Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 114
ICSS บทที่ 114: เลี้ยงคุณเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยง
“มีเรื่องอื่นอีกเหรอ?”
คณบดีฝางขมวดคิ้ว เหตุการณ์นั้นทำให้เขารู้สึกอับอายเล็กน้อยและเขาจะต้องมีข้อร้องเรียนในหมู่นักเรียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ แต่ตอนนี้หนิงเทียนหลินยังมีเรื่องอื่นอีก! เขาเริ่มจะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังควบคุม
“ชีวิต” ของเขาอยู่และเขาทำได้แค่เพียงทนจึงถามออกไป “เรื่องอะไร?”
“ถ้ายากเกินไป ฉันก็ทำให้ไม่ได้หรอกนะ!”
“ไม่ยากหรอก” หนิงเทียนหลินยิ้ม “ก็แค่ว่าผมอาจจะไม่ได้มาเข้าเรียนบ่อยๆ เวลาส่วนใหญ่มันยากี่จะอยู่ในโรงเรียนเพราะผมมีอย่างอื่นที่จะต้องทำ ผมเลยอยากให้หัวหน้าคณะไปคุยกับพวกอาจารย์และจัดการเรื่องนี้ด้วย”
“ทำให้เรื่องการเรียนของผมราบรื่น”
พูดตรงๆตอนนี้หนิงเทียนลินไม่ได้สนใจเรื่องที่โรงเรียนแล้วแต่ในอนาคตเขายังต้องการตัวตน การเป็นนักเรียนที่นี่เป็นเกราะป้องกันที่ดี ถึงแม้พ่อแม่เขาจะรู้แล้วว่าเขายังไม่ตายเขาก็ยังอยากที่จะให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป
แต่ตอนนี้เมื่อมีระบบการต่อสู้เข้ามา เขาก็คงจะอยู่ที่โรงเรียนไม่ได้บ่อยๆงั้นต้องเตรียมตัวไปก่อนล่วงหน้า
“นี่…”
คณบดีฝางคิดว่าอีกฝ่ายจะขาอะไรที่มากเกินไปแต่นี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย ตราบใดที่เขาไม่ต้องไล่ใครออก แค่เรื่องความคิดเห็นของพวกอาจารย์เป็นไร้สาระมาก! ทุกการตัดสินใจจะต้องได้รับการอนุมัติจากหัวหน้าภาคของเขา
นอกจากนี้พวกอาจารยืก็ไม่ได้โง่ ถ้าพวกนั้นเห็นว่าเขาปกป้องหนิงเทียนหลินก็อาจจะสงสัยและคิดว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆแล้วก็ต้องสืบหาความจริง แต่ถ้าเขาไม่มีเข้าเรียนก็ไม่มีอะไรเหลือให้ต้องทำ
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
คณบดีฝางพยักหน้าและรับรองออกมาว่าเขาทำได้
“กริ๊ง!”
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของฝางแอนหนิงก้ดังขึ้นมาและเตือนเขาว่ามีข้อความเข้ามา เพียงแค่ในเวลานี้เพราะจากเรื่องของหนิงเทียนหลินทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะเปิดออ่านเท่าไรแต่แค่จ้องไปที่หนิงเทียนหลินว่าเขาจะโอเคหรือเปล่า
“คณบดีฝาง คุณน่าจะเปิดข้อความอ่านหน่อยนะครับ คุณไม่สนใจเรื่องเงินหรือไง? เงินตั้ง 5 ล้านเลยนะครับ”
อยู่ดีๆหนิงเทียนหลินก็พูดออกมา พร้อมทั้งเอนตัวพิงไปที่โซฟาแล้วจ้องมาที่หน้าของฝางแอนหมิง เขาไม่จำเป็นต้องมองเลยแต่เขาก็รู้ว่าเป็นข้อความของอะไรเพราะเขาถามระบบการต่อสู้ให้ดูให้เขาแทนอยู่ในใจ
“ว่าไงนะ?”
