Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 377 เกราะในที่แข็งแกร่ง
ตอนที่ 377 เกราะในที่แข็งแกร่ง
“ชี! ชี!”
ทันทีที่นักดาบคนนั้นตกตายลง,เส้นลําแสงสีแดงขนาดใหญ่มุ่งตรงไปที่เครื่องหมายบนหน้าผากของเซี่ยวเฉินบัลลังก์สีแดงในทะเลจิตใต้สํานึกของเซี่ยวเฉินสั่นเทิ้มอย่างต่อเนื่องมันดูตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
ช่างเป็นเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรง สังหารเขาเท่ากับที่ข้าสังหารสัตว์อสูรปีศาจที่ความแข็งแกร่งเท่ากันสิบตัวคนผู้นี้จะต้องสังหารผู้คนไปเป็นจํานวนมาก
ขณะที่บัลลังก์สีแดงสั่นไหว,ทุกอนในร่างของเซี่ยวเฉินอดไม่ได้ที่จะตื่นตัว เขารู้สึกราวกับกำลังจมลงสู่ความชั่วร้าย
ไม่,ข้าจะต้องควบคุมความรู้สึกนี้ มิฉะนั้น,ข้าจะจบลงกลายเป็นทาสของบัลลังก์นี้
ความแน่วแน่วูบไหวในสายตาของเซียวเฉิน เขาตัดสินใจตัดขาดความระเริงที่เขาไม่ควรมีอย่างเด็ดขาดจากนั้นเขาก็ตรงไปที่ไปมู่หลานอย่างรวดเร็ว
แขนขวาของไปมู่หลานเผชิญกับพลังทั้งหมด 175,000 กิโลกกรัม ตอนนี้มันเกือบที่จะพิกาจโดยสมบูรณ์ กระดูกในบริเวณถูกบดจนเป็นผง
แม้จะมียาวิเศษ,แต่หากไม่ใช้เวลากว่าครึ่งปีเพื่อฟื้นฟู,แขนของเขาก็ยังคงพิกาจไร้ประโยชน์
ความจริง แม้แต่เซียวเฉินหรือคนที่มีพลังกายภาพเท่าเทียมกัน,เขาก็ยังยากที่จะจัดการการโซมตีที่มีพลังมากกว่า 75,000 สองครั้ง
นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมเซี่ยวเฉินถึงใช้มืออีกข้างในการรับมือกับการจู่โจมของฝ่ายตรงข้ามเมื่อครู่นี้
ไปมู่หลานวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปบนผิวน้ําทะเลที่ไม่มั่นคง,เขาหันกลับมามองเซี่ยวเฉินที่กําลังไล่ตามเขาอยู่เป็นบางครั้ง
เซียวเฉินไม่ได้เร่งรีบ เขาเรียกบัลลังก์สีแดงออกมาและนั่งลงอย่างสบายๆ บัลลังก์สีแดงนี้สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 2 มัค,ทําให้เขาไล่ตามไปมู่หลานไปได้อย่างสบายๆ
หกชั่วโมงผ่านไป,พลังปราณในร่างของไปมู่หลานเริ่มเดือดแห้ง ความเร็วของเขาตกลง
ในอีกด้านหนึ่ง,เซี่ยวเฉินผลาญบ่อโลหิตในบัลลังก์สีแดงไปเล็กน้อย วังวนฉีสีม่วงในจุดตันเที่ยนของเขาค่อยๆฟื้นฟูตัวเอง
“ได้เวลาแล้ว!”
ดวงตะวันกําลังลับตา;ความมืดมิดมาเยือนเซี่ยวเฉินไม่ความอดทนที่จะเล่นกับเขาแล้ว เขา ยืนขึ้นและดีดตัวออกจากบัลลังก์
“เก้าร่างมังกรสัญจร,สับวายุใส!”
