I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 421 อัจฉริยะด้านกลยุทธ์!
“เฉียวถิงจบเห่แล้ว!”
เมื่อเห็นเฉียวถิงโดนหุ่นรบสองตัวโอบล้อมไว้ ในใจของนักเรียนที่ชมการประลองทุกคนมีเพียงความคิดนี้เท่านั้น คนที่สนับสนุนกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงยิ่งรู้สึกสิ้นหวัง เมื่อเผชิญหน้ากับการระเบิดตัวเองของหุ่นรบระดับสูงและหุ่นรบระดับพิเศษโจมตีทั้งสองด้าน คาดว่าต่อให้เป็นหุ่นรบไพ่ราชาก็ไม่สามารถต้านทานพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวสายนี้ได้เหมือนกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง หุ่นรบของเฉียวถิงที่ติดกับดักคนของหลิงเทียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดนการระเบิดตัวเองหลายครั้งจนได้รับความเสียหายอย่างมหาศาลแล้ว…
จังหวะชั่วพริบตานั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงในสนามประลอง
หุ่นรบสามตัวที่พัวพันกันกลายเป็นลูกไฟยักษ์ฉับพลันเนื่องจากพลังงานระเบิดอันมหาศาลนี้ หลังจากนั้นลูกไฟยักษ์นี้ก็ร่วงกระแทกลงพื้นอย่างหนักหน่วง ทรายนับไม่ถ้วนกระเซ็นขึ้นมา ถึงขนาดที่ยังมีเศษเกราะและชิ้นส่วนของหุ่นรบไม่น้อยอีกด้วย
เมื่อทรายเหลืองนับไม่ถ้วนตกลงมา เหล่านักเรียนทหารที่ชมการประลองถึงค่อยมองเห็นหลุมลึกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งร้อยเมตรและมีความลึกถึงสิบกว่าเมตรปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลทรายผืนนี้ และตรงกลางหลุมลึกยังคงมีซากโลหะก้อนหนึ่งที่เปลวไฟยังไม่มอด…
“เฉียวถิงไม่ตาย!” ไม่รู้ว่าใครตะโกนประโยคนี้ออกมา ทุกคนที่ชมการประลองจ้องเขม็งไปยังซากโลหะก้อนนั้น หัวใจเริ่มเต้นเร็วขึ้น กลั้นลมหายใจของตัวเองอย่างควบคุมไม่อยู่ รอคอยออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักประกาศผลสุดท้าย
ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักแจ้งว่าจำนวนคนที่คงเหลือของเหลยถิงยังเป็นหนึ่งคน นี่ยืนยันว่าตอนนี้เฉียวถิงยังไม่ได้เสียชีวิตออกจากสนาม ทุกคนเริ่มคาดเดาสภาพของเฉียวถิงในตอนนี้ว่าจะบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นดิ้นรนอยู่ตรงประตูความตายหรือเปล่า หรือว่าโชคดีรอดชีวิตมาได้ ถึงขนาดที่ยังมีความสามารถในการต่อสู้อยู่?
“หลิงเทียนกับเหลยถิง ในที่สุดตอนนี้ก็หนึ่งต่อหนึ่งแล้ว” คนที่ชมการประลองสังเกตเห็นจำนวนคนของเหลยถิงแล้ว ขณะเดียวกันก็ดูข้อมูลของหลิงเทียนด้วย ก่อนจะพบว่าคนของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนเหลืออยู่แค่คนสุดท้ายจริงๆ ด้วย ซึ่งก็คือหัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนที่คอยกวาดล้างลูกทีมของเหลยถิงในพื้นที่อื่นโดยที่ยังไม่เคยปะทะกับเฉียวถิงมาก่อน
บรรดานักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้พากันแสดงความคิดเห็น การระเบิดตัวเองสำเร็จของหลี่หลานเฟิงกับฉีหลงย่อมนำความเสียหายมาให้เฉียวถิงอย่างยิ่งยวด บวกกับก่อนหน้านี้เฉียวถิงเองก็ได้รับความเสียหายมาไม่น้อยจากการระเบิดตัวเองไม่หยุดของสมาชิกทีมหลิงเทียน เฉียวถิงที่ได้รับเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าในเวลานี้ยังต่อกรกับหัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนที่มีสภาพด้านต่างๆ อยู่ในจุดสุงสุดได้อีกเหรอ?
“พวกนายว่า เฉียวถิงจะพ่ายแพ้ในเงื้อมมือหลิงเทียนไหม?” ตอนนี้นักเรียนส่วนใหญ่ไม่เห็นเฉียวถิงมีแนวโน้มที่ดีแล้ว ไม่เห็นอนาคตในแง่ดีของเหลยถิงแล้ว นี่ขัดกับความคิดเห็นของทุกคนในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง
คำถามนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งสนามอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งสนามเปลี่ยนเป็นเสียงดังเซ็งแซ่ขึ้นมา ผู้คนมากมายถึงขนาดคาดการณ์ว่า ครั้งนี้เฉียวถิงถึงคราวยากจะพ้นเคราะห์แล้ว เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการระเบิดตัวเองพร้อมกันของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษและผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงแล้ว ต่อให้หุ่นรบแข็งแกร่งอีกสักแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ได้รับความเสียหายสักนิดเดียว บางที เฉียวถิงสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ก็เป็นความโชคดีอย่างใหญ่หลวงแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าหุ่นรบไพ่ราชาตัวนั้นสูญเสียกำลังรบทั้งหมดแล้ว
แน่นอนว่า มีนักเรียนเก่ามากมายที่ยังคงสนับสนุนเฉียวถิงและกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงอย่างยิ่ง พวกเขายังคงเชื่อมั่นผู้ควบคุมไพ่ราชาเฉียวถิงว่าไม่มีทางพ่ายแพ้ให้แก่กลยุทธ์ระเบิดตัวเองที่ป่าเถื่อนเช่นนี้ของหลิงเทียนได้ เฉียวถิงจะต้องตอบโต้กลับจากสถานการณ์อับจน พลิกกลับมาชนะได้อย่างแน่นอน
ไม่รู้ตัวเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาใช้คำกล่าวว่า ‘ตอบโต้กลับจากสถานการณ์อับจน’ และ ‘พลิกกลับมาชนะ’ สองประโยคนี้บนตัวเฉียวถิงที่เป็นตำนานไร้พ่าย นี่ก็บ่งบอกชัดเจนว่า ส่วนลึกในใจนักเรียนเก่าเหล่านี้ต่างไม่แน่ใจจริงๆ พวกเขาไม่อยากเห็นนักเรียนใหม่โค่นล้มนักเรียนเก่าได้สำเร็จ พวกเขาอยากรักษาการกดขี่ของนักเรียนเก่าที่กระทำต่อนักเรียนใหม่ต่อไป ทว่าความเป็นจริงกลับโหดร้ายเหลือเกิน เฉียวถิงไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งและอำนาจบาตรใหญ่ออกมาเหมือนอย่างเคย ตรงกันข้าม เขากลับโดนหลิงเทียนซึ่งเป็นนักเรียนใหม่กำราบแล้ว หลังจากต่อสู้จนถึงช่วงสุดท้าย สถานการณ์ดูเลวร้ายมาก นี่ทำให้เหล่านักเรียนเก่าที่สนับสนุนเหลยถิงไม่อาจใจเย็นได้เหมือนกัน
ขณะที่ทุกคนกำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์นั้น ซากโลหะชิ้นใหญ่ที่อยู่ในหลุมลึกนั้นพลันสั่นไหว มันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าทันใด ซากชำรุดทรุดโทรมที่ยังคงเผาไหม้ซึ่งโอบรัดรอบนอกตัวมันร่วงลงมาฉับพลันเพราะการกระทำนี้ หล่นกระแทกลงไปในหลุมลึก สาดกระเซ็นฝุ่นทรายนับไม่ถ้วนขึ้นมาอีกครั้ง…
ในที่สุด มันก็เผยร่างเดิมออกมาแล้ว เป็นหุ่นรบไพ่ราชาของเฉียวถิงนี่เอง เพียงแต่ยามนี้หุ่นรบไพ่ราชาที่ตอนแรกดูยิ่งใหญ่สง่างาม บัดนี้มันดูพังยับเยินสุดขีด ถึงขนาดที่พูดอย่างเด็ดขาดว่า ไม่อาจเรียกว่ามีรูปร่างมนุษย์ได้แล้ว
แขนขวาของมันถูกทำลายตั้งแต่ส่วนบ่า เผยให้เห็นขั้วสายไฟที่ยังคงมีประกายไฟฟ้าสองกระพริบ ส่วนศีรษะก็ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งแล้วเช่นกัน เหลือเพียงใบหน้าครึ่งล่าง ด้านล่าง ขาทั้งสองข้างของเขาระเบิดหมดแล้ว และตรงส่วนท้อง แผ่นโลหะหนาสุดขีดชิ้นหนึ่งก็โดนระเบิดจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่วงลงมาหลายชิ้น เผยชิ้นส่วนและวงจรไฟฟ้าที่ละเอียดถี่ยิบนับไม่ถ้วนอยู่ด้านใน
เรื่องดีเพียงอย่างเดียวคือ ตรงส่วนท้องที่เป็นตำแหน่งห้องคนขับกลับไม่ได้รับความเสียหายมากนักอย่างเหนือความคาดหมาย นี่จึงเป็นสาเหตุที่เฉียวถิงโชคดีรอดพ้นเภทภัยมาได้ ขณะเดียวกันก็เป็นสาเหตุที่หุ่นรบตัวนี้ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว อย่างไรเสีย ห้องคนขับถึงจะเป็นตำแหน่งประตูชีวิตของหุ่นรบ ตราบใดที่ห้องคนขับไม่มีปัญหา ต่อให้หุ่นรบพังเสียหายอีกแค่ไหน มันก็ยังมีความสามารถในการต่อสู้อยู่ดี
“เป็นเฉียวถิง สมกับที่เป็นหุ่นรบไพ่ราชา ต่อให้เจอการระเบิดตัวเองหลายครั้งก็ยังทนไหว” เวลานี้บรรดานักเรียนที่ชมการต่อสู้อดอิจฉาไม่ได้ ความแข็งแกร่งของไพ่ราชาทำให้พวกเขาอิจฉาตาร้อนไม่หยุด ยิ่งไปกว่านั้น มีนักเรียนที่เลื่อนขั้นไปถึงนักรบหุ่นรบชั้นสูงมากมายลอบตัดสินใจแน่วแน่กับตัวเอง นั่นก็คือจะต้องเลื่อนขั้นไปสู่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาให้ได้ หุ่นรบไพ่ราชาคืออุปกรณ์เทวะคุ้มครองร่างกายอย่างแท้จริง
ตอนนี้ระดับสูงของโรงเรียนทหารไม่รู้เลยว่า แผนการอยากสร้างเทพแต่เดิมของพวกเขาเพื่อเร่งเร้าพวกนักเรียนให้โหยหาความแข็งแกร่ง กระตุ้นพวกนักเรียนให้กระตือรือร้นในการเรียนรู้การควบคุมหุ่นรบ และเนื่องจากความเป็นจริงที่ว่าเฉียวถิงยังคงยืนหยัดได้ภายใต้การระเบิดตัวเองอย่างบ้าคลั่งของหลิงเทียน ทำให้พวกเขาได้รับผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการแล้ว
แมลงสาบที่ตีไม่ตายทำให้พวกนักเรียนมีความเข้าใจต่อหุ่นรบไพ่ราชาลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น รู้ดีแล้วว่า ในสนามรบมีเพียงหุ่นรบไพ่ราชาเท่านั้นที่รับประกันว่าสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้ เหล่านักเรียนจึงรีบร้อนอยากได้รับหุ่นรบไพ่ราชาก่อนเข้าสู่กองทัพเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง นี่ทำให้พวกเขาเริ่มฝึกฝนการควบคุมหุ่นรบอย่างบ้าคลั่ง ริเริ่มกระแสนิยมการฝึกฝนควบคุมหุ่นรบอย่างหนักหน่วงขึ้นในโรงเรียนทหาร
