Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 65
ICSS บทที่ 65: เทียนหลิน ช่วยด้วย!
“อะไรนะ? ไม่มีเงินเหรอ! นี่ล้อกันเล่นหรือไง? ไม่มีเงินแล้วมาที่นี่ทำไม? ถ้าไม่มีเงินแล้วมาเลือกการนวดแบบราชวงศ์ได้ยังไง?”
ที่หน้าของหญิงสาวไม่มีรอยยิ้มอีกแล้ว พร้อมทั้งน้ำเสียงและความนุ่มนวลก็ไม่เหมือนเดิม ในหูของหนิงเทียนหลินได้ยินแต่น้ำเสียงประชดประชัน
“ฉันเพิ่งจะนึกออกว่าตัวเองไม่มีเงิน”
ใจของหนิงเทียนหลินเย็นเยือกไปหมดและแม่นใจมากว่าไม่มีอะไรที่ต้องคุยกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว เธอสนใจแต่เรื่องเงิน ทั้งความปรารถนาและความหลงไหลทุกอย่างก็เพื่อเงินเท่านั้น ใบหน้าเย็นชาของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกแย่มากและในเวลานี้เขาก็ยังสังเกตได้ว่าที่หน้าของอีกฝ่ายพอกแป้งซะจนหนาหลายชั้น มองในแวบแรกมันดูสวยมากแต่เมื่อเข้ามามองใกล้ๆจริงๆ มันแทบดูไม่ได้เลย
“ถ้านายไม่มีเงินแล้วนายมาทำอะไรที่นี่! เป็นเด็กหรือไง? ถ้านายยังไม่เคยลองและนี่เป็นครั้งแรก! แต่ถ้าครั้งหน้านายมาที่นี่อีกนายโดนดีแน่!”
น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเกียจชังและสายตาดูถูก และในเวลาเดียวกันเธอก็หันหลังกลับและไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนเตียงและหันกลับมาพร้อมทั้งเดินออกไปด้วยรองเท้าส้นสูงกว่า 8 ซม. เดินกระแทกพื้นออกไปอย่างหงุดหงิด
“ฮ่า ฮ่า”
เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้หนิงเทียนหลินเกิดความลังเลในหัวใจ เขาอยากที่จะจับอีกฝ่ายมาและโยนเงินใส่หน้าเธอสัก 10,000 หรือ 20,000 หยวน ทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขามีเงินแต่แค่ไม่ให้! แต่เมื่อคิดแบบนั้นถ้าเขาทำจริงๆ อีกฝ่ายก็คงจะไม่ได้โกรธแต่จะมีความสุขแทน
แม้แต่ร่างกายก็สามารถทรยศและละทิ้งศักดิ์ศรีได้ด้วย
เงินคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ไปกันเถอะ นายไปจากที่นี่ได้แล้ว ในอนาคตสถานที่แบบนี้ก็จะค่อยๆหายไป”
ตอนนี้หนิงเทียนหลินไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ที่นี่ต่อแล้ว ในตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นแล้วมันก็ได้เวลาที่เขาจะต้องไปแล้ว
“ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!”
เป็นตอนที่หนิงเทียนหลินกำลังจะเดินออกจากห้องพอดี ความตื่นตระหนกและเสียงร้องไห้ผสมอยู่ในน้ำเสียงที่ดังมาจากตรงทางเดินและก็มีคนวิ่งออกมาจากประตูห่างไปประมาณ 20-30 เมตรข้างหน้า
และทันทีกับที่ผู้ชายอีกคนที่วิ่งออกมาจากห้องและจับเข้าที่ผมของเธอและลากเข้าไป
“จะทำอะไร! ของคนที่บริสุทธิ์หน่อยได้ไหม! มันลำบาคมากนักหรือไง?”
ชายคนนี้เปลือยร่างกายช่วงบนและปากก็กร่นด่าไปด้วย เขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามีใครอยู่ที่ทางเดินบ้าง หลังจากที่เขาลากผู้หญิงเข้าไปในห้องแล้ว เขาก็กระแทกประตูปิดอย่างดัง
“ชู หยิชาน! เธอคนนี้คือชู หยิชาน!”
หัวของหนิงเทียนหลินงุนงงเล็กน้อยเพราะผู้หญิงที่สวมชุดเครื่องแบบที่เพิ่งโผล่มาปรากฎว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องของเขาเอง ชู หยิชาน!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชู หยิชานคนนี้เป็นที่รู้จักกันในนามสาวงามของชั้น, ของแผนก และแม้แต่ของโรงเรียนด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าปกติเธอจะสวม
ชุดธรรมดาๆและไม่ได้แต่งตัวสวยอะไรแต่ในบางโอกาสเธอก็ใส่ชุดเดซี่สีชมพู และการปรากฎตัวของเธอก็จะทำให้หนุ่มๆทุกคนต้องตกตะลึง!
เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! เป็นหมอนวดงั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตามหนิงเทียนหลินก็รีบตอบโต้ในทันที เธอกำลังอยู่ในอันตราย เธอดูเหมือนจะกำลังถูกบังคับ เขาเพิ่งออกมาจากห้องแต่ก็รู้ว่าฉากภายในห้องข้างในเป็นยังไง ทันทีที่ประตูปิดไปมันจะทำอะไรเธอก็ได้!
“โอ้!”
โดยไม่ลังเลเขารีบวิ่งไปในทิศทางนั้นทันทีและเขาอาจจะไม่สนใจใครก็ได้แต่เธอคนนี้เป็นเพื่อนร่วมห้องของเขาและถึงแม้ในช่วงการฝึกทหารครั้งแรกเธอก็ยืนห่างจากเขาอยู่ไม่ไกล! และเรื่องความสัมพันธ์ก็ไม่ได้แย่อะไร
ครั้งนี้เขาต้องจัดการ!
