Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 379 พบอุซ่างฉวนอีกครั้ง
ตอนที่ 379 พบอุซ่างฉวนอีกครั้ง
ห้องแห่งนี้น่าสงสัย เซี่ยวเฉินเหลียวมองรอบตัวของเขาและพบหับไม่สามหับมีชั้นหนาปกคลุม
เซียวเฉินถอยหลังไปประมาณสิบก้าวและส่งวายุออกไปจากฝ่ามือของเขา,ซัดเข้าที่หีบเพื่อไล่ฝุ่นออก
หีบไม้เรืองแสงอ่อนโยนมีหินวิญญาณมากกว่าห้าพันก้อนใส่อยู่ภายในหีบ
เขาเปิดหรบไม้อีกสองหีบที่เหลือ ผลเป็นที่น่าผิดหวังสําหรับเซี่ยวเฉิน:พวกมันเป็นหินวิญญาณระดับต่ำเช่นกัน
เซี่ยวเฉินกวาดหินวิญญาณทั้งหมดเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาลของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มรวจไปทั่วชั้นหาตลอดทาง,เขาได้พบกับขอบเขตกษัตริย์ยุทธตาไร้แววหลายคน
ในตอนที่ขอบเขตกษัตริย์ยุทธเหล่านั้นเห็นเซียวเฉินอยู่ตัวคนเดียวและเขาอยู่เพียงระดับขอบเขตนักบุญ,พวกเขาก็พยายามที่จะวังหารเซี่ยวเฉินเพื่อแย่งชิงสมบัติ
โดยปราศจากความลังเล,เซียวเฉินสังหารพวกเขาอย่างเด็ดขาด ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ในชั้นห้าไม่ได้แข็งแรก่งมากนัก
ไม่เพียงแต่พวกเขาต้องเสียทรัพย์, แต่พวกเขายังต้องจบชีวิตลงและช่วยเซียวเฉินเติมเต็มบ่อโลหิตภายในบัลลังก์สีแดง
“ปัง!”
เซี่ยวเฉินจัดการกับหุ่นรบอีกครั้งและเปิดหีบไม้ที่อยู่ภายในห้อง เขาได้เจอหีบที่ใส่หินวิญญาณระดับต่ำอีกสามหีบ,น่าผิดหวัง
เซี่ยวเฉินถีบประตูเข้าไปนับสิบห้อง ผลที่ได้คือหินวิญญาณระดับต่ำและทักษะยุทธขยะอีกเล็กน้อยพวกมันไร้ประโยชน์สําหรับเขา
“ไม่,ข้าไม่อาจเสียเวลาระมัดระวังตัวอีกต่อไปแล้ว การเก็บเกี่ยวแลกมาด้วยอันตรายที่เท่าเทียมข้าจ่าต้องไปให้ไกลกว่านี้”
เซี่ยวเฉินเก็บหินวิญญาณและพึมพํากับตัวเอง
หลังจากที่เขาตัดสินใจได้,เขาไม่ลังเลและเตรียมตัวที่จะเข้าสู่ชั้นที่หก
ยิ่งเขาขึ้นหน้าไปไกล,ห้องที่เขาพบยิ่งน้อยลงไปในแต่ละชั้น อันตรายเพิ่มสูงขึ้น แต่ผลตอบแทนก็มากขึ้น
เซี่ยวเฉินมองกวาดผ่านฝูงชนที่ชั้นหกอย่างรวดเร็วและตัดสินใจไม่อยู่ต่อ เขาไม่พบผู้เชี่ยวชาญในหมู่คนพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงไปต่อ
สถานที่ที่ผู้เชี่ยวชาญไม่เหลียวมองนั้นหมายถึงไม่มีของมีค่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่จําเป็นที่เชี่ยวเฉินต้องไปสนใจ
เซียวเฉินเดินหน้าต่อไป,มีขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายคนขัดขวางทางของเขา,พยายามจะปล้นเขารีบกวาดกระจัดการกับปัญหา เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสิบก่อนที่เซี่ยวเฉินจะหยุดลง
ในทางวงกลมของชั้นสิบ,ที่แห่งนี้ มีอย่างมากกว่าหนึ่งร้อยห้อง อย่างไรก็ตาม ไม่มีห้องไหนที่ปิดอยู่
มีศพของผู้บ่มเพาะพลังเกลื้อนกราดอยู่ตามพื้น เลือดของพวกเขายังไม่ได้แห้งสนิทยังมีแม่แต่ผู้บ่มเพาะพลังที่ยังมีชีวิตอยู่,กําลังโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
เซี่ยวเฉินมองไปยังศพที่อยู่ตามพื้นและคิ้วขมวด ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ใกล้เคียงกับเขา
กล่าวได้ว่าหากเซียวเฉินเดินหน้าต่อไป,เขาอยากจะไปเจอกับสิ่งที่เป็นภัยกับชีวิตของเขาบางทีเขาอาจจะจบชีวิตลงเหมือนคนที่นอนอยู่ตามพื้น
ไป! ไปต่อ!
เซี่ยวเฉินตัดสินใจ เขาวางมือขวาลงบนด้ามกระบี่และมุ่งหน้าต่อไป
ในตอนที่เซี่ยวเฉินมาถึงที่ชั้นสิบเอ็ด,ไม่มีห้องที่ปิดอยู่เหมือนกับชั้นก่อน มีศพมากขึ้นไปอีกที่เกลื้อนกราดตามพื้นเขาไม่ได้ไปสํารวจและเดินหน้าต่อไป
ที่ชั้นสิบสอง,ชั้นสิบสาม,และชั้นสิบสี่…ห้องสมบัติในพื้นที่ใจกลางทั้งหมดถูกเปิดหมดแล้วสมบัติที่อยู่ภายในถูกนําออกไป
ข้าทําได้เพียงไปที่ชั้นสิบห้า,เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ข้ามาถึงจุดที่ไม่อาจถอยกลับแล้ว
เซี่ยวเฉินจดจ่อกับตัวเองและมุ่งหน้าไปที่ชั้นสิบห้า มีศพมากมายอยู่ที่ทางเข้าของชั้นที่สิบห้า
ผู้บ่มเพาะพลังเหล่านี้ถูกสังหารใจครั้งเดียว แหวนมิติของพวกเขาถูกปลดเอาไปเห็นชัดว่ามีคนเฝ้ารออยู่ที่นี่
เซี่ยวเฉินสํารวจพื้นที่ด้วยสัมผัสวิญญาณของเขาและมองเห็นชายชราลึกลับคนหนึ่งกําลังซ่อนตัวอยู่ในเงาด้านหลังประตู
เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างเย็นชาและส่งเส้นกระบี่ฉีสีม่วงออกไป มันทะลวงทะลุประตูและมุ่งตรงไปที่ชายชราลึกลับคนนั้น
มีดปรากฏขึ้นในมือของชายชรา,และเขาเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลผ่านอาอากศ เขาตัดกระบี่ฉีขาดครึ่งราวกับเศษผ้า
“ปัง!”
ร่างของชายชราลึกลับวูบไหวและประตูไม้แตกสลาย;เขาปรากฏตัวต่อหน้าเซียวเฉิน
“อูซ่างฉวน!”
อซ่างฉวนมองไปที่เซี่ยวเฉินพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย “สหายน้อย,ข้าไม่คาดคิดว่าพวกเราจะได้พบกันอีกแล้วเอาอย่างไร? เจ้าจะพิจารณาคําขอของผู้เฒ่ใหม่หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินคืนกระบี่ของเขากลับเข้าฝักและยิ้มเบาๆ “เป็นผู้เฒ่าอนี่เอง ข้าขออภัยที่ลงมือกับท่า
เห็นเซียวเฉินเก็บกระบกลับไป,อูซ่างฉวนก็ลดการป้องกันลง เขาครุ่นคิดกับตัวเอง,ท้ายที่สุด,เขาก็เป็นเพียงลูกไก่อ่อนต่อโลก ขาสามารถใช้ประโยชน์จากเขาไปสักระยะหนึ่ง
คิดได้ดังนี้น,อซ่างฉวยหัวเราะและกล่าวขึ้น “ไม่จําเป็นต้องใส่ใจเรื่องเล็กน้อยการล่าสมบัติในครั้งนี้เกินกว่าที่ผู้เฒ่าคาดการณ์เอาไว้ ผู้กล้าน้อยน่าจะน่าจะได้เห็นฉากน่าสลดในชั้นที่ผ่านมา”
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมีโอกาสที่จะเปิดประตูสู่ห้องโถงหลัก เจ้าจะคิดทบทวนข้อเสนอของข้าอีกครั้งหรือไม่?”
เซียวเฉินค่อยๆเดินเข้าไปใกล้อซ่างฉวน เขาพบว่าในตอนที่คนผู้นี้กล่าว เขายังคงสภาวะของเขาให้ตื่นตัว นอกจากนั้น,ท่าทางการยืนของเขายังไม่มีช่องว่าง
ไม่ว่าเซี่ยวเฉินจะจู่โจมเข้าไปอย่างไร,อีกฝ่ายก็จะหลบได้เห็นชัดว่าเขาระวังตัวอยู่
เซี่ยวเฉินรักษาระยะหห่างนากอีกฝ่ายห้าเมตร เขากล่าวอย่างเฉยเมย “ในเมื่อพวกเราเจอกันแล้วก็ไปด้วยกันเถอะ ผู้อาวุโส,โปรดบอกข้าเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านหน้า”
อซ่างฉวนพยักหน้าและยิ้ม “มีห้องสมบัติเจ็ดห้องในชั้นที่สิบห้า เป็นเพราะมีคนเพียงเล็กน้อยที่เข้ามาสํารวจชั้นนี้ในอดีตที่ผ่านมา ยังไม่มีใครผ่านการป้องกันไปถึงชั้นที่สิบห้า”
เซี่ยวเฉินเหลียวมองผ่านประตูสู่ชั้นที่สิบห้า มีหุ่นเชิดสัตว์อสูรปะปนอยู่กับซากศพในตอนที่เขาครุ่นคิดด,เขาก็เห็นหุ่นรบและหุ่นเชิดสัตว์อสูรอยู่ที่ทางเข้าของชั้นอื่นๆเช่นกัน
พวกมันน่าจะเป็นยามเฝ้าทางเข้าสู่ชั้นถัดไป อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินมาช้า,และยามเฝ้าทางเข้าก็ถูกโค่นล้มไปแล้วเรียบร้อย ดังนั้น,เซี่ยวเฉินจึงสามารถผ่านเข้ามาโดยไม่มีติดขัด
“ไปกันเถอะ ในตอนนี้ มีกลุ่มสี่หรือห้าคนอยู่ในแต่ละห้องสมบัติ มีพวกเราร่วมมือกัน,พวกเราไม่ต้องไปรอค่อยกับเศษเหลือ” อูซ่างฉวนจี้แจงสถานการณ์
มีอย่างน้อยสิบห้าศพที่อยู่บนพื้น:เซียวเฉินสันนิษฐานว่าเขาเป็นคนสังหาร คนผู้ชั่วร้ายอย่างแท่จริง
อซ่างฉวนนําไปเดินไปเห็นชัดว่าเขาคุ้นเคยเส้นทางพร้อมกับนําทางเซียวเฉินไปที่ห้องสมบัติความชั่วร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาในตอนที่เขาหยุดเท้าลง
เสียงการต่อสู้ดังมาจากภายในห้อง ชี้ให้เห็นว่ามีกลุ่มผู้บ่มเพาะพลังอยู่ด้านใน
“ปัง!”
อูซ่างฉวนถีบประตูและเดินเข้าไป มีขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสี่คนกําลังต่อสู้กับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 ที่ดุร้ายภายในห้อง
มีหีบสีทองสามใบตั้งอยู่เงียบๆที่มุมห้อง
ในตอนที่พวกเขาสองสามคนเห็นอซ่างฉวนปรากฏตัวขึ้น,พวกเขาทั้งหมดตกใจผู้นํากลุ่มซัดสัตว์อสูรปีศาจถอยหลังไปด้วยฝ่ามือ
ผู้นํากลุ่มกระโดดออกจากการต่อสู้และพุ่งมาที่อซ่างฉวน เขามองไปยังเซียวเฉินที่อยู่ด้านหลังและกล่าว “อซ่างฉวน,เจ้ามาทําอะไร? ไม่ใช่ว่าข้าบอกให้เจ้าไสหัวไป?”
อซ่างฉวนยิ้มและกล่าว “หยางเหวิน,ผู้เฒ่าคนนี้เห็นชัดว่าพบกับห้องนี้ก่อน ทําไมข้าถึงมาอยู่ที่นี้?แน่นอน,ข้ามาเพื่อไล่พวกเจ้าออกไป”
หยางเหวินมองไปที่เซี่ยวเฉินและยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ด้วยการพึ่งพาเขา? เจ้ามันไร้สาระ!”
“ดึงความสนใจคนผู้นี้เอาไว้ก่อน ข้าจะไปจัดการกับอีกสามคนที่เหลือ หลังจากนั้นพวกเราจะ แบ่งสมบัติในห้องนี้อย่างเท่าเทียม มิฉะนั้นด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,เจ้าไม่อาจฉกฉวยอะไรไปได้จากชั้นที่สิบห้า”
อูซ่างฉวนจดจ่อเสียงของเขาไปที่หูของเซี่ยวเฉินขณะที่เขากล่าวขึ้น
เซี่ยวเฉันคิดอย่างรวดเร็ว หลังจากจังหวะนั้น,ขณะที่ทั้งสองกําลังพูดคุย,เขาได้ตัดสินใจชักกระบี่ของเขาออกมา
เซี่ยวเฉินส่วกระบี่ฉีสีม่วงไปที่หยางเหวิน หยางเหวินยิ้มเบาๆและปลดปล่อยฝ่ามือวายุของเขาออกมา
ฝ่ามือวายุโหร้อง,พายุหมุนปรากฏขึ้นในอากาศ ฝ่ามือที่ดูธรรมดานี่ไม่ได้อ่อนด้อย
“ชี! ชี้! ชี!”
อย่างไรก็ตาม,กระบี่แสงของเซี่ยวเฉินหนาแน่นเป็นอย่างยิ่ง สภาวะแห่งสายฟ้าอันแข็งแกร่งสับผ่านฝ่ามือวายุอย่างง่ายดาย เซี่ยวเฉินใช้จังหวะนี้เข้าประชิดตัวหยางเหวิน
อูซ่างฉวยหัวเราะคักและรีบมุ่งหน้าไปหาอีกสามคนที่เหลืออย่างรวดเร็ว “หยางเหวิน,ขอให้สนุกข้าจะไปเล่นเกมพี่น้องของเจ้าก่อน”
ให้ตาย! เขาสําเร็จสภาวะแห่งสายฟ้า เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการกับเขาภายในสองหรือสามกระบวณท่า
สีหน้าของหยางเหวินเปลี่ยน เขาอยากที่จะหยุดอซ่างฉวน,แต่กระบี่แสงขัดขวางเขาเอาไว้
หยางเหวินหลบหลีกสองสามครั้ง แต่กระบี่แสงก็ยังไล่ตามหลังเขามา ไม่มีทางที่เขาจะหลบหนีไปได้เขาทําได้เพียงระมัดระวังและจดจ่ออยู่ที่เซียวเฉิน
“ข้าจะสังหารเจ้าลงเสียวันนี้สําหรับที่มาแส่เรื่องของข้า!” หยางเหวินร้องตะโกนและส่งฝ่ามือจู่โจมรุนแรงไปที่เซี่ยวเฉิน
