Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 81
ICSS บทที่ 81: จริงเหรอ?
“ไม่เป็นไร”
“ฉันมีธุระเหมือนกัน เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอกด้วย”
ในระหว่างที่ชูหยิชานอาบน้ำ ในเวลานั้นหนิงเทียนหลินก็เปลี่ยนชุดและรู้สึกว่ามันคงจะดีกว่าที่จะออกไปตอนนี้ ร่างกายเขากำลังรู้สึกร้อนรุ่มและแบบนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองอาจจะทำอะไรขึ้นมาก็ได้
ในความคิดเขาชูหยิชานแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ เขาไม่อยากที่จะใช้ความรุนแรงกับเธอ แค่อยากให้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ!
อีกอย่างหลังจากเรื่องมากมายวันนี้เขามั่นใจมากว่าเขาต้องได้อยู่ในหัวใจของอีกฝ่ายแน่ๆแค่ยังไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหน เขาจะคุยเรื่องนี้ทีหลัง เรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลา
เขาไม่ใช่คนที่เดินหน้าไม่ได้แต่สำหรับบางคนเขาก็ไม่อยากที่จะเดินจากไปไหนและไม่อยากที่จะปล่อยไปด้วย
“นาย…จะออกไปข้างนอกเหรอ?”
เมื่อชูหยิชานได้ยินแบบนั้นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปและเธอคิดว่าหนิงเทียนหลินโกรธเธอ บรรยากาศแบบนั้นมันก็ไม่ค่อยเหมาะที่จะเดินหนีออกไปเท่าไร ในเมื่อเธอเป็นคนบอกเองว่าจะนวดให้เขา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไงตราบใดที่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ การพูดเล่นตลกกันก็น่าจะสมควรมากกว่า
นี่คือสิ่งที่เธอพูดตอนที่เธอเข้าไปฝึกงาน
แต่ตอนนี้เธอรู้สึกอายจริงๆ ของหนิงเทียนหลินมันใหญ่เกินไป ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็จะต้องข้ามมันไปให้ได้สิ
“ใช่ พอดีเพื่อนฉันเพิ่งโทรมาและฉันจะออกไปหน่อย”
หนิงเทียนหลินโกหก เขาไม่มีเพื่อนในเมืองจินเปยเลย แม้แต่เพื่อนที่โรงเรียนหรือชั้นเดียวกันก็ตาม ไม่มีใครที่เขาจะคุยด้วยได้มากนัก คนที่เขาจะนับเป็นเพื่อนด้วยก็คงจะเป็นเพื่อนร่วมหอแค่นั้นแหละ
ส่วนคนอื่นๆก็แค่ทั่วๆไป
“นาย…ไม่ได้โกรธใช่ไหม? เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”
ชูหยิชานก็ยังไม่อยากจะเชื่อยู่ดี หลังจากเรื่องทุกอย่างนี่มันบังเอิญเกินไปและเขาก็จะออกไปทันทีที่เธอเดินออกมาเลย
“ไม่โกรธเลย” หนิงเทียนหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ได้โกรธอะไรเธอเลย ไม่ต้องกังวลนะ”
หนิงเทียนหลินมองอย่างจริงจังไปที่ชูหยิชานแล้วจึงโบกมือด้วยรอยยิ้ม
“ไปก่อนนะ เจอกันที่โรงเรียน”
เมื่อพูดจบโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ เขาก็หันหลังทันที เปิดประตูและเดินออกไป
“ได้ เจอกันที่โรงเรียน”
สายตาสุดท้ายของหนิงเทียนหลินทำให้ชูหยิชานถึงกับต้องหน้าแดง
เขาไม่ได้โกรธใครและเขาก็ไม่ได้โกรธเธอด้วย มันหมายความแบบนั้นใช่ไหม แต่ในเวลานี้เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่เธอรู้สึกถึงความหอมหวานอยู่ในใจ
“ฮึ? อะไรเนี่ย?”
แต่เมื่อเวลาที่เธอพร้อมกำลังจะเอนตัวลงนอน เธอก็สังเกตว่าที่ข้างหัวเตียงมีบึกเงินสีแดงซึ่งทั้งหมดเป็นแบงค์ 100 หยวน จึงรีบหยิบขึ้นมาแล้วก็เจอว่ามีกระดาษเขียนด้วยหมึกสีดำวางอยู่ด้วย
“หยิชาน ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องใช้เงิน นี่นะเงินหนึ่งล้าน เก็บเอาไว้แล้วถ้ามันไม่พอเธอก็มาบอกได้ แต่ถ้ามันพอแล้วก็เอาไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองด้วยนะ”
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนแกร่งและไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับฉัน แต่เงินนี้ฉันไม่ได้ให้เธอเฉยๆ เมื่อเธอเรียนจบแล้วหาเงินได้ มันก็ไม่สายที่เธอจะหามาคืนฉัน”
“อีกอย่าง นี่เบอร์โทรศัพท์ฉันนะ ถ้าพวกที่โรงอาบน้ำหรือชายแก่ที่กลืนกุญแจมาหาเรื่องเธอดึกๆ อย่าเปิดประตูแต่ให้โทรหาฉันและฉันบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้แล้วด้วย คงจะไม่มีปัญหาอะไร”
“เธอเก็บคีย์การ์ดไว้เพราะในอนาคตห้องนี้คือห้องของเธอ เมื่อไรก็ตามที่เธออยากจะกินอาหารดีๆ อาบน้ำหรือว่ายน้ำหรืออื่นๆก็ทำได้เลย แต่ชวนฉันด้วยนะถ้าจะจัดมื้อใหญ่ ฉันยินดีจะเป็นเพื่อนกินข้าวด้วย”
เมื่อได้อ่าน น้ำตาก็เอ่อล้นในตาของชูหยิชานและหลังจากนั้นเธอก็ห้ามตัวเองต่อไปไม่ได้จนต้องร้องได้ออกมา น้ำตาเปียกชุ่ม
เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องร้องไห้แต่เธออยากจะร้องมันออกมาและอยากจะร้องให้กับวันที่มันน่าขับข้องใจที่เธอต้องทรทรมานอย่างที่ผ่านมา
ไม่มีใครรู้ว่าเธอพยายามหาเงินมากแค่ไหน เธอต้องถูกรังแก, ถูกทำร้าย, โดนดูถูก แม้แต่ตอนเรียนมัธยมในระหว่างปิดภาคเรียนเธอต้องไปทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างเพื่อหาค่าเรียน ต้องไปแบกอิฐอยู่ตั้งหลายเดือน!
