I Never Run Out Of Mana 91.การเติบโตในส่วนที่ไม่จําเป็นสําหรับอนาคต
-ชวิ่ง!
“ห้ะ! แม้แต่ของโกสต์ก็เช่นกัน!”
การรับข่าวใหม่กองกําลังโกสต์ ทําให้ซีกิลเดือดดาล
เพียงโบกมือครั้งเดียวก็ทําให้โต๊ะประชุมกลายเป็นฝุ่น.
โจ๊กเกอร์หายตัวไป
ตอนนี้ก็โกสต์และกองกําลังกว่า 500 คนของเขาก็อันตรธานหายไปหมด
ผู้นําคนเดียวที่เหลืออยู่คือดาร์กเลดี้และตัวแทนของโจ๊กเกอร์ปิเอโร่.
ไม่ใช่แค่เวลาเพียงเดือนเดียวเท่านั้นที่ฝายหัวรุนแรงได้เสียผู้นําไป 2 คน
สถานการณ์นี้ทําให้เขาทั้งตกใจและโกรธ
เมื่อลองคิดดู
วันแห่งการต่อสู้ใกล้เข้ามาแล้ว
ความสําเร็จของดาร์กเลดี้จากการระเบิดพอร์ทัลอาจจะช่วยเพิ่มความเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้น ดาร์กเลดี้ได้เตรียมระเบิดพอร์ทัลเลเวล 30แล้ว
แต่ตอนนี้กลับมีบางอย่างที่ผิดออกไป
หลังจากหยุดพักครู่หนึ่ง ซีคิลก็พูดขึ้น
“ดาร์กเลดี้มันเกิดอะไรขึ้น! เธอรู้มากแค่ไหน!”
“ตอบฉัน!”
“นะ… นี่
ซีคิลถอดหมวกรบออกและโยนไว้ด้านข้าง
ดวงตาของเขาฉาบไปด้วยสีดําสนิท
พวกมันดูดแสงรอบๆให้หายไปราวกับหลุมดํา
ใบหน้าของเขามีแผลเป็นที่น่ากลัวประหนึ่งถูกเผาไหม้
มันไม่น่ากลัวถ้ารู้เห็นภาพลักษณ์ทั้งหมดของเขา แต่มันก็ไม่ได้เป็นภาพที่สวยงามนัก.
ไม่มีใคร แม้แต่ดาร์กเลดี้ได้เห็นใบหน้าของซีคิล
หลังจากที่ทุกเวลา ซีคิลมักจะซ่อนใบหน้าของเขาไว้หลังหน้ากาก
มีร่างสีดําของเขาเป็นวิธีเดียวที่ระบุได้ถึงตัวเขา
ดาร์กเลดี้ที่กําลังมองไปที่พื้นเงยหน้าของเธอขึ้นและพูด.
“นายท่านซี…ซีคิล.”
“โจ๊กเกอร์ตาย”
“ห้ะ?”
“ก่อนที่โกสต์จะมาหา เขาบอกกับฉันและพูดอย่างนั้น โจ๊กเกอร์นั้นตายไปแล้ว
“ทําไมเธอถึงไม่บอกเรื่องนี้กับฉัน ดาร์กเลดี้”
“ฉันขอโทษ”
“เขาเป็นใคร? คนที่ฆ่าโกสต์?”
ซีคิลนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ขณะที่จ้องมองดาร์กเลดี้
เขาไม่มีอาวุธใดๆ แต่หมัดของเขากําจนแน่นและสั่นอย่างรุนแรง
หมัดของเขาเต็มไปด้วยเปลวไฟที่รุนแรง เช่นเดียวกับคลาสเพรชฆาต มันมีสกิลที่ใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเท่านั้น
ผู้นําที่ได้รับแต่งตั้งใหม่อย่างปิเอโร่ก็เกือบจะกลัวจนฉี่ราดเมื่อเขาโกรธ ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับเหล่าผู้นําเลย.
อย่างไรก็ตามดาร์กเลดี้ไม่ได้แตกต่างจากปิเอโร่นัก
เธอพยายามอย่างมากเพื่อที่จะทําไม่ให้เขาผิดหวัง,
เมื่อโจ๊กเกอร์หายไป ซีคิลก็รู้สึกเล็กน้อยจากรายงานที่ว่าโจ๊กเกอร์มุ่งหน้าไปยังดันเจี้ยนอันโนว์
ตอนนี้ซีคิล ดูแตกต่างจากปกติอย่างมาก
มีสาเหตุที่ทําให้ดาร์กเลดี้กลัวซีคิลอย่างมาก
ดาร์กเลดี้รู้
เธอรู้ถึงการมองของเขาและจิตสังหารที่ไหลออกมา
เธอเคยเห็นท่าทางอย่างนี้มาก่อน
เมื่อดาร์กเลดี้เข้าร่วมฝ่านหัวรุนแรง ตอนแรกมีผู้นําอยู่ 5 คน.
