I Was Kidnapped By The Strongest Guild - ตอนที่ 27 ค่อย ๆ กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง
“ท-ทำไมฉันถึงยิงไม่โดนล่ะ…?”
เมื่อกี้ฉันเพิ่งจะโม้ไปเองว่าฉันยิงธนูได้แม่นมาก
ทำไมฉันถึงยิงกระป๋องอันเดียวที่อยู่ตรงหน้าของฉันไม่โดนกัน?
เมื่อสับสนกับสถานการณ์และเอาแต่ยืนจ้องมองเต็นท์ที่พังลงมา โซเฟียก็เดินโดยค้ำไม้เท้ามาหาฉัน
“ดูเหมือนว่ามานาของเจ้าจะไม่ไหลน่ะ”
“มานา? ทำไมจู่ ๆ มันถึงไม่ไหลล่ะ?”
“อาจเป็นเพราะว่าเจ้าไม่เครียดเท่าในตอนที่เจ้าล่ามอนสเตอร์”
“อ๋อ…”
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์หรือในสถานการณ์ที่วิกฤติ
ฉันก็รู้สึกว่าประสาทการได้ยินและการมองเห็นของฉันคมขึ้นอย่างผิดปกติ
บางทีมานาของฉันอาจจะทำงานโดยสัญชาตญาณเมื่อฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย
แต่พอเป็นเป้าหมายที่ปลอดภัยอย่างเช่นในตอนนี้แล้ว มานาของฉันก็เลยไม่พลุ่งพล่านออกมา
“เจ้าลองยิงด้วยความเครียดเท่าที่เจ้ารู้สึกในตอนที่เผชิญหน้ากับพวกมอนสเตอร์ดูสิ”
“โอเค แต่ก่อนอื่นเลย ฉันควรทำความสะอาดตรงนี้ก่อน”
“อืม…ข้าเห็นด้วย นั่นน่าจะดีที่สุดแล้ว”
ฉันเดินตรงไปทางที่มีชิ้นส่วนแก้วที่กระจัดกระจายอยู่
ทีละชิ้น
ฉันเก็บชิ้นส่วนแก้วด้วยมือเล็ก ๆ ของฉันอย่างขยันขันแข็ง
ขวดแก้วที่มีราคาอยู่ที่หนึ่งร้อยยี่สิบวอน ตอนนี้มันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แล้ว
ทั้งหมดทั้งสิ้นแล้วรวมกันได้มากกว่าห้าร้อยวอนซะอีก
ชิ
หางของฉันฟาดลงบนพื้นด้วยตัวมันเอง มันแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกผิดหวังของฉัน
ทันใดนั้นก็มีคนเรียกชื่อของฉันจากที่ห่างไกล
“คยออุล! พี่ขายหินมานาเสร็จแล้ว!”
“อืม”
เมื่อหันหน้าไป ฉันก็เห็นยอรึมกำลังโบกมือให้ฉันจากที่ไกล ๆ โดยที่ถือมัดธนบัตรไว้ในมือ
เห็นได้ชัดเลยว่ากิลด์เป็นผู้ที่รับซื้อหินมานาไป และดูเหมือนว่ามันจะเสร็จเร็วมากเมื่อปล่อยให้สมาชิกกิลด์อย่างยอรึมจัดการ
“คยออุล…ฮืม? ทำไมเต็นท์ถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?”
“คือว่า ฉันฝึกยิงธนูแล้วก็พลาดไปทำมันพัง…”
“งั้นเหรอ…”
ยอรึมเกาแก้มของตัวเอง และหลังจากนั้นเธอก็ไปนั่งยอง ๆ อยู่ใกล้ ๆ กับเศษแก้ว
เธอใช้มือทั้งสองข้างจับเศษแก้วขึ้นมาอย่างชำนาญโดยที่ไม่สะทกสะท้านกับเศษแก้วเลย
“ฉ-ฉันทำเองได้…!”