นอกจากนี้ในเวลานี้เขาก็ยังเห็นว่ามีคน 3-5 คนอยู่ตรงทางเดินและพวกนั้นทั้งหมดเป็นพนักงานแต่ก้แค่ยืนกันเฉยๆ ไม่มีใครเดินเข้าไปช่วยเลยและเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขาถึงขนาดได้ยินเสียงจะพนักงานผู้หญิงพูดว่า
“โชว์สนุกจริงๆ”
“ปล่อยให้เบอร์ 36 บริสุทธิ์มาตั้งนาน ยอมนวดแค่แบบฮ่องกง, แบบไทย, นวดน้ำมัน แต่ไม่ยอมนวดแบบราชวงศ์แต่กลับมาทำงานที่นี่ รนหาที่เอง ใช่ น่าสมเพชจริงๆ”
จากน้ำเสียงมีแต่ความพออกพอใจ
“เพราะงี้เราถึงทำเรื่องที่เธอไม่ทำงานเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเธอยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลยใช่ไหม? อวดดีจริงๆ เดี๋ยวนี้นักเรียนก็มีทุกที่แหละ ทำมาเป็นอ้าง!” ผุ้หญิงอีกคนที่ไม่ได้แนะนำตัวพูดขึ้นมา
“พวกเธอจำไว้นะ!”
หนิงเทียนหลินไปถึงหน้าประตูของห้องแล้วแล้วก็หยุดในทันที แทนที่เขาจะเคาะไปที่ประตูแต่เขากลับยืดแขนขวาออกไป พร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงสองคนนั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา ตัดสินใจที่จะรอให้พวกเขาออกมา เขาต้องทำให้สองคนนี้ชดใช้เรื่องนี้ คนที่เคี้ยวลิ้นอยู่ด้านหลังน่ารังเกียจที่สุด!
“ปัง!”
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ลังเลและไม่ได้ดูปฎิกิริยาของผู้หญิงสองคนนั้น เขาเตะเข้าไปที่ประตูแทนการ “เคาะ” ประตูทั้งบานล้มไปใต้เท้าเขาและลอยไปชนกับกำแพงข้างใน ทำให้ชายที่กำลังนอนทับตัวชู หยิชานต้องตกใจและหยุดถอดเสื้อผ้าเธอไปได้สักพัก
“ใครกันว่ะ! กล้าดียังไงมากวนใจหลาว ซู!”
ชายคนนี้ยังไม่ลุกขึ้นแต่เขาแค่กรนด่าออกมา เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีใครกล้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่กลัวหรอก เขาพร้อมที่จะลงมือ
“ปัง!”
ทันทีที่คำพูดจบลงเขาก็รู้สึกถึงมือใหญ่อันทรงพลังที่จับเข้าที่คอของเขาแล้วก็เกิดความเจ็บขึ้นมาทันที ร่างกายทั้งร่างเริ่มที่จะลอยกลับหัวภายในไม่กี่วินาทีแล้วชนเข้ากับขอบโต๊ะอย่างจัง
“โครม!”
โต๊ะสีแดงหักแยกเป็นสองส่วนและถึงแม้จะมีทีวีตั้งอยู่ด้วยทำให้เครื่องทีวีระเบิดและมีประกายไฟออกมา
และการปะทะนี้ค่อนข้างจะรุนแรงจนเขารู้สึกว่าอวัยวะภายในถึงกับสั่นและที่มุมปากก็มีเลือดไหลออกมา และสันหลังก็ดูเหมือนจะหัก และแม้แต่หัวเขาก็ออกจะเขียวขึ้นมาหน่อยๆซึ่งเป็นผลทำให้เขารู้สึกเหมือนจะเป็นลม
“ชู หยิชาน! ช่างมันเถอะ”
หนิงเทียนหลินไม่สนใจอาการของอีกฝ่ายเลยแต่เขากลับจ้องไปที่
ชู หยิชานที่นอนอยู่บนเตียงอาการแทบจะไม่ไหว ในเวลาเดียวกันเขาก็ก้มลงไปพร้อมที่จะอุ้มเธอขึ้นมาจากเตียง
ในเวลานี้ ชูหยิชาน หน้าของเธอมีรอยเขียวช้ำ, หัวของเธอก็มีเลือดสีแดงสด, ที่คอก็มีรอยช้ำ, และเสื้อผ้าของเธอก็ฉีกขาดเละไปหมด เขาอุ้มเธอขึ้นมาแต่เธอไม่ให้เขาแตะตัว เขาเลยเลี่ยงที่จะแตะตัวเธอ
แต่มันเห็นได้ชัดว่าเธอถูกซ้อมมาอย่างหนักโดยชายคนนี้ก่อนที่เธอจะพยายามหนีออกจากห้อง
ทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็รู้สึกโมโหขึ้นมาอีกครั้ง
“เทียนหลิน!”
ในเวลานี้เธอสลบไปแล้วและดูเหมือนว่าจะได้ยินคนเรียกชื่อ เมื่อเธอได้ยินบางคนเรียกชื่อเธอและมองไปตรงหน้า เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอ หนิงเทียนหลินกำลังมองมาที่เธอ จึงรีบลุกขึ้นมาจากเตียงทันทีและไม่ได้มองสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจับเข้าที่แขนของหนิงเทียนหลินและร้องไห้
“เทียนหลิน ช่วยฉันด้วย!”
“ช่วยฉันด้วย!”
“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่”
สาวไม้งามกำลังร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดภายในอ้อมกอดของเขา