ทันมดนั้น,สายลมเย็นเก้าสายพัดผ่านผืนทะเล ในตอนที่สายลมปัดบนพื้นผิว,มันไม่ทําให้เกิดรอยกระเพิ่มแม้แต่น้อย พวกมันอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ
เซี่ยวเฉินซ่อนเร้นอยู่ในสายลมและแบ่งกายออกเป็นเก้าร่าง มันยากที่จะแยกแยะร่างจริงออกจากร่างปลอม
ไปมู่หลานที่เหนื่อยล้าและสิ้นหวัง,ชื่นใจเมื่อเขารู้สึกได้ว่าฉีฆ่าฟันด้านหลังของเขาจางหายไปเป็นไปได้ว่าพลังปราณของมันหมดลงก่อนข้า?
อย่างไรก็ตาม เมื่อไปมู่หลานหันหลังกลับไปมอง,เขามองเห็นเซียวเฉินเคลื่อนตรงเข้ามา,ล้อมรอบตัวเขา ปราศจากฉีฆ่าฟัน,ไม่มีแม้แต่เจตนาฆ่
ทันใดนั้นเสีหน้าของไปมู่หลานเปลี่ยน เขาตกตะลึง,สับวายุใส! นี่เป็นทักษะลับของศาลากระบี่สวรรค์, สับวายุใส!”
ไปมู่หลานรู้ว่ามีอะไรรอเขาอยู่ ตอนนี้พลังปราณของเขาเหือดแห้ง,เขาไม่มีแรงที่จะหนีอีกแล้ว
“บูม!”
เก่าร่างเคลื่อนผ่านไปมู่หลานก่อนที่จะผสานกลับ เซี่ยวเฉินคืนกระบี่ของเขาลงฝักและยืนนิ่ง ตรงหน้าของไปมู่หลาน
“ปังปัง!ปัง!”
เกิดเลือดไหลเก้ารูปรากฏขึ้นบนเก้าจุดปราณสําคัญที่หน้าอกของไปมู่หลาน เลือดไหลทะลักออกมาจากรู เขาอยากที่จะกล่าวอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่อาจเอ่ยออกมา
ไม่นานนัก,ก็ไม่หลงเหลือสัญญาณชีวิตและร่วงลงสู่ทะเล
ทันใดนั้น,เส้นแสงสีแดงที่มองไม่เห็นอีกเส้นหนึ่งมุ่งตรงไปที่บัลลังก์สีแดงที่ลอยอยู่บนทั้งฟ้าเจตนาฆ่าฟันนี้มากเป็นสองเท่าของนักดาบคนนั้น
“ติง! ตั้ง!”
จํานวนโลหิตในบ่อด้านในบัลลังก์เติมเต็มขึ้นมาในทันทีและมากยิ่งขึ้นไปอีก
เซี่ยวเฉินตัดตัวเขาออกจากความชั่วร้ายก่อนที่จะปลดแหวนมิติจากมือของไปมู่หลาน
ในที่สุดเซียวเฉินก็กําจัดขอบเขตกษัตริย์ยุทธสองคนนี้ไปได้ เขาสามารถหายใจได้คล่องสักทีก่อนอื่นเขาตรวจสอบแหวนมิติของนักดาบคนนั้น
มีหินวิญญาณระดับกลางห้าร้อยก่อนและหินวิญญาณระดับต่าอีกหลายหมื่นก่อน เซียวเฉินกวาดพวกมันออกมาโดยไม่กล่าวอะไร
สําหรับเม็ดยา,อาหาร,และของใช้ในการเดินทางอื่นๆในนั้น…. เซียวเฉินไม่ไปสนใจ เขาเพียงยืนแหวนมิติเอาไว้ที่มุมหนึ่งของแหวนห้วงจักรวาลของเขา
“ห้าพันหินวิญญาณระดับกลางมันเพียงพอให้ข้าบ่มเพาะพลังไปสักระยะหนึ่ง มาดูแหวนของไปมู่หลานกันต่อ เขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง;เขาไม่น่าจะทําให้ข้าผิดหวัง”
เซี่ยวเฉินใส่สัมผัสวิญญาณของเขาลงไปในแหวนมิติ ทันใดนั้น,หินวิญญาณระดับกลางกองพเนินปรากฎในสายตาของเขาทันที ในอตนที่เขานับดู,มันมีไม่น้อยกว่าสองพันก้อน