เส้นกระบี่เยือกแข็งขยายผ่านฝ่ามือวาย ฉีเยือกแข็งอัดแน่นกันราวกับเส้นดาย หยางเหวินผู้นี้สําเร็จสภาวะแห่งน้ําแข็ง
ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงที่มีสภาวะแห่งน้ําแข็ง,คนผู้นี้รับมือด้วยไม่ได้ง่ายอซ่างฉวนที่ยังอยู่ตรวนี้ไม่ได้รับมือง่ายดายไปกว่ากัน ข้าจะเล่นตามน้ําไปก่อนในตอนนี้
เซี่ยวเฉินตัดสินใจและใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยาน เขาไม่ได้เอาพลังเข้าชนกับหยางเหวินโดยตรงและเคลื่อนไหวไหลลื่นไปรอบๆราวกับปลาไหล
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่อีกฝ่ายอยากจะผละออกไป,แสงกระบี่ก็ไล่ตามเขาไปราวกับเป็นงูพิษบังคับให้หยางเหวินต้องกลับมารับมือกับพวกมัน
มีสองสามครั้งที่หยางเหวินทําที่แสร้งทําว่าจะผละตัวออกไปแต่ความจริงเขาวางแผนจะจับตัวเซี่ยวเฉินแต่อย่างไรก็ตาม,ทักษะการแสดงของเขาอ่อนเกินไปและเซียวเฉินก็มองออกได้ในทัน
ถึงกับมีสองสามครั้งที่หยางเหวินหลงกลของเซียวเฉิน,ทําเขาพลาดท่า
“อ้า!”
มีเสียงกรีดร้องน่าสังเวช อูซ่างฉวนในที่สุดก็ลงมือและลอบโจมตีหนึ่งในสามขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่กําลังรับมือกับสัตว์อสูรปีศาจ
หยางเหวินกังวลเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินตามวอแวไม่ยอมปล่อยให้เขาผละออกไปช่วย
หลังจากที่ขอบเขตกษัตริย์ยุทธสี่คนปิดล้อมสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 เอาไว้ได้,ชัยชนะก็ตกอยู่ในกํามือพวกเขาสามารถสังหารมันบงได้
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้หายไปหนึ่งคน ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถสังหารสัตว์อสูรมีศาจลงได้และทําได้เพียงฝืนตั้งรับ ดังนั้น,อูซ่างฉวนจึงลอบโจมตีสําเร็จไปตามคาด
หายไปอีกหนึ่งคน อีกสองคนที่หรือไม่อาจรับมือกับสัตว์อสูรปีศาจได้อีกต่อไป สัตว์อสูรปีศาจวิ่งไล่ล่า;พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะวิ่งหนี
“ฟุ ฟิว!”
มีกระบี่แสงวูบไหว มีดในมือของอุซ่างฉวนปลิดชีวิตไปอีกหนึ่งคน จากนั้นเขาก็หายลับไปจากสายตาอีกครั้ง,ซ่อนกายอยู่ในเงา
กระแสพลังของอุซ่างฉวนจางหายไปยอ่างสมบูรณ์ เขาไม่ได้ดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรปีศาจ
เหลืออีกหนึ่งคน จากนั้น,ข้าจะจัดการกับหยางเหวิน และหลังจากนั้นเจ้าหนูนั้นก็ไม่มีค่าอะไรอีกเมื่อถึงตอนนั้น,ทางเข้าสู่ห้องโถงหลักน่าจะเปิดออกข้าจะไปลองเสี่ยงโชคของข้าที่นั้น
อซ่างฉวน,ผู้ที่ซ่อนกายอยู่ในเงา,ยิ้มกริมกับตัวเอง ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา