Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 72
ICSS บทที่ 72: ครั้งแรก
“โรงแรมเหรอ?”
“เปิดห้องเหรอ?”
หนิงเทียนหลินนิ่งไปแต่ก็ตอบโต้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีและเขามีความสุขมากเพราะชูหยิชานสามารถพูดเรื่องนี้กับเขาได้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอมองเขาเป็นเพื่อนจริงๆและเหมือนกับว่าเขาและชูหยิชานมีโอกาสได้กันตามลำพัง
ถึงแม้มันจะยากที่จะมีอะไรเกิดขึ้นแต่มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
“ได้แน่นอน แต่ไม่ใช่แค่โรงแรมธรรมดาๆนะ”
“ไปโรงแรมห้าดาวเลยดีกว่า ไปที่ที่เธอจะได้พักอย่างดีและฉันได้ยินมาว่าโรงแรมห้าดาวนั้นมีร้านอาหารดีๆที่สามารถเอามาเสริฟที่ห้องได้ ในเมื่อเธอออกไปกินข้างนอกไม่ได้งั้นเราก็กินอาหารดีๆในห้องกันเลยก็ได้”
หนิงเทียนหลินรู้ความแตกต่างระหว่างโรงแรมธรรมดากับโรงแรมห้าดาว โรงแรมธรรมดาก็พวกโรงแรมขนาดเล็กๆและขนาดกลาง โดยมีเงื่อนไขปานกลางและมันไม่ได้ดีด้วยซ้ำ และโรงแรมดีๆโดยเฉพาะโรงแรมที่มีดาวเป็นโรงแรมดีๆ โรงแรมห้าดาวก็เรียกได้ว่าโรงแรมสุดหรู
ถึงแม้หนิงเทียนหลินจะไม่เคยไปแต่ในทีวี, ในอินเตอร์เน็ตและสื่ออื่นๆต่างก็มีข้อมูลของเรื่องพวกนี้ เมื่อได้ฟังได้เห็นบ่อยๆก็เหมือนเขารู้เรื่องพวกนี้ดีเลย
“โรงแรมห้าดาวเหรอ? ไม่! ไม่เอา! มันแพงเกินไป”
ทันทีที่ชูหยิชานได้ยิน เธอก็ส่ายหน้าทันที
“ฉันจะมีปัญหาจ่ายค่าห้องได้ยังไง! ลองหาโรงแรมเล็กๆเถอะ ฉันพอมีเงินจ่ายได้ 2-3 วัน แล้วฉันจะกลับไปเรียนเมื่อหายดีแล้ว”
เดี๋ยวนี้เธอมักจะพักที่ทำงานเสมอ เธอเลยไม่ได้เช่าบ้านไว้เลย ตอนนี้เธอมีเงินพอที่จะเช่าห้องได้แค่ 2-3 วัน แต่เธอปฎิเสธข้อเสนอโรงแรมห้าดาวของหนิงเทียนหลินอย่างสิ้นเชิง
ในกระเป๋าเธอมีบัตรเครดิตอยู่ซึ่งมีเงินอยู่แค่ 8,000 หยวน เธอใช้ช่วงปิดภาคเรียนนี้ในการหาเงินค่าเรียนและค่าใช้จ่ายสำหรับเทอมสุดท้าย แล้วเธอจะเอาไปใช้ฟุ่มเฟือยได้ยังไง
“ไปกันเถอะ ฉันจะปล่อยให้เธอจ่ายได้ยังไง ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันมีเงิน?”
ทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็ยืดแขนแล้วจับเข้าที่มือขวาของชูหยิชานโดยตรง ช่างนุ่มเหลือเกิน เขารู้ว่าเธอไม่มีวันไปโรงแรมห้าดาวกับเขาแน่ๆนอกจากเธอจะลำบาค เขาปลอบเธอคงจะมีปัญหาเรื่องเงินแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ในใจของหนิงเทียนหลินเขาก็ยังชื่นชมนิสัยของชูหยิชานอยู่ดี หน้าตาสวย ระดับดอกไม้งามของโรงเรียน ตราบใดที่เธอยอม เขาไม่รู้ว่าจะมีคนรวยๆกี่คนที่พร้อมจะเลี้ยงดูเธอขอแค่บอกมา เด็กรวยๆที่โรงเรียน, คนมากมายที่พร้อมจะตกหลุมรักเธอและสู้เพื่อที่จะได้กินข้าวกับเธอมีมากมาย
ในเวลานั้นกระเปาหรือเสื้อผ้าแบรนด์เนมไม่จำเป็นเลย
แต่หนิงเทียนหลินไม่เคยได้ยินเลยว่าเธอเลือกใคร เธออยู่คนเดียวมาโดยตลอด แม้แต่ลูกชายของชานซีในหอพักของเธอ ซึ่งมักจะใช้เงินของครอบครัวเสมอและให้ของขวัญราคาแพงชูหยิชานอยู่เสมอๆแต่เธอก็ปฎิเสธที่จะรับ แม้แต่เพื่อร่วมห้องเธอจะรับไว้ เธอก็จะเอามาคืนและในครั้งนี้หนิงเทียนหลินเดาว่าถ้าไม่ใช่เพราะเงิน เธอก็คงไม่ไปทำงานในโรงอาบน้ำหรอก ในที่แบบนั้นมีคนที่เก่งเรื่องนวดจริงๆแล้วก็มีคนที่เก่งทั้งเรื่องนวดและเรื่องการบริการพิเศษด้วย
ชูหยิชานคงจะต้องทำการนวดธรรมดา
แต่ในสถานที่แบบนั้น มันก็จะมีทั้งลูกค้าธรรมดาและลูกค้าที่หวังอะไรบางอย่าง ถ้ามันไม่เกิดขึ้นวันนี้สักวันชูหยิชานก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้อยู่ดี
“วันนี้นายช่วยฉันไว้ แล้วฉันจะให้นายจ่ายเงินอีกได้ยังไง”
ชูหยิชานอยากที่จะปล่อยมือแต่มือของหนิงเทียนหลินจับเธอไว้แน่นและภายใน 10 วินาที หนิงเทียนหลินก็โบกรถและลากเธอขึ้นไป เธอรีบส่ายหัวอยู่ในใจทันที ค่าใช้จ่ายสำหรับเทอมสุดท้ายของเธอจะต้องหมดแน่ๆ
หนิงเทียนหลินช่วยเธอไว้ แล้วเธอจะปล่อยให้อีกฝ่ายจ่ายเงินแทนเธอได้ยังไง เธอไม่ใช้ผู้หญิงแบบนั้น
“โรงแรมห้าดาวใกล้ๆเลย”
แล้วหนิงเทียนหลินก็ปล่อยมือชูหยิชานและพูดกับคนขับรถในเมืองอื่นๆก็อาจจะไม่มีโรงแรมห้าดาวหรือมีเพียงไม่กี่ที่ แต่นี่ในปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนก็จะมีโรงแรมแบบนี้มากมาย
“แวนด้าฮิลตัน”
20 นาทีต่อมา แท็กซี่ก็มาจอดที่ทางเข้าหลัก ก่อนที่หนิงเทียนหลินจะเปิดประตูพนักงานในชุดสีแดงก็รีบเข้ามาช่วยหนิงเทียนหลินเปิดประตูด้วยความเคารพ หนิงเทียนหลินและชูหยิชานได้รับการต้อนรับอย่างดี
พนักงานต้อนรับไม่ลังเลเลยเพราะหนิงเทียนหลินใส่เพียงแค่เสื้อแขนสั้นและกางเกงจากโรงอาบน้ำ การทำงานตรงประตูไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแค่ต้อนรับด้วยความกระตือรือร้น ถึงแม้ป่วยจะใกล้ตายเขาก็ต้องต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
ถ้าคนพวกนี้ต้อนรับด้วยสายเหยียดหยามเขาก็คงจะต้องมีเจ็บตัวบ้างแล้วล่ะ
“หรูมาก!”
