Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 90
ICSS บทที่ 90: รุ่นพี่ค่ะ
“เทียนหลิน ปิดเทอมหน้าร้อนนายไปไหนมา ฉันโทรหาไม่ติดเลยแล้วก็ไม่เห็นนายออน QQ เลยด้วย มันยากจริงๆเลยที่จะชวนนายมาเล่น LOL?”
ถนนสินธุ
นี่เป็นถนนที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเสฉวน มันเต็มไปด้วยต้นมะเดื่อและอยู่ใกล้กับทางเข้าโรงเรียนจึงมีคนมากมายที่เดินผ่านทางนี้ หนิงเทียนหลินและชิเซียวจุนค่อยๆเดินมาตามถนนเส้นนี้พร้อมทั้งพูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่อยๆ
“นายโทรมาหาฉันด้วยเหรอ?”
หนิงเทียนหลินถามและแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาไม่แน่ใจว่าข่าวเรื่องการตายของเขากระจายไปมากน้อยแค่ไหน และเพราะเรื่องเอกสารที่สถานีตำรวจท้องถิ่นแต่ทางโรงเรียนยังไม่มีเอกสารตัวนี้
เรื่องเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยเขาได้เยอะเลย
สิ่งที่หนิงเทียนหลินกังวลอยู่ตอนนี้คือพ่อแม่เขาจะโทรมาแจ้งที่ปรึกษาเรื่องการตายของเขาเลยทำให้ไม่ได้มาเรียน แต่ด้วยเหตุผลที่พ่อแม่เขาไม่รู้เบอร์โทรของทางโรงเรียนเลย นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเบอร์โทรของที่ปรึกษาเลย เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อทางโรงเรียนเห็นว่าเขาไม่ได้มาเรียนเลยก่อนที่จะโทรแจ้งทางบ้านเพื่อขอข้อมูล
วันนี้ชิเซียวจุนโทรหาเขาแต่ไม่ติด ถ้าติดเขาก็กลัวว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดโปงออกมา แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก เขาก็จะอ้างว่าเขามีปัญหากับทางครอบครัวนิดหน่อย พวกท่านเลยบอกว่าเขาตายไปแล้วเพราะไม่อยากจะยอมรับว่ามีลูกชายแบบเขา
“ใช่”
“ทักนายไปเป็นพันข้อความและทางคิวคิวก็ไม่มีข้อความอะไรแจ้งมาด้วย” ชิเซียวจุนบ่นออกมา
“ฉันเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่แล้ว พอดีมันถูกระงับไปสักพัก และเรื่อง QQ ฉันยุ่งอยู่ที่บ้านทั้งวัน ฉันก็เลยไม่มีเวลามาเล่น QQ” หนิงเทียนหลินพูดไปเรื่อยเปื่อย
“โอ้” ชิเซียวจุนไม่ได้ถามว่าที่บ้านยุ่งเรื่องอะไร หรือแม้แต่ QQ ก็ไม่มีเวลามาเล่นเนี้ยนะ “งั้นพอกินข้าวเสร็จไปเล่นเกมส์ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่กันไหม เราไม่ได้เล่นมาสักพักแหละคันไม้คันมือไปหมดเลย”
“นายไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่เล่น LOL ที่บ้านกับเล่นที่ร้านเกมส์มันไม่เหมือนกัน ที่บ้านมันไม่ได้บรรยากาศเลย!” ชิเซียวจุนพูด
“ร้านอินเตอร์เน็ต…”
“สวย! โคตรสวยเลยว่ะ!”
ชิเซียวจุนเตรียมที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องหยุดในทันทีแต่เสียงหัวใจกลับเต้นแรงกว่าอีกเพราะในเวลานี้สาวสวยกำลังเดินตรงเข้ามาให้พวกเขาด้วยใบหน้าแสนสวยพร้อมรอยยิ้ม
“พอฉันมาถึงโรงเรียนก็มีสาวสวยเดินเข้ามาทักทายฉันเลยเหรอเนี่ย?”
ชิเซียวจุนตกตะลึงไปกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอจนหัวใจเขารู้สึกคันเล็กๆ แต่เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหนิงเทียนหลินที่ยืนอยู่ข้างเขาทำหน้าขมวดคิ้วไปแล้ว
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! มาเจอกันอีกได้ยังไงเนี้ย!”
หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วพร้อมด้วยสายตาที่ดูจะอึดอัดเล็กน้อย วันก่อนเขาขังเธอไว้ข้างนอกตั้งหลายชั่วโมงและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกลับไปกี่โมง เขาคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากนั้นแค่ 24 ชั่วโมงพวกเขาก็จะได้มาเจอกันอีก
“หวัดดี! ได้เจอกันอีกแล้ว!”
หลินเจียอี้กระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าหนิงเทียนหลินพร้อมทั้งจับมือหนิงเทียนหลินเพื่อทักทายไปด้วย ในเวลาเดียวกันนั้นเธอก็โบกมือให้
ชิเซียวจุง
“ไง หวัดดี”
“หวัดดีฮะ” ชิเซียวจุงตื่นเต้นมาก เขาอายุ 19 แล้วแต่ก็ไม่เคยมีสาวสวยขนาดนี้เข้ามาทักทายพูดคุยกับเขามาก่อนเลย ถึงแม้นี่จะเป็นแค่การทักทายก็เถอะ
“เจอกันอีกแล้ว” หนิงเทียนหลินไม่มีทางเลือกนอกจากทำหัวตรงๆ
เขาไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีก ในเวลาแค่ 5-6 วัน นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่พวกเขาได้เจอกัน
“เจียอี้นี่เพื่อนร่วมชั้นเรียนคุณใช่ไหม?” ในเวลานี้คุณอาพี่เลี้ยงเดินเข้ามาพอดีและเห็นหนิงเทียนหลิน ก็เลยจำได้ว่านี่คือคนที่ได้เจอที่
ตลาดปลาเมื่อวันก่อน
“คือใช่ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นมัธยมแต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาลัยด้วย”
ในครั้งนี้หลินเจียอี้ก็โกหกอีก
“คุณอาค่ะกลับไปก่อนก็ได้นะคะ ถ้ามีเขาอยู่ช่วยหนูก็ไม่ต้องกวนคุณอาแล้วค่ะ”
“ค่ะ ก็ได้ค่ะ”
“ยังไงซะเราก็มาลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว งั้นก้ได้ค่ะ”
“งั้นขอให้สนุกนะคะและเดี๋ยวกลับมาตอนกลางวัน ฉันจะทำของอร่อยไว้รอนะคะ”
คุณอาพี่เลี้ยงหัวเราะออกมา หน้าที่ของเธอตอนนี้ก็คือการส่งหลินเจียอี้มารายงานตัวที่โรงเรียน ปกติแล้วหลินเจียอี้จะมาคนเดียวแต่เธอไม่มั่นใจเลยตามมาด้วย
“ค่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณอา” หลินเจียอี้ยิ้มและโบกมือลาคุณอาพี่เลี้ยง แล้วมองส่งเธอกลับไป
“สวัสดีครับคุณอา” หนิงเทียนหลินไม่ได้พูดแต่ชิเซียวจุนที่ยืนอยู่ข้างเขาทั้งโบกมือและยิ้มส่ง ต่อหน้าสาวสวยตรงหน้าเขาต้องสร้างความประทับใจซะหน่อย
“หวัดดีฮะ ฉันชื่อชิเซียวจุนและเทียนหลินเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนและเป็นรูมเมทกันด้วย” ชิเซียวจุนรีบที่จะแนะนำตัวเองในทันที
“ไม่คิดเลยว่าเธอกับเทียนหลินจะเป็นเพื่อนเรียนมัธยมมาด้วยกัน”
“เทียนหลินไม่เคยบอกเลยว่ามีเพื่อนมัธยมสวยขนาดนี้”
“เขาชื่อเทียนหลินนี่เอง!” หลินเจียอี้แอบจำชื่อไว้ในใจ ถึงแม้เธอจะเคยเจอเขามา 3 ครั้งแล้วและถึงขนาดที่อีกฝ่ายเคยช่วยชีวิตเขาไว้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่รู้ชื่อของอีกฝ่ายอยู่ดีและก็ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ถามด้วย
“ใช่”
“หวัดดีค่ะ ฉันชื่อหลินเจียอี้และฉันเป็นเพื่อนเรียนมัธยมกับเทียนหลินแต่ฉันต้องซ้ำชั้นไปปีหนึ่งเลยต้องมาสอบเข้าเรียนมหาลัยอีกรอบในปีนี้”
ตอนนี้หลินเจียอี้พูดได้แต่เรื่องโกหก อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินไม่ได้พูดอะไรและยังได้เห็นท่าทางเขาในวันนี้ ที่ยืนอยู่ข้างๆชิเซียวจุน
“พี่ชิมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”
“มาหาอะไรกินน่ะ ตรงประตูมีร้านก๊วยเตี๊ยวไก่เจ้าอร่อยอยู่”
ชิเซียวจุนไม่อยากจะคุยเรื่องไร้สาระมากนัก เขาอยากจะคุยเรื่องรายละเอียดของสาววัย 18 คนนี้แทนและเขารอที่จะคุยเรื่องนี้แทบไม่ไหว แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่าหลินเจียอี้เพิ่งจะมาถึงและดูเหมือนจะยังไม่ได้กินอะไร จึงรีบถามออกไปทันที
“หลินเจียอี้ เธอยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม ถ้างั้นเราไปกินด้วยกันไหม ก๊วยเตี๊ยวไก่ร้านนั้นอร่อยมากเลยนะ”
“ได้ๆ” หลินเจียอี้รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันเพิ่งมาที่นี่เลยยังไม่ค่อยคุ้นกับที่นี่เท่าไรและไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อยหรือไม่อร่อย เมื่อพี่ชิเซียวจุนแนะนำแบบนี้ฉันก็อยากลองกินนะ”
พร้อมกันนั้นเขาก็ยิ้มออกมาโดยไม่สนใจสายตาของหนิงเทียนหลินเลย เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธอะไร แต่เขาก็ยังรู้สึกคาใจว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนเรียนมัธยมกันแบบไหนกัน? เธอรู้แค่ว่าอีกฝ่ายชื่อว่าเทียนหลินแต่กลับไม่รู้จักนามสกุลของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องเรียกพี่หรอก” ชิเซียวจุนไม่เคยถูกเรียกแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะจากสาวสวยแบบนี้เลยทำให้เขารู้สึกเขินหน่อยๆ
“ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเทียนหลิน งั้นก็เป็นเพื่อนฉันด้วยเหมือนกัน ฉันจะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนในกลุ่มที่หลังจะได้มีทั้งเด็กใหม่และเด็กเก่า”
“เธอเพิ่งมาถึงที่นี่และก็คงจะยังไม่คุ้นกับที่นี่ ไม่ใช่แค่เรื่องกินแต่เรื่องที่ช้อปปิ้งด้วย งั้นฉันจะบอกแหล่งขายของราคาถูกๆน่ารักๆให้นะ”
“จะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ” หลินเจียอี้โบกมือปฎิเสธ
“นายเป็นพี่ ในเมื่อนายไม่อยากให้ฉันเรียกแต่ฉันก็จะเรียนพี่ว่าพี่เซียวจุนอยู่ดีนะ ใช่ไหม รุ่นพี่ค่ะ”
คำพูดของหลินเจียอี้หวานปานน้ำผึ้งจนทำให้หัวใจของชิเซียวจุนเต้นรัว มีเพียงหนิงเทียนหลินที่มองทั้ง 2 คนอย่างเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา