Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง
ตอนที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง
เยว่เฉินซีเหลียวมองมาที่เซี่ยวเย็นก่อนที่จะกระซุบกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของชายชราคนนั้น
หลังจากที่ชายชราได้ฟังนาง,เขามองมาทางเซี่ยวเฉินอย่างสนอกสนใจ มันรู้สึกราวกับสายตาของเขาสามารถมองผ่านความลวงทั้งหมดในโลกใบนี้ขณะที่เขากําลังตรวจสอบเซี่ยวเฉิน
สายตาของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง เขารู้สึกถึงพลังงาจิตอันมหาศาลของอีกฝ่ายและอยากที่จะป้องกันมันด้วยสัมผัสวิญญาณของเขา
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉันคิดขึ้นได้ว่า หากขอบเขตปราชญ์ยุทธผู้นี้อยากที่จะตรวจสอบตัวเขา,สัมผัสวิญญาณของเขาไม่เพียงพอที่จะหยุดเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะหยุดเอาไว้ได้สําเร็จ,มันจะยิ่งดึงความสนใจของอีกฝ่าย นี่จะเป็นผลให้อีกฝ่ายมองหาวิธีอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย
ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์,ไม่มีความจําเป็นที่จะป้องกัน มันยากเกินไปที่จะเก็บความลับจากขอบเขตปราชญ์ยุทธ
“ซิ่ว!”
ชายชราถอนสายตาของเขากลับมาและเผยท่าที่ครุ่นคิด เขาครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง,ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่แปลกประหลาด ข้าไม่สามารถมองเห็นจิตวิญญาณยุทธของเขา
“อาจารย์ลุงหนึ่ง,เขาเป็นอย่างไรไร?” เยว่เฉินซีถามขึ้นอย่างคาดหวัง
ชายชรายิ้มและพยักหน้า “ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นที่อายุสิบแปด ผู้บ่มเพาะพลังเช่นนี้นับได้ว่าอยู่ในระดับทั่วไปในอาณาจักรตาฉัน แต่อย่างไรก็ตาม,เขาได้สําเร็จสองสภาวะในเวลาเดียวกัน นับจากตรงนี้ เขามีคุณสมบัติที่จะนับว่าอัจฉริยะ”
“ฮ่าฮ่า,นั้นยังไม่ใช่ส่วนสําคัญที่สุด”
เยว่เฉินซีถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ “แล้วมันคืออะไร?”
ชายชรากล่าวต่อ “ข้าจะพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวที่หลัง อย่างไรก็เถอะ,เจ้านับว่าตามีแวว เขาเป็นคนที่ผู้เฒ่าคนนี้กําลังมองหา”
เยว่เฉินซีเผยสีหน้ามีความสุข อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นางเผยสีหน้าหมดหนทางออกมา “เจ้าหมอนี่ดูเหมือนจะไม่ขยับไปกับคําโน้มน้าว หลงจากที่ข้าโฆษณานิกายอยู่นาน,เขาไม่มีทีท่าว่าจะตกลงหรือปฏิเสธเลย”
ชายชรายิ้มและกล่าวขึ้นเบาๆ “เขามีความเฉลียวฉลาด ให้ข้าคุยกับเขาเอง”
เซี่ยวเฉินกับเสี่ยวไป๋อยู่ห่างจากชายชราคนนั้นมาสองร้อยเมตร ตามจริง,ด้วยระยะเพียงเท่านี้,พวกเขาควรจะได้ยินการสนทนาระหว่างชายชราและเยว่เฉินซี
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าทําไมเซี่ยวเฉินถึงไม่อาจได้ยินอะไรเลย นอกจากนั้น ในตอนที่เขามองไปร่างของพวกเขาดูเลือนลาง
ดังนั้น,เซี่ยวเฉินไม่สามารถคาดเดาจากฝีปากได้ว่าพวกเขากําลังพูดคุยอะไร
ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังครุ่ยคิดถึงเรื่องนี้,ชายชราและเยว่เฉินซีปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา เขารวบรวมความคิดและคํานับมือ เขากล่าว “ข้าน้อยเซี่ยวเฉินคารวะผู้อาวุโส ผู้อาวุโสให้ข้าทราบนามอันยอดยเยี่ยมของท่านได้หรือไม่?”