หนึ่งในผู้นําเหล่านั้นคือซีคิล ผู้ซึ่งมีอํานาจมากเสียจนเป็นบอสใหญ่คนปัจจุบัน
เช่นเดียวกับฝ่ายส่วนใหญ่ มันมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันมากมายระหว่างผู้นํา
ทั้ง 5 ได้ตัดสินใจในการเลือกหัวหน้าใหญ่
วิธีการคักเลือกก็เป็นไปตามหลักผู้แข็งแกร่งปกครองผู้อ่อนแอ.
ต่อหน้าสมาชิกทุกคน ผู้นําได้ต่อสู้กันเอง
ซีคิลทําให้อีก 4 คนไม่อาจต่อสู้ต่อไปได้
มันไม่ได้ใช้เวลานาน
เมื่อรู้ถึงความแข็งแกร่งของซีคิลแล้ว ผู้นําอีก 4 คนก็ร่วมมือกันเพื่อโค่นเขา แต่มันก็ไม่อาจทําอะไรได้มาก เมื่อเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของเขา
ดาร์กเลดี้ไม่อาจลืมภาพที่เห็นของเขาได้ตั้งแต่นั้นมา
“ฉันถามว่าเขาเป็นใคร.”
“ฉันไม่มีข้อมูลนัก”
“เธอจะบอกฉันว่าพวกเขาถูกโจมตีจากคนที่ไม่มีใครรู้จักเลย?”
“ถูกต้อง คุณยังจําเด็กน้อยคนนั้นได้ไหม มันอาจจะถูกรายงานจากโจ๊กเกอร์?”
“ใช่…ฉันได้ยินมาว่าโจ๊กเกอร์กําลังดูแลเขา”
“แต่ นั้น”
“เป็นเขา?”
“เธอกําลังจะบอกว่า ผู้นํา 2/3 คนจากฝ่ายของเราถูกเด็กคนนี้จัดการ!”
-แกรัก!
มือซ้ายของชีคิลชูขึ้น
เขายกมือขึ้นและเหวี่ยงมันลง
อย่างไรก็ตามชั้นของออฟฟิศก็ถูกลมพัดผ่านจนทําให้มองเห็นได้ถึงชั้นล่าง
อาคารทั้งหมดถูกสร้างด้วยวัสดุนาโน แต่การทําลายล้างอย่างไร้เหตุผลก็ปรากฏต่อด้านหน้าของพวกเขา
นอกจากนี้เขายังไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ
“อ๊าาา! ขอโทษด้วย นายท่านซีคิล!”
“โง่ พวกแกมันโง่ทั้งนั้น!”
“เราจะที่อยู่ของเขาทันที”
“ไม่ต้องห่วง ถ้าเราทําตามแผน เขาจะมีใบหน้าที่มั่นใจอีกไหม? หลังจากที่ทําให้โลกอยู่ใต้เท้าของเรา เราจะได้รับการดูแลจากฉันโดยส่วนตัว”
“เมื่อพอร์ทัลเลเวล 35 ในปูซานพร้อมระเบิด ให้รายงานมาทันที ”
“ค่ะ ตามคําพูดของคุณ ท่านซีคิล.”
“การ์ดเลดี้…ฉันจะไม่ยกโทษให้เธออีกเป็นครั้งที่สอง.”
“คะ ”
จากนั้นซีคิลก็ซ่อนตัวอีกครั้ง
พอร์ทัลที่ดาร์กเลดี้กําลังจะเตรียมการนั้นกว่าจะเสร็จใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์
พอร์ทัลที่เกินเลเวล 30 ใกล้ๆก็ถูกเตรียมไว้แล้ว
ถ้าสิ่งเหล่านี้ระเบิดพร้อมกัน ไม่มีทางที่อเวคของเกาหลีจะหยุดมันได้
พอร์ทัลต่างๆก็ทยอยระเบิดเช่นกัน
ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับการจัดการเป็นส่วนตัว มันเห็นได้ชัดว่าเกาหลีจะถูกขับออกจากสหภาพ
นั่นจะเป็นสัญญาณของยุคของฝ่ายหัวรุนแรง
“ฟื้วว… ปิเอโร่”
“ครับ มาดามดาร์กเลดี้”
“1 อาทิตย์ อีก 1 อาทิตย์ ใช้ทุกอย่างที่นายมีเพื่อช่วยฉันในโปรเจ็คนี้”
“แน่นอน ผมจะออกไปเตรียมตัว…”
ผู้สืบทอดตําแหน่งของโจ๊กเกอร์ ปิเอโร่ ได้ออกจากห้องไป
เนื่องจากความตึงเครียดและความกัลวทําให้ขาของเธออ่อนแรงจนล้มลงกับพื้นตรงนั้นทันที
“เฮ้ยย จียอน ที่เธอยังหาข้อมูลเกี่ยวกับ A ไม่ได้อีกหรอ?”
“ไม่พบแม้แต่เงื่อนงําเดียว”
“แล้วถ้างั้น ซางโฮ,ฮเยวอน ทั้งสองคนนี้หล่ะ?”
“ตาเฒ่า เขาอาจจะมีมากกว่าที่ฉันคิดในตอนแรก ฉันไม่สามารถรู้สึกถึงเขาได้เลย”
“ผู้บัญชาการ ฉันไม่อาจหาข้อมูลใดๆเกี่ยวกับพวกเขาได้
เลย ”
“หืม…มันเป็นพอร์ทัลเลเวล 29 เลเวล 29 เลยนะ แม้แต่ชอยโซฮยอนผู้ซึ่งเคลียร์ดันเจี้ยนเลเวล 28 เพียงคนเดียวคนแรกในประวัติศาตร์ มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะเคลียร์พอร์ทัลนั้นได้ในเวลาสั้นๆ”
“ตาเฒ่า คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมหรือว่าคุณไม่สงสัยเลย?”
“สงสัย
”
“นี่ไม่ใช่การงมเข็นในกองหญ้า เพราะเราจะเริ่มสืบสวนโดยไม่มีเป้าหมายได้อย่างไร?”
“ถูกต้อง…สําหรับตอนนี้ ทําต่อไปให้ดีที่สุด ฉันร่วมช่วยด้วย.”
นี่คือแรงค์เกอร์เมจิคเชี่ยน อันดับ 4 ที่เป็นส่วนหนึ่งของสมาคม.
พวกเขาใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาบุคคลที่หยุดยั้งการระเบิดของพอร์ทัลเลเวล 29
หลังจาการประชุม ผู้บัญชาการออกจากอาคารของสมาคม ทันที
ใบหน้าหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัว
เขากําลังคิดที่จะไปเจอกับคิมมินชยอล.
“ผู้บัญชาการ ลาก่อน.”
“ขอให้มีวันที่ดี ผู้บัญชาการ.”
“ได้ ลําบากคุณแล้ว”
แม้ว่าเขาจะออกจากอาคาร ทั้งอเวคและพนักงานนับไม่ถ้วนต่างก็ทักทายเขา
มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าตําแหน่งของเขาตรงนี้นั้นได้รับความเคารพจากสมาคมเท่านั้น แต่มันใช้ได้กับประเทศตัวเอง
เพื่อความยุติธรรม เขาเป็นคนแรกที่ไปและแก้ไขวิกฤตการณ์ใดๆ เกี่ยวกับมอนเตอร์ในประเทศ
เมื่อได้รับที่อยู่ของมินชยอล ผู้บัญชาการก็เริ่มมุ่งหน้าไปที่นั่น
นี่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่อย่างน้อบเขาก็ต้องการเงื่อนงํา เพื่อที่จะยึดมั่นใจนจุดนี้
“ผู้บัญชาการ เรามาถึงแล้ว”
“รู้แล้ว รอที่นี่สักแปป.”
“ครับ ระวังตัวด้วย”
-แกรัก
เนื่องจากมันไม่มีใครรู้ เมื่อพอร์ทัลระเบิด ผู้บัญชาการมักจะสวมเกราะและอาวุธของเขาไว้ เว้นแต่จะถอดออกมาเพื่อดูแลรักษา
เขาไม่สามารถยืนยันได้ว่าเวลาที่ใช้สวมอุปกรณ์อาจจะถูกใช้เพื่อช่วยชีวิตของผู้คน
ดังนั้นเมื่อเขาปรากฏตัวที่สถานที่รอบๆก็มีเสียงดังมาก.
คนที่จําได้ว่าเขากําลังประโคมข่าวว่าเขาเป็นคู่ควรกับชาติ
ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น เขามุ่งหน้าไปที่บ้านของมินชยอล.
ติ้ง ต่อง
“ใครมาหรอ?”
ในเวลานี้ มินชยอลกําลังหลับหลังจากที่วิ่งไปวิ่งมาตลอดสองวัน.
ผู้ที่ออกมารับผู้บัญชาการคือ พัคซีราน แม่ของมินชยอล.
