I Was Kidnapped By The Strongest Guild - ตอนที่ 38 นักสะสมหนี้
ในขณะที่ฉันและนักผจญภัยคนอื่น ๆ ก้าวเท้าออกจากดันเจี้ยน นักข่าวและเจ้าหน้าที่ดันเจี้ยนก็เข้ามาหาเรา
พวกเขายิงคำถามใส่เราว่าทำไมพวกเราถึงได้ต่อสู้อยู่ในดันเจี้ยนระดับ 5 นานมากและทำไมถึงได้มีผู้เสียชีวิต
จองยูนาพาฉันหนีไปที่บ้านสำเร็จรูป ในขณะที่ฉันกำลังหัวหมุนเพราะคำถามอันวุ่นวาย
“กลับมาแล้วเหรอ…?”
“อืม…”
โซเฟียทักทายฉันที่ทางเข้าบ้านสำเร็จรูป
แทนที่เธอจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน เธอกลับตบไหล่ฉันราวกับว่าเธอนั้นรู้ถึงความพยายามอย่างหนักของฉัน
“เจ้าคงจะเหนื่อย พักผ่อนซะเถอะ”
“อืม…”
อาจจะเป็นเพราะความอ่อนเพลียจากการใช้พลังงานมากเกินไป
ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ
ฉันทรุดตัวลงไปบนที่นอนราวกับโดมิโน โดยเอาหน้าซุกเข้าไป
‘ฉันต้องฆ่ากระต่ายมีเขาอย่างน้อยห้าสิบตัวด้วยตัวเอง’
มันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากฉันขายพวกมันได้อย่างน้อยสิบอัน
เดี๋ยวนะ ฉันไม่ได้เพิ่งพลาดเก็บลูกธนูทั้งหมดที่ฉันยิงไปใช่ไหม?
ฉันหลับตาลงอย่างช้า ๆ นึกถึงเหตุการณ์การต่อสู้ และคิดว่าฉันควรพักผ่อนสักหน่อนตามคำแนะนำของโซเฟีย
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
เอี๊ยด—
เสียงบานพับขึ้นสนิมดังขึ้นมาจากความมืดมิด
ในขณะที่ฉันกำลังลืมตาขึ้นอย่างระมัดระวัง ฉันก็เห็นยอรึมเดินผ่านประตูเข้ามา
“ขอโทษที พี่ทำเธอตื่นหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก ฉันกำลังจะตื่น…”
เมื่อขยี้ตาและมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ฉันก็เห็นว่ามันค่ำแล้ว
ฉันหลับไปนานแค่ไหนกัน?
ในขณะที่ฉันพยายามเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาด้วยตาที่ลืมอยู่เพียงครึ่งเดียว ยอรึมก็นั่งลงบนที่นอนข้าง ๆ ฉัน
“ขอบคุณนะคยออุล พี่เลยยังมีชีวิตอยู่”
“พวกเราทำมันด้วยกัน”
ในขณะที่ฉันพูด ฉันก็ตรวจดูท้องของยอรึมไปด้วย
ถึงแม้ว่าเธอจะถูกเขาของกระต่ายมีเขายักษ์แทง แต่เธอก็เคลื่อนไหวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงสภาพร่างกายของเธอแล้ว
“คยออุล มีอะไรที่อยากได้ไหม?”
“สิ่งที่อยากได้?”
“ใช่แล้ว เธอคือตัวหลักในการเคลียร์ดันเจี้ยนครั้งนี้”
จริง ๆ แล้ว มันเป็นความพยายามร่วมกันต่างหาก
ฉันกลืนคำพูดที่จะออกมาเพราะฉันมีสิ่งที่ฉันปรารถนาอยู่
“ถ้าอย่างนั้น คุณช่วยตอบคำถามของฉันอย่างตรงไปตรงมาได้ไหม?”