“สวยมากเลย!”
“เยี่ยมไปเลย!”
“ปราสาทโบราณ ไม่มีอะไรเหมือนแบบนี้เลย!”
นี่คือปฎิกิริยาแรกของหนิงเทียนหลินหลังจากที่เดินเข้าประตูมา
ห้องรับรองมีขนาดใหญ่มากๆด้วยความกว้างและสูงเป็นสิบๆเมตร กระเบื้องปูพื้นสีน้ำตาล สะอาดและสวยงามมาก และโคมระย้ารูปหอที่อยู่ด้านบนยาวกว่า 3 เมตร
ที่ตรงกลางมีหินวางอยู่และก็มีน้ำไหลลงมา ที่ด้านข้างยังมีโซฟาสีเหลืองตั้งอยู่ 5-6 ตัวด้วย ไม่จำเป็นต้องลองนั่งเลยหนิงเทียนหลินก็รู้ได้เลยว่าเป็นโซฟาหนัง
หนิงเทียนหลินไม่เคยมาในที่แบบนี้เลยแต่ครั้งนี้เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย ถ้าเขาไม่รู้ว่าตัวเองมีเงินพออยู่ในกระเป๋าและเขาไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม เขาก็คงจะหันหลังออกไปทันทีเมื่อเห็นสถานที่แบบนี้
ก็เหมือนกับชูหยิชานที่ยืนอยู่ข้างเขา หนิงเทียนหลินถึงขนาดได้ยินเสียงหายใจของเธอเลย
“นี่เป็นครั้งแรก”
หนิงเทียนหลินตัดสินใจในหัวใจ
“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณจะค้างคืนใช่ไหมคะ?”
ตรงหน้าเคาน์เตอร์ พนักงานสาวสวยถามหนิงเทียนหลิน
“ค้างครับ” หนิงเทียนหลินตอบออกไป
“เตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่คะ? หรือห้องดีลักซ์เตียงเดี่ยวหรือห้องดีลักซ์เตียงคู่คะ?” พนักงานถามค่อนข้างเร็วและพูดอย่างช่ำชอง
“เทียนหลิน ไป…กันเถอะ”
“ที่นี่แพงเกินไป”
“ห้องเตียงเดี่ยวธรรมดาราคา 1,288 หยวน เงินฉันไม่พอหรอก”
ชูหยิชานตกตะลึงเมื่อมองเห็นป้ายราคาที่กำแพง เธอไม่รู้ว่าแค่อยู่ในห้องมันจะแพงได้ขนาดนี้เลยเหรอ! เงินของเธอไม่ใช่แค่สำหรับค่ากินค่าใช้ในครึ่งเทอมแรกแต่เป็นเป็นค่าเทอมของพรุ่งนี้ด้วย! เธอจับมือหนิงเทียนหลินและกระซิบที่ข้างหูเขา
“โอ้ เลวอะไรขนาดนี้ถึงขนาดให้สาวสวยจ่ายค่าห้องเลยเหรอเนี่ย”
“ถ้าไม่มีเงินก็กลับบ้านไปเลี้ยงนถเถอะ ไป๊!”
ถึงแม้เสียงของชูหยิชานจะเบามาก แต่ชายอ้วนที่อยู่ข้างๆก็ยังได้ยินอยู่ดีและเขาก็พูดกระแนะกระแหนออกมาตรงๆ ชายอ้วนเห็นชายหนุ่มคู่นี้เข้ามาเปิดห้องแต่มาผิดที่แล้วแถมยังไม่มีเงินอีก
พวกนี้น่าจะไปโรงแรมเล็กๆที่อยู่ข้างถนนสิ! มาโรงแรมห้าดาวทำไม! แล้วยังมาแวนด้าอีก!