ฝางแอนหมิงขมวดคิ้ว สงสัยว่าหนิงเทียนหลินกำลังพูดเรื่องอะไรแล้วมีข้อความอะไรที่ส่งมา 5 ล้านเหรอ เขาได้ยินอย่างชัดเจนและรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากโต๊ะ รีบเปิดดูในทันที
“เรียนท่านลูกค้า บัญชีของท่านที่ลงท้ายด้วยเลข XXXX ได้รับยอดโอนเข้ามา 5 ล้านหยวน กรุณาตรวจสอบได้เลย!”
ไม่ใช่ข้อความที่ยาวมากนักแต่ปฎิกิริยาของฝางแอนหมิงกลับช็อคอย่างมาก เขามองมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ เขารู้ได้เลยว่าเงิน 5 ล้านนี้จะต้องมากจากหนิงเทียนหลินคนที่อยู่ตรงหน้าเขาแน่ๆ! ไม่งั้นอีกฝ่ายคงไม่เตือนให้เขาอ่านข้อความในโทรศัพท์หรอก
“ฝีมือเธอเหรอ?”
นอกจากอาการช็อคของฝางแอนหมิงแล้วก็ยังมีความไม่อยากจะเชื่อด้วย นี่มันเงิน 5 ล้านหยวนเลยนะไม่ใช่ 500! นักเรียนธรรมดาๆจะมีเงินขนาดนี้ได้ยังไง! หนิงเทียนหลินเป็นลูกหลานเศรษฐีหรือไง?
อย่างไรก็ตามเขารู้ข้อมูลของพวกนักเรียนมานานแล้ว เขารู้มานานแล้วว่าใครที่มีเงินหรือไม่มีเงิน แต่ใครเป็นลูกเศรษฐีหรือใครไม่ใช่เขาไม่มีข้อมูลเรื่องพวกนี้เลย
ดังนั้นเขาในฐานะหัวหน้าคณะจึงไม่ค่อยสนใจนักเรียนเหล่านี้เท่าไร!
แต่หนิงเทียนหลินไม่เคยอยู่ในข่ายของนักเรียนรวยๆเลยแต่ตอนนี้เขากลับมีเงิน 5 ล้านหยวน! และมันดูเป็นเรื่องธรรมดามากๆ!
เขาเป็นหัวหน้าภาคมานานกว่า 10 ปีและเขาทำงานอย่างหนักและประหยัดมานานกว่า 10 ปี แต่ก็ยังมีเงินไม่ถึง 2 ล้านเลย! พูดได้เลยถ้าไม่รวมบ้านและรถ เงิน 5 ล้านนี้ก็มากกว่ามูลค่าสุทธิของเขาซะอีก!
“ผมทำเอง”
หนิงเทียนหลินยิ้มและพยักหน้า แน่นอนเขาเข้าใจดีการตบหัวแล้วลูบหลัง หลักฐานก่อนหน้านี้เท่ากับการตบและเงินก็เท่ากับการลูบหลัง ถึงแม้ว่าเงิน 5 ล้านหยวนจะฟังดูเหมือนว่าเยอะ แต่กับเขาตอนนี้มันก็แค่คะแนนพลังงาน 5 คะแนนเอง แค่นี้ขนหน้าแข่งไม่ร่วงหรอก
อีกอย่างหัวหน้าภาคก็เป็นกุญแจสำคัญสำหรับชีวิตนักเรียนในอนาคตเขาด้วย
“เธอหมายความว่าไง?” คณบดีฝางจ้องไปที่หนิงเทียนหลิน พยายามที่จะหาเจตนาของอีกฝ่าย!
“ไม่มีอะไร” หนิงเทียนหลินพูด “ผมแค่อยากจะเลี้ยงคุณเหมือนเป็นหมา แล้วเงิน 5 ล้านนี้ก็เหมือนขนมที่ผมยื่นให้หมา”
หนิงเทียนหลินรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไงและเขาไม่จำเป็นต้องสภาพด้วยจึงพูดแรงแบบนั้นออกไป
“แก!”
