I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 439 พอใจแล้ว?
เจี่ยงเส่าอวี่ร่วงลงมาที่พื้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนที่เขากระเด็นไปในอากาศเมื่อสักครู่นั้น เขาสัมผัสได้ถึงบาเรียที่ขวางเขาเอาไว้ ถึงแม้บาเรียนั้นนุ่มนวลอ่อนโยนมาก ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรต่อเขาเลย แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ที่นี่มียอดฝีมืออยู่คนหนึ่งซึ่งเขาได้ลงมือแล้ว คนที่สามารถจำกัดขอบเขตพื้นที่โดยที่เขาไม่รู้ตัวได้ย่อมต้องเป็นยอดฝีมือระดับเขตแดนอย่างแน่นอน
เจี่ยงเส่าอวี่กวาดตามองร้านอุปกรณ์หนึ่งรอบอย่างระแวดระวัง เมื่อเขามองเห็นหลิงหลานที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาก็มองข้ามไปทันที เขาเพ่งความสนใจไปยังพวกคนที่ซ่อนอยู่ตรงมุม ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าเคร่งขรึมแววตาเปล่งประกายโดดเข้ามาในสายตาของเขา อาศัยจากระดับของเขาแล้ว ดูตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่ายไม่ออกเลย หรือว่าจะเป็นคนผู้นั้น?
เจี่ยงเส่าอวี่ในยามนี้ไม่มีความมั่นใจเหมือนในตอนแรกอีกแล้ว เขาไม่รู้ว่ายอดฝีมือเขตแดนคนนี้ยืนอยู่ฝั่งไหน ในใจเริ่มระส่ำระส่ายขึ้นมา
ตอนนี้เอง เขาพลันเห็นสายตาของชายวัยกลางคนผู้นั้นหันไปทางเด็กหนุ่มชุดขาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากพวกเขา ริมฝีปากขยับราวกับกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับอีกฝ่าย เจี่ยงเส่าอวี่ตกตะลึง เขาแทบจะแน่ใจแล้วว่า ชายวัยกลางคนผู้นี้น่าจะยืนอยู่ทางฝ่ายนั้น ถ้าเกิดเขาไม่ระวังทำร้ายเด็กหนุ่มที่งดงามตรงหน้านี้เข้าจริงๆ ละก็ คิดดูแล้วไม่น่ามีจุดจบที่ดี
เจี่ยงเส่าอวี่สามารถดำรงตำแหน่งอันดับหนึ่งของโรงเรียนทหารชายที่สอง ก็ย่อมไม่ใช่คนสมองทึบ เขาตัดสินใจทันที เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเตรียมตัวโจมตีเข้ามา ก็รีบใช้มือขวางไว้ ตะโกนว่า “ฉันยอมแพ้”
น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ของเขาคือ ลั่วล่างที่เปิดใช้บุคลิกเย็นชาสุดขีด ลั่วล่างคนนี้ไม่ใช่คนที่ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ในเมื่อต่อสู้กับอีกฝ่ายแล้ว หากไม่ตัดสินผลแพ้ชนะให้ชัดเจนจะยุติวางมือลงได้อย่างไร?
เจี่ยงเส่าอวี่เห็นอีกฝ่ายได้ยินคำพูดแล้ว แต่ไม่ได้ผ่อนฝีเท้าลงเลย หัวใจก็หนักอึ้งทันใด เขารู้สึกว่าครั้งนี้ตัวเองบุ่มบ่ามไปจริงๆ ยังไม่ได้ข้อมูลรายละเอียดของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งก็หลับหูหลับตาเข้าไปหาเรื่อง ตัณหาครอบงำจนหน้ามืดตามัวไปแล้วจริงๆ… นี่เป็นครั้งแรกที่เจี่ยงเส่าอวี่เกิดความรู้สึกเสียใจ เขาเอามีดมาปักหัวเพราะราคะเข้าแล้วจริงๆ
เจี่ยงเส่าอวี่ที่จนปัญญาจึงปะทะกับลั่วล่างอีกหนึ่งกระบวนท่า ครั้งนี้เขายังถอยหลังมากกว่าลั่วล่างอีกหลายก้าวเนื่องจากความฉุกละหุก กระแทกเข้ากับขอบเขตที่หลิงหลานกำหนดไว้ทันที เขาโดนขวางเอาไว้อีกครั้ง
