I Never Run Out Of Mana
บอสหัวหน้าฝ่ายรุนแรง เซคิล ได้ออกคําสั่งให้ดาร์กเลดี้ระเบิดพอร์ทัลของดันเจี้ยน
ด้วยคําสั่งของเขา ดาร์กเลดี้ ได้ระเบิดไป 8 พอร์ทัลที่กระจายอยู่ทั่วประเทศโดยการกลั่นมานาที่เหลือในพอร์ทัล
อย่างไรก็ตามราวกับว่าสวรรค์เบื้องบนกําลังช่วยพวกเขา มีอีก 3 พอร์ทัลที่ระเบิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
พวกเขาเป็นอเวคเช่นกัน สิ่งที่พวกเขาต้องการคือข้อความจากสมาคมเพื่อยืนยัน
เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาได้รับการยืนยันจากนายกสมาคมแล้วเช่นกัน
ซีคิลเรียกทั้งดาร์กเลดี้และปิเอโร่เข้ามา
หัวหน้ากลุ่มหัวรุนแรงได้สูญเสียไปแล้วถึงสองคน
เซคิลจําเป็นต้องมองให้ทะลุบางสิ่งนี้อย่างรอบคอบ
ความสูญเสียเพิ่มเติมในกองกําลังของเขาหรือการหยุดชะงักของแผนการบางอย่างของพวกเขาที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาว
ผู้นํากลุ่มเข้ามาพบและเซคิลก็เปิดปากพูด.
“ดาร์กเลดี้ ฉันได้ยินมาว่าเธอเตรียมสถานที่ 8 แห่งในโครงการ
“ค่ะ ถูกต้อง ท่านเซคิล”
“อย่างไรก็ตาม เธอก็รู้ว่ามีพอร์ทัล 11 แห่งระเบิดพร้อมกัน เกิดอะไรขึ้น?”
“ค่ะ ในอินชอน วอนมิโดและใกล้ๆคาพยอง ไม่ได้ถูกทําด้วยน้ํามือของฉัน.”
“งั้นหรอ? อืม…”
จากคําตอบ เซคิลมองไปที่ปิเอโร่ขณะพูด.
ในฐานะภายใต้การนําของโจ๊กเกอร์ เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นําคนใหม่
มีโอกาสที่เขาอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้
“ปิเอโร่ นายทํามันหรอ?”
“ไม่ครับ ท่านเซคิล”
“ผมพยายามอย่างเต็มเพื่อช่วยดาร์กเลดี้ทั้ง 8 พอร์ทัล”
ตั้งนทําไมอีกสามถึงระเบิด…”
“ท่านเซคิล ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราได้แต่หวังว่าสวรรค์เบื้องบนจะช่วยเหลือเรา”
ดาร์กเลดี้พูดอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เซคิลค่อนข้างสงสัยในเหตุการณ์ปัจจุบัน
นั่นเป็นสิ่งที่คาดหวังไว้เนื่องจากเกาหลีกําลังจะกลายเป็นเขตสงครามครั้งใหญ่เพราะพอร์ทัล
เมื่อเกาหลีถูกขับออกจากองค์กรระหว่างประเทศ มันก็จะกลายเป็นสํานักงานใหญ่ของฝ่ายหัวรุนแรงอย่างสมบูรณ์
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง สาเหตุที่พอร์ทัลมันอยู่เหนือกว่าเลเวล 32 ได้ระเบิดขึ้นที่นี่
หากมันเป็นการระเบิดของพอร์ทัลตามธรรมชาติมันก็ไม่น่าเป็นเรื่องกังวลนัก
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถหยุดได้ 2-3 พอร์ทัลได้โดยไม่ต้องกังวลนัก
สิ่งที่เขากังวลคือการกระทําของอีกฝ่าย
เนื่องจากมันถูกกําหนดเวลาอย่างสมบูรณ์ ด้วยการเคลื่อนไหวของพวกเขา เขาจึงคิดว่ามันอาจมีสายลับแฝงอยู่ในกลุ่มของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กังวลนานนัก
เขาพยายามคิดว่าแม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเหลือเขา
โจ๊กเกอร์และโกสต์
เขาสูญเสียกองกําลังต่อสู้ไปเป็นจํานวนมาก
เนื่องจากแผนการของพวกเขาได้พบกับอุปสรรค์ขนาดใหญ่
เขาไม่อาจอยู่เฉยๆได้นานนัก
เมื่อจัดระเบียบความคิดของเขา เซคิลก็เปิดปากอีกครั้ง
“ระเบิดขึ้นในเวลาเดียวกัน มันราวเป็นเป็นสัญญาณดาร์กเล
“ค่ะ ท่านเซคิล.”