“…เธอมีอะไรจะถามพี่งั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว เป็นสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องถาม”
ฉันมองยอรึมด้วยสีหน้าจริงจังที่ไม่เคยแสดงออกมาก่อน
เมื่อรับรู้ถึงสีหน้าที่ไม่ปกติของฉัน เธอจึงหุบรอยยิ้มลง
“ตกลง พี่จะตอบทุกอย่างที่เธออยากรู้”
‘ทุกอย่างที่ฉันอยากรู้’
นั่นคือคำพูดที่ฉันอยากได้ยิน
“ฉันสงสัยว่าทำไมคุณต้องเปลี่ยนให้ฉันกลายเป็นมนุษย์สัตว์ด้วย”
“เรื่องนั้น…”
“คุณจงใจหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว และตอนนี้ ฉันต้องการรู้เหตุผล”
ยอรึมเป็นคนดีที่เสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยฉัน
อย่างไรก็ตาม ความไม่ไว้วางใจก็ยังคงอยู่ เนื่องจากเธอไม่ได้บอกฉันทุกเรื่อง
ในฐานะคนที่อยากเชื่อใจเธออย่างเต็มร้อย ฉันจำเป็นที่จะต้องรู้ความจริงทั้งหมด
“เอ่อ…ถ้าหากคยออุลอยากรู้จริง ๆ พี่ก็จะบอกเธอ”
“ใช่ ฉันอยากรู้”
เมื่อเผชิญหน้ากับทัศนคติที่หนักแน่นของฉัน ยอรึมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะเปิดปากพูดออกมาอย่างระมัดระวัง
“ในตอนนั้น มีวิธีเดียวที่จะช่วยเธอ”
“วิธีนั้นคือ…?”
“การใช้พรแห่งเทพสัตว์ร้าย สร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ศูนย์”
พรแห่งเทพสัตว์ร้าย
พระเจ้าของเหล่ามนุษย์สัตว์ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
“เหตุผลที่ฉันใช้มานาได้ก็เป็นเพราะพรแห่งเทพสัตว์ร้ายใช่ไหม?”
“ใช่ นั่นเป็นเหตุผลที่โพชั่นใช้ได้ผลกับเธอ”
เธอทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยฉัน
ฉันรู้สึกขอบคุณ แต่ถึงอย่างนั้นความสงสัยของฉันก็ยังไม่หมดไป
“แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกเรื่องนี้กับฉันล่ะ?”
“คือว่า…”
“คือว่า…?”
“มันเป็นไอเทมราคาแพงมาก…พี่ก็เลยคิดว่าเธอคงจะคิดมาก…”
ไอเทมราคาแพง
คำพูดนั้นทำให้ฉันหนาวเข้ากระดูกดำ
“เท่าไหร่เหรอ…?”
“ไม่รู้จะดีกว่าไหม…?”
จากท่าทางที่ต้องการหลบเลี่ยงของยอรึม ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก ๆ แน่
“อย่างน้อย ๆ คุณช่วยบอกราคาคร่าว ๆ ให้ฉันฟังได้ไหม…?”
“อยากรู้จริง ๆ งั้นเหรอ?”
“อืม”
เมื่อฉันยืนกราน ยอรึมก็โน้มตัวเข้ามาใกล้และกระซิบบอกราคา
มันเป็นเงินจำนวนที่ฉันไม่มีทางหามาจ่ายได้ ต่อให้ทำงานทั้งชีวิตก็ตาม
“อ๊ะ”
“อ๊ะ?”
“อ้าาา…”
ฉันมีความฝันอันแสนสุข
เป็นความฝันที่ว่าถ้าฉันทำงานอย่างหนัก ชีวิตของฉันก็จะดีขึ้น
ฉันคิดว่าฉันจะได้ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปในเร็ววัน หาเงินได้มากขึ้นและพัฒนาความสามารถให้มากขึ้น
แต่แล้ว จู่ ๆ หนี้มหาศาลก็ถาโถมเข้ามาหาฉัน ทำให้ฉันจมอยู่กับความสิ้นหวัง
“อ้าาา”
ฉันถังแตกแล้ว
หนี้ที่ฉันไม่สามารถจ่ายได้ ต่อให้ฉันจะทำงานเหมือนทาสไปตลอดชีวิตก็ตาม
ฉันไม่รู้เลยว่าควรเริ่มแก้ปัญหานี้จากตรงไหน
“คยออุล เธอไม่จำเป็นต้องจ่ายคืนหรอก เพราะงั้นช่วยใจเย็น ๆ ลงก่อนได้ไหม?”
“ทำไม่ได้…”
เป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้สิ
ผู้ที่เป็นหนี้แล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากกากเดนของมนุษย์ชาติ
“แล้วจะให้พวกเราทำยังไง? ไอเทมถูกใช้ไปแล้ว เพราะงั้นแค่ลืมมันไปก็พอ ตกลงไหม?”
“ไม่เป็นไร ฉันจะทำงานให้หนักขึ้นและจ่ายคืนแน่นอน…”
ฉันแค่ต้องการเวลาเพิ่มอีกสักหน่อย
ฉันประสานมือราวกับขอร้อง
“เฮ้อ…เพราะงี้ไงพี่ถึงไม่อยากบอกเธอ…”
“เพราะแบบนั้น…”
ฉันสงสัยว่าทำไมเธอไม่บอกความจริงกับฉัน
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ยอมบอกเพราะมีจุดประสงค์
ที่ไม่ยอมไม่ใช่เพราะมีเจตนาร้ายแต่ที่ไม่ยอมบอกก็เพราะเพื่อผลประโยชน์ของฉัน
‘ฉันเป็นคนที่แย่มาก ๆ เลย’
ไปสังสัยเธอหลังจากที่เธอใช้เงินจำนวนมากในการรักษาชีวิตของฉัน
ฉันอยากจะเอาหัวมุดลงดินด้วยความอับอาย
“ฉ-ฉันจะจ่ายคืนแน่นอน…”
“ไม่ต้องหรอก พี่พูดจริง ๆ เธอไม่จำเป็นต้องจ่ายคืนหรอก”
“ไม่ได้หรอก…ฉันมีรายได้วันละสี่หมื่นวอน…”
ฉันจำเป็นต้องมีรายได้เท่าไหร่ในแต่ละวันเพื่อใช้หนี้ให้หมดก่อนฉันตาย
ฉันหลับตาแน่น และเมื่อคิดเลขฉันก็พบแต่ความไร้ประโยชน์
ถึงแม้รายได้ในปัจจุบันของฉันจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า แต่กว่าจะใช้หนี้จนหมดก็ต้องใช้เวลานานเป็นร้อยปี
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ตื่นนอน โซเฟียก็พบคยออุลกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ที่สวนด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
“อ้าาา”
คยออุลปล่อยเสียงเล็ก ๆ ออกมา มีทั้งเสียงกรีดร้องและถอนหายใจ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่ก็ดูน่าสงสาร
“คยออุล เกิดอะไรขึ้น?”
“โอ๊ะ ไม่มี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉันทั้งนั้น…”
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
ต้องมีอะไรแน่ ๆ
โซเฟียมองไปรอบ ๆ เพื่อหาเหตุผลและก็พบเข้ากับยอรึมที่กำลังนอนอยู่บนหญ้าด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างกัน
ยอรึมนอนแผ่กระจายราวกับบรรลุธรรมแล้ว
“ยอรึม?”
“…คะ?”
การตอบสนองของเธอล่าช้าไปประมาณสามวิ
ราวกับเธอถูกสาปให้เชื้องช้า
โซเฟีนสัมผัสได้ว่าจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นระหว่างยอรึมกับคยออุลแน่
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเจ้าทั้งสองคนถึงได้อยู่ในสภาพแบบนี้?”
“เมื่อคืนนี้ ฉันบอกคยออุลเรื่องพรแห่งเทพสัตว์ร้ายค่ะ”
“พร?”
