I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1092 : จุดยืนของปีศาจสังหาร
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1092 : จุดยืนของปีศาจสังหาร
ปีศาจสังหารรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่มันจะต้องเลือกข้าง แต่มันไม่ได้รู้สึกขัดแย้งจนเกินไป มันเลือกที่จะยืนเคียงข้างโจวเหวิน
ผู้พิทักษ์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตต่างมิติสายเลือดบริสุทธิ์ พวกมันเป็นเพียงเครื่องมือที่สร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตต่างมิติ เผ่าพันธุ์ของพวกมันไม่มีความรู้สึกต่อมัน
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เหตุผลที่มันเลือกโจวเหวิน ส่วนใหญ่เป็นเพราะธิดาปีศาจเป็นสัตว์อสูรของโจวเหวิน ธิดาปีศาจอยู่ข้างโจวเหวินอย่างแน่นอน ดังนั้น ปีศาจสังหารจึงไม่มีทางเลือก มันจะเลือกฝ่ายที่ธิดาปีศาจเลือก
ไม่ยากเลยที่จะเลือกข้าง ส่วนที่ยากคือจะแสดงจุดยืนยังไง
ปีศาจสังหารรู้ว่าโจวเหวินไม่ไว้ใจมัน และธิดาปีศาจก็เชื่อฟังโจวเหวิน ดังนั้น ปีศาจสังหารรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมาก ถ้ามันทำได้ดีและได้รับความไว้วางใจจากโจวเหวิน มันอาจจะได้ออกจากตำแหน่งที่น่าอึดอัดอย่าง “อาหารสำรอง”
ปีศาจสังหารกัดฟันและตัดสินใจ มันมองไปที่โจวเหวินและเดินไปหา
ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยการเริ่มต้นของการต่อสู้ ขณะที่จ้องมองไปที่ปีศาจสังหาร ตอนนี้พวกเขาได้แต่หวังว่าปีศาจสังหารและมนุษย์จะไม่หายไปอีก
ปีศาจสังหารไม่ได้หายไป มันเดินช้าๆ เข้าหาโจวเหวิน จากนั้น ภายใต้มองของทุกคน มันได้พูดเหมือนอัศวินและวางมือขวาไว้ที่หัวใจ มันพูดกับโจวเหวิน “ข้าสาบานด้วยชื่อของข้า”ปีศาจสังหาร” ข้ายินดีที่จะลงนามในสัญญานายท่าน-ทาส และสัญญาว่าจะจงรักภักดีตลอดไปจนตาย…”
โลกทั้งโลกเงียบสงัด ผู้คนแทบไม่เชื่อสายตาและหูของพวกเขา
ผู้พิทักษ์คือผู้พิทักษ์ พวกมันมีพลังและอำนาจขนาดไหน? โดยไม่มีข้อยกเว้น มนุษย์ที่มีผู้พิทักษ์ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้พิทักษ์ก่อนที่พวกเขามีโอกาสทำสัญญากับพวกมัน
มีหลายคนที่ยินดีที่จะแลกชีวิตกับการทำสัญญากับผู้พิทักษ์
อาจกล่าวได้ว่าแม้ว่าสัญญาของผู้พิทักษ์จะเป็นสัญญาที่เท่าเทียมกัน แต่แท้จริงแล้วมนุษย์เป็นฝ่ายที่อ่อนแอกว่าในสัญญา พวกเขาเป็นคนที่ถูกเลือก
สำหรับผู้พิทักษ์ ความแข็งแกร่งของพวกมันไม่อ่อนแอ แต่เมื่อเทียบกับปีศาจสังหาร พวกมันอ่อนแอกว่ามาก
ปีศาจสังหารที่ทรงพลังได้เริ่มขอทำสัญญากับคนที่อยู่ข้างหน้ามันจริงๆ นอกจากนี้ มันได้ขอทำสัญญานายทาส สิ่งนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ผู้พิทักษ์สามารถทำสัญญานายทาสได้งั้นเหรอ”
“เดี๋ยวก่อน ปีศาจสังหารต้องการทำสัญญากับคนคนนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนคนนั้นไม่ได้ทำสัญญากับผู้พิทักษ์อย่างแน่นอน”
มนุษย์ที่หลอมรวมกับผู้พิทักษ์ยังสามารถทำสัญญากับผู้พิทักษ์ตัวอื่นได้ไหม? ถ้าไม่ได้ คนคนนี้มีสิทธิ์จะเป็นมนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์ไหม?
“นั่นเป็นไปไม่ได้ มนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์ไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับเร้นลับได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะใช้งานลูกบาศก์เพื่อเข้าต่อสู้จัดอันดับ”
“คนคนนี้คือใคร? เขาใส่หน้ากาก มีใครรู้จักเขาไหม”
ไม่ใช่แค่คนทั่วไป แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญจากหกตระกูลก็ยังตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน
“เหล่าชิว คุณบอกได้ไหมว่าคนคนนี้เป็นใคร” เซี่ยหลิวชวนถาม
“ฉันไม่สามารถบอกได้ มีพลังบางอย่างที่เปลี่ยนร่างกายของเขา นี่ไม่ใช่ร่างจริงของเขา” จางชุนชิวตอบ
มีการพูดคุยกันในต่างประเทศ พวกเขาหวังว่าจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์
โจวเหวินมองไปที่ปีศาจสังหารด้วยท่าทางแปลกๆ เขาสามารถเดาความคิดของปีศาจสังหารได้คร่าวๆ
เมื่อเห็นว่า โจวเหวินไม่ได้พูดอะไร ปีศาจสังหารก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรักษาท่าทางของอัศวินที่กล่าวคำสาบาน มันคอยปลอบใจตัวเองในใจ ข้าจะต้องทำให้ได้ เพื่อธิดาปีศาจ ข้าต้องอดทน
โจวเหวินโบกมือให้ปีศาจสังหารออกไป เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะแสดง ทั้งหมดที่เขาต้องการจะทำตอนนี้คือ่าผู้พิทักษ์ แต่เขาเข้าใจถึงความต้องการของปีศาจสังหาร
ปีศาจสังหารรีบลุกขึ้นและยอมรับความพ่ายแพ้ ก่อนออกจากสนามประลองของลูกบาศก์
“พระเจ้า เขาไม่ต้องการผู้พิทักษ์ที่มาหาถึงที่เหรอ?”
“นั่นคือ ปีศาจสังหาร—ผู้พิทักษ์ชั้นยอด เขาปิเสธมันอย่างนั้นเหรอ?”
“ท่าน ถ้าท่านไม่ต้องการมัน ให้มันกับฉัน ฉันต้องการมัน”
“โลกนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ขอทำสัญญานายทาส แต่เขาปิเสธจริง ๆ “
“ปีศาจสังหารสติไม่ดีเหรอ? มันไม่แม้แต่จะโจมตีแม้จะถูกปิเสธจากมนุษย์ก็ตาม มันยังคงยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเชื่อฟัง มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ?”
“ฉันคิดว่าปีศาจสังหารรู้ว่ามนุษย์แข็งแกร่งขนาดไหน ดังนั้น มันจึงต้องการที่จะทำสัญญานายทาส นอกจากนี้มันยังไม่กล้าที่จะเป็นศัตรู”
มันไม่ใช่แค่โลก สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่เฝ้าดูการต่อสู้ครั้งนี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน
ปีศาจสังหารเป็นผู้พิทักษ์ สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่เคยต่อสู้บนโลกในสมัยก่อยรู้จักมัน ในตอนนั้น มันเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์อันดับต้นๆ
การกระทำของปีศาจสังหารนั้นแปลกเกินไปสำหรับพวกมัน มันทำให้พวกมันสงสัยว่าเป็นปีศาจสังหารตัวปลอมรึเปล่า
ในไม่ช้า เผ่าพันธุ์ต่างมิติได้สั่งให้ผู้พิทักษ์บนโลกทดสอบมนุษย์และค้นหาว่ามนุษย์มีความสามารถอะไร
เนื่องจากข้อจำกัดของกฏบนโลก ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ต่างมิติจะแข็งแกร่งขนาดไหน พวกมันก็จะถูกลงโทษตามกฏหากพวกมันมา อย่างมากที่สุด พวกมันจะรักษาระดับของพวกมันไว้ที่ระดับความกลัว พวกมันอาจตกไปสู่ระดับเร้นลับด้วยซ้ำ
พวกมันไม่สามารถทดสอบโจวเหวินด้วยตัวเองได้ ดังนั้นพวกมันจึงทำได้เพียงสังเกตเขาผ่านลูกบาศก์เท่านั้น ข้อมูลที่พวกมันได้รับมีจำกัดมาก
ก่อนที่โจวเหวินจะเข้าสู่สนามประลอง เขาได้คาดไว้แล้ว เขาได้สลักไท่ฉางไค่เทียนจิงบนกงล้อแห่งโชคชะตาของเขา นอกจากนี้ เขายังสลักมันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารอยสลักจะหายไป รอยสลักอันถัดมาจะมาแทนที่ ทำให้เขาสามารถใช้ไท่ฉางไค่เทียนจิงได้เรื่อยๆ
สำหรับคนอื่นๆ สิ่งนี้จะใช้ความแข็งแกร่งทางจิตและพลังงานจำนวนมาก แต่สำหรับโจวเหวิน ค่าใช่จ่ายนี้ไม่นับเป็นอะไร
ตอนนี้ เขาเพียงต้องการรู้ว่าไท่ฉางไค่เทียนจิง ซึ่งสามารถแหกกฏข้อห้ามของพื้นที่ต่างมิติต่างๆ สามารถทนต่อกฏของลูกบาศก์ได้ไหม
ถ้าเขาไม่สามารถต้านทานและสิ่งมีชีวิตต่างมิติสามารถเตะเขาออกมาเหมือนที่พวกมันเตะยาออกไป โอกาสนั้นก็จะเป็นศูนย์ ตราบใดที่พวกมันไม่สามารถแตะเขาออกได้ เขาจะไม่ยอมให้ผู้พิทักษ์ตัวไหนได้อันดับหนึ่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม โจวเหวินรู้ว่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติจะไม่ใช้กฏของลูกบาศก์เพื่อแตะเขาออกในทันที
จากการกระทำที่หลากหลายของสิ่งมีชีวิตต่างมิติและข้อมูลที่เขาได้รับจากสาวหิมะ เขาสามารถบอกได้ว่ามีเผ่าพันธุ์มากมายในต่างมิติ พวกมันยับยั้งกันและกันและมักทำสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์
ลูกบาศก์ไม่ใช่สิ่งที่เผ่าพันธุ์เผ่าพันธุ์เดียวสามารถควบคุมได้ ท้ายที่สุด ผู้ชนะของลูกบาศก์จะทำให้เผ่าพันธุ์นั้นสามารถควบคุมโลก เป็นไปไม่ได้ที่ลูกบาศก์จะถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้รับการอนุมัติจากสิ่งมีชีวิตที่มีอำนาจ และใช้กฏเพื่อแตะเขาออกไป แม้ว่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติจะตกลงกันได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่อย่างนั้น พวกต่างมิติจะไม่ใช้วิธีต่างๆในการจัดการกับยา