ชานชราตรวจดูเซี่ยวเฉินในระยะใกล้ ในตอนที่เขาเห็นว่าอารมณ์ของเซี่ยวเฉินไม่มร ผันผวน,แม้ว่าจะอยู่ใกล้กับตัวเขา,เขาชื่นชมเซี่ยวเฉินอยู่ในใจ
“ข้าไม่กล้าอ้างตัวเองว่ายอดเยี่ยม,แต่ข้านามว่ากหยิง,เพียงคนต่ําต้อยในนิกายนภาสูง หากสหายน้อยไม่ว่าอะไร,เจ้าสามารถเรียกข้าว่าผู้อาวุโสกู”
เซายวี่เฉินพยักหน้าและกล่าว “ขอบคุณผู้อาวุโสก่มากที่ช่วยเหลือ มิฉะนั้น พวกเราคงติดอยู่ที่เกาะอห่งนี้ถึงหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น”
คู่หยิ่งโบกมืออย่างไม่ถือและกล่าว “นั้นไม่อาจนับได้ว่าช่วยเหลือเพียงแต่เป็นผลประโยชน์ หากข้าคาดเดาไม่ผิด,เจ้าเริ่มบ่มเพาะพลังอย่างจริงจังเพียงสองปีก่อน ใช่หรือไม่?”
ในตอนที่สิ้นเสียงของคู่หยิง,ไม่เพียงแค่เซี่ยวเฉินที่ตกตะลึง,แต่รวมถึงเยว่เฉินซีที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา ปากของนางเปิดค้าง,ไม่อาจหุบกลับได้
หรือนี่จะเป็นเรื่องสําคัญที่สุดที่ท่านอาจารย์ลุงหนึ่งพูดถึง? บ่มเพาะพลังถึงขอบเขตกษัตริย์ภายในสองปี…พรสวรรค์เช่นนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง
เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าสายตาของคู่หยิ่งจะเฉียบคมถึงเพียงนี้ คู่หยิงสามารถเผยข้อมูลนี้ของเขาออกมาได้ เขาทําได้เพียงหยักหน้ารับ
คู่หยิ่งยิ้มเบาๆและกล่าว “เจ้าเป็นคนเฉลียวฉลาด;ข้าจะไม่อ้อมค้อม ตอนนี้เป็นยุคทองของเหล่าผู้บ่มเพาะพลังที่ไม่ได้ปรากฏให้เห็นมานับพันปีแล้ว มีอัจฉริยะจากขุมอํานาจชั้นยอดต่างๆ ไม่เลือกเข้าร่วมนิกายนภาสูงอย่างหูตามืดบอดนับว่าเป็นการกระทําที่ฉลาด”
“อย่างไรก็ตาม,ข้าเลขอเตือนเจ้าเอาไว้อย่างหนึ่ง ก่อนที่จะถึงการประลองรุ่นเยาว์หาอาณาจักรครั้งหน้า,เจ้าควรจะเลือกข้างที่จะยืนอยู่ด้วยเสีย นั้นจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า ระบเอาไว้! นี่เป็นของรางวัลสําหรับการช่วยเหลือแม่หนูคนนี้”
คู่หยิ่งโยนเหรียญโลหะแพรวพราวมา เซี่ยวเฉินเพียงรับมันมามองดู มีคําว่า สูง อยู่ที่ด้านหน้า,และด้านหลังมีคําว่า “ฟ้าใส
เหรียญสีทองอันนี้ดูเหมือนจะมีพลังงานลึกลับ ในตอนที่เซี่ยวเฉินถือมันเอาไว้ในมือ,เขารู้สึกถึงความอบอุ่น มีเส้นสายพลังงานอ่อนโยนออกมา นี่มันทําให้เซี่ยวเฉินสงบลงและผ่อนคลาย
มองเห็นเซี่ยวเฉินรับเหรียญเอาไว้ ก่หยิ่งยิ้ม “ข้าขอตัวก่อน หากเจ้ามาที่อาณาจักรต้าฉันในภายภาคหน้า,มาเยี่ยมเยือนที่นิกายนภาสูง ผู้เฒ่าผู้นี้จะต้อนรับเจ้าอย่างดีที่สุด”
เซี่ยวเฉินเก็บเหรียญไปและคํานับมือ “ผู้อาวุโส,เดินทางปลอดภัย!”