“หวัดดี อืม…ผมเป็นผู้บัญชาการ ยูนจุงขัน.”
“หืม?”
มีความแปลกใจเมื่อได้ยินคําพูดนั้น เธอมองไปที่อินเตอร์โฟนอย่างรวดเร็ว
ผู้บัญชาการที่เธอเห็นเป็นคนเดียวกับในข่าวจริงๆและกําลังยืนอยู่ด้านหน้าประตู
อีกด้าน เธอก็เป็นห่วงว่าทําไมเขาถึงมาที่นี่
ในหัวของเธอเต็มไปด้วยความคิดมากมาย ในขณะที่เธอสงสัยว่ามินชยอลอาจทําเรื่องบางอย่าง
เธอยังคงพูดใส่อินเตอร์โฟนอยู่
“เนื่องในโอกาสอะไร?”
“ธุรกิจกับลูกชายของคุณ หากไม่เป็นไร เปิดประตูได้ไหม…”
“โอ้ได้ ฉันขอโทษ”
เธอเปิดประตูทันที
ผู้บัญชาการยังดูมีอายุ
เขาโค้งคํานับแล้วมองเธอ
“โอ้ ใช่ โปรดเข้ามา”
“ครับ ขอบคุณ ผมขอรบกวนด้วยนะครับ”
“เกิดอะไรกับมินชยอลงั้นหรอ?”
“โอ้ ไม่ ไม่! ไม่ นั่นไม่ใช่เรื่องเหล่านั้นเลย”
“แล้วเนื่องในโอกาส…”
“ถ้าคุณคิดว่ามันคืองานของผม ผมมักจะเยี่ยมคนที่ไม่ค่อยได้ลงดันเจี้ยนเป็นเวลานานและมีงานอดิเรกน้อยๆที่น่าชื่นชม. ”
“อ่า…”
“ผมสงสัยว่าทําไมลูกชายของคุณถึงดูหล่อ ผมเดาว่าเขาอาจจะได้มาจากคุณ โฮโฮ.”
“ฉัน… ฉัน…”
“ อ่า แต่ลูกชายของคุณ?
“เขาอาจนอนหลับอยู่ เขาออกไปเที่ยวและค้างคืนไปสองคืน เพิ่งจะหลับไปเมื่อกี้”
“เป็นอย่างนี้เอง ถ้าอย่างนั้น ผมจะรอสักพัก?”
“ฉันจะไปปลุกเขา มันอาจจะแปปนึง เพราะฉันไม่แน่ใจว่าเขาจะตื่นเมื่อไหร่”
“ไม่เป็นไร ตาแก่อย่างผมมีเพียงเวลาเท่านั้น”
“ต้องการชา?”
“ขอบคุณ.
หลังจากตรวจสอบของที่ได้มาแล้ว ผมก็เผลอหลับไปราวกับเป็นคนหมดสติ
ผมต้องเหนื่อยมากๆหลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่และไม่ได้หลับมาหลังจากนั้น
ผมลากร่างกายที่เหนื่อยล้า
ผมไม่อยากเสียวันหยุดของผมไปอย่างนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อผมได้ยินการพูดคุยด้านนอกห้องของผม.
ผมรู้สึกถึงคนมีอายุจากเสียง
“เพื่อนของแม่มาหรอ?”
เมื่ออาบน้ําเรียบร้อยแล้ว ผมก็มุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น
แต่ใครหล่ะคนนี้
คนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นคือ ยุนจองซัน.
ขณะที่ขยี้ตา ผมพยายามรับเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
มันเป็นไปได้
เมื่อเห็นผม เขาก็มองมาที่ผม
และจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของแม่
“ในที่สุดเธอก็ตื่นแล้ว?”
“ใช่ แต่…”
“ อ่า เขาบอกว่าเขามีธุระกับลูกและรออยู่ที่นี่สักพักแล้ว ลูกรู้ว่าเขาเป็นใครใช่ไหม?”
“คร้าาบ…”
“มันก็ดี แต่ลูกเป็นไรหรอ?”
“ครับ มันก็ดี
“คุณนาย ผมขอคุยกับมินชยอลสักพักในห้องของเขาได้ไหม…”
“แน่นอน ใช้เวลากันเลย”
เมื่อเป็นแบบนี้ ผู้บัญชาการก็ย้ายไปที่ห้องของผม.
ผมไม่สามารถบอกอะไรได้จากสีหน้าของเขา…
ในห้องของผม หลังจากที่ผมปิดประตูแล้วก็พูดว่า
“เด็กเอ้ย…”
MANGA DISCUSSION