I Never Run Out Of Mana 92. การเติบโตที่ไม่จําเป็นในอนาคต (2)
“ฉันจะตรงเข้าคําถามเลยนะ….”
วินาทีที่ยุนจองซันอ้าปากค้างเหมือนว่าจะเป็นเวลาที่หยุดนิ่ง
ผมกลัวสิ่งที่เขาจะพูดต่อไป
ความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียวที่เรามีคือเราเคยพบกันตอนออกไปล่ากับจองโฮเมื่อ 5 เดือนก่อน แต่จู่ๆเขาก็มาที่นี่
บางทีเขาอาจจะถามว่าผมเป็นสาเหตุของการระเบิดของพอร์ทัลหรือไม่
เขาพูดด้วยสายตาที่จริงจัง
“เธอหยุดพวกมันหรอ?”
“…ผมหยุดอะไร?”
“อืม… พอร์ทัล…”
“ทําไมคุณถึงคิดว่าเป็นผม?”
“ดี…ผมไม่รู้ว่าทําไม แต่ผมรู้สึกว่าเธอแข็งแกร่ง มันเหมือนกับตอนที่เราพบกันครั้งแรกและถึงตอนนี้ เธอสามารถตอบคําถามของผมได้?”
ก่อนหน้านี้ผมสัมผัสได้ถึงอ่อร่าที่แข็งแกร่งเพียงแค่มอง
เขากําลังบอกว่าเรารู้สึกได้ถึงออร่าเดียวกันจากผม
เขาถามอีก
ผมตอบ
“อย่างที่เธอบอก จากข้อมูลหรือไฟล์ส่วนตัวของผม ผมไม่ได้เป็นอเวคนานนัก”
“……”
“เนื่องจากเหตุผลส่วนตัว ผมก็ไม่ได้ไปโรงเรียนด้วย”
“มันเป็นแบบนั้นเอง…แต่ถึงแม้จะไม่ได้ไปดันเจี้ยนมานานกว่าหนึ่งเดือน ดาบและชุดเกราะของคุณมันดีมากจนถึงจุดที่ว่าเธอสามารถใส่มันได้ทันทีเพื่อที่จะจัดการมอนเตอร์”
“……”
“ยิ่งไปกว่านั้น ผมที่ทํางานจากการเป็นอเวคมากว่า 40 ปีแล้ว ผมก็ยังไม่เคยเห็นไอเทมแบบนี้มาก่อน….”
เราทั้งคู่ต่างก็มองไปยังอาติเฟคที่วางอยู่มุมห้อง
ผมได้เสริมพลังและบํารุงรักษามันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้
เขาสามารถบอกได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การบํารุงรักษาอุปกรณได้แม้ว่าคุณจะไม่ได้ ออกไปล่ามอนเตอร์ก็ตาม.
“แม้ว่าผมจะไม่ออกล่า แต่ผมก็ดูแลมันเพราะผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมต้องการใช้มัน”
“ใช่ จริงๆแล้วมันก็ต้องเป็นแบบนั้น….”
ผมรู้ว่าจุงซันเป็นคนเที่ยงธรรม
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาพบตัวตนจริงๆของผม มันก็เห็นได้ชัดว่าผมจะเจอคนน่ารําคาญเพิ่มขึ้น
นั่นเป็นสาเหตุที่ผมต้องการปกปิดความจริง
เมื่อมองไปที่ตาของผมเขาพูด
“ขอบคุณสําหรับการเสียเวลา”
“…..”
ไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆที่ชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเชื่อว่าผมคือคนที่ป้องกันพอร์ทัลนั้น.
ผมไม่รู้ว่าพื้นฐานของเขานั้นคิดอย่างไง
ผมยังมองไปที่ดวงตาของเขาและพูดตรงๆ
“คุณจําสิ่งที่คุณพูดก่อนหน้านี้ได้ไหม?”
