Immortal and Martial Dual Cultivation - ตอนที่ 280 กระบหรูขุย
ตอนที่ 280 กระบหรูขุย
ทุกที่ที่เซี่ยวเฉินเคลื่อนผ่าน,เขาทิ้งภาพติดตาเอาไว้ด้านหลัง ภาพติดตาค่อยๆจางหายหลังจากที่เวลาผ่านไป
“ข้าทะลุผ่านความเร็วเสียงได้จริงๆ!”
เซี่ยวเฉินหยุดเท้าและเผยรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจากที่เขาขึ้นมาถึงความเร็วเสียง,ร่างของเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกันอากาศ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นหายไปตามสายลมโดยไม่ก่อให้เกิดเสียดังสั่น
เซี่ยวเฉินหุบยิ้มและกล่าว “ผู้บ่มเพาะพลังทั่วไปจะขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียงได้ก็หลังจากที่ก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ รองเท้าก้าววายุทําให้ข้าขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียง ได้ขธที่ข้ายังอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ มันคุ้มค่ากับหินวิญญาณสองแสนก้อน”
“หากสภาวะแห่งสายลมของมู่หลงชงไม่พัฒนาไปมากกว่านี้ เช่นนั้นตอนนี้ข้าก็รวดเร็วกว่าเขาแล้ว ข้าไม่ตกเป็นรองเพราะความรวดเร็วของเขาอีกต่อไป”
โดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา,เซี่ยวเฉินทดสอบต่อว่าพลังปราณของเขาจะอยู่ได้นานถึงเพียงใดหากว่าเปิดใช้รอบเท้าก้าววายุแบบเต็มกําลัง
ผ่านไปสองชั่วโมง,เซี่ยวเฉินพบว่าพลังปราณของเขาลดลงไปไม่ถึงครึ่ง เขากล่าว “ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาที่จะรักษาความเร็วเอาไว้ถึงสี่ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม,ข้าก็ยังเสียพลังปราณไปกับอย่างอื่นในขณะที่ต่อสู้”
“ในการต่อสู้จริงข้าคงจะสามารถรักษาความเร็ว เอาไว้ได้สามชั่วโมงก็ไม่เลวนัก”
เซี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาถือไว้ในมือทั้งสองข้าง จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นและค่อยๆฟื้นฟูพลังปราณกลับมา
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง, เรืองแสงบนหินวิญญาณจางหายไป พลังปราณของเซียวฉันเติมกลับมาเต็มอีกครั้งก่อนที่เขาจะค่อยๆลุกขึ้น
เมื่อเซี่ยวเฉินมองไปที่ประตู,เขาประหลาดใจที่พบหยุนเข่อซิน ไม่รู้ว่านางมาตั้งแต่ตอนไหน เขารีบเดินออกไปต้อนรับนาง “ศิษย์พี่หยุน,ท่านมาหาข้ามีเรื่องอะไร?”
ประกายแสงความประหลาดใจในสายตาอันสงบนิ่งของนาง “เย่เฉิน,เจ้าทะลวงระดับอีกครั้งแล้ว?”
เซียวเฉินพยักหน้าและยิ้มขึ้น “อืม,ต้องขอบ คุณเม็ดยารวมปราณ มันช่วยให้ข้าประหยัดเวลาไปถึงสองเดือน”
ถึงแม้หากไม่มีเม็ดยารวมปราณ,ด้วยพรสวรรค์ของเซี่ยวเฉินและความเร็วของทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่ติดอยู่ที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นชั้นยอดสุดนานนัก
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ดีเยี่ยมที่ช่วยให้เซี่ยวเฉินประหยัดเวลาไปถึงสองเดือน สิ่งที่เซี่ยวเฉินขาดแคลนตอนนี้ก็รือเวลา
ท่าทีของหยุนเข่อซินกลับไปสงบอีกครั้ง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอะนละเอียดอ่อนของนาง นางกล่าว “ยินดีด้วยกับเจ้า ข้าผ่านมาจึงได้แวะ มาหาเจ้าในเมื่อเจ้ากําลังบ่มเพาะพลัง,ข้าก็จะไม่ขอรบกวน ข้าขอตัวก่อน!”
“รอก่อน!” เซี่ยวเฉินร้องเรียก
หยุนเข่อซินหันกลับมาและถามขึ้น “มีเรื่องอะไรรึ?”
เซี่ยวเฉินพยักหน้า “อืม,ข้าอยากจะขอให้เจ้า ช่วยข้าในการทดสอบพลังป้องกันของสมบัติของลับ ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่ของเจ้ากับข้า”
จี้หยกนั้นแตกต่างจากรองเท้าก้าววายุ มันเป็นสมบัติลับป้องกัน เซี่ยวเฉินไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถทดสอบมันได้ด้วยตัวเอง เขาจะต้องมีคนอื่นมาช่วย
หยุนเข่อซินยุแหย่ “เจ้าจึงอยากจะขอแรงข้า ข้าก็คิดว่าจะมีเรื่องสําคัญอะไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าไม่ทําอะไรฟรีๆ”
เซี่ยวเฉินอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เขาพบว่าหลังจากที่เขาคุ้นเคยกับหยุนเข่อซิน,นางไม่ได้เย็นชา แบบที่นางแสดงออกมา นางยังมีด้านที่น่ารักและซุกซน
อย่างไรก็ตาม ยิ่งรู้จักธาตุแท้ของหยุนเข่อซิน,เซี่ยวเฉินพบว่าตอบโต้กับนางได้ง่ายขึ้น เขากล่าว “เม็ดยารวมปราณหนึ่งเม็ดเป็นเช่นไร?”
หยุนเข่อซินหัวเราะ,ใบหน้าของนางสดใสราวกับบุปผา นางกล่าว “ข้าเพียงล้อเจ้าเล่น เตรียมพร้อมแล้วใช่หรือไม่? ข้าได้ยินมาว่ามันสามารถรับการโจมตีเต็มกําลังของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางชั้นยอดสุดได้ ดังนั้นข้าจําเป็นต้องใส่เต็มแรง”
เซี่ยวเฉินหยิบเอาจี้หยกออกมาวางเอาไว้ที่หน้าอก เขารู้สึกสดชื่นขึ้นในทันที
เหมือนกับรองเท้าก้าววายุ,รูปแบบค่ายกลภายในเชื่อมต่อกับจิตของเซียวเฉิน
มันสะดวกในการเปิดใช้เป็นอย่างมาก หลักจากที่เซี่ยวเฉินปรับตัวแล้ว สีหน้าระมัดระวังปรากฎขึ้นมาพร้อมกับกล่าวขึ้น “มา! ข้าพร้อมแล้ว!”
หยุนเข่อซินมีความนิ่งสงบพร้อมกับเข้าสู่สภาวะเยือกเย็น นางค่อยๆดึงอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ กระบี่มังกรคํารนออกมา กระบี่ฉายแสงออกมาภายใต้แสงอาทิตย์
กระแสพลังของหยุนเข่อซินเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และสายตานิ่งสงบของนางหลายเป็นเฉียบคมราวกับคมกระบี่ กระบี่ในมือของนางเริ่มสั่นเพิ่ม
เสียงของกระบี่กําลังสั่นสะเทือนจากอ่อนนุ่มเริ่มดังขึ้น มันสั่นสะเทือนถึงก้องไปโดยรอบ ระลอกคลื่นขยายไปในอากาศ, เกิดเป็นสายลมรุนแรงขึ้นมา
“บูม!”
เสียงเซ็งแซ่อันไร้ที่สิ้นสุดผสานเข้าด้วยกันเกิดเป็นเสียงเดียว,ทะยานขึ้นสู่เก้าสวรรค์
มันสลายหมู่เมฆที่อยู่บนท้องฟ้า ปราศจากเมฆคอยบดบังแสงอาทิตย์สาดสว่างลงมา มันเจิดจ้า และแสบตาเป็นอย่างยิ่ง
กระแสพลังของหยุนเข่อซินในที่สุดก็ขึ้นมาถึงขีดสุดและกลายไปเป็นกระบี่คม นางยิ่งมันออกไปที่เซี่ยวเฉินและร่างของนางวูบผ่านอากาศพร้อมกับนางส่งตัวเองไปที่เซี่ยวเฉิน
หยุนเข่อซินไม่แสดงความปราณีแม้แต่น้อย ขณะที่เซี่ยวเฉินมองดูหยุนเข่อซินที่ส่งการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของนางออกมา,โล่โปร่งใสล้อมรอบตัวของเขาเอาไว้
“ปัง!”
อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ซัดเข้าที่สมบัติลับป้องกันเกิดเป็นเสียงดัง โล่แสงกระเพื่อมขึ้นราวกับผิวน้ํา
เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่อยู่ด้านหลังโล่,รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่ง เขาถอยกลับไปสองก้าวแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
กลับกัน,หยุนเข่อซินถูกซัดด้วยแรงสะท้อนของ โล่พลังและถอยกลับไปหลายก้าว สีหน้าของนางซีดขาว,ราวกับถูกสูบเลือดออกไป
เซี่ยวเฉินรับถอนโล่พลังอย่างรวดเร็วและรีบตรงเข้าไปหา เขาถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “เจ้าเป็นเช่นไร? มันเป็นแค่การทดสอบ,เจ้าไม่จําเป็นต้องพยายามถึงเพียงนี้”
หยุนเข่อซินไม่ได้ตอบกลับเซียวเฉินในทันที นางควบคุมฉีและโลหิตที่กําลังปั่นป่วน
ผ่านไปครู่หนึ่ง,สีหน้าของหยุนเข่อซินเริ่มกลับมา จากนั้น,นางเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมกับกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร ในเมื่อมันเป็นการทดสอบ,ข้าต้องทําให้เต็มที่ เช่นนั้น เจ้าจะได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของมัน ในอนาคต ในตอนที่เจ้าประมือกับผู้คน,เจ้าจะได้ไม่ต้องรู้สึกกังวล”
หยุนเข่อซินหยุกไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อ “ข้าได้ใช้ทักษะกระบี่ทํานองสวรรค์และผนวกเข้ากับอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ การโจมตีเต็มกําลังของข้าเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้น โล่แสงไม่มีท่าทีจะแตกสลายในตอนที่ข้าซัดลงไป มันน่าจะสามารถรับการโจมตีของระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นกลางได้”
อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์สามารถเร่งพลัง โจมตีของหยุนเข่อซินขึ้นมาได้ถึงร้อยละห้าสิบ นอกจากนั้น มันยังเร่งพลังของทักษะกระบี่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน พลังโจมตีของหยุนเข่อซินเป็นไปตามที่นางกล่าว,เทียบเท่ากับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น
เซี่ยวเฉินหยิบเอาเม็ดยารวมปราณออกมาและโยนให้กับหยุนเข่อซิน”ขอบใจมาก!”
หยุนเข่อซินยื่นมือของนางออกไปรับเอาเม็ดยารวมปราณ นางยิ้มและกล่าวขึ้น”ข้าเพิ่งค้นพบในวันนี้ว่าการโจมตีเต็มกําลังของข้าจะมีค่าถึงเพียงนี้ มันสามารถใช้แลกเปลี่ยนกับเม็ดยารวมปราณที่มีมูลค่ากว่าสามหมื่นหินวิญญาณระดับต่ํา
ดูเหมือนว่าข้าควรจะมาหาเจ้าทุกครั้งที่ข้ามีเวลา ไม่กี่วันข้าก็รวยแล้ว”
เซี่ยวเฉินเหงื่อตกในใจพร้อมกับยิ้มอ่อน “เช่นนั้น,ไม่กี่วันข้าก็กลายเป็นยาจก”
พวกเขาทั้งสองมองกันไปมาแล้วก็หัวเราะ พวกเขาพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งและต้องหยุดลง เพราะมีคนจากตระกูลหยุนเรียกหาหยุนเข่อซิน
หลังจากที่หยุนจากไป เซียวเฉินพยายามใช้ ที่หน้าอกของเขา อย่างไรก็ตาม,เขาไม่สามาร ถเริ่มต่อกับมันได้ เป็นไปตามที่ศาลาหลินหลางกล่าว,มันสามารถใช้ได้วันละครั้ง