ฉันไม่ควรปล่อยให้คนอื่นมาเก็บกวาดความผิดที่ฉันเป็นคนทำเอง
ฉันรีบนั่งยอง ๆ ข้างหน้าเธอ แต่เธอก็ดันฉันออกไปและกันไม่ให้ฉันเข้าไปใกล้
“คยออุลยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ เพราะงั้นเดี๋ยวพี่ทำความสะอาดตรงนี้ให้เอง”
“ต-แต่ว่า…”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่อยากทำให้เสร็จเร็ว ๆ พอเสร็จแล้วพี่ก็จะได้เล่นกับคยออุล”
ฉันปิดปากด้วยความใจดีของยอรึม
เธอช่วยสอนวิธีล่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนให้ฉันและในตอนนี้ยังช่วยฉันเก็บเศษแก้วอีก
เธอดูเหมือนไม่มีอะไรเลยนอกจากความใจดี
‘หรือว่าเธอจะเป็นคนดีจริง ๆ ’
ฉันรู้สึกหงุดหงิดมากที่ความสังสัยของฉันยังไม่ได้รับการแก้ไข
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากเธอบอกฉันทุกอย่าง
ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกเสียดาย แต่อย่างที่ยอรึมบอก ฉันยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ
ฉันตัดสินใจทำงานของฉันให้เสร็จก่อน
“โซเฟีย ไปเก็บดอกอาซาเลียด้วยกันเถอะ”
“อาซาเลีย?”
“ใช่ ฉันเห็นมันออกดอกอยู่ตรงนั้นน่ะ”
“ฮืม…”
โซเฟียกระพริบตาอย่างครุ่นคิดและลุกขึ้นออกจากที่นั่งของเธอ
ฉันมีความสุขนิดหน่อย ไม่สิ มีความสุขมาก ๆ เลยต่างหาก ที่ฉันไม่ต้องไปเก็บดอกอาซาเลียด้วยตัวคนเดียว
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
มีสิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้มาจากการใช้ชีวิตอย่างยากจน
ของที่ถูกทิ้งราวกับขยะมักจะเป็นของที่ยังใช้งานได้อยู่
ฉันมุ่งหน้าไปที่ถังขยะรีไซเคิลที่อยู่ตรงมุมของสวนสาธารณะ เพื่อหาวัสดุที่เอามาใช้ซ่อมเต็นท์ได้
พวกเราไม่เจอผ้าหรืออะไรที่ใช้แทนได้เลย แต่ก็ยังมีขวดเปล่าให้ฉันเก็บอยู่สองถึงสามขวด
“อันนั้นมันมีก้นบุหรี่อยู่ข้างใน…”
“ใช่ แต่ถ้าเราทำความสะอาดให้ดี เราก็ขายมันได้แล้ว”
“โอ้โห…”
ตึบ—ตึบ—
เมื่อเคาะคอของขวดลงพื้น ก้นบุหรี่ก็หลุดออกมาจากด้านใน
ถึงแม้ว่ามันเป็นงานที่สกปรก แต่ฉันก็หยิบพวกมันขึ้นมาและเอาพวกมันไปทิ้งลงที่ถังขยะโดยที่เหลือไว้เพียงแค่ขวดเปล่าเท่านั้น
“แค่ล้างพวกมันด้วยน้ำหลาย ๆ ครั้งหน่อย ทีนี้พวกมันก็จะสะอาดแล้ว”
“เก็บทุกอย่างจริง ๆ นะเจ้าเนี่ย”
โซเฟียถือขวดเปล่าที่ฉันให้เธอเอาไว้
ฉันพาเธอไปที่พุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ และคิดกับตัวเอง
วันนี้ฉันเองก็ควรดูแลเต็นท์ด้วยเหมือนกัน
‘ถ้ามีเงินพอ ฉันก็สามารถซื้อเทปกาวกันน้ำได้ใช่ไหม?’
ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ฉันจะได้ซ่อมรูที่ขาดของเต็นท์
ในขณะที่ฉันยืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่ดอกอาซาเลียเบ่งบาน ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ภายในใจ
“มาเก็บดอกอาซาเลียกันเถอะ”
ฉันสาธิตวิธีการเก็บดอกอาซาเลียยังไงไม่ให้ฉีกขาดให้โซเฟียดู
มันมีทริคในการเด็ดพวกมันให้ได้ในคราวเดียวอยู่
“เจ้าใช้มือได้ค่อนข้างเก่งเลยนี่”
“อืม โซเฟีย…”
โซเฟียเองก็เข้ามาเด็ดด้วยกันสิ
ในขณะที่ฉันกำลังพูดแบบนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงเท้าหลายก้าวดังออกมาจากบริเวณใกล้ ๆ
ตึบ—ตึบ—
ผู้ชายและผู้หญิงประมาณห้าคนกำลังเดินมาเป็นกลุ่ม
‘ไม่ใช่นักผจญภัย…แค่มาเพื่อผ่อนคลายในสวนสาธารณะงั้นเหรอ?’
พวกเขามาที่นี่เพื่อมาดูดอกอาซาเลียงั้นเหรอ?
หรือพวกเขามาที่นี่เพราะมีธุระอะไรบางอย่างกับพวกเรา?
ฉันเดินถอยหลังโดยสัญชาตญาณด้วยความสับสน
“สวัสดี?”
ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้ากลุ่มโบกมือให้ฉันกับโซเฟีย
ฉันมองดูเธออย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าความตั้งใจของเธอ
“เฮ้ย อย่าไปทำตัวสนิทสนมกับเด็กสิ เดี๋ยวเด็ก ๆ ก็กลัวหรอก”
“โอ้ งั้นเหรอ…?”
“เจ้าเรียกใครว่าเด็ก…”
โซเฟียพึมพำกับตัวเองอย่างไม่พอใจในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นก็เกาหลังศีรษะ
รอยยิ้มของเธอดูไร้ความเป็นพิษเป็นภัย แต่ฉันก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดที่จะตัดสินคนอื่นจากหน้าตาของพวกเขาเพียงอย่างเดียวหรอก
เธอต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแน่
“ขอโทษนะ พวกพี่แค่อยากแบ่งขนมน่ะ”
“ขนม?”
“ใช่ พวกพี่มาที่นี่เพื่อเที่ยวเล่นน่ะ แต่พอดีพวกพี่เอามันมาเยอะเกินไป”
เธอยื่นตะกร้าออกมาให้ฉันดู
กลิ่นของมันดูน่าอร่อยมาก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่มีความคิดที่จะตอบตกลง
“ม-ไม่เป็นไร พวกเรามีขนมของพวกเราอยู่แล้ว”
ฉันเอาดอกอาซาเลียที่เพิ่งเก็บมาสด ๆ ร้อน ๆ ให้พวกเขาดู
กลีบดอกของพวกมันเป็นสีชมพูสวยงาม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาทั้งกลุ่มก็เริ่มหน้าซีดและจ้องมองไปที่กลีบดอกไม้
“งั้นเหรอ? แล้วพวกเราควรทำยังไงกับทำหมดนี่ดีนะ? หรือว่าพวกเราควรเอามันไปทิ้ง…?”
เธอไออย่างกระอักกระอ่วนและเปิดตะกร้า
ข้างในนั้นมีแซนด์วิช เครื่องดื่ม และขนม
“……”
การทิ้งพวกมันไปเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก
ด้วยความที่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี ฉันจึงมองไปที่โซเฟีย
“มันไม่มีพิษอยู่ข้างในใช่ไหม?”
โซเฟียขมวดคิ้ว และมองฉันสลับไปสลับมากับคนกลุ่มนั้น
ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรที่จะพูด
ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายเธอก็ไม่พูดออกมาด้วยเหตุผลบางอย่าง
“ทำไมพวกพี่ถึงต้องใส่ยาพิษลงไปด้วยล่ะ?”
“พวกพี่แค่ให้เพราะพวกพี่เห็นว่าพวกเธอสองพี่น้องดูน่ารักมากก็แค่นั้นเอง”
“พี่น้อง…?”
โซเฟียเป็นฉลาม ส่วนฉันเป็นแมว พวกเราดูเหมือนพี่น้องตรงไหนกัน?
ด้วยความสับสน ฉันจึงจับโซเฟียเพื่อที่จะพาเธอหนี แต่โซเฟียก็ยื่นมือออกไปหยิบตะกร้าซะก่อน
“ขอขอบคุณสำหรับควาทเมตตาของพวกท่าน พวกเราขอรับมันเอาไว้ด้วยความยินดี”
“อ๊ะ…!”
ทำไมเธอถึงได้ยอมรับมันมาอย่างง่าย ๆ ขนาดนั้นล่ะ?
โซเฟียผู้ชาญฉลาดไม่สงสัยอะไรเลยเหรอ?
ฉันมองไปที่โซเฟียด้วยสายตาที่เบิกกว้างอย่างตกใจ
“ไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นหรอก ฉันคิดว่าฉันเข้าแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงอยากให้สิ่งนี้กับเรา”
“แต่ว่า…!”
ถึงแม้การกระทำจะดูไม่เป็นพิษเป็นภัยขนาดไหน
ถึงแม้ว่าการกระทำของพวกเขาจะดูไร้พิษภัย แต่การยอมรับของมาฟรี ๆ ก็ดูไม่เข้าท่ากับฉันเลย
ฉันกลอกตาไปมาและยื่นดอกอาซาเลียให้พวกเขา
“เอาอันนี้ไปสิ…”
“ว้าว ให้สิ่งเหล่านี้กับพวกพี่งั้นเหรอ?”
“ช-ใช่…ฉันไม่เด็ดมาเยอะ ให้ฉันเด็ดให้มากกว่านี้…?”
“ไม่ต้องหรอก! แค่นี้ก็พอสำหรับพวกเราแล้วใช่ไหม?”
