I Was Kidnapped By The Strongest Guild - ตอนที่ 37 ในที่สุดก็คิดได้
กระต่ายมีเขายักษ์กระทืบเท้าเหมือนกระทิง
ดวงตาสีแดงอันโดนเด่นแดงก่ำไปด้วยความอาฆาต
อึก
มีคนกลืนน้ำลายเมื่อเห็นกระต่ายมีเขาที่แปลกประหลาด
เสียงเล็ก ๆ นั้นทำให้หูของฉันและกระต่ายมีเขาตั้งชูขึ้นพร้อมกัน
อ๊ะ
มันตอบสนองต่อเสียงกลืนน้ำลาย
ในขณะที่กระต่ายมีเขาหันไปหานักผจญภัย ฉันก็เล็งธนูไปที่มันด้วยเหมือนกัน
กึด—!
กระต่ายมีเขากระตุกหูเมื่อได้ยินเสียงตึงของสายธนู
มันหยุดพุ่งเข้าใส่นักผจญภัยและกระโดดเหมือนกับกระต่ายตัวอื่น ๆ
ตุ้บ—!
ลูกธนูพุ่งตรงไปยังจุดที่กระต่ายมีเขายักษ์อยู่
มันหลบลูกธนูโดยการกระโดดไปด้านข้าง โดยได้รับการชี้นำจากเสียงสั่นสายธนูเพียงเท่านั้น
คู่ต่อสู้ถือว่ามีฝีมือมาก
ในแง่ของประสบการณ์การต่อสู้ มันอยู่เหนือกว่าฉันอยู่หลายระดับ ที่เคยล่าแค่ก็อบลินกับกระต่ายมีเขาแค่นั้น
ฉันถอนหายใจออกมาเพราะทักษะที่ห่างกันอย่างท่วมท้น
“โฮ่ก”
ถ้าหากนักผจญภัยคนอื่น ๆ มีมานา สิ่งมีชีวิตแบบนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องท้าทาย
ฉันจับคันธนูแน่นอย่างหงุดหงิด จากนั้นฉันก็ส่ายหัว
ไม่จำเป็นต้องไปรู้สึกไม่พอใจกับการสูญเสียสิ่งที่ฉันเคยมี
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำให้สุดความสามารถในสถานการณ์ที่มีเวลาจำกัด
จนถึงตอนนี้ฉันเคยใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นและก็คิดที่จะทำแบบนั้นต่อไปเรื่อย ๆ ด้วย
‘ไหนดูสิ’
จองยูนาเคยกล่าวถึงเรื่องนั้นแล้ว
ถึงแม้กระต่ายมีเขาจะมีประสาทการได้ยินที่ดี แต่ประสาทการมองเห็นนั้นกลับแย่
ฉันตัดสินใจที่จะพิสูจน์ว่ากระต่ายมีเขายักษ์ก็มีลักษณะพวกนี้เหมือนกัน
“โฟกัสไปที่ตาและหูก่อน’
ฉันดึงสายธนูโดยที่ไม่พาดลูกธนู
กึด—!
ในตอนที่สายธนูสั่นจนเกิดเสียง ร่างกายของมันก็สั่นตอบกลับมา
ยังไม่ทันได้ยิงลูกธนูเลย แสดงว่ามันตอบต่อเสียงเพียงเท่านั้น
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันอาศัยแค่การได้ยินแทนการมองเห็นที่แย่
เช่นเดียวกับกระต่ายมีเขาตัวอื่น ๆ ไม่มีมานาอยู่ในตาของฉัน
ฉันมองไปที่ยอรึมเพื่อที่จะแบ่งปันข้อมูลที่ฉันพบแล้วเธอก็ยกนิ้วให้ฉัน
“……”
เธอเข้าใจฉันได้โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรเลยเหรอ?
ฉันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้ช่วยเหลือเธอ
ฟึบ—!
ฉันสายเกินไปที่จะสังเกตเห็นกระต่ายมีเขายักษ์กระโดดมาทางเรา
ในช่วงเวลาที่ฉันได้ยินเสียงและหันหน้าไป มันก็เอาตัวกระแทกเข้ากับต้นไม้ที่ฉันยืนอยู่
ตึก—!
