Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 58
ICSS บทที่ 58: เขาชอบปลา
“ตามเธอเหรอ?”
หนิงเทียนหลินตัวแข็งแล้วก็รู้สึกขำหน่อยๆ
“ทำไมฉันต้องตามเธอด้วย? ฉันมาที่นี่เพราะฉันมีธุระบางอย่าง”
ในเวลาเดียวกันเขาก็จ้องไปที่คุณอาหวัง
“ที่นี่ไม่มีปลาคาร์พขาย คุณไปที่อื่นเถอะ”
เมื่อพูดจบโดยไม่รอคำตอบจากทั้ง 2 สาว เขาก็ปิดประตูทันทีพร้อมทั้งล็อคประตูจากด้านในทันที
เขาแค่อยากจะผ่านวันนี้ไปอย่างเงียบๆและกลับไปที่โรงเรียน เด็กสาวร่ำรวยแบบหลินเจียอี้และคนแบบพ่อเธอ เขาไม่อยากที่จะยุ่งด้วยหรอก
“นาย! นายทำแบบนี้ได้ยังไง?”
หลินเจียอี้ไม่ได้คาดว่าอีกฝ่ายจะทำแบบนี้และเขาไม่แม้จะอธิบายกับเธอด้วยซ้ำ เธอเลยรู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อยแต่เมื่อเธอคิดถึงที่อีกฝ่ายจากไปเมื่อวันนั้นทำให้เธอและครอบครัวไม่พอใจอย่างมาก
“คนพวกนี้เป็นใครกัน? นี่ร้านขายปลาไม่ใช่เหรอ?”
ถึงแม้คุณอาหวังจะเป็นพี่เลี้ยงแต่ในจินฉวน หลายร้านก็ดีใจเมื่อได้เห็นเธอมาก เธอเป็นพี่เลี้ยงของตระกูลหลินในเมืองเล็กๆอย่างจินฉวนซึ่งมีหลายคนที่อยากจะเข้ามาทำธุรกิจด้วยมากมาย
เธอไม่ใช่พี่เลี้ยงธรรมดาๆนะ!
“ไปเถอะ เจียอี้ ไปกัน ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตกัน! อย่ามาที่นี่อีกเด็ดขาด”
คุณอาหวังเริ่มจะรู้สึกโมโหเลยพูดออกไปและทันทีที่เธอกำลังจะดึงมือหลินเจียอี้ เธอก็ต้องรู้สึกแปลกหน่อยๆ เพราะตอนนี้คุณหลินพูดออกมาว่า “นายตามฉันมาทำไม?” พวกเขารู้จักกันงั้นเหรอ?
เธอรู้สึกอยู่ในใจว่าไม่อยากให้คุณหลินมาค้องเกี่ยวอะไรกับคนฆ่าปลานี่ และอีกฝ่ายก็ดูหยาบคายและไม่เอาไหนมากๆด้วย
ทันใดนั้นหลินเจียอี้ก็ถูกดึงออกมาจากที่นั่น
“ปัง!”
“ปัง!”
“ปัง!”
เมื่อหลินเจียอี้สะบัดมือหลุด เธอรีบตรงเข้าไปทุบประตูร้านขายปลาพร้อมทั้งพรั่งพรูคำพูดออกมามากมาย
“นายยังโกรธพ่อฉันอยู่งั้นเหรอ? พ่อไม่รู้ว่านายช่วยชีวิตฉันไว้จริงๆ แต่คิดว่านายเป็นอีกคนที่มาหลอกท่าน นายบอกฉันมานะว่าวันนั้นโจรพวกนั้นหายไปไหน? ทำไมในบ้านถึงไม่มีอะไรเลย?”
ถ้าศพพวกนั้น, กองเลือด, มีดมากมายและปืนยังอยู่ที่นั่นมันก็คงไม่มีการเข้าใจผิดกันหรอก เธอสงสัยเรื่องนี้มาตลอดว่าของพวกนั้นมันหายไปไหนกัน? วันนั้นเด็กหนุ่มแค่ลงมาทีหลังเธอเล็กน้อย แต่ทุกอย่างก็หายไปหมดแล้ว!