“ตามไปที่วอนมิโด.”
“ท่านหมายถึง….”
“เธอก็รู้อยู่แล้วว่าหากเป็นการระเบิดเทียม หลักฐานเหล่านั้นจะถูกทิ้งไว้รอบๆพอร์ทัล”
“ต้องทอยเต๋าอีกครั้ง ไม่นาน นานาชาติก็ไม่อาจฟื้นฟูมันได้ สิ่งที่ฉันกังวลคือคนอื่นๆที่ไม่ใช่ฝายของเราได้ระเบิดพอร์ทัลและต้องการให้โลกแตกซึ่งต่างจากเป้าหมายของเรา”
“รับทราบ ท่านเซคิล ฉันจะไปที่วอนมิโดเพื่อตรวจสอบสถานการณ์.”
“ดี ปิเอโร่ ส่วนนาย….”
“ผมจะไปที่คาพยอง ท่านเซคิล”
“ดี หากนายพบบางสิ่งให้รายงานฉันทันที.”
“ครับ ท่านเซคิล”
“คะ รับทราบ.”
“อีกเรื่อง!”
เซคิลหยุดชั่วคราว
ในตอนนี้ ดาร์กเลดี้และปิเอโร่กลืนน้ําลายด้วยความคาดหวัง
เขาใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะพูดอีกครั้ง
“คนที่มุ่งหน้าไปที่อินชอนและกาพย์องเพื่อป้องกันการระเบิดของพอร์ทัล อาจจะเป็นสมาคมอเวค…”
“ฆ่าให้หมด”
“ค่ะ!”
“ครับ!”
ด้วยการระเบิดของพอร์ทัล เซคิลวางแผนที่จะประกาศตัวเองต่อโลกให้รับรู้
ความแข็งแกร่งของผ่านที่ได้ซ่อนตัวมานานจะปรากฏตัวให้โลกเห็นและประเทศจะไร้อํานาจเมื่อมันถูกปกครองโดยอเวคภายใต้พวกเขา
อนาคตประเทศจะไม่แน่นอนด้วยการระเบิดของพอร์ทัลดังกล่าว
และถ้าเซคิลกับผู้นําสามารถขัดขวางการป้องกันได้ ประเทศก็จะต้องพังพินาศ.
เมื่อออกคําสั่งเสร็จ เขาก็มุ่งหน้าไปปูซานโดยใช้วาป.
หลังจากที่เขาจากไป ดาร์กเลดี้ก็เรียกลูกน้องพร้อมกับออกเดินทางทันที
ปิเอโล่มุ่งหน้ากลบไปยังโซลและเตรียมกองกําลังของเขาก่อนที่จะออกเดินทาง
ด้านหน้าสมาชิกกว่า 500 คนหรือมากกว่านั้น ดาร์กเลดี้พูด
“วันนั้นได้มาถึงแล้ว”
เพียงแต่คําพูดเดียวจากเธอ กําลังใจที่เพียงพอจะเขย่าพื้นโลกก็ระเบิดออกมา
เมื่อดาร์กเลดี้ยกมือขึ้น ทุกคนก็เงียบลงทันที โดยจดจ่ออยู่กับคําพูดของเธอ.
