I Was Kidnapped By The Strongest Guild - ตอนที่ 28 บ้านที่ดีที่สุดเท่าที่เคยอยู่
ล่ามอนสเตอร์ ฝึกยิงธนู กลับเต็นท์ไปทำงานบ้าน
ปัญหาใหม่ในชีวิตประจำวันของฉัน: ความโปรดปรานที่ไม่สามารถอธิบายได้จากคนแปลกหน้า
พวกเขาหยิบยื่นอาหาร เสื้อผ้าใหม่ บางครั้งก็ให้หนังสือนิทานที่ไร้ประโยชน์
ฉันเกลียดการรับของอะไรก็ตามมาแบบฟรี ๆ เพราะงั้นในสถานการณ์นี้ฉันจึงรู้สึกหงุดหงิด
‘พวกเขาคิดว่าฉันเป็นขอทานงั้นเหรอ?’
แต่ฉันจ่ายเงินเพื่ออาศัยอยู่ที่นี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่แบบฟรี ๆ
ฉันใช้ไม้เท้าของโซเฟียกระแทกลงพื้นด้วยความรู้สึกไม่ยุติธรรม ทันใดนั้นโซเฟียก็เดินมาหาฉัน
“คยออุล ของทั้งหมดตรงนี้คืออะไรเหรอ?”
“ฉันไม่รู้ พวกเขาเอาแต่ของเหล่านี้มาทิ้งไว้ที่นี่”
พวกเขาแอบทิ้งของไว้ทีละชิ้นในตอนที่ฉันไม่อยู่
ของกองทับถมกันจนเกินสิบชิ้นแล้ว
“คยออุลอณุญาตให้พวกเขาทิ้งของไว้ตรงนั้นงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่นะ ฉันเกลียดเรื่องแบบนี้มาก…”
ฉันควรทำยังไงกับของเหล่านี้ที่ไม่ได้ใช้ดี?
ยอรึมลูบของตัวเองและจมอยู่กับความคิด
“ฮืม…ฉันเข้าใจจุดประสงค์ของพวกเขานะ แต่นี่มันก็ดูอันตรายเกินไปหน่อย”
“ใช่ ฉันหวังว่าพวกเขาจะไม่ทำแบบนี้อีก”
ทำไมถึงล่อใจฉันด้วยอุปกรณ์ตั้งแคมป์ที่จำเป็นสำหรับความอยู่รอดกัน?
ราวกับกำลังทดสอบความโลภของมนุษย์อยู่ ซึ่งฉันไม่ชอบเลย
“เอ่อ…คยออุล พี่กังวลเรื่องของคยออุลมากเลย คยออุลเคยคิดที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นบ้างไหม?”
“ย้ายไปอยู่ที่อื่น?”
“ใช่ ก็อย่างเช่นภายในตึกของกิลด์หรือไม่ก็เช่าบ้านหลังเล็ก ๆ ”
ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในการอาศัยอยู่ภายในตึกของกิลด์ก็คงจะอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งล้านวอนต่อเดือน
และถ้าจะเช่าบ้านอยู่ ฉันก็จำเป็นต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน
ทั้งสองอย่างเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับฉัน
เพราะงั้นแล้ว ทั้งสองอย่างจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน
“เรื่องนั้น…ฉันชอบที่นี่…”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“อืม”
ฉันพยักหน้าอย่างรวดเร็วให้กับยอรึมที่กำลังพึมพำอยู่
เพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันชอบที่นี่มาก ๆ
“ฮืม…ถ้างั้นอันนี้เป็นไง?”
“อะไรเหรอ?”
“ซื้อบ้านสำเร็จรูป เต็นท์อันนี้มันเปิดเผยมากเกินไปแล้วก็อันตรายด้วย”
บ้านสำเร็จรูป?
มันราคาแพงไม่ใช่เหรอ?
ฉันจ้องมองไปที่เต็นท์เก่า ๆ และถามออกมาอย่างระมัดระวัง
“บ้านสำเร็จรูปราคาเท่าไหร่เหรอ?”
“ราว ๆ หนึ่งล้านวอนล่ะมั้ง?”
“หนึ่งล้าน…!”