ต้นไม้เอียงตามแรงกระแทก
เมื่อไม่สามารถรักษาสมดุลได้ ฉันก็หล่นจากต้นไม้
“คยออุล…!”
ยอรึมเอื้อมมือมาหาฉัน
ฉันจึงเอื้อมมือไปหาเธอ แต่เราก็ไม่สามารถจับมือกันได้
“อ๊ะ”
ล้ม
ฉันสงสัยว่ามันจะเจ็บไหมถ้าหากฉันกระแทกพื้น
ในขณะที่ฉันกำลังคิดไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมาย ยอรึมก็กระโดดมาหาฉัน
“คยออุล!”
เธอใช้แขนของเธอโอบกอดฉัน
ไม่ว่าจะเพื่อลดการกระแทกหรือเพื่อปกป้องศีรษะของฉัน เธอก็โอบกอดมันไว้ทั้งหมด
ตุ้บ—!
เรากระแทกพื้นด้วยกัน
การตกลงมาจากหลังของกระต่ายมีเขาช่วยทำให้แรงกระจาย แต่เมื่ออยู่ใกล้มันมาก ๆ ความกลัวของฉันก็เพิ่มขึ้น
“เอ่อ…”
เขาของมันใหญ่เท่ากับปลายแขนของฉัน
ถ้าหากฉันถูกแทงฉันจะตายเลยหรือเปล่านะ?
ในขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องไร้สาระ ยอรึมก็อุ้มฉันขึ้นมาและเริ่มวิ่งหนีอย่างสิ้นหวัง
“ยูนา!”
“ทางนี้!”
เสียงของจองยูนาดังออกมาจากต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ
กระต่ายมีเขาที่อยู่ข้างหลังของเราก็เตรียมตัวที่จะกระโดด
กล้ามเนื้อของมันพองขึ้น
ถ้าอยู่คนเดียว ฉันก็คงจะกลิ้งหลบได้ แต่ตอนนี้ฉันอยู่ในอ้อมแขนของยอรึม
“หลบเร็วเข้า!”
เราจำเป็นต้องหลบเพื่อหลีกเลี่ยงมัน
ทันทีที่ฉันกดหัวของยอรึมลง เธอก็เหวี่ยงร่างของฉันขึ้นไป
ฉัวะ—!
ร่างกายของฉันลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับเสียงของบางสิ่งที่ถูกเจาะ
ฉันถูกโยนขึ้นไปสูงมากจนจองยูนาที่เกาะอยู่บนต้นไม้สามารถคว้าคอเสื้อของฉันได้
“กร-กระต่ายมีเขา…!”
ในขณะที่ฉันกำลังห้อยอยู่ในมือของจองยูนา ฉันก็กลอกตาไปมาเพื่อมองหายอรึมและเจออยู่ที่ด้านล่างของฉันโดยที่กำลังแสดงใบหน้าที่เจ็บปวดออกมา
“เอ่อ…?”
เขาของกระต่ายมีเขายักษ์ยื่นออกมาจากช่องท้องของยอรึม
เขาที่เปื้อนเลือดดูไม่จริงมากกว่าที่เคย
ถ้าหากไร้ซึ่งมานา คนธรรมดาอย่างยอรึมที่ถูกแทงแบบนั้นก็คงไม่มีโอกาศรอด
มันเป็นความตายที่มาโดยไม่มีการกล่าวเตือนล่วงหน้า
และเป็นเพราะมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดอย่างกระต่ายมีเขา
“ยอรึม…?”
แขนของจองยูนาที่จับคอเสื้อของฉันอยู่สั่น
ฉันเองก็สั่นไม่ต่างจากเธอ
ตอนนี้ฉันทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยเธอ?
ฉันรีบเค้นสมอง แต่ก็ยังคิดอะไรไม่ออก
แม้แต่ยาระดับสูงก็ไม่อาจสามารถใช้ในสถานการณ์นี้ได้
‘มันจบแล้ว…’
ไม่มีทางที่จะออกไปได้
ฉันจิตตกด้วยความสิ้นหวังอย่างท่วมท้น ในขณะที่ยอรึมกำลังคร่ำครวญและจับเขาที่ยื่นออกมาจากหน้าท้องของเธอ
ที่ข้างหลังเธอ ฉันก็เห็นชเวจินฮยอกและนักผจญภัยคนอื่น ๆ กำลังวิ่งไปหากระต่ายมีเขา
“อดทนไว้!”
ชเวจินฮยอกและนักผจญภัยสายพละกำลังคนอื่น ๆ กำลังเกาะติดกระต่ายมีเขายักษ์
กระต่ายมีเขาสบัดตัวไปรอบ ๆ เพื่อสลัดพวกเขาออกไป
ถึงแม้กล้ามเนื้อจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อไร้ซึ่งมานา พวกเขาก็เกาะติดกระต่ายมีเขาได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น
มันเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์
ด้วยความรู้สึกอับจนหนทางที่ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ฉันก็สบตาเข้ากับยอรึมที่กำลังเงยหน้าขึ้นเพราะพยายามดิ้นรน
“อ่า…”
เธอกำลังจะตายเพราะฉัน
ฉันขอโทษจริง ๆ
ฉันอยากขอโทษ แต่ปากของฉันมันไม่ยอมขยับ
บางทีฉันอาจถูกลิขิตให้เป็นแค่ภาระไปตลอดชีวิต
ทำไมฉันถึงได้ไรพลังขนาดนี้?
ในขณะที่ฉันกำลังจะถูกความเกลียดชังตัวเองเข้ากลืนกิน ฉันก็สังเกตเห็นรอยยิ้มจาง ๆ บนริมฝีปากของยอรึม
‘ยิ้ม…?’
มันไม่ใช่รอยยิ้มที่สร้างความมั่นใจให้ฉัน
และไม่ใช่รอยยิ้มอำลาครั้งสุดท้ายด้วย
มันเป็นเรื่องยิ้มที่แสดงออกถึงความแน่วแน่ ซึ่งมีเพียงแต่คนที่เชื่อใจคนอื่นเท่านั้นที่จะสามารถแสดงมันออกมาได้
และคนที่เธอเชื่อใจก็คือฉัน
ตอนนี้มีวิธีที่พอจะช่วยเธอได้บ้างไหม?
ฉันกัดริมฝีปากแรง ๆ ปลุกความรู้สึกที่มึนงงให้ตื่น
ฉันเรียนรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับดันเจี้ยนมาจากยอรึมและโซเฟีย
‘เพื่อช่วยคนที่ถูกแทงทะลุท้อง…’
จำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที
แต่ในดันเจี้ยนที่มานาไม่สามารถใช้ได้ ดันเจี้ยนจำเป็นต้องถูกเคลียร์ก่อนถึงจะสามารถรักษาได้
เพราะมานาจะกลับมาอีกครั้งเมื่อดันเจี้ยนถูกเคลียร์
จากนั้นเราก็จะสามารถใช้ยาทั้งหมดที่เรามีได้
‘ดันเจี้ยนที่มีบอสจะถูกเคลียร์ได้เมื่อเอาชนะบอส’
เมื่อความคิดของฉันมาจนถึงจุดนั้น ฉันก็เข้าใจความหมายเบื้องหลังของรอยยิ้มของยอรึม
มันเป็นรอยยิ้มที่บอกว่า ‘เรากำลังจัดการกระต่ายมีเขา สิ่งที่เธอต้องทำมีแค่ต้องยิงธนู’
ถึงเธอจะถูกแทงทะลุ แต่เธอก็ยังเชื่อใจฉันจนมากพอที่จะยิ้มออกมาแบบนั้น
“……!”
ฉันรีบพาดลูกศรไปที่คันธนู
เมื่อเล็งเป้าไปที่กระต่ายมีเขายักษ์เสร็จ ฉันก็ตะโกนไปที่จองยูนาที่กำลังถือฉันอยู่
“แขนอย่าสั่นนะ!”
“โอเค!”
จองยูนาก็คิดเหมือนกันเหรอ?
เธอหยุดสั่นหลังจากที่หายใจเข้าลึก ๆ เพียงแค่ครั้งเดียว
ราวกับทุกคนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
ทันใดนั้นฉันก็ยิงธนูไปที่กระต่ายมีเขายักษ์
ฟึบ—!
ลูกศรพุ่งตรงไปที่ดวงตาของกระต่ายมีเขา
มันตอบสนองต่อเสียงนั้นและพยายามที่จะกระโดดหลบ แต่นักผจญภัยหลายสิบคนก็ดึงมันเอาไว้
“อ๊ากก!”
