Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 124
ICSS บทที่ 124: ฉันถ่ายพรุ่งนี้ได้ไหม?
“คนไลฟ์สดอะไรกัน! ขี้กลัวจนหัวหดขนาดนั้น!
ในตึกของโรงงาน หนิงเทียนหลินรู้สึกสนุกนิดหน่อย ผู้ประกาศโทรมาหาเขากลางดึกแล้วยังจะให้เขาเปิดกล้องอีก ถ้าไม่ใช่เพราะระบบการต่อสู้เขาก็คงไม่รู้หรอกว่าอีกกำลังทำอะไรอยู่ กำลังแกล้งเขาอยู่!
“เจ้านาย ฉันเพิ่งได้ข้อมูลจากฐานข้อมูลของผู้ประกาศคนนั้น นายอยากจะฟังหรือเปล่า?”
ในเวลานี้ ระบบการต่อสู้ไม่ได้สนุกไปกับเขาเรื่องที่แกล้งเป็นผีแต่กลับเปลี่ยนเรื่องคุยและพร้อมกันนั้นก็ทำให้หนิงเทียนหลินเกิดลังเลขึ้นมา
“ข้อมูลเหรอ เรื่องอะไรละ?” มีเรื่องอะไรที่มันเกี่ยวกับเขา
“ฐานข้อมูลการลงทะเบียนที่สมัครด้วยชื่อจริงเมื่อเร็วๆนี้ นายอาจจะรู้จักชื่อนี้ เธอชื่อหนิงเทียนซิน” ระบบการต่อสู้ไม่ได้รอหนิงเทียนหลินแต่กลับพูดออกไปตรงๆ
“เทียนซิน!”
“นายบอกว่าน้องสาวฉัน หนิงเทียนซินเหรอ!”
ทันใดนั้นสีหน้าของหนิงเทียนหลินก็เปลี่ยนไปและรีบถามออกมาทันที
“ไม่เอาน่า ไม่ใช่น้องสาวฉันใช่ไหม? เธอคือน้องสาวฉันจริงๆงั้นเหรอ?”
ในโลกนี้มีคนมากมายที่มีชื่อและนามสกุลเหมือนกันแต่หนิงเทียนหลินก็มั่นใจ 90% ว่านั่นคือน้องสาวของเขาเอง ไม่งั้นระบบการต่อสู้ก็คงจะไม่เอาเรื่องแบบนี้มาบอกเขาหรอก
“เธอมาจากเมืองสึกาวะ”
“เลขประชาชนคือ XXXXXX”
ระบบการต่อสู้ไม่ได้ตอบออกมาตรงๆแต่รายงานข้อมูลส่วนบุคคลในฐานข้อมูลออกมาแทน
“น้องสาวฉันจริงๆด้วย! นั่นน้องสาวฉัน!”
มีแสงแห่งความตื่นเต้นในสายตาของหนิงเทียนหลิน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ข่าวของสมาชิกครอบครัวหลังจากที่เขาเกิดใหม่ แต่เขาไม่คิดว่าน้องสาวตัวเองจะสมัครเป็นผู้ประกาศของโดวยูทีวีช่วงกลางดึกแบบนี้
“ตอนนี้ เธออยู่ที่ไหน? เธออยู่ที่สถาบันศิลปะปักกิ่งหรือเปล่า?”
ตอนที่หนิงเทียนหลินตายครั้งที่แล้ว เขาเพิ่งจะได้รู้ว่าน้องสาวได้เข้าเรียนที่สาขาการแสดงของสถาบันศิลปะปักกิ่ง ในเวลานั้นทั้งครบอครัวมีความสุขมาก นี่ยังไม่พูดถึงว่าเธออาจจะได้เป็นดารานอนาคตอีกนะ แต่ก็รวมถึงการต้องงานอย่างหนักด้วย
และเขายังจำได้ว่าในตอนนั้นเขาพูดติดตลกกับเธอว่าถ้าในอนาคตเธอได้กลายเป็นดาราก็อย่าลืมพี่ชายด้วยล่ะ ตอนที่เขาของให้เธอเซ็นต์ชื่อให้ เธอก็ต้องเซ็นต์ให้เขาด้วย
เพียงแค่ว่าหนิงเทียนหลินไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องตายและวิญญาณของเขาจะได้กลับมาที่โลกอีก
ตอนนี้ได้เวลาที่น้องสาวของเขาจะต้องเริ่มเรียนแล้ว!