เป็นเงินก้อนใหญ่มาก
และแน่นอนว่าฉันมีถึง
แต่การอยากเอามันออกมาใช้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย
สำหรับฉันแล้วมันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะต้องใช้เงินหนึ่งล้านวอนไปในครั้งเดียว
สำหรับตอนนี้เต็นท์ดีที่สุดแล้ว
แต่ถ้าหากมีเรื่องอันตรายเกิดขึ้น ฉันก็สามารถใช้ที่ลี้ภัยของฉันได้
ในขณะที่ฉันกำลังจะปฏิเสธ ฉันก็นึกถึงโซเฟียที่อยู่ในเต็นท์ขึ้นมาได้
เธอสุขภาพไม่ดีต่างกับฉัน
แค่จะเดินเธอยังต้องใช้ไม้เท้าช่วยค้ำ
ในช่วงเวลาที่อันตราย เห็นได้ชัดเลยว่าระหว่างฉันกับโซเฟียใครกันที่จะได้รับบาดเจ็บก่อน
ดูเหมือนว่าการมีบ้านที่เหมาะสมจะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อโซเฟียไม่ใช่เพื่อตัวฉันเอง
“แค่หนึ่งล้านวอนจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ใช่ พี่สาวของพี่รู้จักคน ๆ หนึ่งที่ช่วยได้”
“โอเค ถ้างั้นก็เอาแบบนั้นเลย”
ฉันไม่รังเกียจเลยที่จะต้องใช้เงินเพื่อโซเฟีย
เธอเป็นคุณยายที่ดีและเป็นผู้ที่สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับฉัน
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
หลายวันต่อมา
มีบ้านสำเร็จรูปตั้งอยู่ ณ จุดที่เต็นท์เคยตั้งอยู่
เป็นบ้านสำเร็จรูปอันเล็ก ๆ ที่เอาบ้านสำเร็จรูปสองอันมาต่อกัน
“อืม…”
ยอรึมเคาะผนังบ้านสำเร็จรูป
มันดูปลอดภัยแต่ก็เก่าและขึ้นสนิมแล้ว
มันเป็นของมือสองที่ซื้อมาเพื่อปกปิดความจริงที่ว่าบ้านสำเร็จรูปมีราคาหลายสิบล้านวอน
นี่คือบ้านที่ฉันเตรียมไว้ให้คยออุล
ฉันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความเสียใจ
‘หรือว่าฉันควรซื้ออันใหม่ไปเลยดี?’
มันมีคำพูดแบบนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ?
การโน้มน้าวใจนั้นยาก แต่การให้อภัยนั้นง่าย
ฉันน่าจะซื้ออันที่ดี ๆ มาก่อน แล้วค่อยแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทีหลัง
ยอรึมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อมองดูบ้านสำเร็จรูปอันเก่า ๆ
“คยออุล…?”
เธอผิดหวังเพราะมันเก่างั้นเหรอ?
ยอรึมมองดูคยออุลอย่างกระวนกระวาย แต่แล้วยอรึมก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นดวงตาที่เป็นประกายของคยออุล
เธอดูเหมือนกับเด็กที่ได้รับของขวัญในวันคริสต์มาสเลย
“ว้าว…!”
หางและหูของคยออุลชูขึ้น
เป็นปฏิกิริยาที่จะแสดงออกมาเมื่อเธอตกใจหรือตื่นเต้นเท่านั้น
ดูเหมือนว่าเธอจะชอบบ้านสำเร็จรูปหลังเก่าอันนี้มาก
ยอรึมจ้องมองลงไปที่พื้น
“ชอบมันไหม?”
“ชอบ! ฉันไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลยว่าฉันจะมีบ้านเป็นของตัวเอง…!”
มีบ้านเป็นของตัวเอง?
สำหรับคยออุลแล้ว บ้านหลังนี้ก็เหมือนกับฝันที่กลายเป็นจริงงั้นเหรอ?
ยอรึมเปิดประตูบ้านสำเร็จรูปด้วยความรู้สึกขมขื่น
“คยออุลอยากเข้าไปข้างในไหม”
“อืม…!”
เมื่อคยออุลเข้าไปด้านใน เธอก็มองขึ้น ๆ ลง ๆ สลับกันไปมาระหว่างพื้นกับเพดาน
คยออุลอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“ว้าว…!”