หลังจากที่พักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินหยิบเอาอาหารแห้งออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล หลังจากกินเสร็จ,เขาหยิบตําราทักษะสายฟ้าระดับสูงออกมา,ทักษะกระบหรู
ทักษะกระบหรูขุยมีทั้งหมดเก้ากระบวณท่า มันเป็นทักษะต่อสู้ประเภทสายฟ้า เดิมทีมันเป็นทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์จากยุคโบราณ ในภายหลัง,มีคนเติมเต็มในส่วนที่ไม่สมบูรณ์และกลับกลายเป็นอ่อนพลังลงกว่าแต่ก่อน
ที่จริงแล้ว,ทักษะต่อสู้มากมายในทวีปเทียนหรูล้วนตกทอดมาจากยุคโบราณ มีเพียงส่วนน้อยที่สร้างขึ้นมาภายหลังยุคโบราณ
การแก้ไขทักษะต่อสู้โบราณและเพิ่มความเข้าใจของตัวเองลงไปเป็นวิธีหนึ่งที่จะได้รับ ทักษะต่อสู้มา อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้หายากกว่าสองวิธีก่อนหน้า
เหตุผลเป็นที่ชัดเจน ทักษะต่อสู้ที่ถูกแก้ไขจะเป็นทักษะต่อสู้ที่ไม่สมบูรณ์ การแก้ไขทักษะต่อสู้ยากเย็นกว่าการสืบทอดหรือสร้างขึ้นมาใหม่
นอกจากนั้น เพื่อที่จะผสานความเข้าใจอย่างถ่องแท้และทําให้มันกลมกลืนยากเสียยิ่งกว่า สองเหตุผลนี้รวมกันทําให้ทักษะต่อสู้ประเภทนี้หายากเป็นอย่างยิ่ง
เซี่ยวเฉินอ่านตําราทักษะกระบี่หวี่ขยอย่างละเอียดภายใต้แสงอาทิตย์จ้า หลังจากที่เปิดอ่าน,เขาก็จมลึกไปกับมัน เขาอ่านต่อไปเรื่อยๆจนถึงมืดค่ํา,จนถึงตอนนี้,เขาได้อ่านจนเกือบจบแล้ว
เซี่ยวเฉินปิดตําราลง,เขารู้สึกเร้าร้อนอย่างมาก พร้อมกับพึมพํา “ผู้ที่แก้ไขมันเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่เขาจะเข้าใจถึงผู้คนในยุคโบราณ,เขายังแก่จุดผิดพลาดบางจุดคนผู้นั้นจับ ความแข้าใจของเขาและปัญญาของคนยุคโบราณมาผสานเข้าด้วยกัน”
“หากคนผู้นี้ไม่ได้รับมาเพียงตําราสําเนาที่ไม่สมบูรณ์,พลังของทักษะกระบี่หรูขุยนี้อาจจะเทียบเท่าได้กับต้นฉบับ”
เมื่อเซี่ยวเฉินกําลังจะปิดตํารา,เขาสังเกตเห็นข้อความเลือนลางที่หน้าสุดท้ายโดยบังเอิญ ข้อความบรรทัดนี้เขียนด้วยอักษรโบราณ,ที่มันเหมือนกับตัวอักษรจีนดั้งเดิมในโลกก่อนของเขา
เป็นเพราะมันเลือนลางและยังเขียนด้วยตัวอักษรจีนดั้งเดิมของโลกเก่า,คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้สังเกตเห็น
เซี่ยวเฉินอ่านมันออกมาช้าๆ “ตําราของเดิมไม่ชัดเจน ซังมู่ได้แก้ไขใหม่ในปี 689 ของอาณาจักรต้าฉิน หากมันมีอะไรขาดหาย,คนรุ่นต่อไปโปรดชี้มันออกมา”
จักรพรรดิอัสนีซังมู่! “
หลังจากที่เซี่ยวเฉินอ่านข้อความบรรทัดนี้ เขาตกตะลึงนิ่งอึ้ง คนที่แก่ไขตําราทักษะต่อสู้เล่มนี้ก็ คือจักรพรรดิอัสนีซังมู่ หากเขานึกย้อนไปถูกต้อง,ในปี 689 ของอาณาจักรต้าฉิน,จักรพรรดิอัสนีอายุได้เพียงยี่สิบปี”
เขามีพรสวรรค์ที่น่ากลัวเพียงนี้ในตอนอายุยี่สิบปี,ทําสําเร็จในสิ่งที่ผู้อื่นไม่อาจทําได้ตลอดหนึ่งร้อยปี จักรพรรดิอัสนีมีพรสวรรค์ไร้เทียมทานถึงเพียงใดในหนึ่งพันปีก่อน?”