เซี่ยวเฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นเบาๆ “ไม่สงสัยว่าทําไมผู้บ่มเพาะพลังในโลกใบนี้ถึงได้ฆ่าฟันเพื่อแย่งสมบัติ ผลประโยชน์มันดึงดูดใจ ข้าสงสัยว่ามีผู้คนตกตายไปเท่าไหรเพื่อที่เขาจะสะสมความมั่งคั่งได้ถึงเพียงนี้”
นอกจากหินวิญญาณระดับกลาง,ยังมีหินวิญญาณระดับต่าอีกหลายแสนก่อน เซียวเฉินกวาดออกมาทั้งหมด,เช่นเดียวกับตําราลับสองสามเล่มและของอีกเล็กน้อย
สําหรับของที่เหลือ,พวกมันไม่มีอะไรเตะตาเซียวเฉิน เขาเพียงโยนของที่เหลือรวมถึงแหวนมิติไปอยู่ที่มุมหนึ่งของแหวนห้วงจักรวาลของเขาเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้
น่าเสียดาย,ขอบเขตกษัตริย์ยุทธทั้งสองคนไม่สําเร็จถึงสภาวะหากมีพวกเขาทั้งคนสําเร็จถึงสภาวะ,เซี่ยวเฉันคงไม่ผ่อนคลายเหมือนในครั้งนี้
“กลับมา!”
เซียวเฉินตะโกน,และบัลลังก์สีแดงกลายเป็นล่าแสงและมุ่งหน้ามายังหน้าผากของเซียวเฉินเข้าไปในทะเลจิตสํานึกของเขาในทันที
ภายในทะเลจิตใต้สํานึก,มีเปลวเพลิงสี่ก่อนกําลังเคลื่อนไหวไปมา เพลิงเหล่านี้คือเปลวเพลิ งจันทราที่ไม่มีต้นกําเนิดเปลวเพลิง
พวกมันมีน้อยเกินไป มันน่าเสียดายที่จะโญนทิ้ง, แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะกับเอาไว้ เซี่ยวเฉินทําได้เพียงรอจนกว่าเขาจะรวบรวมมันได้จํานวนหนึ่งเขาถึงจะใช้พวกมันได้
เซียวเฉินหยิบเอาสมบัติลับระดับต่คุณภาพเยี่ยมออกมาและตรวจสอบอย่างละเอียดจนถึง ตอนนี้เองที่เซียวเฉินมีเวลาที่จะตรวจสอบมันดูอย่างแท้จริง
เกราะในชิ้นนี้ทําจากหนังอ่อนเซี่ยวเฉินสัมผัสมัน, มันอ่อนนุ่มเป็นอย่างมาก นี่น่าจะเป็นหนังของสัตว์อสูรวิญญาณ
มีอักษรยันต์นับไม่ถ้วนอยู่ที่ด้านใน ในตอนที่เซียวเฉินลูบนิ้วผ่าน,เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานอันแข็งแกร่งผันผวนภายใต้นิ้วของเขา;มันเป็นจังหวะราวกับสายพิณ
เซี่ยวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปในสมบัติลับและลบเครื่องหมายของเจ้าของคนก่อนจากนั้น,เขาตีตราเครื่องหมายของเขาลง หลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินปลดเสื้อคลุมวายุใสของเขาและลองใส่สมบัติลับชิ้นนี้
แม้ว่าเสื้อคลุมวายุใสจะเป็นเพียงสมบัติลับระดับต่ําทั่วไป แต่ผลของมันเปิดใช้อยู่ตลอด มันจะเพิ่มความรวดเร็วของเซี่ยวเฉินขณะที่เขาแข็งแกร่งขึ้น
ทักษะเคลื่อนไหว,โจมตี,ต่างเพิ่มขึ้นทั้งหมด เขาจะไม่มีทางเปลี่ยนสมบัติลับชิ้นนี้ มันปรับปรุงข้อบกพร่องของเซียวเฉินในทุกด้าน:เขาชอบมันมาก
เมื่อเซี่ยวเฉินสวมเกราะใน,เขารู้สึกได้ในทันทีว่าโครงเกราะอ่อนนุ่มที่มีสายพลังหนาแน่นกําลังแทงเข้าสู่หน้าอกของเขาและเชื่อมต่อกับอวัยวะภายใน
เส้นพลังงานก่อตัวเป็นเยื่อและห่อหุ้มรอบๆอวัยวะภายในของเซี่ยวเฉินอย่างรวดเร็ว,เสริมความแข็งแกร่งให้กับพวกมัน