บนพื้นก็เป็นแบบไวนิลไม่ใช่ดิน
ส่วนเพดานก็ถูกปิดสนิทโดยที่ไม่มีรูให้เห็น
คยออุลค่อนข้างพอใจกับบ้านสำเร็จรูป สีหน้าของเธอตอนที่อยู่ด้านนอกกับด้านในแตกต่างกันอย่างชัดเจน
“มีหน้าต่างตั้งสองบาน…”
“อ-อืม”
บ้านก็ต้องมีหน้าต่างอยู่แล้ว
ยอรึมยิ้มอย่างเก้งก้าง และเฝ้าดูคยออุลที่กำลังสังเกตบ้านสำเร็จรูปอยู่เป็นเวลานาน
‘ถึงแม้มันจะน่าผิดหวังไปนิดหน่อย แต่ก็ดีแล้วที่คยออุลชอบมัน’
สำหรับตอนนี้ ฉันควรพอใจกับสิ่งนี้
ยอรึมแตะไหล่ของคยออุลเบา ๆ
“พวกเรามาเริ่มขนของเข้าไปข้างในกันเลยดีไหม?”
“อืม แต่จะทำยังไงกับเต็นท์อันเก่านั่นดีล่ะ? หรือว่าควรใช้เป็นที่เก็บของดี?”
“โอ้ อืม”
คยออุลยังคิดที่จะใช้เต็นท์อันเก่าอยู่เลย
ยอรึมอยากแนะนำคยออุลให้ทิ้งมันไป แต่เมื่อเห็นหางของคยออุลที่กระดิกไปกระดิกมาแล้ว เธอก็อดใจที่จะไม่พูดมันออกมา
ยอรึมรู้ดีว่าการแนะนำให้คยออุลทิ้งเต็นท์อันนั้นไปจะทำให้คยออุลรู้สึกใจสลาย
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
ด้วยความช่วยเหลือจากทุกคน เราจึงหยุดพักหลังจากที่ย้ายของเสร็จ
ฉันเดินไปรอบ ๆ บ้านสำเร็จรูปอย่างไม่สิ้นสุด ต่างจากโซเฟียที่นั่งจิบชาอยู่
ตึบ—ตึบ—
เมื่อลองเคาะบ้านสำเร็จรูป ก็มีเสียงของโลหะที่แข็งแรงตอบกลับมา ราวกับว่ามันสัญญาว่าจะปกป้องฉันจากทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่หมูป่า
“เจ้าชอบมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ใช่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันจะได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังดี ๆ แบบนี้”
ถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คือเป็นครั้งแรกในชีวิตนี้
แต่ไม่มีใครพูดถึงประสบการณ์ของตัวเองในชาติที่แล้วหรอก
ฉันตัดสินใจไปแล้วว่าฉันจะไม่พูดถึงประสบการณ์ในชาติก่อนกับผู้คนในโลกนี้
“เจ้าคงเหนื่อยมามาก”
“นั่นมันก็…”
คำชมของโซเฟียทำให้ฉันรู้สึกอาย
ฉันเกาหลังศีรษะอย่างงุ่มง่าม และสังเกตเห็นยอรึมพามนุษย์สัตว์ทั้งสองตนมาหาฉันจากระยะไกล
ยังไงซะ เธอก็ดูเหมือนกับหัวหน้าของเหล่ามนุษย์สัตว์อยู่แล้ว
“คยออุล พวกเราเหลือแค่การตกแต่ง คยออุลช่วยพวกเราหน่อยได้ไหม?”
“ตกแต่ง?”
“ใช่ ในทางเทคนิคแล้วคยออุลคือผู้ที่เป็นเจ้าของของทรัพย์สินชิ้นนี้ และเราก็ไม่อยากให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้าไปด้านในได้น่ะ”
สมเหตุสมผล
ตามกฎของโลกแล้ว แม้แต่เจ้าบ้านเดิมก็ไม่สามารถเข้าไปได้โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตตราบใดที่ยังมีสัญญาเช่าอยู่
ถึงแม้ว่าที่โลกนี้จะมีองค์ประกอบของความแฟนตาซีอยู่ด้วย แต่กฎข้อนี้ก็คงมีเหมือน ๆ กัน
“ใช่ และมันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากไม่มีคนมาที่นี่เลย”
“ใช่แล้ว เพราะงั้นพวกเราจึงต้องกางบาเรีย”
“บาเรีย?”