สีหน้าของฝางแอนหมิงเปลี่ยนไป ตอนนี้เขาแทบจะอดไม่ได้อยากที่จะพุ่งเข้าไปตบปากหนิงเทียนหลินจริงๆ เขาเป็นหัวหน้าภาคนะไม่ใช่หมา! แต่ถ้าเป็นหมาก็เป็นหมาที่ได้เป็นคณบดี ไม่ใช่เขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดว่าถ้าเงิน 5 ล้านเป็นขนมหมาก็เป็นขนมหมาที่ไม่เลวเท่าไร!
นอกจากนี้ในเมื่อหนิงเทียนหลินที่อยู่ตรงหน้าให้เงินเขามา 5 ล้าน นั่นก็หมายความว่าเรื่องความผิดของเขามันจบไปแล้ว เพราะยังไงซะอีกฝ่ายก็ใช้ความผิดของเขามาข่มขู่ได้ตลอดโดยไม่จำเป็นต้องให้เงินเขาเลย
5 ล้าน งั้นก็หมายความว่าเขาต้องทำให้ดีที่สุดแล้ว
ตอนนี้อะไรๆก็ต่างไป!
“แกอะไร!”
หนิงเทียนหลินเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงโกรธอยู่และอดไม่ได้นอกจากเยาะเย้ยออกมา “เจ้าหมาในอนาคตจงช่วยผมด้วย อย่าสร้างปัญหา แล้วก็มั่นใจได้เลยว่าเรื่องที่ผมจะให้คุณทำในอนาคตเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเรียนแน่ๆ ซึ่งอยู่ภายใต้ความสามารถของคุณและจะไม่ทำให้คุณอับอายด้วย”
“ครั้งนี้ในการต่อสู้ครั้งนี้ คุณจัดการเรื่องนี้ให้ผมแล้วก็ลงโทษเจ้าโง่หวังน่านซะ!”
“ถ้าเรื่องนี้ทำไม่ได้ ก็รอดูได้เลยว่าหลักฐานการกระทำความผิดพวกนี้จะต้องแพร่กระจายออกไปสู่อินเตอร์เน็ตทันทีแน่ๆ!”
ก่อนที่คณบดีฝางจะตอบอะไร เขาก็ลุกขึ้นจากโซฟา เปิดประตูและเดินออกจากห้องไป
ใช่ หนิงเทียนหลินแค่อยากจะเลี้ยงฝางแอนหมิงเป็นสัตว์เลี้ยง ทั้งตับหัวและลูบหลัง ทุกๆอย่างเพื่อที่เรื่องในโรงเรียนจะได้ราบรื่นในอนาคต
ไม่ว่าฝางแอนหมิงจะเป็นคนดีหรือไม่ แต่เขาจะทำอะไรหนิงเทียนหลินได้ล่ะ! ตราบใดที่เขายังทำงานให้หนิงเทียนหลินได้ เขาก็เป็นคนที่มีประโยชน์! นอกจากนี้ในโลกนี้ยังไม่มีขอบเขตเรื่องความดีหรือความเลวที่ชัดเจน
คนเลวก็ยังเป็นคนเลวในสายตาคนอื่น แต่เพื่อครอบครัว มันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของครอบครัวของเขาเอง คนดีก็เป็นคนดีด้วยหัวใจ!
คนดีในสายตาของทุกคน แต่ในสายตาของครอบครัวของพวกเขาเอง มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้ดูแลครอบครัว, ไม่ได้ดูแลลูก, แต่กลับไปสนใจเรื่องของคนอื่นแทนซึ่งไม่ใช่ความรับผิดชอบของเขาเลย และเรื่องนี้ทำให้เกิดการหย่าร้างมากขึ้น!
หนิงเทียนหลินหลังจากประสบความทรมานเพื่อต่อสู้กับความยุติธรรม ไม่มีใครร้องไห้ให้เขาเลยนอกจากครอบครัวเขาเองและแม้แต่เด็กสาวที่เขาเข้าไปช่วยก็ไม่เคยมาขอบคุณกับครอบครัวของเขาเลย ในสังคมทุกวันนี้เหลยเฟิงไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกแล้ว
เขาไม่อยากที่จะเป็นคนดีอีกแล้ว
ตอนนี้การฆ่าเท่านั้นคือสิ่งที่เขาเชื่อ!