ะ
เธอน่ะ หาได้รู้ไม่ ภาพของท้องฟ้าที่แตกสลายแผ่นดินที่พังทลาย ในวันที่โลกถึงจุดจบ
เธอน่ะ หาได้รู้ไม่ ภาพแห่งความสิ้นหวังที่เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของเหล่าผู้คน
เธอน่ะ หาได้รู้ไม่! วาระสุดท้ายของโลกที่เหล่าผู้เป็นที่รักต้องพากันตายจาก…..!」
จากนั้น ก็ขึ้นเสียงเหมือนกรีดร้องด้วยใบหน้าที่ราวกับจะร้องไห้ออกมา
「ไม่คิดจะบอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกหรอก จะหาว่าทำตัวโหดร้ายก็ไม่ว่าอะไร แต่ถึงอย่างนั้น
──ฉันก็จะฆ่าเธอ เพื่อช่วยเหลือโลกใบนี้…..!」
ไซกะใช้สายตาที่ราวกับจะฆ่าแกงมองมายังมุชิกิ
มุชิกิจ้องกลับพร้อมกับพูดว่า
「──ถ้าอย่างนั้น、ผมก็จะโค่นคุณ、เพื่อช่วยคุณ」
「อย่ามาพ่นคำพูด…..ไร้สาระน่า !」
ที่ด้านหลัง มีตึกระฟ้าและอาคารปลายแหลมขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นตอบรับเสียงตะโกนของไซกะ
หันปลายแหลมพุ่งตรงมายังมุชิกิอย่างพร้อมเพรียง จากนั้น ก็ยิงกระสุนพลังเวทย์รุนแรงออกมา
แสงสีสดใสที่หากโดนเข้าเพียงครั้งเดียวก็ถึงความตาย
สิ่งเหล่านั้น พุ่งเข้าจู่โจมมุชิกิในปริมาณที่ไม่สามารถนับได้
แต่มุชิกิ กลับมองสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบนั้น ด้วยหัวใจที่สงบอย่างประหลาด
「──แม้แต่ร่างกายของคุณไซกะ แม้แต่เวทย์มนต์ของคุณไซกะ ก็ยังเป็นคู่มือให้กับคุณไม่ได้
แน่นอนอยู่แล้ว เพราะคุณน่ะ คือคุณไซกะตัวจริงยังไงล่ะ」
มุชิกิจ้องผ่านแสงมองไปยังไซกะ
「แต่ว่าผมน่ะ──มีสิ่งหนึ่ง ที่ไม่มีทางแพ้คุณเด็ดขาด」
ข้างในโลกที่ส่องประกายสีรุ้ง ความรู้สึกที่ราวกับความคิดกำลังถูกลับให้คม
ถ้าเกิดมุชิกิตายลงที่นี่ตอนนี้ ไซกะจากอนาคตจะทำตามคำพูดของตัวเอง และใช้มาตรการเพื่อกอบกู้โลก
แม้จะรู้ดี ว่าต้องมีการเสียชีวิตของเหล่าผู้คนจำนวนมาก
แต่เพื่อช่วยเหลือคนจำนวนมากกว่า จึงจำเป็นต้องทิ้งเหล่าผู้ที่ตัวเองรักยิ่งกว่าสิ่งใด
──ตัวเลือกแบบนั้นจะไม่มีทางปล่อยให้ไซกะเลือก โดดเด็ดขาด
「วิวรณ์บทที่ 2──」
ข้างในสติอันว่างเปล่า มีเพียงเสียงที่เล็ดลอดจากลำคอที่ชัดเจน
ข้างบนหัวมุชิกิ มีตราสัญลักษณ์โปร่งใสปรากฏขึ้นมาอีก 1วง
「──【Hollow Edge(ดาบศูนย์สัมบูรณ์】──」
ราวกับตอบรับเสียงเรียก พลังเวทย์มาบรรจบกันที่มือมุชิกิ กลายเป็นดาบ 1 เล่ม
ดาบที่มีรูปลักษณ์โปร่งใสราวกับทำจากแก้ว
ใบดาบเปราะบาง ที่หากไม่มีแสง แม้แต่ตัวตนก็ยังคลุมเครือ
「สิ่งที่ไม่แพ้คุณ──นั่นก็คือ──」
ทว่า มุชิกิกลับมีความเชื่อมั่น
ว่าการตวัดดาบครั้งนี้ คือเขี้ยวเล็บเพียงอย่างเดียว ที่สามารถไปถึงแม่มดที่แข็งแกร่งที่สุดได้──!
「──ความรักที่มีให้กับ คุณไซกะ────!」
ต่อหน้าจิตสังหารที่ใกล้เข้ามาราวกับคลื่นโหมกระหน่ำ
มุชิกิ ชี้ปลายดาบเข้าใส่
「──จงร่วงหล่น ภาพลวงตาของข้า…..!」
กวัดแกว่งคทาวิวรณ์บทที่ 2 ไซกะขึ้นเสียงตะโกน
ทำตามคำสั่ง แสงจากพลังเวทย์ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเรียกว่าลำแสง ซัดและบดขยี้มุชิกิ
การระดมยิงที่รุนแรงจากการรวบรวมพลังเวทย์ของแม่มดไซกะ หากเป็นคนธรรมดา เพียงแค่สัมผัสก็คงไม่เหลือแม้แต่กระดูก
ถ้าเกิดไม่มีวิวรณ์บทที่ 4 กางไว้ เพียงแค่ควันหลง ก็คงเปลี่ยนแปลงทิวทัศน์โดยรอบไปแล้ว เป็นเหมือนท่าไม้ตายอย่างหนึ่ง
──แต่ว่า
「……….!?」
พริบตาต่อมา ไซกะเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
เหตุผลนั้นง่ายมาก ทัศนวิสัยที่เต็มไปด้วยแสงราวกับถูกฉีดขาด──
มุชิกิ เข้าประชิดตัวไซกะ
「บ้าน่า──」
มือขวานั้น นำดาบโปร่งใสมาตั้งท่าเตรียมเแทง
แล้วบนหัว ตราสัญลักษณ์วงที่ 2 ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ก็โบกสะบัดราวกับคลื่นบนผิวน้ำ
หากดูทีละอันมีรูปร่างเหมือนเหลี่ยมหรือหนาม
แต่พอทั้งสองชิ้นประกบกัน กลับดูเหมือนมงกฏราชาจากที่ไหนสักแห่ง
「──────」
ไม่มีแม้แต่เสียง
ไม่มีแม้แต่คำพูด
ดาบของมุชิกิ ถูกดูดเข้าไปที่อกของไซกะอย่างลื่นไหล
บาเรียเวทย์มนต์ที่ถูกสร้างขึ้นล้อมรอบตัวไซกะ และเดรสจากวิวรณ์บทที่ 3
ราวกับทุกสิ่งสามารถลอดผ่าน ไร้การต่อต้าน ร่างกายของไซกะถูกแทงทะลุ
「อะ────」
หลุดเสียงเล็กๆออกมาโดยไม่รู้ตัว
ไร้ความเจ็บปวด ไม่มีเลือดไหลจากอกแม้แต่หยดเดียว
แต่ว่าแทนที่สิ่งนั้น คทาที่อยู่ในมือ เดรสที่สวมทับร่างกาย และตราสัญลักษณ์ที่ลอยอยู่บนหัว
แตกเป็นเศษเล็กๆกระจัดกระจายราวกับผลงานที่ทำจากแก้ว
ทิ้งแสงระยับระยับไว้เบื้องหลัง ร่างวิวรณ์ที่ทำจากเวทย์มนต์ของไซกะ หายไปกับอากาศ
「───」
ไซกะมองดูภาพที่ราวกับความฝันนั้น ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
ไม่ใช่ความรู้สึกอัปยศ ไม่ใช่ความรู้สึกเสียใจ และก็ไม่ใช่ความรู้สึกสิ้นหวังที่ไม่สามารถช่วยโลกเอาไว้ได้
──แก่นแท้ของศาสตร์เวทย์ไซกะ คือการสังเกตความเป็นไปได้และตัวเลือก
เมื่อเปิดใช้วิวรณ์บทที่ 4 ก็ไม่มีผู้ใดสามารถหนีพ้นจากกฏเกณเหล่านั้น
ถ้างั้น ผลลัพธ์นี้ ผลลัพธ์นี้ก็หมายความว่า──
「……….ฮ่า」
ไซกะ ได้ยินเสียงหัวเราะแบบนั้นจากลำคอของตัวเอง
「────、…………… 、────」
ท่ามกลางท้องฟ้าที่ถูกย้อมเป็นหลากสี
มุชิกิที่เพียงจดจ่อกับการแทงดาบออกไปนั้น กำลังพยายามเหนี่ยวรั้งสติที่กำลังจางหาย กับลมหายใจที่ใกล้จะหยุด
จะหมดสติที่นี่ตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด จะเสียชีวิตที่นี่ตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ศาสตร์เวทย์ของตัวเองที่เพิ่งถูกกวัดแกว่งเป็นครั้งแรก ระหว่างที่ปฏิกิริยาโต้กลับทำให้ร่างกายกรีดร้องไปทั้งร่าง มีเพียงความรู้สึกที่มีให้กับไซกะที่ทำให้พยุงสติเอาไว้ได้
เพราะงั้น กว่ามุชิกิจะรู้สึกตัวถึงสิ่งนั้น ก็หลังจากที่ความรู้สึกอ่อนนุ่มได้เกิดขึ้นบนศรีษะ
「เอ๊ะ──」
──ไซกะ กำลังลูบหัวมุชิกิอยู่
「──พูดจาใหญ่โตขนาดนั้นเลยนะ
ถ้างั้น ก็อย่าให้『ตัวฉัน』 เลือกทางเดินแบบเดียวกับฉันล่ะ?」
เวลาเดียวกับที่ไซกะพูดแบบนั้น
ท้องฟ้าก็เกิดรอยร้าวโดยมีไซกะเป็นจุดเริ่มต้น แล้วพื้นที่ที่ขยายออกไปสุดลูกหูลูกตา ก็พังทลาย
「คุณไซก──」
พยายามเรียกชื่อ แต่ก็ไม่มีเสียงออกมามากกว่านั้น
สติที่เหมือนจะเลยขีดจำกัดไปตั้งนานแล้วของมุชิกิ จางหายราวกับจมดิ่งลงสู่ความมืด
ในช่วงเวลาสุดท้าย สิ่งที่ยังหลงเหลือในหูของมุชิกิก็คือ──
「── ฝาก『ตัวฉัน』ด้วยล่ะ、มุชิกิ」
คำพูดแบบนั้นของไซกะ เพียงเท่านั้น