“เราได้รับคําสั่งและมุ่งหน้าไปที่วอนมิโด”
“และพวกเราจะฆ่าเหล่าสุนัขทั้งหมดของสมาคมและรัฐบาลในเวลาเดียวกัน ขณะที่พวกเราต้องปกป้องไปด้วย!”
เสียงของสงครามดังขึ้นอีกครั้ง
เมื่อปล่อยให้รองหัวหน้าเป็นผู้นํากองกําลัง เธอที่เป็นผู้นํากองกําลังก็มุ่งหน้าไปที่วอนมิโด
อย่างไรก็ตาม เธอไม่รู้ว่าในเวลานั้น มิชยอลกําลังมุ่งหน้าไปที่พอร์ทัลในอินชอนเช่นกัน
จุงโฮเตรียมที่จะมุ่งหน้าไปยังชางวอนตามที่มินชยอลขอเอาไว้
มันเป็นหนึ่งในพอร์ทัลทั้งสิบเอ็ดที่ระเบิด
ต้องขอบคุณที่มันเป็นพอร์ทัลเลเวล 30,
จุงโฮตรวจสอบข้อมูล GPS ที่สมาคมส่งเข้ามา
วาปไม่อาจทํางานได้ เว้นแต่ผู้ร่ายจะเคยไปยังสถานที่เหล่านั้นมาก่อน
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทําไมการวาปไปจึงไม่ใช่ไปยังสถานที่ของพอร์ทัลนั้นๆได้โดยตรง
“ฉันเดาว่านี่เป็นสถานที่ที่ใกล้ฉันที่สุดที่จะไปได้?”
เมื่อเขาทํางานเป็นผู้จัดการอเวค เขาได้เดินทางไปทั่วประเทศ
เมื่อพยายามที่จะคิดถึงอดีต เขาก็ได้ใช้วาปไปยังตําแหน่งที่ใกล้ที่สุดของการระเบิด
ต้องขอบคุณ เขาจําได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยไปที่ชางวอนแดซานมาก่อน
สถานที่นั้นอยู่ไม่ห่างจากจุดที่ระเบิด
มันไม่นานนักก่อนที่มินชยอลจะออกจากอินชอน.
ถัดจากจุงโฮก็คือโฮจินซึ่งอยู่ระหว่างการโทรหาผู้บังคับบัญชาการ ยุนจองซัน.
“ผู้บัญชาการ เป็นโฮจิน”
“ครับ ด้วยโอกาสอะไร?”
“มีบางอย่างที่ผมต้องบอกให้คุณรู้ ผมเลยโทรมาหา.”
“อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่านี่เป็นสถานการณ์ที่วุ่นวาย เพราะพอร์ทัลได้ระเบิด……..”
“ผมอยู่กับมินชยอลจนถึงเมื่อกี้”
เนื่องจากมีสายช้อนโทรเข้ามา เขาจึงต้องการวางสายอย่างรวด
เร็ว.
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการเคยได้ยินชื่อมินชยอลมาจากเขา
เมื่อเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องสําคัญ เขาจึงให้โฮจินพูดต่อ
“ได้ แล้วเขาพูดว่าไง? เขาติดสินใจที่จะอยู่ฝ่ายเราหรือไม่?”
“ครับ มินชยอลออกเดินทางไปยังอิชอน ที่มีพอร์ทัลสองแห่งระเบิดขึ้น นอกจากนี้อเวคที่ทรงพลังกําลังมุ่งหน้าไปที่ชางวอน.”
“หมายความว่า…”
“ครับ หมายความว่าคุณไม่ต้องใช้กําลังไปยังสถานที่ทั้งสองนี้”
“ผมเข้าใจแล้ว คุณจะมุ่งหน้าไปที่ไหน?”
“ตอนนี้ ผมจะไปยังที่ที่คุณอยู่”
“ได้”
“ตอนนี้คุณกําลังมุ่งหน้าไปที่ไหน?”
เมื่อคิดว่าการโทรครั้งนี้เริ่มยาวขึ้น ลุงโฮจึงตบไหล่และพูด.
“คุณพี่ ผมจะไปก่อนแล้วกัน”
แทนที่จะตอบคํา โฮจินพยักหน้าให้กับจุงโฮแทน.
แม้ว่ามันจะเป็นท่าทางเล็กๆ จุงโฮก็ออกเดินทางไป
เขาพยักหน้าและจากนั้นก็ใช้วาป.
แดซาน สถานที่ที่เขาไปถึงนั้นตกอยู่ในความโกลาหล
-อ้ากก!
“อ่าาา!”
“แกมันบ้า! กินนี่ซะ!”
“หยุด! แกเป็นชิ้นๆไปซะ!”
*
ด้วยข้อมูลที่ว่าพอร์ทัลได้ระเบิดออกมาอย่างผิดปกติ
ผู้คนต่างก็พากันหลั่งไหลออกมาจากสถานที่ปลอดภัยจากมอนเตอร์,
ส่วนหนึ่งของเมืองเต็มไปด้วยเปลวเพลิง
ชาวบ้านต่างก็โจมตีร้านค้าเพื่อเอาอาหาร เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน
บนถนนเต็มไปด้วยรถมันที่เบียดเสียดอยู่แน่นไปหมด ต่างคนก็บีบแตรใส่กันและกัน
เมื่อมองไปจากมุมนี้ ลุงโฮถอนหายใจ
“หา…
”
ความเห็นแก่ตัวของผู้คนปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ทุกคนต่างก็สนใจแต่ชีวิตตัวเองเท่านั้น
พูดให้ถูกก็คือ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนจะทํากันแบบนี้
เขาออกไปทางดานหลัง เขารีบเดินไปยังจุดที่ GPS ชี้
****
พอร์ทัลกําลังสั่นอย่างรุนแรง
ราวกับว่าพอร์ทัลพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ
ยังไม่มีใครจากสมาคมมาถึง
อย่างไรก็ตาม มีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่หน้าพอร์ทัล.
เธอผมสั้นจนไม่เป็นปลายผมที่ภายใต้หมวกเกราะ
ร่างกายของเธอเล็กกระทัดรัดพร้อมกับไม้เท้าที่เธอถืออยู่ก็ราวกับเป็นภาระของเธอ
นอกจากนี้ เธอยังตัวไม่สูงนัก
เมื่อเข้ามาใกล้ จุงโฮก็ยืนยันตัวตนของเธอและอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ.
“ว้าว! คุณ คุณนั่นเอง…”
หญิงสาวที่มีใบหน้าเด็กที่ดูเหมือนกับคนอายุ 20 ต้นๆ
ด้วยการแสดงออกของจุงโฮ เธอก็ตกใจก่อนที่จะมองไปที่จุงโฮ พร้อมกับอ้าปากค้าง,
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้มาจากสมาคม คุณเป็นคนท้องถิ่นหรือ?”
สําหรับคําถามของเธอ เขาก็เลิกทําสีหน้างุนงนและตอบ.
มันเป็นปฏิกิริยาที่คล้ายกับเจอคนดังคนหนึ่งที่น่านับถือ
“แค่กๆ! ใช่! ถูกต้อง บางทีคุณ…”
“ฉันคิดว่าคุณได้รับรายงานตําแหน่งที่ไม่ถูกต้อง นี่คือพอร์ทัลเลเวล 30 ที่มีการโจมตีด้วยเวทย์มนตร์เท่านั้น”
“คุณ ชอย..ชอยโซฮยอน ถูกไหม?”
“ฉันไม่คิดว่านั่นจะสําคัญในสถานการณ์นี้?”