หลิงหลานที่เฝ้าชมอยู่ด้านข้างด้วยสายตาเย็นชามาตลอดพลันเลิกคิ้วขึ้น สายตาที่มองไปทางเจี่ยงเส่าอวี่ดูใคร่ครวญเล็กน้อย เมื่อสักครู่นี้ เขตแดนของเธอโดนโจมตี แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของคนโจมตีห่างจากเธอค่อนข้างมาก เลยไม่สามารถทะลวงเขตแดนของเธอได้
ที่แท้เจี่ยงเส่าอวี่ดูเหมือนโดนพลังปราณของลั่วล่างบีบให้ถอยหลังหลายก้าว แต่ความจริงแล้ว ระยะทางที่เขาถูกบีบให้ถอยหลังไม่ได้ยาวขนาดนั้น แม้ลั่วล่างเปิดใช้บุคลิกเย็นชาสุดขีดจะชดเชยความห่างชั้นของระดับขั้นพวกเขาสองคนได้ แต่ว่าลั่วล่างยังคงไม่สามารถชดเชยด้านความหนาแน่นของพลังแฝงภายในร่างกายได้ ดังนั้นต่อให้เจี่ยงเส่าอวี่สูญเสียความมุ่งมั่นไปแล้ว แต่ลั่วล่างก็ไม่สามารถกำราบเจี่ยงเส่าอวี่ถึงระดับนี้ได้อยู่ดี
สาเหตุที่เจี่ยงเส่าอวี่ทำแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเขาอยากอาศัยการโจมตีของลั่วล่างในครั้งนี้ พยายามหลุดออกจากเขตแดน เมื่อเขากำลังจะแตะโดนบาเรีย เขาที่เตรียมตัวไว้นานแล้วก็โคจรพลังปราณชนใส่บาเรียตรงๆ น่าเสียดายที่บาเรียแข็งแกร่งทนทานกว่าที่เขาจินตนาการไว้ หลังจากที่โจมตีด้วยพลังปราณเข้าไป ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาเลยสักนิดเดียว พลังปราณของเขาถูกดูดซับเข้าไปจนหมดในชั่วพริบตา เขายังคงถูกขวางเอาไว้
เวลานี้เจี่ยวเส่าอวี่รู้แล้วว่า ต่อให้เขายอมแพ้เอง ไม่ว่าลั่วล่างตรงหน้า หรือว่ายอดฝีมือเขตแดนที่ลงมือในที่ลับคนนั้นล้วนไม่ปล่อยเขาไปทั้งนั้น ความอำมหิตแล่นวาบขึ้นในใจเจี่ยงเส่าอวี่ที่กำลังหวาดหวั่น ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยเขาไป เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะเอาค่าชดใช้กลับไปสักหน่อยด้วย
พริบตานั้น เจี่ยงเส่าอวี่ที่ทำใจเหี้ยมก็ไม่ได้ถอยหนีอีกต่อไป เขาปลดปล่อยพลังปราณออกมาทั้งหมด ต่อสู้โรมรันกับลั่วล่างอย่างสุดกำลัง
เป็นไปตามที่คาดไว้ เจี่ยงเส่าอวี่ที่ปล่อยพลังเต็มพิกัดแย่งชิงความได้เปรียบกลับมาได้ทันที และข่มลั่วล่างเอาไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ลั่วล่างกลับกอบกู้สถานการณ์ได้อีกครั้ง บุคลิกเย็นชาสุดขีดนั้น ยิ่งอ่อนแออยู่ในสภาพเสียเปรียบ แรงสะท้อนกลับก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ส่วนเจี่ยงเส่าอวี่ที่โจมตีมานานแต่ว่าโค่นอีกฝ่ายลงไม่ได้ในที่สุดก็เกิดความใจร้อนหุนหันพลันแล่นขึ้นมา…
เสียง ‘ปัง’ ดังสนั่น ทั้งสองคนปะทะกันอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ทั้งคู่ไม่ได้แยกจากกันทันทีเหมือนหลายครั้งก่อนหน้านี้ พวกเขายังคงยันกำปั้น ยืนนิ่งไม่ไหวติง
แต่คนที่มีสายตาแหลมคมกลับมองเห็นชัดเจน ที่แท้ครั้งนี้ลั่วล่างไม่ได้ใช่หมัด หากแต่เป็นฝ่ามือ ฝ่ามือข้างซ้ายของเขาคว้าหมัดของเจี่ยงเส่าอวี่ไว้ตรงๆ นี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ทั้งสองคนไม่ได้ถูกดีดออก
ทันใดนั้น มุมปากของลั่วล่างที่ยืนนิ่งไม่ขยับพลันมีเลือดไหลซิบออกมา ลั่วล่างรับพลังปราณทั้งหมดของอีกฝ่ายไว้เพื่อที่จะรักษาสถานที่ ดันนั้นจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บภายในได้
เจี่ยงเส่าอวี่สีหน้าเปลี่ยนไปทันใด ลั่วล่างที่ได้รับบาดเจ็บคล้ายกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนร่างกาย ฝ่ามือที่กุมหมัดของอีกฝ่ายไว้ยังคงทรงพลังมั่นคง ส่วนมือขวาที่เตรียมพร้อมไว้นานแล้วถูกยกขึ้นมาฉับพลัน หมัดอันดุดันต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของเจี่ยงเส่าอวี่ เจี่ยงเส่าอวี่คล้ายกับได้ยินเสียงหมัดแหวกอากาศ เขารู้ว่าถ้าเกิดโดนโจมตีเข้าละก็ เขาจะต้องถูกต่อยจนสลบอย่างแน่นอน
เจี่ยงเส่าอวี่ถูกลั่วล่างจับไว้ ไม่อาจหลบหลีกได้ ทำได้เพียงฝืนต้านรับไว้เท่านั้น มือซ้ายของเขากำหมัดและเข้าไปรับการโจมตีอย่างเฉียบขาด
หมัดปะทะเข้ากับหมัด ต้านกันอยู่หลายวินาที หมัดนี้ ลั่วล่างที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีใช้พลังทั้งหมดของเขา ขณะที่หมัดนี้ของเจี่ยงเส่าอวี่ต้านรับอย่างฉุกละหุก จึงปลดปล่อยพลังของตัวเขาออกมาแค่เจ็ดส่วนเท่านั้น…
บทสรุปจึงถูกตัดสินในยามที่ลั่วล่างทำร้ายตัวเอง ทั้งสองคนกระเด็นลอยออกไปฉับพลัน เลือดที่ไหลซึมตรงมุมปากของลั่วล่างเปลี่ยนเป็นไหลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เจี่ยงเส่าอวี่กลับไม่อาจควบคุมกลิ่นคาวที่พลุ่งพล่านตรงหน้าอก กระอักเลือดพรวดออกมากลางอากาศ ท้ายที่สุดก็กระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรงแล้วไถลออกไปหลายเมตร ก่อนจะถูกหยุดลงตรงบาเรีย
สภาพของลั่วล่างไม่ได้ดีกว่าเจี่ยงเส่าอวี่ตรงไหนเลย หลังจากที่เขาตกลงมาบนพื้นก็โซซัดโซเซถอยหลังไปหลายก้าว ไม่มีแรงประคับประคองตัวอีกต่อไปจนล้มกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง
หลิงหลานเห็นแบบนั้น รู้ว่าผลแพ้ชนะถูกตัดสินแล้ว เธอก็สลายเขตแดนออก เจี่ยงเส่าอวี่ที่พิงบาเรียอยู่ครึ่งตัวพลันรู้สึกได้ว่าบาเรียด้านหลังตนหายไปแล้ว ร่างกายของเขาก็ล้มไปทางด้านหลังอย่างควบคุมไม่อยู่ รีบใช้มือข้างหนึ่งยันเอาไว้ ถึงค่อยหลีกเลี่ยงสภาพน่าอเนจอนาถที่ล้มฟาดพื้นไปได้
ลั่วล่างปาดเลือดที่ไหลซิบตรงมุมปาก เขาพยายามลุกขึ้นมา เดินไปที่ตรงหน้าเจี่ยงเส่าอวี่ช้าๆ กล่าวอย่างเย็นเยียบว่า “จำไว้ ฉันชื่อลั่วล่าง เลิกคิดเรื่องยุ่งกับน้องสาวของฉันซะ ถ้ามีครั้งต่อไปอีก ฉันจะฆ่าแก”
ตอนที่ลั่วล่างกล่าวคำพูดนี้ แววตาดูเยือกเย็นมากเหลือเกิน ท่าทีดูเย็นชาสุดขีด แววตานี้ทำให้หัวใจเจี่ยงเส่าอวี่เย็นยะเยือก เขากำหมัดทันที จ้องเขม็งไปที่ลั่วล่าง ไม่ได้กล่าววาจา ในฐานะที่เขาเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง เขามีความทระนงตนของเขา เขาไม่อนุญาตให้ตัวเองยอมศิโรราบเป็นอันขาด
ลั่วล่างไม่สนใจท่าทีของเจี่ยงเส่าอวี่ เขาเอ่ยคำพูดประโยคนี้เพื่อบอกการตัดสินใจของเขาเท่านั้น ส่วนอีกฝ่ายยอมฟังหรือไม่นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องพิจารณา ดังนั้น เมื่อเสียงของลั่วล่างจางหาย สีหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ดวงตาที่เดิมทีไร้อารมณ์ ราบเรียบราวกับน้ำคู่นั้นพลันเปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นมา ไอเย็นบนร่างหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย เขาเปลี่ยนกลับมาเป็นตัวเขาคนเดิมอีกครั้ง
ลั่วล่างค่อยๆ เดินกลับไปที่ข้างกายหลิงหลาน หลิงหลานเลิกคิ้วน้อยๆ เอ่ยถามอย่างเรียบนิ่งว่า “พอใจแล้ว?”