ทุกอย่างวันนั้นเหมือนอย่างกันความฝัน!
ไม่ว่าเขาจะปลุกตัวเองมากแค่ไหนมันก็กลับไปแก้อะไรในห้องนั้นไม่ได้แล้ว แล้วหนิงเทียนหลินจะอธิบายเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะ
“นายเปิดประตูมาเลยนะ! แล้วเงิน 400,000 หยวนอีกล่ะ ฉันให้นายยืมแค่ 4,000 หยวนเองนะ ทำไมนายถึงคืนฉันมาตั้ง 400,000 หยวนล่ะ? แล้วนายรู้เลขบัญชีฉันได้ยังไง?”
หลินเจียอี้ยังคงเคาะประตูและถามต่อไปเรื่อยๆ
ทุกอย่างมันแปลกไปหมด วันนี้เธอจะต้องถามให้รู้เรื่อง ไม่งั้นเธอนอนไม่หลับแน่ๆ! ที่ผ่านมากลายเป็นว่าเธอใช้เหตุผลที่ว่าเขาเป็นผีเพื่อหลอกตัวเองแต่ตอนนี้ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ใช่ผี งั้นเรื่องทุกอย่างมันก็น่าสงสัยไปหมด จะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ว่ายังไง!
เรื่องนี้มันตามหลอกหลอนจิตใจเธอมาตลอด!
“ใครกันที่จะรวยขนาดนั้นและยอมที่จะให้เงินคนอื่นตั้ง 400,000 หยวน!”
ภายในร้านหนิงเทียนหลินพร้อมกริซที่อยู่ในมือยังคงฆ่าปลาอย่างเร่งรีบ ใน 10 นาทีเขาก็คงจะจัดการทั้งหมดเสร็จ แล้วจะได้ไปอาบน้ำแล้วกลับไปที่โรงเรียน แต่เมื่อเขาได้ยินหลินเจียอี้ที่อยู่ข้างนอกพูดถึงเงิน 400,000 หยวน หัวใจเขาก็ถึงกับกระโดดโลดเต้น
“ทำไมล่ะ? แน่นอนว่านั่นเพื่อเกียรติของระบบการต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาล! มันช่างสูงส่งเหลือเกิน!”
หนิงเทียนหลินฆ่าตกรรมแต่ในใจเขาก็หวังว่อีกฝ่ายจะให้เงินเขา 400,000 หยวนหลังจากที่เขาได้ช่วยชีวิตเอไว้!
“ฉับ!”
“ฉับ!”
หนิงเทียนหลินขี้เกียจที่จะคิดเรื่องนี้ ยังไงซะตอนนี้เขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงินแล้ว ไม่ว่าจะต้องการเท่าไรขอแค่เวลาให้เขาหน่อย เขาก็กล้าที่จะท้าดวลกับคนที่รวยที่สุดในโลกอย่างบิลล์ เกต์สได้เลย! แค่เงิน 400,000 ไม่ได้หายากอะไรหรอก เขาโบกมือและยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
“พูดมาสิ! พูดออกมา!”
หลินเจียอี้ที่อยู่นอกร้าน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจเธอเลย ก็ยิ่งเคาะประตูแรงขึ้นๆจนมืออันบอบบางเริ่มจะเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่เปิดประตูออกมาแน่ๆไม่ว่าเธอจะทุบประตูแรงแค่ไหน มันก็ไม่มีอะไรแตกต่าง
“เจียอี้ คุณหนู…รู้จักกันเหรอคะ?”
ในเวลานี้แน่นอนที่คุณอาหวังเริ่มที่จะเห็นเค้ารางๆแล้ว เพียงแต่ว่าเรื่องที่พวกเขาคุยกัน เรื่องเงิน 400,000 เธอไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไร เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น หลินซวงไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพี่เลี้ยงอย่างเธอ หรือภรรยาของหลินซวง แม่ของหลินเจียอี้ เขาก็ไม่เล่าให้ฟังเช่นกัน! เรื่องแบบนี้ผู้ชายสามารถจัดการเองได้และจะถือเป็นภาระของตัวเอง ซึ่งจะไม่เอามาทำให้ครอบครัวต้องเป็นห่วง
“ค่ะ”
หลินเจียอี้พยักหน้า
“คุณอาหวัง กลับไปก่อนนะคะ หนูจะรอจนกว่าเขาจะออกมาแล้วเดี๋ยวหนูจะกลับไปเอง”
หลินเจียอี้ไม่อยากให้คุณอาหวังเข้ามายุ่งกับเรื่องพวกนี้ด้วยและเรื่องนี้จะต้องห้ามบอกพ่อของเธอไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้พ่อของเธอก็กำลังพลิกโลกเพื่อตามหาเขาอยู่ด้วย!!
ทันทีที่ความคิดของเธอกลับมา เธอก็พูดต่อ
“คุณอาหวัง เขาเป็นเพื่อนของหนูที่โรงเรียนอยู่ที่เมื่องจินฉวนเหมือนกับเรา ครอบครัวเขาจนมากเลยมาทำงานช่วงปิดเทอมหน้าร้อน เขามาที่นี่เพื่อฆ่าปลาและขายปลา ครั้งล่าสุดหนูให้เขายืมเงินไป 4,000 เหรียญ แล้วเพิ่งจะคืนมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง หนูไม่คิดว่าเขาจะได้เงินจากการฆ่าปลาและขายปลาอยู่ที่นี่”
“เงิน 400,000 เป็นเงินค่าใช้จ่ายที่พ่อให้มาสำหรับช่วง 2-3 ปี หนูเข้าใจผิดเอง”
ในขณะที่กำลังโกหก เธอก็ดันให้คุณอาหวังออกมาด้วย
“คุณอาหวัง กลับไปก่อนนะคะ หนูจะรอจนกว่าเขาจะออกมาก เขาเป็นเพื่อนหนู ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เมื่อเขาออกมา หนูจะชวนเขาไปทานข้าวด้วย เขาชอบปลามาก เขาอาจจะไม่อยากให้หนูต้องมาเห็นเขาฆ่าปลาที่นี่ ที่กลัวเมื่อกี้ก็แค่เรื่องล้อเล่นน่ะค่ะ”
หลินเจียอี้ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอจะเล่าเรื่องโกหกได้เนียนขนาดนี้และทันทีที่เธออ้าปาก ข้ออ้างเรื่องเมืองจินฉวน, เพื่อร่วมชั้นเรียน ก็คงช่วยให้คุณอาหวังคลายข้อสงสัยไปได้บ้าง
“งั้น…ก็โอเคค่ะ ในเมื่อเป็นเพื่อนที่โรงเรียนของคุณหนู อาก็จะไม่ห้ามแล้ว”
เธอรู้ดีว่าถ้าเป็นเธอการเจอเพื่อนตอนที่กำลังซื้อปลาอยู่ในต่างเมืองอย่างปักกิ่งก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กับหลินเจียอี้เอไม่ค่อยอยากที่จะเชื่อเท่าไร
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลินเจียอี้ไม่เคยที่จะโกหกเธอเลย งั้นมันก็อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้
“แต่รีบกลับนะคะ นี่ก็เกือบจะ 11 โมงแล้ว คุณหนูต้องกลับบ้านก่อน 6 โมงเย็นนะคะ”
คุณอาหวังพูด 6 โมงเย็นตอนสิ้นเดือนสิงหาคมมันก็ยังสว่างอยู่ยังไม่ถึงกับมืดเท่าไร
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะคุณอาหวัง”
หลินเจียอี้ผลักให้คุณอาหวังกลับไปแล้วหันกลับมา ท่าทางไม่ค่อยพอใจแล้วนั่งลง มองจ้องไปที่ร้านที่ติดป้ายว่า
“ห้ามเปิดประตู! ฉันไม่เชื่อหรอกนะ ในห้องนั้นมีแต่เลือด กลิ่นปลาก็เหม็นจะตาย นายจะอยู่ในนั้นไม่ออกมาได้ยังไง!”
“ฉันจะรอให้นายออกมาตรงนี้นี่แหละ!”