“เป็นเกรียติที่ได้พบคุณเป็นการส่วนตัว”
“แล้ว…”
มองไปที่ชายคนนั้น ที่ดูเหมือนว่าจะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด เธอก็ส่ายหัว
เธอถึงกับถอนหายใจยาว.
คนที่ดูแลสถานที่แห่งนี้คือชอยโซฮยอน
เป็นคนแรกที่เครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 28.
เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาคม ดังนั้นเธอจึงไม่มีเหตุผลที่จะตอบรับจากการระเบิดพอร์ทัลในครั้งนี้
เธอไม่เพียงแต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิล แต่เธอทําเพื่อตัวเอง ในขณะที่เธอกําจัดมอนเตอร์
อย่างไรก็ตาม ที่เธออยู่ที่นี่เพื่อป้องกันพอร์ทัลที่กําลังระเบิดอีกครั้ง
จุงโฮมองเธออย่างเคราระในสายตาของเขาและเขาก็เข้าใจว่าในอนาคตประเทศชาติจะต้องได้รับผลจากวิกฤตในครั้งนี้
แหวนที่จุงโฮสวม เป็นแหวนสมบัติของบัลล็อก มีเวทย์ของมินชยอลมากมายอยู่ภายใน
พูดง่ายๆก็คือ หมายความว่าเขาจะไม่ต่างกันนักในด้านพลังเมื่อเทียบกับชอบโซฮยอน
ไม่ มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขามีพลังเทียบเท่ากับเธอได้อย่างง่าย
ดาย.
จุงโฮพูด
“ผมรู้ดีว่าการโจมตีการภาพจะไม่ส่งผล.”
“แล้วเมื่อคุณรู้แล้วคุณยังมาที่นี่? คุณวางแผนที่จะตายเหมือนหมาข้างถนน?”
“ฮ่าฮ่า ไม่เลย.”
ชอยโซฮยอนไม่เข้าใจว่าทําไมเขาถึงหัวเราะ
มันยากที่จะบอกได้ว่าเขามีสติจริงๆหรือเปล่า
จุงโฮที่มาที่นี่มีดาบอยู่ในมือและชุดเกราะ ซึ่งเธอสามารถบอกได้ ว่ามันมีชื่อว่าอะไรบ้าง ด้วยรูปลักษณ์ของเขา เธอมั่นใจว่าเขาต้องอเวคคลาสวอริเออร์
เธอถามพลางเกาคาง.
“เป็นแท้งหรอ? อย่างน้อยๆคุณมาที่นี่เพื่อรับการโจมตีของมอนเตอร์งั้นหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็กลับไปเถอะ ฉันไม่แน่ใจว่าทําไมคุณถึงมาที่นี่ แต่มันเป็นพอร์ทัลเลเวล 30 นี่คือแม้แต่ฉันก็ไม่ใช่คู่ต่อ
ตอนนั้นเอง พอร์ทัลสั่นมากกว่าเดิม
เนื่องจากพอร์ทัลเลเวล 30 มันจึงมีมอนเตอร์ไม่มากนัก
ก่อนหน้านี้ มินชยอลได้กวาดล้างดันเจี้ยนนี้ไปเนื่องจาก ค่าExpและจํานวนมอนเตอร์ที่น้อยเกินไป
จุงโฮและโซฮยอนต่างก็มองไปที่พอร์ทัลในเวลาเดียวกัน
ราวกับว่ากําลังรอคอยการจ้องมองของทั้งคู่ พอร์ทัลก็เริ่มปล่อยมอนเตอร์ออกมาที่ละตัวๆ
“กรรร!”
“ว้วววว! แฮร่!”
ราวกับว่าต้องปกป้องจุงโฮ ชอยโซฮยอนก็มาขวางด้านหน้าของ
เขา.
เธอพูดด้วยพร้อมกับยกไม้เท้าพร้อมกับมือข้างหนึ่งที่ว่างเปล่า
“Stand back!”
-แกร่กกก!
MANGA DISCUSSION