“หืม…”
“คุณพูดว่า พาเราได้พบกันอีกครั้ง คุณหวังว่าผมจะอยู่ในเส้นทางเดียวกับคุณ.”
“แน่นอน ผมจําได้”
“นั่นเป็นคําตอบที่ผมให้ได้ คือผมอยู่ข้างเดียวกับคุณและความเชื่อมั่นนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง
“…..”
“ข้างผมก็เหมือนเดิม แต่ผมไม่คิดว่าผมจะยืนอยู่ข้างคุณได้ นั่นเป็นคําตอบที่ดีพอ”
“ขอบคุณ ผมเข้าใจสิ่งที่เธอหมายถึง”
“ขอบคุณ คุณมากๆ”
“ถ้าสิ่งนี้ไม่อาจหยุดได้ แม้จะเป็นการรวมพลังของทั้งสมาคม….”
“ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผมต้องระดมคนรอบๆของผมก่อน.”
“ผมขอโทษ ผมต้องขอความช่วยเหลือจากเธออย่างไร้ยางอาย ”
“ไม่เป็นไร ด้วย….”
“อ่า คุณไม่ต้องกังวลว่าตัวตนของเธอจะถูกเปิดเผย ผมสามารถด้วยเกรียติของผมเลย.”
“ขอบคุณ อีกสิ่งหนึ่ง”
“อะไร?”
“ผู้บัญชาการ ผมแต่ในว่าเธอต้องรู้ถึงตัวตนของฝ่ายหัวรุนแรงแล้ว”
“….ขยะที่ยากจะจัดการกับรัฐบาลที่ทุจริตและเน่าเฟะในปัจจุบันนี้และสมาคม”
“ผมขอข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาได้ไหม?”
“…..”
“ผมจะบอกทั้งหมด ในบรรดาหัวหน้าทั้ง 3 คน ผมได้กําจัดพวกเขาไป 2 คนแล้ว”
“ทํา! เธอกําลังพูดอะไร!”
“โจ๊กเกอร์ โกสต์ ผมแน่ใจว่าคุณต้องเคยได้ยินชื่อเหล่านี้มาก่อน ฝ่ายนั้นได้สูญเสียพวกเขาไปแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นเวลาเหมาะที่จะถอนรากถอนโคนของพวกหัวรุนแรง”
“ผมจะไม่ขอรายละเอียด ผมจะให้ข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้จากตําแหน่งของผม”
ตอนนี้ ยูนจุงซันยิ้ม
อย่างไรก็ตาม เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังเสียก่อน
ความคิดแรกเลยคือสมาคมโทรเข้ามา
ขณะที่รับสาย ใบหน้าของเขาก็กลับมาจริงจังอีกครั้งและเขาก็เตรียมตัวที่จะออกไป.
“พอร์ทัลอื่นระเบิดงั้นหรอ?”
“โชคดีในเวลาที่วิกฤตินี้ มันเป็นเพียงพอร์ทัลเลเวล 12 ฉัน รู้ว่ามันเป็นเรื่องหยาบคาย แต่ดูเหมือนว่าฉันต้องออกไปทันทีโปรดฝากคําขอโทษให้กับแม่ของเธอด้วยที่ฉันไม่อาจบอกด้วยตัวเอง”
“ครับผม.”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็เดินผ่านวาปที่เขาร่ายทันที
ผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขา
อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกว่าไม่จําเป็นต้องซ่อนตัวตนจากยูนจุงซัน
นอกจากนี้ผมไม่มีข้อมูลว่าผู้นําที่เหลือและบอสใหญ่อยู่ที่ไหน.
ผมไม่ได้รับข้อมูลจากโกสต์หรือโจ๊กเกอร์เลย.
เส้นทางการหาข้อมูลใหม่ที่ผมจะหามันเจอได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว
จนถึงตอนนี้ ผมต้องรอจนกว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหว.