ความคิดของเซี่ยวเฉินโลดแล่น เขาคิดถึงโชคชะตาของเขากับคนผู้นี้ ในอดีต, ในตอนที่จักรพรรดิอัสนี้สอนเขาถึงต้นกําเนิดปัญญายุทธรูปแบบแปรลักษณ์,เขากล่าวออกมาเพียงประโยคเดียวะหนึ่งกระบวณท่าล้างพันทักษะ, หนึ่งฉีสั่นสะเทือนโลกา
น่าเสียดาย,พรสวรรค์ของเซี่ยวเฉินต่ําต้อย,แม้ว่าจนถึงวันนี้ เขายังไม่เข้าใจถึงประโยคนั้นอย่างสมบูรณ์ สําหรับต้นกําเนิดปัญญายุทธที่เลียนแบบทักษะยังมีอีกมากที่เขาต้องปรับปรุง
เมื่อเซี่ยวเฉินครุ่นคิดเกี่ยวกับจักรพรรดิอัสนี,เขานึกถึงคําสัญญานั้นขึ้นมาอีกครั้ง อย่า ปล่อยให้นางต้องร้องไห้ สายตาของเขามองลงไปที่กระบี่เงาจันทร์และเขาพยักหน้าอย่างตั้งมั่น
รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซียวเฉินเก็บตําราทักษะกระบหรูขุยกลับไปในแหวนห้วงจักรวาล จากนั้นเขาก็เริ่มเตรียมพร้อมที่จะฝึกฝนทักษะกระบี่หวู่ขุย
ทักษะกระบหวู่ขุยมีทั้งหมดเก้ากระบวณท่า สามท่าแรกเป็นพื้นฐาน,พวกมันเป็นชั้นรากฐานของทักษะกระบี่หวู่ขุย เพื่อที่จะฝึกฝนอีกหกกระบวณท่า,จะต้องบรรลุถึงกระบวณท่าพื้นฐานอย่างถ่องแท้เป็นอันบดับ
กระบวณท่าที่สี่ถึงหกเป็นกระบวณท่าฆ่าฟัน หลังจากที่ใช้ออก,มันจะทําให้คู่ต่อสู้ถูกดันเข้าจนมุม กระบวณท่าที่เจ็ดถึงเก้าเป็นกระบวณท่าปลิดชีพ อย่างที่บอกเป็นนัย,จังหวะกระบวณท่าปลิดชีพใช้ออก,คู่ต่อสู้ตกตายอย่างแน่นอน
แน่นอน มันเป็นสิ่งที่อธิบายเอาไว้,ที่เรียกว่า”ปลิดชีพ” มันไม่ได้หมายความว่าคู่ต่อสู้จะต้องตกตายลงอย่างแน่นอน มันเป็นเพียงแนวคิด
เซี่ยวเฉินวางมือขวาของเขาลงบนด้ามกระบี่ และหลับตาลง จิตใจของเขานิ่งสงบพร้มอกับเข้าสู่สภาวะแห่งบรรลุสงบนิ่ง
ไม่รู้ว่าเวลาไหลผ่านไปนานถึงเพียงใดแต่ท้องฟ้าได้มืดสนิทลงแล้ว ไม่มีแสงจันทร์ฉายลงมาใน คืนนี้ที่ลานปกคลุมไปด้วยความมืด เมื่อยื่นมืออกมา,ไม่อาจมองเห็นนิ้วของตัวเองได้ ที่ลานเล็กแห่งนี้เงียบสนิท