“แค่ก!”
นักผจญภัยบางคนกลิ้งลงไปบนพื้นเนื่องจากการเหวี่ยงตัวของกระต่ายมีเขา แต่การเสียสละของพวกเขาก็ทำให้กระต่ายตัวกระตุกอยู่กับที่
ฉึก—!
ลูกศรพุ่งเข้าไปที่ดวงตาของกระต่ายมีเขา
ฉันสัมผัสได้ว่าหัวลูกศรอันแหลมคมได้เข้าไปถึงหัวสมองของมันแล้ว
—จี๊ด…
กระต่ายมีเขายักษ์ส่งเสียงร้องที่เกือบจะน่ารักออกมา ร่างกายอันใหญ่ยักษ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนล้มลงไปกับพื้น
ยอรึมก็คุกเข่าลงไปพร้อมกับกระต่ายมีเขาโดยที่เขาของมันยังเสียบท้องของเธออยู่
“แค่ก”
เลือกพุ่งออกมาจากปากของยอรึม
ในขณะที่ฉันกำลังส่ายตัวเพื่อที่จะลงไป จองยูนาก็ปล่อยมือออกจากฉัน
“ย-ยอรึม…!”
ฉันเดินเข้าไปหายอรึมอย่างระมัดระวังและเรียกชื่อของเธอ
ดวงตาของเธอปิดสนิท ราวกับเธอใกล้จะตายแล้ว
สายเกินไปงั้นเหรอ?
ในขณะที่ฉันลูบหน้าของเธอด้วยมือที่สั่นเทา ยอรึมก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง
“อ่า พี่กำลังจะตายแล้ว”
“ไม่ คุณยังมีขีวิตอยู่…!”
“ใช่ พี่เพิ่งเห็นแม่น้ำสติกซ์ แต่ตอนนี้มานากลับมาแล้ว พี่เลยรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย”
“ค่อยยังชั่ว”
มานากลับมาแล้ว
ในขณะที่ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ยอรึมก็ยกมือขึ้นมาอย่างอ่อนแรงและแตะที่แก้มของฉัน
“ถ้าหากเธอยังทิ้งพี่ไว้แบบนี้อยู่ พี่คงได้เห็นแม่น้ำสติกซ์อีกครั้งแน่…”
“อ๊ะ! ร-รอแปปหนึ่งนะ!”
ฉันค้นกระเป๋าของเธออย่างเมามัน
เนื่องจากเธอเคยบอกฉันว่าเธอเก็บโพชั่นไว้ที่กระเป๋า ฉันจึงรีบค้นหามันและหยิบมันออกมา
“ดื่มนี่เร็วเข้า!”
ฉันเทยาใส่ปากของยอรึม
เมื่อเธอต่อต้านยาอย่างไม่คาดคิด ฉันก็ยัดมันเข้าไปในปากของเธอทันที
“อึก! อืม!”
พรวด—!
หลังจากที่ดื่มยาเสร็จ ยอรึมก็หัวเราะแปลก ๆ ออกมา
“คยออุล เราต้องเอาเขาออกก่อน…!”
“อ๊ะ! อ่าาา…!”
กระเพาะที่งอกขึ้นมาใหม่ถูกเขายักษ์ของกระต่ายมีเขาขวางเอาไว้
ฉันพยายามเค้นสมองในสถานการที่อลม่านนี้ หลังจากนั้นฉันก็นึกถึงวันแรกที่พวกเราได้พบกัน
เธอยัดน้ำซุปเข้าปากของฉัน
‘อ่า’
เมื่อคนเรากังวลมากเกินไป คนเราก็จะกลายเป็นแบบนี้
ฉันเพิ่งตระหนักถึงความจริงที่ชัดเจนนี้
ฉันหัวเราะอย่างเคอะเขิน และมองไปที่ยอรึมที่ซึ่งความมีชีวิตชีวาแทบจะไม่ฟื้นขึ้นมาเลย
“อ่า ฉันกำลังจะตาย…”
ฉันตัดสินใจที่จะช่วยยอรึมก่อนที่จะจมอยู่ในอารมณ์ของตัวเอง
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━