Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 126
ICSS บทที่ 126: อนาคตดาวรุ่ง
“อาวุธเย็น”
“ฉันเคยบอกนายแล้วไงว่ามีเพียงอาวุธเย็นเท่านั้นที่สามารถรวบรวม
วิญญาญได้ และอาวุธร้อนจะทำลายวิญญาณพวกนี้”
“ถ้าอาวุธร้อนมันโอเค นายก็สามารถแลกกระสุนฮีเลียมจากฉันได้แล้ว
ยิงมันออกไปเพื่อที่จะได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตได้เยอะๆ ในกรณีนั้น วิญญาณที่นายจับมาก็เยอะมากแต่มันเป็นไปไม่ได้! อาวุธร้อนจะทำลายการเก็บพลังงานของฉันหมด”
“เพราะงั้นทำงานให้หนักและตัดคอพวกมันด้วยมีด เมื่อพลังในการต่อสู้จริงๆของนายได้ขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า นายก็จะรู้เองว่อาวุธเย็นเป็นราชาของการต่อสู้เลย ถ้านายทำได้อย่าว่าแต่แค่ทำลายโลกเลย แม้แต่ทั้ง
กาแล็กซี่ก็สบายๆ!”
ระบบการต่อสู้ สร้างภาพในหัวของหนิงเทียนหลิน
“โอเคๆ”
หนิงเทียนหลินพูดไม่ออกแต่เพียงแค่พูดตอบระบบการต่อสู้ออกไปและเขาก็เห็นด้วย ถึงแม้ว่าในวันนี้อาวุธเย็นจะดูไร้ประโยชน์ มันขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในมือใครมากกว่า! หนิงเทียนหลินกล้าที่จะสู้ด้วยมีดกับคนที่มีปืนไรเฟิลด้วยซ้ำ
แล้วคนที่ตายก็จะต้องเป็นอีกฝ่ายแน่ๆ!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสมบัตรทางร่างกายที่ดีเยี่ยมขนาดนี้ ไม่ว่าจะกระสุนหรืออะไรก็ตามที่มาโดนตัวก็คงเหมือนแค่ยุงกัดแม้จะเป็นอาวุธที่ร้ายแรงมากก็ตาม
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง 8 นาที
“ติ่ง เจ้านาย การถ่ายทอดสดของน้องสาวนายเริ่มแล้วนะ อยากดูไหม?”
ตอนที่หนิงเทียนหลินกำลังฆ่าวัวพวกนี้อยู่อย่างเมามัน เสียงเตือนของระบบการต่อสู้ก้ดังขึ้นมาในหูของเขา ซึ่งก็เป็นอย่างที่สตาร์วอร์สบอกไว้เมื่อคืนว่าถ้าน้องสาวเขา หนิงเทียนซินเริ่มถ่ายทอดสดเมื่อไร มันจะมาบอกเขาอย่างแน่นอน
“ดูสิ”
หลังจากที่หนิงเทียนหลินฆ่าวัวมาอย่างต่อเนื่อง เขาก็เก็บมีดและพยักหน้าเป็นการยืนยัน
….