สถาบันศิลปะปักกิ่ง ตอนนี้เธอเป็นเด็กปีหนึ่งอยู่ในตึกของคณะการแสดง” ระบบการต่อสู้ตอบ
“นายช่วยเปิดภาพของน้องสาวฉันได้ไหม ฉันอยากจะเห็นเธอหน่อย” หนิงเทียนหลินหัวใจเต้นรัว เขาอยากที่จะเห็นน้องสาว แม้ก่อนตายมันจะยังไม่ถึง 20 วันเลยและหลังตายอีกยังไม่ถึง 10 วันที่เขาไม่ได้เจอเธอแต่ไม่มีใครเข้าใจเรื่อง “การแยกของหยินและหยาง” นี้หรอก
“ได้”
บางทีตอนนี้หนิงเทียนหลินอาจจะไม่สังเกตว่าระบบการต่อสู้โต้ตอบได้ดีมากและไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานแลกด้วย แต่กลับทำตามที่เขาบอกโดยทันที และตรงหน้าเขาก็เกิดม่านแสงขึ้นมา ไม่เพียงแค่ภาพเท่านั้นที่ชัดเจนแต่เสียงทุกอย่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนด้วย
“ซูซู เธอคิดว่าถ้าฉันถ่ายทอดสดพรุ่งนี้จะมีใครดูฉันไหม? ถ่ายจากหน้าจอโทรศัพท์ฉันได้ไหม? เธอช่วยถ่ายรูปฉันชัดๆตอนที่ฝึกทหารได้ไหม?” หนิงเทียนซินนั่งลงที่เตียงแล้วถามเพื่อนเธอ ซูซูในทันที
ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนเธอ ซูซู เธอเพิ่งจะใช้คอมพิวเตอร์ของเพื่อนเพื่อสมัครบัญชีของโดวยูทีวีโดยใช้ชื่อว่า “มีความสุขที่รัก” ที่รักมาจากชื่อของเธอเอง “เทียนซิน” เธอแค่หวังว่าตัวเองจะมีความสุขได้เสมอ
เป้าหมายของการที่อยากจะเป็นผู้ประกาศนั้นง่ายมากๆ เพื่อหาเงินเพราะเธออยากจะมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง ไม่งั้นเธอคงไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของเพื่อนเธอ ซูซูเพื่อสมัครเหมือนตอนนี้หรอก อีกอย่างถ้ามีคอมพิวเตอร์เธอก็จะใช้คอมพิวเตอร์ที่คมชัดแทนที่จะเป็นกล้องจากโทรศัพท์มือถือแบบนี้
มันจะทำให้งานมีคุณภาพมากขึ้นไปด้วย
ถึงแม้พ่อกับแม่บอกว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์ให้เธอ แต่เธอปฎิเสธไป เพราะการตายของพี่ชายก็ทำให้พ่อแม่เธอเสียเงินไปเยอะแล้วเพราะต้องจ่ายค่างานศพและอื่นๆอีก
เงินชดเชยจากโจรก็น้อยมากจนแทบจะพูดว่าไม่ได้เลยดีกว่า โจรไม่มีเงินแล้วก็ไม่มีครอบครัวด้วย การตายของพี่ชายเธอสูญเปล่าจริงๆเลย! แล้วเด็กผู้หญิงที่ทำโทรศัพท์หายก็ยิ่งเหลือเชื่อเข้าไปใหญ่ หล่อนไม่เคยโผล่หน้ามาเลยด้วยซ้ำ!