กระแสนิยมนี้ก็ไม่ได้หยุดลงในหลายปีให้หลัง นี่ทำให้ในหลายปีหลังจากนี้ โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งได้ทำลายสถิติที่เฉียวถิงสร้างไว้ ชั้นปีสี่ของทุกรุ่นต่างมีนักเรียนเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาได้หนึ่งถึงสองคน
รุ่นที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดคือ รุ่นของหลิงหลาน นักเรียนที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาได้สำเร็จมีถึงห้าคน ตัวเลขที่ปรากฏนี้สะเทือนไปทั่วทั้งสหพันธรัฐหัวเซี่ย และก็ทำให้โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งกลายเป็นโรงเรียนทหารอันดับหนึ่งของสหพันธรัฐสมดั่งชื่ออย่างแท้จริง
เฉียวถิงขับหุ่นรบทะยานไปในอากาศ เขาตรวจสอบสภาพหุ่นรบอย่างรวดเร็ว หลังจากการรายงานของออปติคัลคอมพิวเตอร์ ใบหน้าเขาก็เผยร่องรอยความเจ็บปวดกลัดกลุ้มใจออกมา สภาพของหุ่นรบเลวร้ายมากอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้จริงๆ อัตราความเสียหายของทั่วทั้งร่างไปถึง 48% แล้ว พลังงานของหุ่นรบที่เดิมทีมีอยู่เต็มเปี่ยมก็ถูกผลาญไปเจ็ดแปดส่วนเพื่อคุ้มครองส่วนสำคัญของหุ่นรบ เหลือแค่แหล่งพลังงานไม่ถึงสามส่วน ส่วนอาวุธ นอกจากมีดคลื่นแม่เหล็กบนมือซ้ายเล่มเดียวนั้นก็ไม่มีอย่างอื่นอีก
เฉียวถิงมองมีดคลื่นแม่เหล็กในมือ ก่อนจะสังเกตเห็นว่ามีดคลื่นแม่เหล็กพังเสียหายยับเยินเพราะการระเบิดมานานแล้ว เกรงว่าไม่อาจใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ได้ เขาสำรวจรอบๆ บริเวณอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็สังเกตเห็นว่า ห่างออกไปสามร้อยเมตรมีดาบแสงของใครก็ไม่รู้อยู่เล่มหนึ่ง เฉียวถิงดีอกดีใจ เขาขับหุ่นรบเข้าไป ขณะที่บินโฉบก็ทิ้งมีดคลื่นแม่เหล็ก และหยิบดาบแสงเล่มนี้จากพื้นกลับมาได้สำเร็จ
ดาบแสงเข้ามาในมือ หลังจากที่ตรวจสอบพลังงานของดาบแสงก็พบว่ามันยังคงเปี่ยมล้นมาก นี่ทำให้เฉียวถิงใจสงบลง ต่อให้หลิงหลานหัวหน้ากลุ่มของหลิงเทียนปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้ เขามีดาบแสงเล่มนี้แล้วก็มีความมั่นใจในการต่อสู้กับอีกฝ่าย
“ต่อให้หุ่นรบเสียหายไปครึ่งหนึ่ง ฉันก็จะทำให้ทุกคนในโรงเรียนรู้ว่า อยากเอาชนะฉัน เฉียวถิง นั่นคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” เฉียวถิงกุมดาบแสงในมือไว้แน่นๆ ลอบขุ่นแค้นในใจ ต่อสู้อย่างยากลำบากมาจนถึงตอนนี้เหลือแค่ศัตรูคนสุดท้ายเท่านั้น เฉียวถิงไม่ยอมให้ตัวเองพ่ายแพ้การประลองครั้งนี้ในช่วงเวลาสุดท้าย กลายเป็นหินปูทางให้อีกฝ่ายเป็นอันขาด
เกียรติยศเป็นของเขา เฉียวถิงเท่านั้น! ดวงตาทั้งสองข้างของเฉียวถิงแฝงไปด้วยความเย็นเยียบ ในใจยิ่งไม่อาจปกปิดเจตนาร้ายต่อหลิงหลานหัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนที่ยังไม่ปรากฏตัวขึ้นมา เขาไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายที่ทำลายภาพลักษณ์สูงส่งที่เขาทุ่มเทจิตใจสร้างออกมาอย่างยากลำบากเด็ดขาด
เฉียวถิงฝืนสะกดกลั้นจิตสังหารในใจ รีบทำการปรับแต่งและซ่อมแซมบางจุดของหุ่นรบตัวเองอย่างละเอียด เขาดีใจมากที่นี่คือโลกหุ่นรบ สามารถใช้วิธีการฉุกเฉินบางอย่างทำให้สภาพของหุ่นรบดีขึ้นได้บ้าง
เฉียวถิงที่จดจ่ออยู่กับหุ่นรบยามนี้ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ห่างออกไปจากด้านหลังเขาหลายร้อยเมตร หุ่นรบสีดำตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศอย่างเงียบงัน จ้องมองเขาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
“อ้า มาแล้ว!” คนที่ชมการต่อสู้ต่างสังเกตเห็นจุดนี้ และอุทานขึ้นมาพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เทียบกับสภาพตกอับของหุ่นรบเฉียวถิงแล้ว หุ่นรบของหัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนดูสมบูรณ์สะอาดเงาวับ เหมือนเขาไม่ได้ผ่านการต่อสู้เลยก็ไม่ปาน
“ฉันเพิ่งย้อนกลับไปดูการต่อสู้ของหลิงเทียนหมายเลขหนึ่ง โคตรเชี่ย ฆ่าทิ้งในท่าเดียวหมดเลย! การต่อสู้รอบสุดท้ายที่สู้กับหุ่นรบของเฉียวถิงสามตัว เอ่อ…ก็ฆ่าทิ้งในชั่วพริบตาด้วยท่าเดียวเหมือนกัน? นี่มันเป็นไปได้ยังไง เขาทำได้ยังไง?” บรรดานักเรียนที่เฝ้าดูการต่อสู้ของเฉียวถิงมาตลอดค่อยนึกเรื่องดูการต่อสู้ของหัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนขึ้นมาได้ เมื่อพวกเขาดูจนถึงการต่อสู้รอบสุดท้าย อีกฝ่ายแทบจะจัดการลูกทีมของเหลยถิงพร้อมกันสามคนในกระบวนท่าเดียว ผลการรบระดับเทพนี้ทำให้เขาไม่อาจเชื่อ ต่อให้เป็นเฉียวถิง ตอนที่สู้กับลูกทีมสามคนของหลิงเทียนที่เป็นหุ่นรบระดับสูงเช่นเดียวกันก็ไม่อาจทำเรื่องนี้ได้
“ดูให้ชัดๆ สิ เขาไม่ได้ประจันหน้าศัตรูตรงๆ หัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนคนนี้ร้ายกาจมาก การต่อสู้ทุกรอบวางแผนดีหมดเลย อำพรางตัวจากฝ่ายตรงข้ามแล้วดักซุ่มฆ่า…” เหล่านักเรียนที่ตั้งใจศึกษาการต่อสู้ของหลิงหลานอดเอ่ยปากเตือนพวกคนที่ร้องอุทานไม่หยุดเหล่านั้นไม่ได้
นักเรียนที่ได้รับคำเตือนดูตั้งแต่ต้นจนจบ และพบว่าเป็นเหมือนอย่างที่คนเหล่านั้นกล่าวไว้จริงๆ หัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนเจ้าเล่ห์มากเหลือเกิน คอยดักซุ่มตรงตำแหน่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง โดยเฉพาะการต่อสู้รอบสุดท้าย ไม่นึกเลยว่าเขาจะใจกล้าแสร้งเป็นหุ่นรบที่โดนโจมตีจนพังเสียหาย ปล่อยควันโขมงออกมา ล่อลูกทีมของเหลยถิงสามคนรุดหน้าเข้ามาตรวจสอบโดยที่ไม่ได้เตรียมการป้องกันเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะโดนหัวหน้ากลุ่มหลิงเทียนสังหารทิ้งแทน
“เขาคืออัจฉริยะด้านกลยุทธ์!” เมื่อเผชิญหน้ากับรูปแบบการต่อสู้ของหลิงหลาน ถังอวี้กับผู้อำนวยการได้แต่ให้คำตอบนี้ออกมาหลังจากการใคร่ครวญอย่างหนัก
———————-