ผู้หญิงคนนั้นหยิบดอกอาซาเลียขึ้นมาและยัดมันเข้าไปในปากของผู้ชายที่พยักหน้าอยู่ข้าง ๆ ของเธออย่างสนุกสนาน
‘อ๊ะ’
ดอกอาซาเลียมีรสชาติที่ขมและเปรี้ยมเอามาก ๆ ถ้าหากกินมันแบบดิบ ๆ
ฉันกังวลเรื่องนั้น แต่เขากลับเคี้ยวดอกอาซาเลียอย่างไม่เป็นไร
“ขอบคุณนะ พวกพี่จะเอาสิ่งนี้ไปกินให้อร่อยเอง”
“อืม…”
ถึงแม้ว่าจะเก็บได้เพียงแค่ไม่กี่กลีบ แต่การแลกเปลี่ยนก็ประสบความสำเร็จดี
ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและมองดูกลุ่มที่เดินจากไป
ฉันยังไม่รู้คำตอบเลยว่าทำไมพวกเขาถึงได้ใจดีกับฉัน
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
“อ่า เด็ก ๆ น่ารักสุด ๆ เลย”
“ฉันเห็นด้วย”
จองแชอามองลงไปที่ดอกอาซาเลียที่อยู่ในมือ
เธอรู้สึกเศร้าใจที่เห็นเด็ก ๆ เก็บขยะ ดังนั้นเธอก็เลยเอาขนมไปให้ แต่เธอก็ได้ดอกไม้มาเป็นการตอบแทน
ความใจดีของเด็ก ๆ เป็นอะไรที่น่ารักมาก แต่ในทางกลับกันก็ดูน่าสงสารเช่นกัน
“ทำไมเด็ก ๆ เผ่ามนุษย์สัตว์ถึงได้มาเก็บขยะอยู่ที่นี่กัน?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? ช่วงนี้มีมนุษย์สัตว์อยู่แถว ๆ นี้เยอะแยะเลย บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นล่ะมั้ง?”
ทำไมมนุษย์สัตว์ที่ยังเด็กและไม่มีที่อยู่อาศัยถึงได้มาอยู่ที่สวนสาธารณะกัน?
แล้วทำไมกิลด์รุ่งอรุณถึงไม่คิดที่จะทำอะไรเลย?
ทั้ง ๆ ที่ทางกิลด์เองก็รู้ดีว่ากำลังละเลยอยู่
หรือบางทีอาจจะมีอะไรเป็นพิเศษกับมนุษย์สัตว์
หรือบางทีมนุษย์สัตว์อาจจะอยู่ในสถานการณ์พิเศษ
“…แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่สนใจพวกเธอ”
จองแชอาตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อเด็กโดยที่รู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่
แตะ—!
จองแชอาหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาและถ่ายรูปดอกอาซาเลียที่เธอได้รับมาจากเด็ก
หลังจากนั้นเธอก็โพสต์ข้อควาทสั้น ๆ ลงบน SNS ส่วนตัวของเธอ
━━━━━
มอบขนมให้เด็ก ๆ ที่น่ารัก ณ สวนรุ่งอรุณและได้ดอกไม้มาเป็นของตอบแทน?
━━━━━
เด็กจากเผ่ามนุษย์สัตว์
ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
เธอหลีกเลี่ยงข้อความที่โลดโผนเช่นนั้น
สิ่งที่จองแชอาต้องการก็คือ การให้ผู้ติดตามของเธอคิดถึงเด็กไร้บ้านในสวนสาธารณะด้วยตัวของพวกเขาเอง
[สวนรุ่งอรุ่นสวยมากเลย~]
[เด็ก ๆ เป็นคนที่มีน้ำใจมาก]
[ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่าเริ่มมีเด็ก ๆ จากเผ่ามนุษย์สัตว์มาอาศัยอยู่ที่นั่น มันไม่ใช่ข่าวเท็จใช่ไหม?]
ความสนใจตามธรรมชาติดีกว่าความสนใจตามกระแสเพราะมันอยู่ได้นานกว่า
ความสนใจแบบตามกระแสอาจก่อให้เกิดความอันตรายต่อเด็กได้หากไปดึงดูดความสนใจแบบผิด ๆ มา
นี่เป็นความจริงที่จองแซอาได้เรียนรู้มาจากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในโลกโซเชียลมาหลายปี
‘ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีก็ดีไป แต่ถ้าไม่…’
กิลด์รุ่งอรุณจะเพิกเฉยต่อเด็ก ๆ ต่อไปจริง ๆ งั้นเหรอ?
จองแซอามองไปที่ตึกของกิลด์รุ่งอรุณด้วยสีหน้าที่มืดแปดด้าน
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━