นอกจากได้ส่งโจรเข้าคุกแล้วครอบครัวเธอก็ไม่ได้อะไรอีกเลย! พี่ชายเธอต้องตายไปทั้งคน! แม้แต่บางครั้งเธอยังได้ยินบางคนพูดเหน็บแนมเธอด้วยซ้ำ “หนิงเทียนหลินนี่โง่จริงๆเลย กล้าที่จะวิ่งตามโจรเนี่ยนะ นี่ไม่รู้ว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกันด้วยหรือเปล่า”
“ปีนี้ฉันได้เห็นความยุติธรรมแล้ว! ใครจะสมควรตายถ้าไม่ใช่เขา!”
ในเวลานั้นหนิงเทียนซินอยากจะออกไปตบหน้าคนพวกนี้ แต่เธอก็ไม่กล้าเธอรู้สึกอ่อนแอและเศร้าโศกอย่างมาก เธอไม่อยากยอมรับว่าพี่ชายของเธอต้องตายเลย! เธอถึงขนาดตัดสินใจว่าในชีวิตนี้เธอจะไม่ทำดีกับคนแปลกหน้าเด็ดขาด!
“แน่นอนต้องมีคนดูอยู่แล้ว” ซูซูที่กำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หัวเราะออกมา
“แต่ก็มีคนไม่เยอะและไม่ค่อยดังเท่าไร ยังไงซะนี่มันก็แค่การเริ่มต้นอยู่ดี เดี๋ยวอีกไม่นานมันก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง ตอนที่ฉันเริ่มแรกๆก็เริ่มจากเวลานั้นเหมือนกัน”
“แต่แค่ว่าโทรศัพท์…” ซูซูรู้สึกเขินเล็กน้อยแต่ก็ยังพูดออกไป “ถ้าเป็นไปได้ เปลี่ยนเครื่องใหม่ดีกว่า ฉันดูรูปถ่ายและวีดีโอของเธอแล้วถึงแม้มันจะถ่ายได้ แต่มันก็ไม่ค่อยชัดเท่าไรเลย และภาพมันก็สั่นๆด้วยตอนที่ฉันถ่ายให้”
“พวกนี้มันจะมีผลกับจำนวนคนดูด้วยนะ”
ซูซูไม่ได้พูดออกมาตรงๆว่าโทรศัพท์ราคาถูกของเธอใช้งานได้ไม่ดีเพราะเธอกลัวว่าหนิงเทียนซินจะรับไม่ได้ หลังจากที่เธอได้อยู่ด้วยกันมาในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เธอก็สังเกตได้ว่าฐานะทางครอบครัวของรูมเมทเธอดูจะฝืดเคืองนิดหน่อย
ซึ่งพูดได้ว่าไม่ใช่ครอบครัวที่ฐานะดีเท่าไรเลย
ไม่ต้องพูดถึงไอโฟนเลย แค่โทรศัพท์ราคา 2-3,000 เหรียญก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนแห่งการเปรียบเทียบสุดๆ ทั้งของใช้ราคาแพง, รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู, รถเบ็นซ์ ก็เห็นได้ทั่วไปในโรงเรียนนี้
พวกคนรวย, เงินเยอะ, พวกผู้กำกับต่างก็เคยเรียนที่นี่กันทั้งนั้น
แม้แต่คนอย่าง ตงซินยังใส่เสื้อโค้ทราคาตั้ง 100,000 เหรียญเลย
โทรศัพท์ราคาแค่ 6-7,000 หยวนนี้เป็นแค่เศษเงินไปเลย
“เธอบอกว่าพรุ่งนี้จะถ่ายทอดสดครั้งแรก งั้นเอาโทรศัพท์ฉันไปใช้จะได้มีภาพสวยๆให้คนอื่นดู ความประทับใจแรกเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะ” หลังจากที่คิดเรื่องนี้ ซูซูก็บอกหนิงเทียนซินออกไป
โทรศัพท์ของเธอเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุดและก้ถ่ายภาพได้สวยมากๆด้วย
งั้นการถ่ายทอดสดกลางแจ้งจะต้องถ่ายได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน บางครั้งเธอเองก็ใช้เพื่อถ่ายทอดสดเหมือนกัน