ที่สนามของวิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือ
สนามหญ้าสีเขียว ลู่วิ่งสีแดงมีเส้นสีขาวแบ่งแยกและราวสีฟ้าทำให้ที่นี่ดูสะอาดสุดๆ โดยเฉพาะตอนนี้ที่สนามแสนสะอาดนี้เต็มไปด้วยเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่สวมชุดเครื่องแบบทหารสีเขียวที่สะอาดและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเด็กๆ
แต่ในเวลานี้มีเด็กหนุ่มและเด็กสาวบางคนที่กำลังนั่งยองๆ, หรือนอนลงไปกับพื้นหญ้า บางก็ยืนอยู่เพราะพวกเขาเพิ่งจะยืนในท่าทหารมานานกว่าชั่วโมงและพวกเขาก็เหนื่อยกันมาก วันนี้ระหว่างคาบเรียนจะมีเวลาพักเบรค 20 นาที
แต่ก็ยังมีคน 5-6 คนที่กำลังถือไม้เซลฟี่โทรศัพท์มือถือและกำลังพูดคุยท่ามกลางฝูงชน ถ้าเข้าไปมองใกล้ๆก็จะเห็นว่าคนพวกนี้ต่างก็ทั้งสวย, สูง, ผิวขาวและคราบเหงื่อที่ไหลออกมาหลังจากที่ต้องยืนมาเป็นชั่วโมงก็ถูกพวกเอเช็ดออกไปแล้วด้วยผ้าที่เตรียมมาและพวกเธอต่างก็แต่งหน้าเพิ่มเข้าไปอีก
พวกเธอต่างก็เป็นผู้ประกาศ แต่ละคนก็คนละช่องสถานีแต่ต่างก็ทำเป็นพาร์ทไทม์กันทั้งนั้นเพราะพวกเธอยังเป็นนักเรียนอยู่ การหาเงินก็เปาเป้าหมายหนึ่งแต่ที่มากกว่านั้นก็เพื่อเพิ่มความโด่งดังให้กับตัวเองโดยผ่านการเป็นผู้ประกาศของสถานี
เพราะพวกเธอต่างก็จะไปเป็นดาราดังในอนาคต
ช่องทางการถ่ายทอดสดจึงเป็นเหมือนการฝึกความสามารถ
ดังนั้นถึแม้คนส่วนใหญ่จะนั่งพักกันอยู่ที่สนามและคอยมองพวกเธออยู่ แต่ก็ไม่มีความเขินอายเลยเพราะในอนาคต ทีวี หนังและละครก็จะต้องถูกห้อมล้อมไปด้วยคนดู ถ้ารับเรื่องนี้ไม่ได้แล้วในอนาคตจะเป็นดาราได้ยังไงกันล่ะ
และตอนนี้ก็เป็นการฝึกทหารของสถาบันศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน นักศึกษาปีหนึ่งจะต้องมีฝึกทหารรวมกันและแค่การโห่ร้องอย่างเดียวก็เรียกให้คนเข้ามาดูได้มากมายแล้ว ในบางครั้งจะได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากปากพวกเธอและคำพูดขอบคุณสำหรับคนที่ส่งสติ๊กเกอร์มาให้พวกเธอ
ที่สนามเพราะมีพวกเธอก็เลยทำให้บรรยากาศยิ่งสดใสเข้าไปใหญ่ แม้แต่ครูฝึกบางคนก็รู้สึกสดชื่นไปด้วย
“ยินดีต้อนรับนะคะคุณมาสเตอร์แคท ยินดีต้อนรับสู่ห้องถ่ายทอดสดของความสุขที่รักนะคะ”
มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในกลุ่ม ร่างสูงและสวมหมวกทหารด้วย กำลังยืนอยู่เงียบๆและถ่ายทอดสดไปด้วย แต่เอไม่มีไม้เซลฟี่อยู่ในมือ เธอแค่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือและขยับเข้าขยับออกไปมา
เมื่อเธอเห็นว่ามีใครเข้ามาดู เธอก็จะรีบทักทายด้วยรอยยิ้ม แม้อาการจะแสดงออกถึงความตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะมาสเตอร์แคทคนนี้เป็นคนดูคนแรกของเธอเลย และเธอเห็นว่าที่มุมบนของหน้าจอขึ้นคำว่า LV2
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามของวิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือ ฉันเป็นนักเรียนปีหนึ่งและกำลังถ่ายทอดสดการฝึกทหารของพวกเด็กปีหนึ่ง พวกคุณเห็นไหมรอบๆตัวฉันมีแต่เด็กปีหนึ่ง มีทั้งหนุ่มหล่อและสาวสวยมากมายเลย พวกเขากำลังนั่งพักกันอยู่ค่ะ”
ขณะที่พูด เด็กสาวก็หันโทรศัพท์เพื่ออยากที่จะให้คนดูเพียงคนเดียวของเธอได้เห็นว่าในเวลานี้กำลังพูดถึงอะไรกันอยู่
และเด็กสาวคนนี้ก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นหนิงเทียนซิน ที่เพิ่งจะลงทะเบียนสมัครกับทางโดวยูทีวีเมื่อคืนและถ่ายทอดสดครั้งแรกวันนี้เอง
“หยุดเลย! หยุด! หยุดไปเลย!”
“ถ่ายอะไรกันเนี่ยไกลขนาดนั้น ขนาดหน้าเธอเองฉันยังมองไม่ชัดเลย ไม่ต้องพูดถึงคนพวกนั้นเลย! ให้มองสาวสวยแต่กลับเห็นแต่อะไรก็ไม่รู้!” คนดูคนหนึ่งพิมลงไปที่หน้าจอและเมื่อพิมเสร็จก็ออกไปจากห้องแชททันทีโดยไม่รอให้หนิงเทียนซินได้มีเวลาตอบโต้อะไรเลย
“ยินดีต้อนรับนะคะอาปิน ยินดีต้อนรับเข้าสู้สตูดิโอของความสุขที่รักนะคะ”
หนิงเทียนซินรู้สึกเสียใจมากแต่กก่อนที่จะมีเวลาได้เศร้า ผู้ชมอีกคนก็เข้ามาในห้องแชทของเธอและเธอก็รีบกล่าวทักทายทันที
“ฉันล่ะเศร้าจริงๆ! ในห้องแชทนี้มีแค่เธอกับฉันแค่นั้นเอง ฉันอยากจะเข้ามาดูจริงๆว่าเธอจะน่าเกลียดขนาดไหนถึงได้ไล่คนดูหายไปหมดแบบนี้ได้!”
ทันทีที่ชายหนุ่มเข้ามาในห้องแชท เขาก็พิมข้อความลงไปที่หน้าจอทันที “ชื่อห้องแชทก็กล้าหาญจริงๆนะ คนอะไรกล้าตั้งชื่อว่า “อนาคตดาวรุ่ง” ไหนขอดูหน่อยสิว่าอนาคตดาวรุ่งยังไง?”
“สวัสดีค่ะอาปิน ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามของวิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือ ฉันเป็นนักเรียนปีหนึ่งของคณะการแสดง สิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่คือการถ่ายทอดสดการฝึกทหารของเด็กปีหนึ่ง เห็นไหมคะรอบๆตัวเรามีแต่พวกเด็กปีหนึ่งที่ทั้งหล่อและสวยเต็มไปหมดเลยและพวกเขาก็กำลังพักผ่อนกันอยู่ด้วย”
เพราะนี่เป็นการถ่ายทอดสดครั้งแรกของหนิงเทียนซิน เธอดูเหมือนไม่ค่อยมีประสบการณ์จึงพูดตามบทที่ได้เตรียมมาตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกเหนื่อยที่ต้องคอยยิ้มให้กับคำพูดร้ายๆของคนอื่นแล้ว
“วิทยาลัยศิลปะปักกิ่งงั้นเหรอ?”
“เธอเป็นนักเรียนปีหนึ่งของวิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือเหรอ?”
ในเวลานี้ผู้ชมอีกคนที่ชื่อ “บัคส์ คัมมิ่ง อิน” ได้เข้ามา เขารู้สึกสนใจกับชื่อของห้องแชทที่ชื่อ “อนาคตดาวรุ่ง” จนอยากที่จะเห็นว่าใครกันที่มั่นใจจนประกาศอะไรแบบนี้ออกมา!
อนาคตดาวรุ่ง หันมาเป็นผู้ประกาศงั้นเหรอ?
เขาเพิ่งได้ยินการแนะนำตัวของหนิงเทียนซินก้ถึงกับถอนหายใจและตามด้วยความรู้สึกมีความสุข เพราะเขารู้ดีว่าสถาบันศิลปะปักกิ่งเหนือคืออะไรและที่นี่เป็นแหล่งผลิตนักแสดงและดาราเก่งๆของจีนเลย
เกือบครึ่งของดาราหนังในปัจจุบันก็จบมาจากที่นี่
และตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาในห้องแชทของนักเรียนจากที่นี่ด้วยจริงๆ!
ใช่เลย อนาคตดาวรุ่ง ในกลุ่มคนพวกนี้จะต้องมีสักคนหรือสองคนแหละที่จะได้เป็น!