เวทย์มนตร์บาเรีย
แม้แต่ฉันที่ไม่คุ้นเคยกับเวทย์มนตร์ก็ยังรู้เลยว่ามันเป็นเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังขนาดไหน
แค่เวทย์มนตร์ป้องกันขั้นพื้นฐานที่สุดที่ถูกร่ายโดยนักเวทย์มือใหม่ในพื้นที่ล่าก็มีราคาสูงถึงห้าหมื่นวอนแล้ว
“คยออุลจำจองยูนาได้ไหม? เธอให้สิ่งนี้เป็นของขวัญแก่คยออุลน่ะ เธอบอกว่าขอโทษที่ใจร้ายแล้วก็ทิ้งสิ่งนี้เอาไว้”
ยอรึมแสดงลูกปัดแก้วโปร่งแสงที่ล้อมรอบไปด้วยออร่าที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ให้ฉันดู
“แล้วฉันต้องช่วยอะไรเหรอ?”
“ยิ่งกว่าความช่วยเหลือซะอีก พี่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากคยออุลน่ะ”
“การอนุญาต?”
“ใช่ พี่อยากรู้ว่าคยออุลจะคิดยังไงถ้าหากพวกเราอยากติดป้ายที่เขียนว่า ‘ห้ามเข้า’ เอาไว้น่ะ”
ยอรึมยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ฉัน
มันถูกเขียนไว้อย่างประณีต
━━━━━
มนุษย์สัตว์ชอบอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
เด็กคนนี้ไม่ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นของขวัญหรือว่าความเมตตาจะยอมรับไว้ด้วยแค่ใจเพียงเท่านั้น
※ประกาศ※
จากจุดนี้เป็นต้นไปคือเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเด็ก
คาถาบาเรียถูกกางแล้ว ดังนั้นกรุณาอย่าเข้าใกล้
[กิลด์รุ่งอรุณ]
━━━━━
“ว้าว”
ฉันถูกอธิบายไว้ว่าเป็นคนชอบอยู่กับธรรมชาติ
เมื่อลองคิดดูแล้ว ฉันก็ไม่ได้ไม่ชอบมัน
ฉันชอบเก็บของและการล่า
“เป็นไงบ้าง? มันโอเคไหม?”
“อืม ตราบใดที่พวกเขาไม่เข้ามาใกล้บ้านของฉัน จะอะไรก็ได้หมดเลย”
“โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวพี่จัดการให้เอง”
ยอรึมเขียนอะไรสักอย่างบนกระดาษพร้อมกับยิ้มแก้มปริ
ในขณะที่ฉันกำลังยืดตัวและรู้สึกว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว ยอรึมก็หัวเราะเบา ๆ และพูดอย่างสนุกสนานว่า
“ในเมื่อคยออุลมีบ้านที่เหมาะสมแล้ว พวกเรามาแจกเค้กข้าวเพื่อเป็นพิธีสำหรับขึ้นบ้านใหม่กันดีไหม?”
“แจกเค้กข้าวเพื่อเป็นพิธีสำหรับขึ้นบ้านใหม่?”
“ใช่ เป็นวิธีการที่ดีในการผูกมิตรกับเพื่อนบ้าน”
เธอคงกำลังพูดถึงกิลด์รุ่งอรุณที่อยู่ตรงข้ามกับพวกเรา
ฉันไม่อยากทำแบบนั้นเลย แต่เพื่อการมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ฉันเลยเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของเธอ
ยังไงซะ การใช้ชีวิตให้เหมือนกับคนธรรมดาในโลกนี้ก็คือเป้าหมายในชีวิตของฉัน
‘บางทีฉันควรจะลองดู’
จริงอยู่ที่กิลด์นั้นน่ากลัว แต่ก็เป็นความกลัวที่ฉันจะต้องเอาชนะให้ได้ภายในสักวันอยู่แล้ว
ฉันตัดสินใจและกำหมัดแน่น
“โอเค ฉันจะทำ”
“จริงเหรอ?”
“ใช่”
สำหรับในอนาคตแล้ว การใช้ชีวิตอยู่อย่างคนปกติมันไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเลย
มันเป็นสิ่งที่ฉันควรเริ่มทำให้เร็วที่สุด เริ่มต้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย
ฉันพยักหน้าให้ยอรึมด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
และไม่นานหลังจากนั้น ฉันก็รู้สึกเสียกับการตัดสินใจของฉัน
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━