หากมันลงมาเคลื่อนไหวก่อน จากนั้นก็ค่อยจัดการกับมัน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันแตกต่างออกไป
ตอนนี้ ผมจะเป็นคนตัดสินใจว่าพวกเขาจะอยู่หรือไม่.
คนที่จะโจมตีคือผม และพวกเขาก็ไม่อาจหยุดผมได้
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา มีสายมาจากยูนจองซัน.
มันเป็นข้อมูลจากฝายหัวรุนแรง
ยิ่งไปกว่านั้น มันคือสมาคมอเวค.
เขาพูดว่ามันค่อนข้างยากที่จะได้รับข้อมูลเรื่องจากความเน่าเฟะที่เพิ่มมากขึ้น
ตามข้อมูลของเขา ผู้นคนสุดท้ายชื่อว่า ดาร์กเลดี้ ฐานของเธออยู่ที่อินชอน
คลิปหลุด
เธอเป็นผู้นําหญิง ที่มีเป็นทั้งคลาสแท้งและแอสซาซิน
พวกเขาอาจจะออกมาเพราะผมก็ได้
แผนของผมคือทําลายล้างพวกเขาเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับฐานที่ตั้งของเธอ
ก่อนหน้านี้ผมต้องเตรียมการต่อสู้ก่อน
มันไม่มีจุดที่ผมจําเป็นต้องเพิ่มเลเวลในอนาคตแล้ว
STR 12,000 แต้ม กับ STA 25,000 แต้ม
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงพลังมากก็อยู่กับผมด้วย
สิ่งที่ผมต้องการตอนนี้คือสกิลและการใช้แก่นหยั่งรู้ให้กับสกิลที่มีประโยชน์
สิ่งแรกที่ผมได้รับคือ สกิลแรงค์สูงๆ กับ Status Denial.
มันเป็นสกิลที่ปาร์คฮยอนใช้ก่อนหน้านี้และสกิลเดียวกับที่ถูกใช้จากการตัดนิ้วของผมออกหลังจากต่อสู้กับโจ๊กเกอร์
ข้อเสียคือมันมีคูลดาวน์ 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ผมจะมี 2 ชีวิตหากใช้มันได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ผมยังได้รับสกิลฮีล Mega Cure.
เพราะมันเป็นสกิลแรงค์ S การฟื้นฟูของมันจึงไม่อาจเทียบได้กับสกิล ฮีล.
ผมได้รับมันเพราะมันยากที่จะใช้เพียงแค่ ฮีล ใส่ตัวเองด้วยจํานวน HP ที่ผมมีจากสกิลแรงค์ C.
จากการต่อสู้กับโจ๊กเกอร์และโกสต์ สิ่งหนึ่งที่รบกวนจิตใจ ของผมก็คือสกิล ฮีล ที่ผมมี
ที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะผมต้องใช้เวลาในการปกปิดจุดก่อนของผมที่ละอย่างๆ
ก่อนรุ่งสาง ผมได้พบกับจุงโฮและโฮจิน.
แม้ว่าจะเป็นวันหยุด แต่ทั้งคู่ก็ทํางานอย่างหนักด้วยการออกล่า
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พวกเขาออกล่าเป็นเวลากว่า 12 ชั่ว โมงต่อวันโดยไม่หยุดสักครั้งเดียว
ด้วยเพราะมีแหวนบัลร็อคที่เต็มไปด้วยเวทย์ที่ทรงลพงและ อุปกรณ์ที่พวกเขาได้รับจากผม พวกเขาจึงเติบโตอย่างรวดเร็วในระดับที่น่าทึ่ง
ด้วยเพราะมี Blood’s Craving สถานะของพวกเขาที่ได้รับ นั้นสูงกว่าที่ผมคาดเดาเอาไว้
พวกเขาเกือบจะมีค่าสถานะกว่า 500 แต้ม
นั่นเกือบๆ 100 เลเวลได้
เดิมที่ไม่มีสถานะใดๆที่อัพเอาเองได้ แต่ตอนนี้พวกเขามีค่าสถานะที่พวกเขาเลือกได้เอง
พวกเขาเลเวลยังไม่ถึง 300 แต่มีพลังมากกว่าพวกเลเวล 400.
ด้วยระดับนี้ ขณะที่พวกเขาไม่อาจสู้กับผู้นําฝ่ายหัวรุนแรงได้ แต่พวกเขาก็ยังสามารถต่อต้านสมาชิกต่ํากว่านั้นได้
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังใช้ความสามารถที่คัดลอกมาได้ทั้งการโจมตีทางกายภาพและเวทย์มนต์ของผมด้วยแหวนนั่น
การพูดคุยของเราก็ดําเนินต่อไปในขณะที่ผม ชาร์จพลังให้กับแหวนสกิล
“ฉันได้ยินว่าหัวหน้าสมาคมมาเยี่ยมเธอ”
“ใช่”
“เธอจัดการมันอย่างไง?”
“ผมก็พูดอย่างคลุมเครือ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทุกอย่างที่ผมทําไปแล้ว”
“เป็นงั้นเอง…”
“ผมยังขอข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ายหัวรุนแรง ผมไม่อาจหาตําแหน่งของเธอได้แน่นอนนัก แต่ผมสามารถหาตําแหน่งทั่วๆไป ของฐานทัพดาร์กเลดี้ได้”
“ถ้าผู้บัญชาการไว้วางใจได้ พวกมันต้องเป็นของจริงแน่นอน.”
“ฉันเพียงแค่บอกได้ว่าพวกมันทุกอย่างแม่นยําเพราะเหตุผลนั้น”
“มินชยอล เนื่องจากเราหิวแล้วเรากินข้าวกันก่อน”
เมื่อเป็นแบบนั้น ผมจึงได้แบ่งปันข้อมูลที่ได้รับมาเมื่อเร็วๆนี้
พวกเรามุ่งหน้ามาที่ร้านอาหาร
ตอนนั้นเอง
-กรึงงงงง
-กริงงงงง
-ติ๊ด
ในขณะที่เรากําลังเดิน โทรศัพท์ทุกเครื่องก็ดังขึ้นพร้อมๆกัน
พวกเรามีลางสังหรณ์ที่บอกว่ามันไม่ดีเลย
เราแน่ใจว่ามันเป็นข้อความจากสมาคมเกี่ยวกับการป้องกันของการระเบิดพอร์ทัล
มันเป็นสถานการณ์เดียวกับ 4 พอร์ทัลที่ระเบิดในยางพยอง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในข้อความเกินกว่านั้นมาก
-เวลาปัจจุบัน 08:00.
พอร์ทัลพื้นที่ กังนัมดง ปูซาน เลเวล??? ระเบิด
พอร์ทัลพื้นที่ อินชอนโวมิโด เลเวล ??? ระเบิด
พอร์ทัลพื้นที่ เกือยาง เลเวล 31 ระเบิด
พอร์ทัลพื้นที่ จังหวัดคยองกี เลเวล??? ระเบิด
*ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงอพยพไปยังอาคารสมาคมอเวคทันที
*อเวคที่อยู่ใกล้เคียงไปยังสถานที่เหล่านั้นทันที
เมื่อมองไปที่ข้อความนั้น จุงโฮมองอย่างไม่อยากเชื่อ.
“มันต้องผิดแน่ๆ ใช่ไหม?”
“พวกมันบ้าคลั่งอย่างนี้จริงๆ มันดูไม่ใช่พวกเขาเลย?”
“เมื่อคิดว่า พอร์ทัล 11 ที่ระเบิดในเวลาเดียวกัน มันต้องเป็นของปลอมแน่ๆ ฉันแน่ใจได้ว่ามันไม่ใช่ผลงานของพวกเขาหรอก!”
“เมื่อพอร์ทัลทั้ง 4 ระเบิดในยางพยอง อย่างน้อยๆพวกเราก็อยู่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้พอร์ทัลเหล่านี้กําลังระเบิดไปทั่วประเทศ ในระดับนี้ความเสียหายมันต้องมหาศาลแน่ๆ”
“คุณโฮจิน…เลเวลที่มีเครื่องหมายคําถามคืออะไร?”
“อ่า…เครื่อตรวจจับการระเบิดของพอร์ทัลสามารถตรวจได้ถึงเลเวล 32 เท่านั้น ยิ่งไกว่านั้นมันเป็นการคาดเดาที่ดีที่สุด เนื่องจากพวกเขาใช้ข้อมูลการสั่นสะเทือนจากการระเบิดของพอร์ทัลเลเวล 28 เพื่อสร้างอุปกรณ์เนื่องจากพอร์ทัลที่เหนือกว่าเลเวล 28 ยังไม่เคยระเบิดมาก่อน”
“ฮยองนิม หมายความว่าพอร์ทัลนั้นเกินกว่าเลเวล 33…”
“ใช่ ถูกต้องเลย.”
“มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจริงๆ”
พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง
ฝ่ายหัวรุนแรงได้สูญเสียผู้นําไป 2 คน
อย่างไรก็ตามมันเป็นความผิดพลาดที่พวกเขาไม่คิดจะเจ็บอีก
เกือบจะราวๆกับการล้อเล่น พวกเขาระเบิดพอร์ทัล 11 ที่ ในเวลาและต่างสถานที่
ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังมีเลเวลเกินกว่าเลเวล 30.
“เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไป ผมจะไปที่อินชอนที่มีพอร์ทัลระเบิด 2 แห่ง.”
“แล้วเรา? เราจะทําอย่างไงดี?”
“ก่อนอื่น พี่จุงโฮควรจะใส่แหวนบัลร็อค พี่แข็งแกร่งกว่าคุณโฮจินเล็กน้อย
“ได้เลย.”
โฮจินให้แหวนกับจุงโฮทันที
ผมพูดต่อ.
“พี่จุงโฮ ไปที่พอร์ทัลที่ระเบิดเลเวล 30 ในชางวอน เนื่องจากมันเป็นการโจมตีด้วยเวทย์ถึงจะทําได้ พี่ก็ไปหยุดมันได้ง่ายๆด้วยตัวเอง”
“ถ…ถูก”
“และคุณโฮจิน ผมต้องการให้คุณติดต่อผู้บัญชา การและช่วยเหลือพวกเขา หากเป็นผู้บัญชาการ เขาควรจะพา คุณไปยังสถานที่ที่เหมาะสม.”
“เข้าใจแล้ว ฉันจะบอกให้พวกเขารู้ด้วยว่าพวกเขาไม่จําเป็นต้องส่งใครไปที่ชางวอนและวอนมิโด เนื่องจากพวกเธอทั้งสองไปแล้ว”
“ครับ ทําอย่างนั้นด้วย คุณทั้งสองรู้อยู่แล้ว แต่ความปลอดภัยของคุณต้องมาก่อน อย่ารีบเข้าไปในพอร์ทัลทันที แม้ว่ามันจะใช้เวลาในการระงับสักพัก แต่การหยุดพอร์ทัลที่อยู่ใกล้ๆก็ปลอดภัยกว่าหากคุณหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อพื้นที่รอบๆ.”
“เอาหละ เธอก็ดูแลตัวเองด้วย”
“ครับ เมื่อผมจัดการพื้นที่อินชอยเสร็จแล้ว ผมจะโทรหาคุณ ผมจะพูดคุยเกี่ยวกับสถานที่ต่อๆไปสําหรับการป้องกันกับผู้บัญชาการที่หลัง”
“ได้”
“งั้นพวกเราก็ไปได้”
MANGA DISCUSSION