เซี่ยวเฉินมีสีหน้าเป็นสุข เขายิ้มและกล่าว “เกราะในชิ้นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มพลังป้องกันภายนอก,แต่ยังปกป้องอวัยวะภายในพลังป้องกันโดยรวมของข้าเพิ่มขึ้นสิบเปอร์เซ็นต์
เมื่อรวมเข้ากับร่างกายภาพที่เซียวเฉินได้รับมาพร้อมกับกระดูกพยัค์เอ็นมังกร,พลังป้องกันของเขาไม่มากไม่น้อยไปกว่าระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธขั้นสูง
ในตอนแรก, เซียวเฉินรู้สึกไม่สบายที่มีเยื่อห่อหุ้มอวัยวะภายในของเขา อย่างไรก็ตามหวัง จากสวมสมบัติลับชิ้นนี้ไประยะหนึ่ง,เขาก็ค่อยๆชินกับมัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินมองตรงไปยังทิศทางของเกราะเชียนเหลิ่น แสงหลากสีหยุดแสดงออกมาแล้ว เป็นหลักฐานว่าสมบัติลับหยุดการปรากฏตัวลง
“ล่วงเวลาไปครึ่งวันแล้ว คลื่นที่ล้อมรอบเกาะเชียนเหลิ่นน่าจะอ่อนแรงลงแล้วในตอนนี้ ข้าควรรีบไป
เรือสงครามสีเงินปรากฏออกมาจากดวงขวาของเซี่ยวเฉิน,และเขากระดดดขึ้นไปบนหัวเรือเขากลายเป็นล่าแสงสีเงินวูบไหวและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
หลังจากบินด้วยความเร็ซเต็มพิกัจมากว่าสองชั่วโมง, ในที่สุดเซียวเฉินก็เห็นเงาของคลื่นยักษ์ พวกมันไหลหลากอย่างไม่สิ้นสุดขึ้นไปบนเมฆ,ทะลุไปบนท้องฟ้า;มันช่างน่าสะพรึง
เซี่ยวเฉินเก็บเรือสงครามสีเงินและร่อนลง,ค่อยๆลดความเร็ว
มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่ได้ยินเกี่ยวกับสมบัติที่บินออกมาจากเกาะเชียนเหลิ่น ตอนนี้ มีผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมากล้อมรอบคลื่นยักษ์
บางครั้ง,มีคนทะลวงผ่านคลื่นยักษ์,เข้าไปในเกาะเชียนเหลิ่น ดูเหมืนอว่าคลื่นยักษ์จะอ่อนแรงลงแล้ว
“ยังไม่พอ ความแข็งแกร่งของพวกเราไม่เพียงพอ พวกมันจะต้องรอจนถึงพรุ่งนี้ในตอนที่คลื่นยักษ์อ่อนแรงลงอย่างสมบูรณ์”
“ใช่แล้ว,คนที่เข้าไปได้ในตอนนี้อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงและขั้นสูงสุด มันยากสําหรับพวกเราที่จะฝ่าเข้าไปในตอนนี้”
ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่โดยรอบมองไปที่คลื่นยักษ์และถอนหายใจ พวกเขากังวลเป็นอย่างยิ่งแต่ก็ไม่อาจทําอะไรได้
เซี่ยวเฉินใช้สัมผัสวิญญาณเพื่อรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของคลื่นยักษ์ เขามีความเข้าใจในพวก มันดีแล้วเขาฝ่าฝูงชนและบินตรงเข้าไป
“เขาอยากที่จะทะลวงเข้าไปด้วยพลังเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง เจ้าหมอนี้ไร้เดียงสา ระวังคลื่นยักษ์จะสะท้อนใส่เจ้าลอยกระเด็น!”
“คนหนุ่มเดียวนี้ไม่มองสถานการณ์ ขอบเขตนักบุญขั้นสูง ถึงแม้ว่าเขาจะสําเร็จถึงสภาวะ,เขาก็ไม่อาจทะลวงผ่านคลื่นยักษ์ไปได้
“ใช่แล้ว,แม้แต่พวกเรา,ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,ก็ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้”
ในอตนที่ฝ.ชนเห็นว่าเซี่ยวเฉินมุ่งหน้าไปที่กําแพงคลื่นหนาด้วยความแข็งแกร่งระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง,พวกเขาต่างหัวเราะ
เซี่ยวเฉินได้บ่มเพาะสภาวะจิตใจของเขาถึงระดับที่มั่นคงเขาเพียงเมินเฉยคําเยาะเย้ยไป
“ปะ ปะ!”
ในตอนที่เซี่ยวเฉินมาถึงตรงหน้าคลื่นยักษ์,เขาไม่ได้หยุดลง เขาชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาอย่างรวดเร็วราวกับเส้นสายฟ้า
แสงกระบี่หนาแน่นวบผ่านคลื่นยักษ์ เกิดรูเปิดขึ้นในทันที ร่างของเซียวเฉินวูบไหว,และมุดผ่านไปก่อนที่รูจะปิดลง
ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงอึดใจ เขาเชื่อมต่อท่วงท่าเข้าด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ มันใช้เวลาไม่เกินสามวินาที
“เห้ย,เขาผ่านเข้าไปได้ แม้แต่ข้า,ยอดขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง ก็ล้มเหลวทั้งสามครั้ง ข้าได้รับบาดเจ็ฐภายในกลับมาแทน”
เมื่อคนที่เยาะเย้ยเซี่ยวเฉินเห็นเขาหายลับผ่านเข้ากําแพงน้ําไป,พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึงพวกเขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“ซิ่ว! ซิ่ว!”
ไม่นานนัก มีแสงเส้นแสงพุ่งมาจากเส้นขอบฟ้า เป็นผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเยาว์สองคน, หนึ่งชาย,และหนึ่งหญิง พวกเขาพุ่งไปที่คลื่นยักษ์โดนไม่มีลดความเร็ว
พวกเขาชนเข้าไปในคลื่นยักษ์โดยไม่มีหยุด
“นั้นจินอจี้กับเยว่เฉินซี พวกเขามาถึงแล้ว” มีคนจําทสองได้
ตามจากนั้น,มีผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเยาว์หลายคนบินเข้ามา คนเหล่านี้หยุดลงที่หน้าคลื่นยักษ์ครู่หนึ่งก่อนที่จะทะลวงผ่านเข้าไปที่ละคน
พวกเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นจากหลากหลายอาณาจักรที่จินอูจได้รวบรวมมา ในตอนที่คนเหล่านี้ได้ข่าว,พวกเขารีบตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว
กลุ่มขอบเขตกษัตริย์ยุทธวัยกลางคนต่างพากันนิ่งเงียบ หลังจากผ่านไปนาน มีคนกล่าวขึ้น “กาลเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เป็นโลกของเหล่ารุ่นเยาว์ พวกเขาอายุเท่าไหรเชียว? กระนั้น,การบ่มเพาะพลังของพวกเขาต่างลึกล้ํา:ความแข็งแกร่งของพวกเขาต่างจากพวกเราอย่างสิ้นเชิง”