“ใช่ คยออุลเอาแต่ถาม ฉันก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบอกไป”
แย่แล้ว
เธอบอกว่าควรเก็บเรื่องพรไว้เป็นความลับ แต่เธอกลับเป็นคนพูดออกไปเอง
โซเฟียเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอทั้งสองโดยไม่ต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม
“คยออุลคงจะยืนกรานที่จะชดใช้เรื่องพร”
“ค่ะ ฉันพยายามโน้มน้าวเธอเป็นร้อยครั้งแล้วว่าไม่ต้องชดใช้ แต่เธอก็ยังคงยืนกรานที่จะชดใช้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม…”
“อืม…”
คนปกติคงจะรู้สึกขอบคุณเมื่อมีคนบอกว่าไม่ต้องชดใช้
ทำไมเด็กคนนั้นถึงได้ยืนกรานที่จะชดใช้กัน?
โซเฟียคิดว่าคยออุลคงจะมีแผลที่ฝังรากลึกอยู่ภายในใจ
ความบอบช้ำที่เกิดจากการชำระเงินที่ล่าช้าจนนำไปสู่เหตุการที่รุนแรง
‘เด็กที่น่าสงสาร’
ชิ
เด็กดีแบบนี้ทำไมถึงได้มาจบลงอยู่ในสถานการณ์แบบนี้กัน?
“ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะดีขึ้นจากเหตุการณ์นี้ แต่สุดท้ายพวกเราก็ย้อนกลับมาที่จุดเดิม”
“ตอนนี้กลายเป็นควาทสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ไปแล้ว”
“ใช่ค่ะ”
มิตรภาพที่เรียบง่ายจะเปลี่ยนแปลงไปทันทีเมื่อมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่สำหรับ ‘ความสัมพันธ์พิเศษ’ ระหว่างคยออุลและยอรึม มันคงจะกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก
“เฮ้อ!”
ตึบ! ตึบ!
ยอรึมที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าละทิ้งเหตุผลทั้งหมดและเอามือทุบพื้น
เธอฉีกหญ้าออกด้วยความหงุดหงิด
เธอเสียใจที่เล่าเรื่องพรให้คยออุลฟัง โดยคิดไปว่าความสัมพันธ์ที่แสนไกลจะสั้นลงเมื่อบอกเรื่องนั้นออกไป
ในขณะนั้นเอง คยออุลก็เดินเข้ามาหายอรึมด้วยเท้าคู่เล็กของเธอ
“เอ่อ คือว่า…”
“ฮืม?”
“ฉันคิดว่า…”
“คิดว่า?”
เรื่องอะไรกัน?
เป็นไปได้ไหมที่เธอจะบอกว่าเธอไม่สามารถชดใช้หนี้ได้?
ยอรึมลุกขึ้นจากพื้นหญ้าด้วยแววตาที่มีความหวังอันริบหรี่
“ฉันคิดว่าฉันน่าจะขายชาตรงนี้”
“ขายชา…?”
“ใช่ คุณบอกใช่ไหมว่าชาของฉันมีเอฟเฟกต์บัฟ? ฉันสามารถหาเงินได้จากการขายมัน”
เป็นการหารือเกี่ยวกับการชำระหนี้
ยอรึมอยากจะขอร้องคยออุลว่าอย่าจ่ายไม่ต้องชดใช้ แต่เธอก็รู้ถึงความดื้อรั้นของคยออุลดี เธอเลยทำได้แค่พยักหน้าเห็นด้วย
“ความคิดเข้าท่ามาก”
เมื่อมาถึงจุดนี้ เธอจึงคิดว่าพวกเขาควรขายบัฟของคยออุลออกไปในราคาสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเจ้าหนี้ที่โหดเหี้ยมที่จะใช้ทุกวิถีทางเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ได้เงินมา
ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่แค่รู้สึกแต่เธอเป็นจริง ๆ แล้ว
ยอรึมครุ่นคิดอย่างจริงจังว่าเมื่อไหร่เธอจะหมดเวรหมดกรรมสักที
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━