เรื่องพวกนี้เธอไม่เคยพูดให้ใครฟัง แต่เก็บไว้ในใจมาเป็นเวลานาน
เวลานี้เมื่อมันแตกออกมามันก็เกินจะควบคุมได้ เธอร้องไห้ไม่หยุดจนหลับไปพร้อมน้ำตาที่เปียกหมอนชุ่มไปหมด
“เทียนหลิน ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆ”
เธอไม่เคยคิดที่จะแฟนเพื่อมาช่วยปลอบใจ หรือแม้แต่เพื่อรับฟังเรื่องทุกข์ใจใดๆของเธอ แต่ยังไงไม่รู้เธอยังไม่เจอคนที่เธอชอบและเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองชอบแบบไหนกันแน่แต่ในเวลานี้เธอไม่รู้ตัวเลยว่าประตูสู่หัวใจของเธอได้เปิดออกแล้ว ในใจเธอเหมือนมีแสงสว่างและความอบอุ่นเกิดขึ้นมาแล้ว
…
ไนท์คลับโกลเด้น
ในเวลาตี 3 เป็นเวลาที่คนแน่นที่สุดของร้าน ชายหญิงกว่าร้อยคนเต้นเพลงของดีเจกันอย่างเมามันอยู่ที่พื้นที่เต้นรำ สาวสวยมากมายที่อยู่บนเวทีต่างก็แต่งตัวด้วยชุดโชว์เนื้อโชว์หนังกันมากมาย ทำให้เลือดสูบฉีดดีจริงๆ
โดยเฉพาะหญิงสาวที่สูงที่สุดทั้ง 3 คนที่อยู่ในชุดหนังตัวสั้นและรองเท้าบูททรงสูง ที่กำลังเต้นอยู่กับเสาพร้อมทั้งใช้ต้นขาหนีบเสาไว้และกระโดดมันช่างดูเซ็กซี่จริงๆ
“นี่เป็นคลับกลางคืนในตำนานเลยนะ”
หนิงเทียนหลินมาถึงที่นี่ได้สามนาทีแล้ว ตอนที่เขาออกมาจากโรงแรมแวนด้าก็ห้าทุ่มแล้ว ในเวลานี้จะกลับไปที่โรงเรียนก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะผู้จัดการหอก็คงจะล็อคประตูไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนั้นเขาจึงต้องหาที่อื่นไปแทน
ประเด็นคือตอนนี้หนิงเทียนหลินไม่มีความง่วงเลย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนมา 3 วันแล้วก็ตาม เขายังรู้สึกพลังงานเต็มเปี่ยมอยู่เลย เขาไม่ได้เดินไปไหนไกลเลยแล้วเมื่อเขาเห็นที่นี่ก็ลังเลอยู่สักพักแต่ก็เดินเข้ามา
เขาอยู่มา 19 ปีแล้วแต่ไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อนเลย เต่เขาเคยได้ยินว่ากลางคืนจะมีพวกไนท์คลับเปิดอยู่แต่จะปิดเวลากลางวัน และในนี้จะมีอะไรน่าสนใจมากมายเต็มไปหมด
ที่นี่เขาจะได้เห็นคนมากมายหลายบุคลิกจริงๆ!
หนิงเทียนหลินที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกแต่กลับรู้สึกตื่นเต้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาเพิ่งเข้ามาที่นี่ได้เพียง 3 นาทีแล้วเขาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ในนี้มีแต่เพลงที่ร้อนแรง, หุ่นสุดเซ็กซี่, ผู้ชายและผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความต้องการ, ยา, ปืน, และอื่นๆที่เขายังไม่เคยเห็นแล้ว
ตอนนี้เขานอนเอนอยู่บนโซฟา ในมือถือแก้วไวน์อยู่และมองไปที่ผู้คนที่กำลังเต้นกับอยู่ที่ฟลอร์เต้นรำด้วยความเบื่อหน่ายและคิดว่าถ้าอีก 10 นาทียังไม่มีอะไรน่าสนใจเขาจะออกไปจากที่นี่แล้ว
สถานที่แบบนี้มันเสียงดังจนน่าปวดหูเกินไป เขาชอบอยู่กับความเงียบมากกว่า
“จริงเหรอ? แน่ใจนะว่าอ่านมาถูกอ่ะ?”
พื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ให้คนเข้ามาได้อย่างฟรีๆและข้างในจะเป็นพื้นที่ที่มาเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ ในเวลานี้เด็กหนุ่มที่มีรอยสักรูปหมาป่าสีเทาผลักประตูเปิดเข้ามาและกระซิบที่ข้างหูของชายวัยกลางคน
ทันใดนั้นสีหน้าของชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนไปในทันทีและแสดงถึงความอับอายขึ้นมาทันที