ภายในทันที กูหยิงเคลื่อนไปไกลหนึ่งพันเมตรในทุกยาางก้าวขณะที่อุ้มเยว่เฉินซีไปด้วย หลังจากสองสามก้าว,เขาหายลับไปจากสายตาของเซี่ยวเฉิน
ขณะที่เซี่ยวเฉินมองดูทั้งสองจากไป,เขาพึมพํากับตัวเอง “ตามที่ตํานานกล่าวเอาไว้,ทุกการกระทําของขอบเขตปราชญ์ยุทธจะส่งผลต่อกฎแห่งธรรมชาติ จากที่เห็นในวันนี้ ดูเหมือนตํานานจะเป็นจริง”
กูหยิงอุ้มเยว่เฉินซีและเคลื่อนผ่านไปบนท้องฟ้า,เคลื่อนที่ไกลหนึ่งพันเมตรในทุกอย่างก้าว
“อาจารย์ลุงหนึ่ง,ทําไมท่านไม่ชักชวนให้เขาเข้าร่วมนิกายนภาสูง?” เยว่เฉินซีรู้สึกงุนงงพร้อมกับถามขึ้น
คู่หยิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าว “ไม่เป็นไรตราบใดที่เขารับเหรียญฟ้าใสไป” ผู้อาวุโสถอนหายใจ “ทุกอย่างเกี่ยวกับเข้าล้วนดีเยี่ยม,แต่ความคิดของเจ้าเรียบงาายและบริสุทธิ์เกินไป มิฉะนั้น,เจ้าหนุ่มนั้นคงไม่ทําให้เจ้าหมดท่าเช่นนี้”
เซี่ยวเฉินถอนสายตากลับมาและยิ้มไปที่เสี่ยวไป์ “เสี่ยวไป,ได้เวลาพวกเราออกไปแล้วเหมือนกัน!”
ทั้งสองเคลื่อนไปที่ช่องว่างบนคลื่นยักษ์อย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป,ช่องว่างบนคลื่นยักษ์ก็ปิดลง
คลื่นยักษ์ลงมาปิดผนึกเกาะเชียนเหลิ่นอีกครั้ง มันจะเปิดขึ้นอีกในสองสามปี แต่อย่างไรก็ตาม,คงมีคนเพียงเล็กน้อยที่จะมาเยือนในตอนนั้น
เซี่ยวเฉินและเสี่ยวไป๋พูดคุยกันขณะที่เดินไปบนทะเล ด้วยขอบเขตพลังของพวกเขาในตอนนี้ มันไม่ยากเย็นที่พวกเขาจะเดินบนผิวน้ํา
เสี่ยวไป๋กล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวล “ข้าบ่มเพาะทักษะดาบแสงไหลที่ท่านมอบให้ถึงชั้นที่ห้าแล้วในอนาคต เสี่ยวไปไม่เกรงกลัวคนไม่ดีอีกต่อไป ดังนั้น พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน,อย่าได้ปฏิบัติกับข้าเหมือนเป็นภาระอีกเลย”
เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นดวงตาของเสี่ยวไป๋แดงเล็กน้อย,เขานั่งอึ้งไป เสี่ยวไปไม่ใช่จิ้งจอกน้อยที่ไม่เข้าใจโลกอีกต่อไปแล้ว
ความคิดของเสียวไปค่อยๆกลายเป็นผู้ใหญ่ นางมีความคิดเป็นของตัวเองและกระทําตามความตั้งใจของตัวเอง
เซี่ยวเฉินลูบหัวเสี่ยวไปและยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวไปจะเป็นภาระไปได้อย่างไร? เจ้าช่วยข้าเก็บสมุนไพรมากมายและช่วยชีวิตข้ามาก็หลายครั้ง ตอนนี้,เจ้ายังแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้า”
เซี่ยวเฉินหยุดไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ทะเลอันสงบและพึมพํา “อย่างไรก็ตาม,ข้าติดค้างเจ้ มากเกินไป หากข้าปล่อยให้เจ้าได้รับบาดเจ็บ,ข้าจะรู้สึกผิดอย่างยิ่ง”
ในตอนที่เสี่ยวไปเกิดมา, เซี่ยวเฉินได้พรากนางมาจากแม่ แม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้าย,และเขาต้องช่วยนางจากคนตระกูลถัง,เขาก็ได้ทําเรื่องเห็นแก่ตัวลงไป มิฉะนั้น,เขาคงไม่ส่งมอบทักษะบ่มเพาะให้กับแม่ของนางเป็นการตอบแทน
ที่ด้านนอกเมืองไปสู่ย,เจ้าหนูน้อยนช่วยเซาววเฉินเอาไว้ นางไม่ค่นึงถึงความปลอดภัยของนางและช่วยเซี่ยวเฉินจากฮวาหยุนเฟยและตัวนมู่ฉิง
หลังจากนั้น เสี่ยวไปก็พาร่างที่เหนื่อยล้าของนางไปทั่วป่าอ่ามหิต
แม้ว่าจะมีอันตรายมากมายและสัตว์อสูรวิญญาณดีร้ายอยู่ภายในป่า,เสี่ยวไปก็ไปเก็บสมุนไพรมาเพื่อรักษาเซี่ยวเฉิน
ตั้งแต่ตอนนั้น,เซี่ยวเฉินก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่มองเสี่ยวไปเป็นสัตว์เลี้ยง และเขาจะไม่ปล่อยให่นางต้องบาดเจ็บเพื่อเขา
หลังจากที่เสี่ยวไป๋เผลี่ยนร่างเป็นมนุษย์,เซี่ยวเฉินรู้สึกผิด เขาตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้เสี่ยวไป๋ต้องประสบอันตราย
ดังนั้น,เซี่ยวเฉินไม่มีทางมองเสี่ยวไปเป็นภาระ
ดวงตาของเสี่ยวไป๋น้ําตาคลอเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวขึ้นเบาๆ “จริงหรือ, พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน?!”
เซี่ยวเฉินกล่าว “จริงเสียยิ่งกว่าจริง ไปกันเถอะ มาแข่งกันว่าใครจะไปถึงเกาะสายลมขจีก่อนกัน หากเจ้าไปถึงก่อน ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้า”
เสี่ยวไป๋สูดจมูกและยิ้มขึ้น “ได้ เสี่ยวไปวิ่งเร็วมาก พี่ใหญ่เซี่ยวเฉินไม่มีทางไล่ข้าทัน”
“บูม! บูม!”
ในตอนนั้นเอง,มีคลื่นยักษ์สูงฟนึ่งพันเมตรขึ้นมาล้อมรอบทั้งสอง
มีคลื่นใต้น้ําแข็งแกร่งกวาดผ่านท้องทะเลที่เคยนิ่งสงบพุ่งขึ้นไปที่ทคลื่น,ทําให้พวกมันพุ่งสูงขึ้นไปอีกหนึ่งพันเมตรภายในพริบตา
นอกเสียจากขอบเขตปราชญ์ยุทธหรือสูงกว่า,ไม่มีใครที่ทําได้เช่นนี้
เซี่ยวเฉินมีสหน้าช่วยไม่ได้พร้อมกับรู้สึกไร้พลัง เขาเจอเข้ากับขอบเขตปราชญ์ยุทธสองคนในวันเดียว
น่อหนาขอบเขตปราชญ์ยุทธ,พวกเขาทั้งสองไม่มีโอกาสรอด อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือจู่โจม เห็นชัดว่าสถานการณ์สามารถพลิกกลับ
เซี่ยวเฉินเหลียวมองไปทั่วทะเลที่ว่างเปล่า เขาตะโกนขึ้น “ข้าน้อยขอทราบได้หรือไม่ว่าท่านเป็นใคร?! ทําไมถึงได้ขัดขวางทางของข้า?!”
“ฟุ! ฟุ!”
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าบางเบาดังมาจากทะเลด้านหลังของพวกเขา
เซี่ยวเฉินหันกลับไป,และเห็นสองร่างเลือนลางปรากฏขึ้น คนหนึ่งเป็นบุรุษและอีกคนหนึ่งเป็นสตรี,ทั้งคู่แต่งชุดสีขาว
ในตอนที่เซี่ยวเฉินเข้าใกล้,เขาเห็นรูปร่างของพวกเขาได้ชัดเจน บุรุษดูอายุผระมาณสามสิบ และหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง และดวงตาของเขาลึกล้ํานาาหลงไหล
บรุษผู้นี้สามารถทําให้หญิงสาวบ้าคลั่ง เซี่ยวเฉินไม่เคยเห็นใครที่หล่อเหลาเพียงนี้มาก่อน เขาดึงเสน่ห์ของบุรุษออกมาได้อย่างเต็มที่
ทางฝั่งสตรีก็ดูอายุประมาณสามสิบเช่นกัน นางงดงามและผิวพรรณเรียบเนียน นางงดงามเป็นอย่างยิ่ง ในตอนที่นางเดินคู่กันมากับบุรุษ,พวกเขาช่างเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ
เซี่ยวเฉินพบว่าหน้าของสามีภรรยาคู่นี้ช่างดูคุ้นเคย ทันมดนั้น,เขาหันกลับไปมองที่เสี่ยวไป๋,และเขาต้องตกตะลึง
ทั้งคู่ดูคล้ายกับเสี่ยวไปเป็นอย่างยิ่ง เซี่ยวเฉินคาดเดาอยู่ในใจ
เสี่ยวไป๋เกาะแขนของเซี่ยวเฉินแน่นและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของเขา นางกล่าวขึ้นเบาๆ “พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน,ทําไมข้ารู้สึกว่าสองคนนี้ช่างดูคล้ายกับข้า?”
“แน่นอน,พวกเราดูคล้าน กันเจ้าเป็นบุตรสาวของพวกเรา พวกเราจะดูไม่เหมือนกันได้อย่างไร?” บุรุษชุดขาวยิ้มขณะที่เขามองมายังเสี่ยวไป๋
สตรีผู้งดงามด้านข้างยิ้มไปที่เซี่ยวเฉิน “สหายน้อย,ขอบคุณเจ้าที่ส่งต่อทักษะบ่มเพาะพลังให้กับข้า รวมถึงที่เจ้าดูแลเสี่ยวไปมาเป็นเวลานาน”
เสี่ยวไป๋มองไปที่เซี่ยวเฉินและถามขึ้น “พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน ที่พวกเขาพูดเป็นความจริง?”
สีหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง;เขาไม่คาดคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้น หลังจากผ่านไปนาน,เขาพยักหน้าและกล่าว “เสี่ยวไป,มันเป็นเรื่องจริง พวกเขาเป็นบิดามารดาของเจ้า”
ในเมื่ออีกฝ่ายได้กล่าวถึงทักษะเก้าร่างมายาสวรรค์และดูคล้ายกันถึงเพียงนี้ มันก็น่าจะต้องเป็นเรื่องจริงแล้ว